อาทิตย์ก่อนนู้น ตอนไปเรียนเปียโน ครูสอนเปียโนวัยรุ่นน้องดิฉันหลายปี (ตอนนี้ ครูในสารพัดวิชาต่าง ๆ ที่ดิฉันลงเรียนก็รุ่นน้องหลายปีทั้งน้านนนนน) เล่าให้ฟังว่า มีรักใหม่แล้ว แฟนน่ารัก ดูแลดี แต่ครูก็พูดเสียงอ่อย ๆ ว่า
“แต่ไม่เปย์เลยค่ะ คุณ xxx (ชื่อดิฉัน)”
เมื่อวานตอนนั่งรอช่างมาล้างแอร์ ซ่อมประตูกระจกที่คอนโด ไถ ๆ พันทิป ก็เจอกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/40355411
ว่าด้วยเรื่องเปย์ ไม่เปย์อีกแล้วคับท่าน
ดิฉันถือว่านี่เป็น sign ละว่าน่าจะชวนมาแชร์ความเห็นในหัวข้อนี้กันหน่อย
เปย์ คือ อะไร ?
ในบริบทที่เราใช้ ๆ กัน มักจะหมายถึงการที่ผู้ชายทำท่าป๋า ๆ ควักเร็ว โอนไว เอะอะ เอะอะก็ควักจ่ายสารพัดสิ่งอันในชีวิตประจำวันให้ผู้หญิง ไล่ตั้งแต่เรื่องค่ารถ ค่ากิน ค่าเที่ยว รวมถึง ของจุกจิกมีสาระบ้าง ไร้สาระบ้างที่ผู้หญิงอยากได้ให้
และถ้าคุณผู้ชายควักจ่ายของแพงล่ะก้อ คุณก็จะทำให้คำจำกัดความของคำว่า “เปย์” สมบูรณ์สาแก่ใจยิ่งขึ้น
ผู้หญิงส่วนใหญ่ ถือสา หรือ อ่ะ... ใช้คำว่าคิดมากเรื่องเปย์ไม่เปย์
บางที ไม่ใช่เพราะงกเสมอไปนะคะ เพราะบางคนควักซื้อเองได้ ซื้อเองมาหลายครั้งแล้วด้วย และซื้อให้ผู้ชายด้วย เอากะแม่สิ
แต่ ... แต่... การได้รับการเปย์เนี่ย มันให้ความสุขไม่ใช่เพราะว่าไม่ต้องควักจ่ายหรอกนะคะ
แต่มันรู้สึกเหมือนกับได้รับการปรนเปรอตามใจ การได้อวดชาวบ้าน หรือ อัพลงโซเชียลอย่างเต็มภาคภูมิว่าผู้ชายของชั้นซื้อนู่น นี่ นั่นให้
หลายปีก่อนโน้น เคยเห็นภรรยาของเพื่อนอัพลงโซเชียลด้วยรอยยิ้มกว้าง ในมือมีกล่องสีส้ม ถุงสีส้ม สกรีนตัวอักษรว่า Hermes โดยมีคุณเพื่อนยิ้มกริ่มอยู่ข้าง ๆ ด้วยรอยยิ้มเอ็นดูภรรยาและถ้าดิฉันดูไม่ผิด ดิฉันคิดว่า รอยยิ้มเพื่อนนั้นมีความภูมิใจในความเปย์ของตัวเองด้วย
ผู้หญิงส่วนใหญ่ ปากก็มักจะบอกว่า “ไม่ได้ดูที่ฐานะ สำคัญแค่ว่าอยู่ด้วยแล้วสบายใจ”
ค่ะ ... ดิฉันเชื่อว่า คุณไม่ได้ดูที่ฐานะเป็นหลักแน่ ๆ
แต่ไอ้ประโยคที่บอกว่า “อยู่ด้วยแล้วสบายใจ”
คุณต้องถามตัวเองดี ๆ นะคะว่า “ความสบายใจของคุณคืออะไร กินความแค่ไหน ?” เพื่อที่ว่าคุณจะได้รู้ว่าคุณจะบริหารความสัมพันธ์คุณอย่างไร จะถือสาเรื่องไหน และปล่อยวางเรื่องไหน จะจ่ายอะไร ? หรือขอให้อีกฝ่ายจ่ายอะไร ?
