ถุงมือเรื่องสั้น สัปดาห์ที่ 23 รอบใหม่ สมัยที่ 6 สมัยสุดท้าย ส่งท้ายปี 2020 ยกที่ 1 เรื่องที่ 2 ครับ ^^
และ มาอีกจนได้ครับเอเลี่ยน! คราวนี้เป็น
ALIEN 90's เอ้าย้อนหลังไปยุคก่อนปี 2000 ก่อนขึ้นศตวรรษที่ 21 อีกเอาเข้าไป...
มันกลายเป็น "แฟรนไชส์" ไปเรียบร้อยแล้วครับท่านผู้ชม ^^
วันที่ 17 มิถุนายน 2537
เวลา 14.30 น. ณ บ้านเลขที่ 1257 กรุงเทพมหานคร
“พี่กรีน...แก้วเจอแมวตัวนึง ไม่รู้ของใคร น่ารักดี มันมานอนเล่นอยู่ในสวนที่บ้าน” นราแก้ว อุ้มแมวเพศผู้พันธุ์สก็อตติชโฟลด์ สีขาวเทา ดวงตาสีเหลือง อายุราว 1 ปีเศษมาที่บ้านของรุ่นพี่ เพื่อนบ้านในซอยเดียวกัน
“น่ารักจริง ๆ ด้วย ไง...เจ้าเหมียว หลงทางมาล่ะสิ” อินทร เด็กหนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกัน เกิดและโตที่ประเทศไทย แต่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่องปร๋อ เพราะเรียนที่โรงเรียนอินเตอร์มาตั้งแต่เด็ก
“แก้วอยากจะตามหาเจ้าของ ๆ มัน ป่านนี้คงกำลังใจคอไม่ดีแล้ว เพราะเป็นห่วงที่แมวแสนรักของตัวเองหายไป” เด็กหญิงเข้าใจความรู้สึกนี้ดี เพราะตนเองก็เคยเลี้ยงแมว แล้วแมวหลุดหายออกจากบ้านไป ไม่กลับมาอีกเลย
“เจ้าเหมียวมีปลอกคอนี่ มีป้ายชี่อเขียนว่า
M-7 แต่ไม่มีเบอร์โทรเจ้าของ” อินทรอ่านป้ายชื่อที่ทำมาจากเรซิ่นใสรูปกระดูกซึ่งติดอยู่กับปลอกคอของแมว
“ชื่ออย่างกับเครื่องดื่มชูกำลังเลยนะ ฮ่า ๆ ๆ” นราแก้วนึกถึงยี่ห้อที่คุ้นเคยที่มักเห็นพ่อดื่มตอนต้องขับรถไกล ๆ ไปเที่ยวต่างจังหวัด
“พี่ว่าเจ้าของ ๆ มันคงจะอยู่บ้านแถวนี้นะ เดี๋ยวพี่จะทำโปสเตอร์ประกาศตามหาเจ้าของมาหลาย ๆ ใบ แล้วไปติดที่เสาไฟฟ้าในซอยหมู่บ้านของเรา และซอยอื่นใกล้ ๆ นี้” เด็กหนุ่ม หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วถ่ายรูปเจ้าแมวน้อย 2-3 ภาพ
“ตอนนี้แก้วคงต้องเอามันกลับไปที่บ้านก่อนนะ หาอาหารและน้ำให้มันกิน หากระบะทรายให้มันด้วย เผื่อมันจะรู้สึกอยากปลดทุกข์น่ะ เดี๋ยวพี่กรีนทำโปส เตอร์เสร็จแล้วส่งเอ็มมาบอกนะ จะไปช่วยติดป้ายด้วย”
แล้วทั้งสองก็แยกย้ายกัน เพื่อไปทำภารกิจจำเป็นนี้
เด็กหนุ่มเปิดคอมพิวเตอร์โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด เลือกใส่ภาพแมวหนึ่งรูป และพิมพ์ข้อความใต้ภาพว่า
“แมวหลง ตามหาเจ้าของแมว พันธุ์สก็อตติชโฟล์ด สีขาวเทา เพศผู้ มีปลอกคอหนังและป้ายชื่อรูปกระดูกเขียนข้อความว่า M-7 ผู้ใดเป็นเจ้าของ หรือรู้จักเจ้าของ โปรดติดต่อ I.D.MSN greenery ขอบคุณครับ”
หลังจากอินทรปริ๊นท์โปสเตอร์ออกมาประมาณ 10 แผ่นแล้ว ก็ส่งเอ็มไปบอกนราแก้ว ทั้งสองขี้จักรยานไปด้วยกัน และช่วยกันติดประกาศที่เสาไฟฟ้าในซอยตัวเอง และซอยข้าง ๆ
“เฮ้อออ...เหนื่อยเหมือนกันนะ” เด็กหญิงบ่นออกมาหลังจากทำภารกิจเสร็จ และมานั่งพักที่ชิงช้าหน้าบ้านของเด็กหนุ่ม
