[CR] อินกับ “App War” ลองอาหารอินเดียสไตล์ แถมเดินสบายๆ ริมคลองโอ่งอ่างโฉมใหม่


App War เป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติกคอมเมดี้ เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักธุรกิจ startup รุ่นใหม่ที่ต้องการชิงทุนจากบริษัทดังด้วยการสร้างแอป แต่ดันมีเรื่องของหัวใจเข้ามาเกี่ยวด้วย ไม่รู้งานนี้จะได้ทุนหรือได้ใจ ต้องไปดูเองนะคะ

ซึ่งตอนนี้เปิดให้รับชมได้ทาง Monomax ที่แรก และที่เดียว สำหรับบางคนที่ไม่ชอบผูกบัตรเครดิตกับแอปเหมือนเรา เรามีอีกทางเลือกนึงมาให้ วิธีที่ว่านั่นก็คือ การซื้อ e-coupon ซึ่งมีให้เลือกหลายแพ็กเกจเลือกได้ตามใจเลย แถมบางช่วงยังได้ coin คืนอีกด้วย คลิ๊กดูคูปองราคาพิเศษ

หลังจากที่เราได้ดูหนังเรื่องนี้ ฉากที่สะกดให้เรามองแต่อาหาร คือฉากที่บอมบ์สั่งอาหารเป็นทาลี(thali ในภาษาฮินดี แปลว่า ถาด) แล้วก็ได้เจอกับจูนที่ร้านอาหารอินเดียโดยบังเอิญ และได้นั่งคุยกัน 

ไม่รอช้า เราหาข้อมูลทันทีหลังจากดูหนังจบ แล้วก็พบว่าร้านอาหารอินเดียนี้มีอยู่จริง และก็อยู่ในโซนพาหุรัดนี่เอง ร้านนี้ชื่อว่า
 “Tony’s Restaurant” 
ทีอยู่: 64/1 ซอย ริมคลองโอ่งอ่าง แขวง วังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
เวลาทำการ: ทุกวัน 11.00-22.00 น.
การเดินทาง: นั่ง MRT มาลงสถานีสามยอด ไม่ควรขับรถมา เพราะน่าจะหาที่จอดยาก
 

“แต่ผมว่าที่สุขุมวิทเด็ดกว่านะ”
 

Tony’s Restaurant บรรยากาศแบบร้านอาหารตามสั่ง
 

“นานๆผมไปทีนะ ต้องมีโอกาสพิเศษผมถึงจะไป”
 

เห็นร้านเก่าๆแบบนี้ แต่ดังมากใน Youtube หากไปนั่งที่ร้านจะเห็นว่ามีชาวต่างชาติมานั่งทานไม่ขาดสาย

 
ครัวเปิดโล่งให้เราเห็นเชฟทำอาหารได้เลย
 

เครื่องดื่มสไตล์อินเดียก็มี

เมนู และราคา หากใครเคยรู้จัก หรือเคยทานอาหารอินเดียมาบ้าง จะรู้เลยว่าราคาร้านนี้สบายกระเป๋ามาก เริ่มต้นที่ราคา 10 บาท ซึ่งเราคิดว่าใครที่จะหัดทานอาหารอินเดียครั้งแรกเหมือนเรา ที่นี่เหมาะเลย เพราะถ้าทานไม่ได้ก็ไม่เสียดายมาก
พนักงานจะนำเมนูมาให้ 2 ใบ ซึ่งใบนึงเป็นภาษาไทย ใบนึงเป็นภาษาอังกฤษ สามารถดูเทียบกันได้เลยว่าเมนูนั้นๆมีส่วนประกอบเป็นอะไรบ้าง ไม่ต้องกลัวว่าจะได้กินอะไรแปลกๆ แต่ขอบอกว่าไม่มีทาลีแบบในหนังนะคะ
 