ในกระทู้ที่อ้างถึง หนึ่งในความคิดเห็นที่แหลมคม และรอบด้านมากคือ ความคิดเห็นที่ 6 โดย คุณสมาชิกหมายเลข 1817671 ที่วิเคราะห์ lifestyle การใช้ชีวิตและรายได้ของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง พร้อมทั้งแจงเหตุผลออกมาได้อย่างเถียงไม่ออก
ลองฟังคำพูดประโยคเหล่านี้ดูนะคะ ว่าไปตรงกับสถานการณ์จริงของคุณบ้างรึเปล่า ?
และถ้าตรง ? เป็นคุณ คุณจะเลือกทางไหน ?
ผู้หญิงสายถี่ถ้วนอาจจะบอกว่า
- “ชั้นไม่ได้ต้องการให้ผู้ชายเลี้ยง แต่ก็ไม่ต้องการเลี้ยงผู้ชาย”
ผู้หญิงสายหวังจะได้รับการเปย์และอนุรักษ์นิยมสุดขั้วอาจบอกว่า
- “เฮ้ย... ไม่ได้ ... ถ้าเป็นแฟนกันแล้วต้องมาหารครึ่งหมด มันก็ไม่ใช่ป่ะ ?”
ผู้หญิงสายเปย์แบบไม่คิดอะไรเลย จ่ายมากหรือจ่ายหมดก็มีค่ะ ไม่คิดมาก ไม่พูดมาก แต่ผู้ชายก็ต้องทำตัวดี ๆ ตามที่เธอคาดหวังด้วยนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวเจอคอมเพลน ที่ยากในกรณีนี้คือ เธอคาดหวังอะไร บางที เธอไม่บอกคุณด้วยนะ อาจจะด้วยไม่กล้าบอกหรือเกรงใจก็ตาม ผู้ชายต้องไปคิดเอาเองว่า ทำตัวแบบไหน ถึงจะเรียกว่าทำตัวดี ๆ
แบบนี้ บางทีผู้ชายดี ๆ ก็แหยงค่ะ พลาดพลั้งเผลอไป เดี๋ยวได้กลายเป็นปีกทองไม่รู้ตัว
อย่างที่คุณสมาชิก 1817671 บอกเอาไว้ lifestyle ในทางเดียวกัน ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่นและมีความสุข
แต่บางครั้ง วิธีการใช้จ่ายเงินของฝ่ายหนึ่งกับอีกฝ่ายหนึ่งอาจจะไม่เหมือนกัน
ถ้าคุณอยากมีความสุขและความราบรื่นในการใช้ชีวิต การต้องเอื้อม เขย่ง หรือย่อ ลงไปในวิถีของอีกฝ่ายหนึ่งเป็นเรื่องจำเป็น โดยคุณอาจจะต้องชั่งน้ำหนักว่ามันคุ้มกับ “ความจำเป็น” หรือ “ความเสี่ยง” หรือไม่
ทุกคนอยากลงหลักปักฐานร่วมกับคนที่มั่นคงทั้งนั้น เพื่อจะได้มีชีวิตที่สมบูรณ์พูนสุข แต่คำว่ามั่นคงของแต่ละคน และความสุขในการดำเนินชีวิต คุณจะนิยามมันว่าอะไร ?
- ต้องมีบ้าน --- ต้องเป็นบ้านแบบไหน ? หลังใหญ่แค่ไหน ? ละแวกไหน คุณถึงพอใจ ?
- ต้องมีทรัพย์สิน --- ขนาดไหน ? ที่ดิน ? รถ ? หุ้น ? ทองคำ ? สวนผลไม้ ? ที่นา พร้อมวัวควายสักกี่ตัวดี ?
- ต้องมีอาชีพที่มั่นคง และรายได้ --- ต้องแค่ไหน ? สม่ำเสมอ ? freelance ได้ไหม ? ได้มากบ้าง น้อยบ้างแล้วแต่จังหวะ ?
- ต้องควงได้ไม่อายใคร --- สวย ? หล่อ ? การศึกษาสูง ? ฐานะดี ? หน้าที่การงานดี ? ขับรถหรู ?
