บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ย้ำจุดยืนในการเป็นผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกด้วยการเปิดตัว “NEW MG EP” รถยนต์ในรูปแบบสเตชั่นแวกอนขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยแนวคิด “EVeryone ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทุกคน” เพื่อสะท้อนมาตรฐานขั้นต้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยที่ต้องประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐาน ได้แก่ ขนาดของห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอย ที่กว้างขวางรองรับการบรรทุกทั้งคนและสิ่งของ โดดเด่นด้วยสมรรถนะของ EV เทคโนโลยีที่ให้กำลังเพียงพอต่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ให้ความสะดวกสบายและมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน รวมทั้งคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของด้วยค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว พร้อมเผยแผนการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี ภายใต้ชื่อ “MG Super Charge” ที่ดีลเลอร์เอ็มจีครบ 100 แห่งแล้วในปีนี้ และขยายอีกกว่า 500 แห่งภายในปีหน้า
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “เอ็มจีนำเสนอยานยนต์ด้วย 3 แนวคิดหลัก ได้แก่ 1) ความทันสมัยหรือแฟชั่น 2) เทคโนโลยี และ 3) ความคุ้มค่า ซึ่งทั้ง 3 แนวคิดหลักนี้จะถูกนำมาใช้ตั้งแต่การออกแบบ การคิดค้นนวัตกรรม สมรรถนะ ฟังก์ชั่นการใช้งาน และระบบความปลอดภัย สำหรับ NEW MG EP จะเป็นมาตรฐานขั้นต้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า100% หรือ Entry EV ของตลาดรถยนต์เมืองไทยนับจากนี้ ด้วยจุดเด่นของการเป็น EV For Everyone ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้ทุกรูปแบบทั้งขนาดของห้องโดยสารที่กว้างขวาง รวมถึงพื้นที่ใช้สอยที่สะดวกสบาย ความจุในการบรรทุกสัมภาระที่เหนือกว่า สมรรถนะของเทคโนโลยีของรถยนต์ไฟฟ้า100% ระบบความปลอดภัยครบครัน และความคุ้มค่า ในการเป็นเจ้าของ ยิ่งไปกว่านั้น ขณะนี้ สถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจีภายใต้ชื่อ MG Super Charge ได้ติดตั้งที่ดีลเลอร์เอ็มจีครบ 100 แห่ง และอยู่ในระหว่างทดลองระบบ ซึ่งคาดว่าจะสามารถใช้ได้จริงในเดือนมกราคมนี้ นอกจากนี้ เรายังมีแผนจะขยายจุดให้บริการ MG Super Charge อีกกว่า 500 แห่งภายในปีหน้า ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่ารถยนต์ไฟฟ้าของเอ็มจีจะสามารถใช้งานได้จริงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศในเวลาอันใกล้นี้”
“NEW MG EP ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทุกคน” กับองค์ประกอบในการเป็นมาตรฐานขั้นต้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ขนาดของห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอย (Space & Roominess) ด้วยจุดเด่นของการเป็นรถสเตชั่นแวกอนที่มีมิติตัวถังขนาดใหญ่ โดยมีความยาวตลอดตัวถัง 4,544 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อที่กว้างถึง 2,665 มิลลิเมตร ทำให้ NEW MG EP มีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย และพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ โดยเมื่อพับเบาะหลังจะสามารถเพิ่มที่พื้นที่ความจุได้มากสูงสุดถึง 1,456 ลิตร รองรับการบรรทุกทั้งคนและสิ่งของได้เป็นอย่างดี
มีระบบความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวก (Safety & Convenience) ที่ครบครัน อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรก ABS พร้อมระบบช่วยกระจายและเสริมแรงเบรกด้วยไฟฟ้า ระบบควบคุมเสถียรภาพในการขับขี่ กล้องมองหลัง ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง ปุ่มเบรกมือไฟฟ้าและปุ่ม Auto Hold นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งหน้าจอ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay
สมรรถนะจาก EV เทคโนโลยี (EV Technology) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุด 163 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายในเวลาเพียง 8.8 วินาที พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Eco, Normal และ Sport รวมทั้งมีระบบชาร์จไฟกลับเมื่อชะลอความเร็ว หรือ KERS Mode รวม 3 ระดับ สำหรับแบตเตอรี่ของ NEW MG EP เป็นลิเธียมไอออนแบบโมดูล ที่สามารถแยกซ่อมแต่ละโมดูลได้อิสระ โดยมีขนาดความจุถึง 50.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางในการขับขี่ได้ไกลถึง 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง* ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้ 2 รูปแบบ คือ การชาร์จในรูปแบบ Normal Charge จาก 0-100% ผ่าน MG Home Charger ที่ใช้เวลา 7.15 ชั่วโมง และรูปแบบ Quick Charge จาก 0-80% ผ่านสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 40 นาที
*ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน New European Driving Cycle – NEDC
· คุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ (Value for Money) ด้วยค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำจึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว โดยมีค่าใช้จ่ายต่อการชาร์จเต็มแต่ละครั้งเพียง 200* บาท และค่าบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร อยู่ที่ 7,828 บาท นอกจากนี้ ยังได้รับการประกันคุณภาพ และการดูแลบริการหลังการขายภายใต้ MG Passion Service นาน 4 ปีหรือ 120,000 กิโลเมตร และการรับประกันแบตเตอรี่นานถึง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
*อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 3.96 บาทต่อหน่วย ไม่รวมค่า FT และภาษีมูลค่าเพิ่ม อ้างอิงจากข้อมูลของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ณ เดือนมิถุนายน 2563
สถานีชาร์จ “MG Super Charge” พร้อมให้บริการที่โชว์รูมรถยนต์เอ็มจีต้นปีหน้า
ปัจจุบันเอ็มจีได้ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าในรูปแบบ DC Charger ซึ่งเป็นการลงทุนของเอ็มจีเอง ภายใต้ชื่อ MG Super Charge ซึ่งได้ดำเนินการติดตั้งครบ 100 แห่งในโชว์รูมเอ็มจีทั่วประเทศแล้ว และอยู่ในระหว่างการทดสอบระบบเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในเดือนมกราคม และจะขยายเพิ่มอีกกว่า 500 แห่งภายในปีหน้า
ผู้สนใจสามารถชมและทดลองขับ NEW MG EP และรถยนต์รุ่นต่างๆ ของเอ็มจี ได้ในงาน Motor Expo 2020 มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 2 - 13 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ณ บูธเอ็มจี หมายเลข A13 ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อืมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี หรือที่โชว์รูมเอ็มจีทุกสาขาทั่วประเทศ
MG EP รถไฟฟ้า 100% ร่าง Wagon เคาะราคา ไม่ถึงล้าน 9.88 แสน
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ย้ำจุดยืนในการเป็นผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกด้วยการเปิดตัว “NEW MG EP” รถยนต์ในรูปแบบสเตชั่นแวกอนขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยแนวคิด “EVeryone ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทุกคน” เพื่อสะท้อนมาตรฐานขั้นต้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยที่ต้องประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐาน ได้แก่ ขนาดของห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอย ที่กว้างขวางรองรับการบรรทุกทั้งคนและสิ่งของ โดดเด่นด้วยสมรรถนะของ EV เทคโนโลยีที่ให้กำลังเพียงพอต่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ให้ความสะดวกสบายและมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน รวมทั้งคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของด้วยค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว พร้อมเผยแผนการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี ภายใต้ชื่อ “MG Super Charge” ที่ดีลเลอร์เอ็มจีครบ 100 แห่งแล้วในปีนี้ และขยายอีกกว่า 500 แห่งภายในปีหน้า
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “เอ็มจีนำเสนอยานยนต์ด้วย 3 แนวคิดหลัก ได้แก่ 1) ความทันสมัยหรือแฟชั่น 2) เทคโนโลยี และ 3) ความคุ้มค่า ซึ่งทั้ง 3 แนวคิดหลักนี้จะถูกนำมาใช้ตั้งแต่การออกแบบ การคิดค้นนวัตกรรม สมรรถนะ ฟังก์ชั่นการใช้งาน และระบบความปลอดภัย สำหรับ NEW MG EP จะเป็นมาตรฐานขั้นต้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า100% หรือ Entry EV ของตลาดรถยนต์เมืองไทยนับจากนี้ ด้วยจุดเด่นของการเป็น EV For Everyone ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้ทุกรูปแบบทั้งขนาดของห้องโดยสารที่กว้างขวาง รวมถึงพื้นที่ใช้สอยที่สะดวกสบาย ความจุในการบรรทุกสัมภาระที่เหนือกว่า สมรรถนะของเทคโนโลยีของรถยนต์ไฟฟ้า100% ระบบความปลอดภัยครบครัน และความคุ้มค่า ในการเป็นเจ้าของ ยิ่งไปกว่านั้น ขณะนี้ สถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจีภายใต้ชื่อ MG Super Charge ได้ติดตั้งที่ดีลเลอร์เอ็มจีครบ 100 แห่ง และอยู่ในระหว่างทดลองระบบ ซึ่งคาดว่าจะสามารถใช้ได้จริงในเดือนมกราคมนี้ นอกจากนี้ เรายังมีแผนจะขยายจุดให้บริการ MG Super Charge อีกกว่า 500 แห่งภายในปีหน้า ซึ่งบริษัทฯ เชื่อมั่นว่ารถยนต์ไฟฟ้าของเอ็มจีจะสามารถใช้งานได้จริงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศในเวลาอันใกล้นี้”