 
มาดูกันดีกว่าว่าเราสั่งอะไรไปบ้าง

Puri(โรตีทอด) ราคา 10 บาท เป็นแผ่นแป้งทอดกรอบ ทอดในน้ำมันด้วยไฟอ่อน จนพอง แต่ของเรามันพองจนฟีบไปแล้ว ทานเปล่าๆก็จะจืดๆ ทานกับแกงก็อร่อยดีค่ะ เป็นแป้งบางแต่ทั้งนุ่มและกรอบ
 

Chicken Masala(แกงมะซะล่าไก่) ราคา 100 บาท รสชาติคล้ายๆแกงกะหรี่ไก่ แต่มีกลิ่นเครื่องเทศที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ได้ฉุนอย่างที่เรากลัวตอนแรก ไม่ได้เผ็ดมาก สำหรับเรานะอร่อยเลย เนื้อไก่นุ่มมาก
 

Egg Burje(ไข่เจียวคนใส่หอม มะเขือเทศ และเครื่องเทศ) ราคา 50 บาท รสชาติคล้ายไข่เจียวทรงเครื่องบ้านเรา แต่มีกลิ่นของเครื่องเทศด้วย เมนูนี้ก็ทานง่ายค่ะ
 

Tomato Chutney(น้ำจิ้มชัทนีย์มะเขือเทศ) ฟรี รสชาติคล้ายๆน้ำพริกกะปิบ้านเรา
 

Chai(Masala Tea – ชามาซาลา) ราคา 15 บาท เป็นชาร้อนที่ใส่เครื่องเทศทำให้ได้ความหอมของเครื่องเทศเบาๆ
 

Salt Lassi(โยเกิร์ตปั่นเค็ม) ราคา 40 บาท มันก็คือโยเกิร์ตเลยค่ะ แต่จะไม่ข้นเท่าโยเกิร์ตที่เราเคยซื้อทานทั่วไป ทำให้ดื่มง่าย คำแรกที่ดื่ม คือ สดชื่นค่ะ สำหรับสายโยเกิร์ตอย่างเรา เป็นเครื่องดื่มที่ชอบมากๆเลย

ทั้งหมดนี่รวมแล้วคิดเป็นเงิน 215 บาท สำหรับเราทานกันสองคนก็ถือว่าอิ่มเลยค่ะ
การทานอาหารอินเดียครั้งแรก ถือว่า ผ่าน ค่ะ ไม่ได้ฉุนเครื่องเทศจนทานไม่ได้อย่างที่เคยคิดไว้ ต้องกลับมาลองเมนูอื่นๆอีกแน่ๆค่ะ


หลังจากที่หนังท้องตึงแล้ว ก็ต้องเดินย่อยกันหน่อย ไม่ต้องเดินไปที่ไหนไกลเลยค่ะ เพราะร้าน Tony’s Restaurant ตั้งอยู่บริเวณริมคลองโอ่งอ่าง ฟังชื่อคลองแล้วอาจจะไม่คุ้นหู แต่ถ้าบอกว่าสะพานเหล็ก ก็คงจะร้องอ๋อกันเลย ซึ่งตอนนี้ทาง กทม. ได้มีการปรับภูมิทัศน์ใหม่เรียบร้อย เรียกได้ว่าแปลงโฉมกันเลยทีเดียว เพราะเมื่อก่อนเรานั่งรถผ่านตรงนี้ทีไร ก็เห็นร้านค้า ร้านขายของเล่น ที่ดูแล้วไม่เป็นระเบียบสักเท่าไหร่

“คลองโอ่งอ่าง” 
ที่อยู่: ซอย คลองถมปทุมคงคา แขวง สัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100
เวลาทำการ: ศุกร์-อาทิตย์ เวลา 16.00-22.00 น.
Facebook: ถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง Ong Ang Walking Street

สะพานหัน จุดนี้เรียกได้ว่าเป็นมุมมหาชน กว่าจะได้รูปที่ไม่มีคนบนสะพาน ขอบอกว่ายากมากๆ ต้องหาจังหวะดีๆ

 