ดิฉันคิดว่าหลายคนที่บ่น ๆ ว่าโสด อยากสร้างครอบครัวแต่ไม่มีสักที ไม่ใช่เพราะไม่มีใครมาชอบ หรือเพราะไม่ชอบใครหรอกค่ะ
แต่มันเกิดจากการไม่ match กันตามองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ว่ามานี้ต่างหาก
เอาจริง ๆ นะคะ
การที่บางทีผู้หญิงรายได้มากกว่าแล้วเปย์เสียเป็นส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเลวร้ายเสมอไป
แต่ขอเล่าตัวอย่างที่เคยเห็น เคยได้ยินได้ฟังจากคนรอบตัว และญาติมิตรของคนรอบตัวให้ฟังดีกว่า
ดิฉันเป็นลูกค้าของบริษัทที่ให้บริการด้านการเงิน การบัญชีแห่งหนึ่ง เป็นลูกค้ากันมานานตั้งแต่ยังตัวบอบบางทั้งคู่เมื่อกว่ายี่สิบปีก่อน ยังใช้บริการและสนิทกันมาจนทุกวันนี้
เพื่อนคนนี้ อะสมมติเรียกว่า คุณจินนี่แล้วกันนะคะ เป็นผู้หญิงทำงานเก่ง set บริษัทตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ เธอได้แฟนอายุน้อยกว่า 5 ปี เป็นนักเรียนนายร้อยห้อยกระบี่ ที่อยู่ประมาณ 30-40 ลำดับแรกของรุ่นที่จบมา เป็นตำรวจค่ะ
คุณแฟนก็น่ารัก นิสัยดี๊ ดี เป็นสามีที่ประเสริฐมาก ไม่เจ้าชู้ ไม่เหลวไหล รักลูก รักครอบครัว ปีสองปีที่ผ่านมานี้ได้เป็นผู้กำกับแล้ว
คุณจินนี่มีความสุขกับแฟนมาก แม้ว่า จะต้องรับผิดชอบแทบทุกอย่าง คือ บ้านหลังใหญ่โตที่อยู่ด้วยกัน คุณจินนี่สร้าง ดิฉันคาดว่า ค่าใช้จ่ายจุกจิกอื่น ๆ รวมถึงค่าเล่าเรียนโรงเรียนเอกชนของลูก อะไรต่อมิอะไร ดิฉันคิดว่า คุณจินนี่รับผิดชอบเองทั้งหมด เพราะเธอเล่าติดตลก น้ำเสียงเอ็นดูให้ดิฉันฟังว่า
“คุณ*** (สามี) เงินเดือนแค่สองหมื่นกว่า ๆ (ตอนนี้ เป็นผู้กำกับที่จังหวัดไกลปืนเที่ยงไม่รู้ขึ้นมาอีกเท่าไรนะคะ) แค่ผ่อนรถตัวเองก็หมดแล้วค่า”
ตอนทำงานอยู่ สน. คอมพิวเตอร์ก็ไม่มี สามีคุณจินนี่ต้องเอาโน้ตบุ๊คส่วนตัว (ซึ่งก็อาจจะเป็นคุณจินนี่ซื้อให้อีกนั่นแหละ) ไปใช้เพื่อลงรายงานบันทึก อะไรต่อมิอะไรสารพัดรับใช้ประชาชนด้วยซ้ำ
อันที่จริง สามีคุณจินนี่ ก็ไม่ใช่ว่าจะพื้นฐานยากจนอะไร ครอบครัวมีพื้นเพอยู่ต่างจังหวัด มีที่มีทางพอสมควรค่ะ
แต่พ่อแม่ก็เป็นคหบดีระดับชาวบ้านมีที่มีทาง ไม่ได้มีปันผลกงสีอะไรที่งอกดอกงอกผลมาปันให้ลูกชายได้ทุกเดือน ลูกชายก็ต้องอยู่กินให้พอกับเงินเดือนตำรวจนี่แหละค่ะ และที่เหลือก็เมียจ่าย
บางคนอาจจะบอกว่า อ้าว ... มีที่มีทางเป็นมรดกจากพ่อแม่ซึ่งก็ไม่รู้จะยกให้เมื่อไร แต่ยก...คงยกให้แหละ
อันนั้นก็จริง แต่เงินจับจ่ายใช้สอยอะไร ๆ มันก็ไม่ได้คล่องตัวเหมือนคนทำธุรกิจเองนะ
คุณจินนี่จะหวังให้แฟนถอยหลุย หรือ พาไปกินหรูอยู่สบายนี่ไม่ได้นะ