“NEW MG EP ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทุกคน” กับองค์ประกอบในการเป็นมาตรฐานขั้นต้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ขนาดของห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอย (Space & Roominess) ด้วยจุดเด่นของการเป็นรถสเตชั่นแวกอนที่มีมิติตัวถังขนาดใหญ่ โดยมีความยาวตลอดตัวถัง 4,544 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อที่กว้างถึง 2,665 มิลลิเมตร ทำให้ NEW MG EP มีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย และพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ โดยเมื่อพับเบาะหลังจะสามารถเพิ่มที่พื้นที่ความจุได้มากสูงสุดถึง 1,456 ลิตร รองรับการบรรทุกทั้งคนและสิ่งของได้เป็นอย่างดี
มีระบบความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวก (Safety & Convenience) ที่ครบครัน อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรก ABS พร้อมระบบช่วยกระจายและเสริมแรงเบรกด้วยไฟฟ้า ระบบควบคุมเสถียรภาพในการขับขี่ กล้องมองหลัง ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง ปุ่มเบรกมือไฟฟ้าและปุ่ม Auto Hold นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งหน้าจอ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay
สมรรถนะจาก EV เทคโนโลยี (EV Technology) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุด 163 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายในเวลาเพียง 8.8 วินาที พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Eco, Normal และ Sport รวมทั้งมีระบบชาร์จไฟกลับเมื่อชะลอความเร็ว หรือ KERS Mode รวม 3 ระดับ สำหรับแบตเตอรี่ของ NEW MG EP เป็นลิเธียมไอออนแบบโมดูล ที่สามารถแยกซ่อมแต่ละโมดูลได้อิสระ โดยมีขนาดความจุถึง 50.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางในการขับขี่ได้ไกลถึง 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง* ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้ 2 รูปแบบ คือ การชาร์จในรูปแบบ Normal Charge จาก 0-100% ผ่าน MG Home Charger ที่ใช้เวลา 7.15 ชั่วโมง และรูปแบบ Quick Charge จาก 0-80% ผ่านสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 40 นาที
*ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน New European Driving Cycle – NEDC
· คุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ (Value for Money) ด้วยค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำจึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว โดยมีค่าใช้จ่ายต่อการชาร์จเต็มแต่ละครั้งเพียง 200* บาท และค่าบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร อยู่ที่ 7,828 บาท นอกจากนี้ ยังได้รับการประกันคุณภาพ และการดูแลบริการหลังการขายภายใต้ MG Passion Service นาน 4 ปีหรือ 120,000 กิโลเมตร และการรับประกันแบตเตอรี่นานถึง 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
*อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 3.96 บาทต่อหน่วย ไม่รวมค่า FT และภาษีมูลค่าเพิ่ม อ้างอิงจากข้อมูลของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ณ เดือนมิถุนายน 2563
สถานีชาร์จ “MG Super Charge” พร้อมให้บริการที่โชว์รูมรถยนต์เอ็มจีต้นปีหน้า
ปัจจุบันเอ็มจีได้ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าในรูปแบบ DC Charger ซึ่งเป็นการลงทุนของเอ็มจีเอง ภายใต้ชื่อ MG Super Charge ซึ่งได้ดำเนินการติดตั้งครบ 100 แห่งในโชว์รูมเอ็มจีทั่วประเทศแล้ว และอยู่ในระหว่างการทดสอบระบบเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในเดือนมกราคม และจะขยายเพิ่มอีกกว่า 500 แห่งภายในปีหน้า
ผู้สนใจสามารถชมและทดลองขับ NEW MG EP และรถยนต์รุ่นต่างๆ ของเอ็มจี ได้ในงาน Motor Expo 2020 มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 2 - 13 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ณ บูธเอ็มจี หมายเลข A13 ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อืมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี หรือที่โชว์รูมเอ็มจีทุกสาขาทั่วประเทศ