มีคนมาพายเรือให้ได้ดูเพลินๆ
 

บนสะพานหันคนเยอะมากๆ
 

กราฟฟิตี้บนผนังให้ได้ถ่ายรูปกันเพลินๆ
 

มีร้านค้าขายของกินตลอดทาง
 

ฝาท่อศิลป์ เอกลักษณ์ใหม่ริมคลองโอ่งอ่าง
 

เราได้คุยกับพี่ๆที่มาพายเรือ เขาบอกว่าทางพื้นที่ให้มาช่วยพายเป็นสีสันก่อน แต่ถ้าใครสนใจพายก็สอบถามได้ เพราะเป็นเรือพี่ๆเขาเอง
 

ING Teahouse ร้านชาไต้หวัน
 

จุดสั่งน้ำทำเป็นหน้าต่าง ร้านนี้ไม่มีพื้นนั่งภายในร้านนะคะ สามารถนั่งชิลดื่มริมคลองได้เลย
 

น้องไซบีเรียนหน้าหล่อ นั่งรับลมริมคลอง
 

ส่วนเจ้าเหมียวนั่งรอรับอาหารริมคลอง
 

มีโซนปูเสื่อให้ได้นั่งทานอาหารกันด้วยนะคะ
 

กลิ่นปลาหมึก และไข่ปลาหมึกย่าง หอมลอยมาแต่ไกล
 

มีดนตรีเปิดหมวกให้ได้นั่งฟังชิลๆ
 

ก๊วนปั่นจักรยานแวะมาเที่ยว
 

เสียงไวโอลิน เคล้ากับลมพัดเอื่อยๆริมคลอง
 

มีบริการสเก็ตภาพ ราคาภาพละ 50 บาท

เดินฝั่งสะพานหันหมดแล้ว เราก็ข้ามถนนบนสะพานดำรงสถิต ไปฝั่งที่มีโรงแรมมิราม่าอยู่ ฝั่งนี้จะคนละอารมณ์ฝั่งสะพานหัน ฝั่งนี้จะมีร้านขายของเล่นเยอะ และมีงานกราฟฟิตี้บนผนังให้ได้ถ่ายรูปเยอะกว่า

 

ห้องน้ำค่าบริการครั้งละ 3 บาท สะอาดพอใช้ได้
 

ที่นี่มีกิจกรรมชวนให้นักท่องเที่ยวแต่งคอสเพลย์การ์ตูน มาถ่ายรูปสร้างสีสัน
 

น้องๆนักเรียน นักศึกษา เปิดหมวกวงดนตรี ทำให้ฝั่งนี้คึกครื้นและคึกคักด้วยเสียงเพลง
 

กลุ่มเด็กออทิสติกจัดกิจกรรมแสดง และเต้นเปิดหมวก น้องๆน่ารักมาก
 

โซนของเล่น ใครพาเด็กๆมาคว้าแขนกันให้ดีๆนะคะ
 

ของเล่นลดราคาเยอะมาก เราเองยังแทบจะอดใจไม่ไหวเลย

เดินเล่นจนหมดแล้ว เราก็เอาแรงที่เหลืออยู่ไปถ่ายรูปกราฟฟิตี้ผนัง ซึ่งฝั่งนี้มีมุมให้ถ่ายเยอะมาก
 








 
สำหรับที่นี่เราบอกได้เต็มปากว่าหลงรักเลยทีเดียว จุดประสงค์เรามาเพื่อเปิดฉากเที่ยว แต่นอกเหนือจากนั้นคือการได้เปิดโอกาสให้เราได้เจอสถานที่ดีๆ สถานที่ใหม่ๆที่เราไม่เคยไปเป็นของแถม ของแบบนี้แค่อ่านมันไม่อิน วันหยุดนี้ออกไปหาความอินด้วยตัวเองกันนะคะ
ไม่อยากพลาดเปิดฉากเที่ยว ตามรอยหนัง และละครที่คุณชื่นชอบ

ติดตามเราได้ที่ Facebook Page: เปิดฉากเที่ยว หรือ www.seesawscene.com
ชื่อสินค้า:   คลองโอ่งอ่าง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่