แต่คุณจินนี่ก็มีความสุขกับสามีที่นิสัยดี๊ ดี ใคร ๆ ก็รัก ภูมิใจกับความเป็นตำรวจน้ำดีของสามีที่หาได้ยาก ไม่โกงไม่กิน เป็นคุณนายผู้กำกับ ออกงานโก้หรูมีคนนับหน้าถือตา มีสามีเป็นฉัตรแก้วกั้นเกศ งามหน้า งามเนตรทุกเวลา แต่เงินเดือนสองหมี่นกว่า คุณจินนี่จะพูดแบบนี้พร้อมหัวเราะร่วนอย่างมีความสุขทุกครั้ง
เพื่อนอีกคน ก็ลูกคุณหนู คุณพ่อเธอเคยดำรงตำแหน่งใหญ่สุดในกรมใหญ่สังกัดกระทรวงใหญ่ค่ะ
ตัวเองก็หน้าที่การงานดีทัดเทียมสามี ถ้าไม่ลาคลอด เผลอ ๆ จะก้าวหน้ากว่าด้วย
แถม ... พื้นเพบ้านก็เป็นปึกแผ่นทั้งเรื่องฐานะ ตำแหน่ง หน้าตา ความรู้
คุณสามีก็ไปอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่พ่อภรรยาปลูกให้ค่ะ
สามีเป็นคนทำงานประจำ เงินเดือนประจำ จะมาเปย์ทำป๋าก็ไม่ถนัดนัก แต่คุณสามีก็น่ารักพอที่จะไม่เอาเปรียบและยกเงินเดือนทั้งหมดให้ภรรยาจัดการดูแล
ภรรยาก็เข้าใจพอที่จะมีความสุขกับสิ่งที่ได้ เพราะสามีเป็นคนน่ารัก และดูแลดีมาก
ก็จะขึ้นระดับ ผอ.แล้ว ยังซักกางเกงในให้ภรรยาอยู่เลยค่ะ ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะภรรยาแพ้ผงซักฟอกเป็นผื่นคัน
และก็ไม่ให้แม่บ้านทำด้วย เพราะเกรงใจแม่บ้านเก่าแก่ที่อยู่กันมาแต่เด็ก
บ้านนี้เค้าน่ารักโดยเนื้อแท้จริง ๆ ค่ะ
ของยังงี้ มันจัดการกันได้ด้วยความเข้าใจ
เอาจริง ๆ นะคะ การเลือกใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต มันก็เหมือนกับการซื้อหุ้นแหละค่ะ
ถ้าคุณเป็นแนว VI ลงทุนเน้นคุณค่า คุณอาจเลือกหุ้นราคาไม่แพง ที่อนาคตไกล และลงทุนกับมัน อดทน รอคอย จนวันหนึ่งถ้ามันงอกดอกผลออกมา ผลอาจจะมากกว่าที่คุณจะมาคิดมากก็ได้
ที่พูดแบบนี้ก็ไม่ได้แปลว่า คุณผู้หญิงต้องเปย์ หรือรับสภาพการไม่ได้รับการเปย์จากผู้ชายของคุณนะคะ
แต่จะบอกว่า ถามใจตัวเองดีกว่า ต้องการอะไรในชีวิต อยากได้ครอบครัวแบบไหน คนแบบไหน หลังจากนั้น ถึงค่อยเลือกความเสี่ยงที่คุณรับได้ เลือกคนที่ character ดี ดีกว่าค่ะ
Character ดีเป็นแบบไหน ลองอ่านจากที่คุณใยบัว_ไฮเอนด์ บรรยายไว้ในความคิดเห็นที่ 3 ของกระทู้ที่อ้างถึง
อาจเป็นไปได้ว่าผู้ชายจน ๆ คนซื่อของคุณ จะรายได้ปานกลางแบบนี้ไปตลอดชีวิต
และก็อาจเป็นไปได้อีกว่า ผู้ชายจน ๆ ในวันนี้ของคุณอีกยี่สิบปีต่อมา จะกลายเป็นคนตำแหน่งใหญ่โตในองค์กร ทำให้คุณได้รับความนับหน้าถือตา ได้เหรียญสายสะพายอะไรต่อมิอะไรมาประดับชุดไทยของคุณ หรือทำให้คุณภาคภูมิกับญาติพี่น้อง วงศาคณาญาติว่า โครงการระดับชาติบางโครงการที่สร้างประโยชน์ให้กับชาติหรือกระทั่งภูมิภาคแถบนี้นั้น สามีคุณเป็นคนผลักดันหรือเป็นคณะทำงาน
เปย์ผู้ชาย ให้ผู้ชายเปย์ หรือต่างคนต่างเปย์ มันก็ดีได้ทั้งนั้นแหละค่ะ ?
“แต่ไม่เปย์เลยค่ะ คุณ xxx (ชื่อดิฉัน)”
เมื่อวานตอนนั่งรอช่างมาล้างแอร์ ซ่อมประตูกระจกที่คอนโด ไถ ๆ พันทิป ก็เจอกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/40355411
ว่าด้วยเรื่องเปย์ ไม่เปย์อีกแล้วคับท่าน
ดิฉันถือว่านี่เป็น sign ละว่าน่าจะชวนมาแชร์ความเห็นในหัวข้อนี้กันหน่อย
เปย์ คือ อะไร ?
ในบริบทที่เราใช้ ๆ กัน มักจะหมายถึงการที่ผู้ชายทำท่าป๋า ๆ ควักเร็ว โอนไว เอะอะ เอะอะก็ควักจ่ายสารพัดสิ่งอันในชีวิตประจำวันให้ผู้หญิง ไล่ตั้งแต่เรื่องค่ารถ ค่ากิน ค่าเที่ยว รวมถึง ของจุกจิกมีสาระบ้าง ไร้สาระบ้างที่ผู้หญิงอยากได้ให้
และถ้าคุณผู้ชายควักจ่ายของแพงล่ะก้อ คุณก็จะทำให้คำจำกัดความของคำว่า “เปย์” สมบูรณ์สาแก่ใจยิ่งขึ้น
ผู้หญิงส่วนใหญ่ ถือสา หรือ อ่ะ... ใช้คำว่าคิดมากเรื่องเปย์ไม่เปย์
บางที ไม่ใช่เพราะงกเสมอไปนะคะ เพราะบางคนควักซื้อเองได้ ซื้อเองมาหลายครั้งแล้วด้วย และซื้อให้ผู้ชายด้วย เอากะแม่สิ
แต่ ... แต่... การได้รับการเปย์เนี่ย มันให้ความสุขไม่ใช่เพราะว่าไม่ต้องควักจ่ายหรอกนะคะ
แต่มันรู้สึกเหมือนกับได้รับการปรนเปรอตามใจ การได้อวดชาวบ้าน หรือ อัพลงโซเชียลอย่างเต็มภาคภูมิว่าผู้ชายของชั้นซื้อนู่น นี่ นั่นให้
หลายปีก่อนโน้น เคยเห็นภรรยาของเพื่อนอัพลงโซเชียลด้วยรอยยิ้มกว้าง ในมือมีกล่องสีส้ม ถุงสีส้ม สกรีนตัวอักษรว่า Hermes โดยมีคุณเพื่อนยิ้มกริ่มอยู่ข้าง ๆ ด้วยรอยยิ้มเอ็นดูภรรยาและถ้าดิฉันดูไม่ผิด ดิฉันคิดว่า รอยยิ้มเพื่อนนั้นมีความภูมิใจในความเปย์ของตัวเองด้วย
ผู้หญิงส่วนใหญ่ ปากก็มักจะบอกว่า “ไม่ได้ดูที่ฐานะ สำคัญแค่ว่าอยู่ด้วยแล้วสบายใจ”
ค่ะ ... ดิฉันเชื่อว่า คุณไม่ได้ดูที่ฐานะเป็นหลักแน่ ๆ
แต่ไอ้ประโยคที่บอกว่า “อยู่ด้วยแล้วสบายใจ”
คุณต้องถามตัวเองดี ๆ นะคะว่า “ความสบายใจของคุณคืออะไร กินความแค่ไหน ?” เพื่อที่ว่าคุณจะได้รู้ว่าคุณจะบริหารความสัมพันธ์คุณอย่างไร จะถือสาเรื่องไหน และปล่อยวางเรื่องไหน จะจ่ายอะไร ? หรือขอให้อีกฝ่ายจ่ายอะไร ?
ในกระทู้ที่อ้างถึง หนึ่งในความคิดเห็นที่แหลมคม และรอบด้านมากคือ ความคิดเห็นที่ 6 โดย คุณสมาชิกหมายเลข 1817671 ที่วิเคราะห์ lifestyle การใช้ชีวิตและรายได้ของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง พร้อมทั้งแจงเหตุผลออกมาได้อย่างเถียงไม่ออก
ลองฟังคำพูดประโยคเหล่านี้ดูนะคะ ว่าไปตรงกับสถานการณ์จริงของคุณบ้างรึเปล่า ?
และถ้าตรง ? เป็นคุณ คุณจะเลือกทางไหน ?
ผู้หญิงสายถี่ถ้วนอาจจะบอกว่า
- “ชั้นไม่ได้ต้องการให้ผู้ชายเลี้ยง แต่ก็ไม่ต้องการเลี้ยงผู้ชาย”
ผู้หญิงสายหวังจะได้รับการเปย์และอนุรักษ์นิยมสุดขั้วอาจบอกว่า
- “เฮ้ย... ไม่ได้ ... ถ้าเป็นแฟนกันแล้วต้องมาหารครึ่งหมด มันก็ไม่ใช่ป่ะ ?”
ผู้หญิงสายเปย์แบบไม่คิดอะไรเลย จ่ายมากหรือจ่ายหมดก็มีค่ะ ไม่คิดมาก ไม่พูดมาก แต่ผู้ชายก็ต้องทำตัวดี ๆ ตามที่เธอคาดหวังด้วยนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวเจอคอมเพลน ที่ยากในกรณีนี้คือ เธอคาดหวังอะไร บางที เธอไม่บอกคุณด้วยนะ อาจจะด้วยไม่กล้าบอกหรือเกรงใจก็ตาม ผู้ชายต้องไปคิดเอาเองว่า ทำตัวแบบไหน ถึงจะเรียกว่าทำตัวดี ๆ
แบบนี้ บางทีผู้ชายดี ๆ ก็แหยงค่ะ พลาดพลั้งเผลอไป เดี๋ยวได้กลายเป็นปีกทองไม่รู้ตัว
อย่างที่คุณสมาชิก 1817671 บอกเอาไว้ lifestyle ในทางเดียวกัน ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่นและมีความสุข
แต่บางครั้ง วิธีการใช้จ่ายเงินของฝ่ายหนึ่งกับอีกฝ่ายหนึ่งอาจจะไม่เหมือนกัน
ถ้าคุณอยากมีความสุขและความราบรื่นในการใช้ชีวิต การต้องเอื้อม เขย่ง หรือย่อ ลงไปในวิถีของอีกฝ่ายหนึ่งเป็นเรื่องจำเป็น โดยคุณอาจจะต้องชั่งน้ำหนักว่ามันคุ้มกับ “ความจำเป็น” หรือ “ความเสี่ยง” หรือไม่
ทุกคนอยากลงหลักปักฐานร่วมกับคนที่มั่นคงทั้งนั้น เพื่อจะได้มีชีวิตที่สมบูรณ์พูนสุข แต่คำว่ามั่นคงของแต่ละคน และความสุขในการดำเนินชีวิต คุณจะนิยามมันว่าอะไร ?
- ต้องมีบ้าน --- ต้องเป็นบ้านแบบไหน ? หลังใหญ่แค่ไหน ? ละแวกไหน คุณถึงพอใจ ?
- ต้องมีทรัพย์สิน --- ขนาดไหน ? ที่ดิน ? รถ ? หุ้น ? ทองคำ ? สวนผลไม้ ? ที่นา พร้อมวัวควายสักกี่ตัวดี ?
- ต้องมีอาชีพที่มั่นคง และรายได้ --- ต้องแค่ไหน ? สม่ำเสมอ ? freelance ได้ไหม ? ได้มากบ้าง น้อยบ้างแล้วแต่จังหวะ ?
- ต้องควงได้ไม่อายใคร --- สวย ? หล่อ ? การศึกษาสูง ? ฐานะดี ? หน้าที่การงานดี ? ขับรถหรู ?
ดิฉันคิดว่าหลายคนที่บ่น ๆ ว่าโสด อยากสร้างครอบครัวแต่ไม่มีสักที ไม่ใช่เพราะไม่มีใครมาชอบ หรือเพราะไม่ชอบใครหรอกค่ะ
แต่มันเกิดจากการไม่ match กันตามองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ว่ามานี้ต่างหาก
เอาจริง ๆ นะคะ
การที่บางทีผู้หญิงรายได้มากกว่าแล้วเปย์เสียเป็นส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเลวร้ายเสมอไป
แต่ขอเล่าตัวอย่างที่เคยเห็น เคยได้ยินได้ฟังจากคนรอบตัว และญาติมิตรของคนรอบตัวให้ฟังดีกว่า
ดิฉันเป็นลูกค้าของบริษัทที่ให้บริการด้านการเงิน การบัญชีแห่งหนึ่ง เป็นลูกค้ากันมานานตั้งแต่ยังตัวบอบบางทั้งคู่เมื่อกว่ายี่สิบปีก่อน ยังใช้บริการและสนิทกันมาจนทุกวันนี้
เพื่อนคนนี้ อะสมมติเรียกว่า คุณจินนี่แล้วกันนะคะ เป็นผู้หญิงทำงานเก่ง set บริษัทตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ เธอได้แฟนอายุน้อยกว่า 5 ปี เป็นนักเรียนนายร้อยห้อยกระบี่ ที่อยู่ประมาณ 30-40 ลำดับแรกของรุ่นที่จบมา เป็นตำรวจค่ะ
คุณแฟนก็น่ารัก นิสัยดี๊ ดี เป็นสามีที่ประเสริฐมาก ไม่เจ้าชู้ ไม่เหลวไหล รักลูก รักครอบครัว ปีสองปีที่ผ่านมานี้ได้เป็นผู้กำกับแล้ว
คุณจินนี่มีความสุขกับแฟนมาก แม้ว่า จะต้องรับผิดชอบแทบทุกอย่าง คือ บ้านหลังใหญ่โตที่อยู่ด้วยกัน คุณจินนี่สร้าง ดิฉันคาดว่า ค่าใช้จ่ายจุกจิกอื่น ๆ รวมถึงค่าเล่าเรียนโรงเรียนเอกชนของลูก อะไรต่อมิอะไร ดิฉันคิดว่า คุณจินนี่รับผิดชอบเองทั้งหมด เพราะเธอเล่าติดตลก น้ำเสียงเอ็นดูให้ดิฉันฟังว่า
“คุณ*** (สามี) เงินเดือนแค่สองหมื่นกว่า ๆ (ตอนนี้ เป็นผู้กำกับที่จังหวัดไกลปืนเที่ยงไม่รู้ขึ้นมาอีกเท่าไรนะคะ) แค่ผ่อนรถตัวเองก็หมดแล้วค่า”
ตอนทำงานอยู่ สน. คอมพิวเตอร์ก็ไม่มี สามีคุณจินนี่ต้องเอาโน้ตบุ๊คส่วนตัว (ซึ่งก็อาจจะเป็นคุณจินนี่ซื้อให้อีกนั่นแหละ) ไปใช้เพื่อลงรายงานบันทึก อะไรต่อมิอะไรสารพัดรับใช้ประชาชนด้วยซ้ำ
อันที่จริง สามีคุณจินนี่ ก็ไม่ใช่ว่าจะพื้นฐานยากจนอะไร ครอบครัวมีพื้นเพอยู่ต่างจังหวัด มีที่มีทางพอสมควรค่ะ
แต่พ่อแม่ก็เป็นคหบดีระดับชาวบ้านมีที่มีทาง ไม่ได้มีปันผลกงสีอะไรที่งอกดอกงอกผลมาปันให้ลูกชายได้ทุกเดือน ลูกชายก็ต้องอยู่กินให้พอกับเงินเดือนตำรวจนี่แหละค่ะ และที่เหลือก็เมียจ่าย
บางคนอาจจะบอกว่า อ้าว ... มีที่มีทางเป็นมรดกจากพ่อแม่ซึ่งก็ไม่รู้จะยกให้เมื่อไร แต่ยก...คงยกให้แหละ
อันนั้นก็จริง แต่เงินจับจ่ายใช้สอยอะไร ๆ มันก็ไม่ได้คล่องตัวเหมือนคนทำธุรกิจเองนะ
คุณจินนี่จะหวังให้แฟนถอยหลุย หรือ พาไปกินหรูอยู่สบายนี่ไม่ได้นะ
แต่คุณจินนี่ก็มีความสุขกับสามีที่นิสัยดี๊ ดี ใคร ๆ ก็รัก ภูมิใจกับความเป็นตำรวจน้ำดีของสามีที่หาได้ยาก ไม่โกงไม่กิน เป็นคุณนายผู้กำกับ ออกงานโก้หรูมีคนนับหน้าถือตา มีสามีเป็นฉัตรแก้วกั้นเกศ งามหน้า งามเนตรทุกเวลา แต่เงินเดือนสองหมี่นกว่า คุณจินนี่จะพูดแบบนี้พร้อมหัวเราะร่วนอย่างมีความสุขทุกครั้ง
เพื่อนอีกคน ก็ลูกคุณหนู คุณพ่อเธอเคยดำรงตำแหน่งใหญ่สุดในกรมใหญ่สังกัดกระทรวงใหญ่ค่ะ
ตัวเองก็หน้าที่การงานดีทัดเทียมสามี ถ้าไม่ลาคลอด เผลอ ๆ จะก้าวหน้ากว่าด้วย
แถม ... พื้นเพบ้านก็เป็นปึกแผ่นทั้งเรื่องฐานะ ตำแหน่ง หน้าตา ความรู้
คุณสามีก็ไปอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่พ่อภรรยาปลูกให้ค่ะ
สามีเป็นคนทำงานประจำ เงินเดือนประจำ จะมาเปย์ทำป๋าก็ไม่ถนัดนัก แต่คุณสามีก็น่ารักพอที่จะไม่เอาเปรียบและยกเงินเดือนทั้งหมดให้ภรรยาจัดการดูแล
ภรรยาก็เข้าใจพอที่จะมีความสุขกับสิ่งที่ได้ เพราะสามีเป็นคนน่ารัก และดูแลดีมาก
ก็จะขึ้นระดับ ผอ.แล้ว ยังซักกางเกงในให้ภรรยาอยู่เลยค่ะ ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะภรรยาแพ้ผงซักฟอกเป็นผื่นคัน
และก็ไม่ให้แม่บ้านทำด้วย เพราะเกรงใจแม่บ้านเก่าแก่ที่อยู่กันมาแต่เด็ก
บ้านนี้เค้าน่ารักโดยเนื้อแท้จริง ๆ ค่ะ
ของยังงี้ มันจัดการกันได้ด้วยความเข้าใจ
เอาจริง ๆ นะคะ การเลือกใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต มันก็เหมือนกับการซื้อหุ้นแหละค่ะ
ถ้าคุณเป็นแนว VI ลงทุนเน้นคุณค่า คุณอาจเลือกหุ้นราคาไม่แพง ที่อนาคตไกล และลงทุนกับมัน อดทน รอคอย จนวันหนึ่งถ้ามันงอกดอกผลออกมา ผลอาจจะมากกว่าที่คุณจะมาคิดมากก็ได้
ที่พูดแบบนี้ก็ไม่ได้แปลว่า คุณผู้หญิงต้องเปย์ หรือรับสภาพการไม่ได้รับการเปย์จากผู้ชายของคุณนะคะ
แต่จะบอกว่า ถามใจตัวเองดีกว่า ต้องการอะไรในชีวิต อยากได้ครอบครัวแบบไหน คนแบบไหน หลังจากนั้น ถึงค่อยเลือกความเสี่ยงที่คุณรับได้ เลือกคนที่ character ดี ดีกว่าค่ะ
Character ดีเป็นแบบไหน ลองอ่านจากที่คุณใยบัว_ไฮเอนด์ บรรยายไว้ในความคิดเห็นที่ 3 ของกระทู้ที่อ้างถึง
อาจเป็นไปได้ว่าผู้ชายจน ๆ คนซื่อของคุณ จะรายได้ปานกลางแบบนี้ไปตลอดชีวิต
และก็อาจเป็นไปได้อีกว่า ผู้ชายจน ๆ ในวันนี้ของคุณอีกยี่สิบปีต่อมา จะกลายเป็นคนตำแหน่งใหญ่โตในองค์กร ทำให้คุณได้รับความนับหน้าถือตา ได้เหรียญสายสะพายอะไรต่อมิอะไรมาประดับชุดไทยของคุณ หรือทำให้คุณภาคภูมิกับญาติพี่น้อง วงศาคณาญาติว่า โครงการระดับชาติบางโครงการที่สร้างประโยชน์ให้กับชาติหรือกระทั่งภูมิภาคแถบนี้นั้น สามีคุณเป็นคนผลักดันหรือเป็นคณะทำงาน