“ตอนนี้เราก็แค่รอเจ้าของติดต่อกลับมา น่าจะไม่นานนะ แล้วเอ็มเจ็ดเป็นยังไงบ้าง”
“แก้วปล่อยให้มันอยู่ในบ้านกับแม่ กำชับแม่แล้วว่า อย่าให้มันหลุดออกมานอกบ้านได้ แต่แปลกอย่างคือ มันไม่ยอมกินอะไรเลย อาหารน้ำ และก็ไม่ยอมเข้ากระบะทรายด้วย”
“หรือว่ามันไม่สบาย ต้องพาไปหาหมอ ?” เด็กหนุ่มจึงขอไปบ้านเด็กหญิงเพื่อไปดูอาการของเจ้าแมวน้อย
เวลา 17.45 น. ณ บ้านเลขที่ 1013 กรุงเทพมหานคร
“ดูมันก็ร่าเริงดีนะ” เด็กหนุ่มออกความเห็นหลังจากที่ใช้ไม้ล่อแมวที่มีลักษณะเป็นก้านลวดสปริงยาว ติดขนนกหลากสีที่ปลายเส้น เล่นกับเจ้าเหมียวไปสักพัก
“ใช่ มันดูแข็งแรงดี แต่ไม่ยอมกินอะไรเลย” เด็กหญิงทำหน้าครุ่นคิดสงสัย
“เพราะฉันกินสิ่งที่เธอให้ไม่ได้ไงล่ะ สาวน้อย”
“ใครพูดน่ะ เสียงใคร” เด็กหญิงตกใจหันซ้ายหันขวา เพราะได้ยินเสียงของบุคคลที่สามซึ่งไม่เคยได้ยินมาก่อนมาตอบปัญหา
“พี่ก็ได้ยินเหมือนกัน นั่นสิเสียงใคร” เด็กหนุ่มหันไปทางเจ้าแมวน้อย ซึ่งกำลังหาวอ้าปากกว้าง
“ฉันเอง...แมวหลงทาง...ที่เธอกำลังช่วยตามหาเจ้าของอยู่ไงล่ะ” เจ้าเหมียวมองไปที่เด็กทั้งสองโดยไม่ได้ขยับปาก
“หา...แมวพูดได้” เด็กหญิงอุทานเสียงดัง
“ฉันไม่ได้พูดออกเสียงนะ ฉันแค่ใช้โทรจิตคุยอยู่กับพวกเธอต่างหาก คนอื่น ๆ จะไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันคุยหรอก” แมวน้อยอธิบาย
“แล้วเจ้ามาจากไหน ทำไมสื่อสารภาษาคนได้” เด็กหนุ่มรีบถาม
“ฉันเป็นแมวที่โลกมนุษย์นี้แหละ แต่มีเอเลี่ยนตนหนึ่งปลอมตัวเป็นคนมาซื้อฉันจากฟาร์มแมว แล้วเปลี่ยนฉันให้เป็นแมวเอเลี่ยนโดยการให้ฉันกินของเหลวสีน้ำตาลหนึ่งหลอด ฉันสลบไป พอฟื้นอีกที ฉันก็รู้สึกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ฉันกินอาหารที่เคยกินไม่ได้ ฉันไม่ต้องอึฉี่ ฉันแค่กินลูกกลม ๆ นิ่ม ๆ สีขาวขนาดเท่าลูกมะนาว ที่เจ้านายเอเลี่ยนให้ฉันกินแค่หนึ่งลูก ฉันก็สามารถอยู่ได้ 5 วันโดยไม่ต้องกินอะไรเลย และไม่ต้องขับถ่ายด้วย” แมวน้อยสาธยายที่มาที่ไปของตนเองให้เพื่อนใหม่ฟัง
“แล้ว ๆ เธอมาอยู่บ้านฉันได้ยังไงล่ะ” เด็กหญิงตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้ยิน ละล่ำละลักถามแมวน้อยต่อ
“ก็ฉันแอบหนีออกมาเที่ยวนอกยานอวกาศตอนที่เจ้านายเอเลี่ยนของฉันเผลอนะสิ อ้อ ฉันสามารถกระโดดได้ไกลและสูงเหมือนเจ้ายักษ์เขียวชื่อฮัลค์น่ะ จริง ๆ แล้วยานอวกาศจอดห่างไกลจากที่นี่มาก”
“แล้วทำไมเจ้าไม่กลับไปที่ยานล่ะ” เด็กหนุ่มถามบ้าง
“พอฉันกลับไป ยานอวกาศก็ไม่อยู่แล้ว เจ้านายเอเลี่ยนคงไม่รู้ว่าฉันหนีออกมา เลยบินไปไหนแล้วไม่รู้ แย่เลย” แมวน้อยเอเลี่ยนทำหน้าเศร้าเพราะพรุ่งนี้จะถึงกำหนดที่มันต้องกินอาหารจากเจ้านายเอเลี่ยน ไม่อย่างนั้นมันจะต้องตาย
“หรือว่าเจ้านายเธอจะบินกลับดาวตัวเองไปแล้ว” เด็กหญิงออกความเห็น
“นี่ล่ะ สิ่งที่ฉันกลัว” เจ้าแมวนำอุ้งเท้าหน้าทั้งสองมาปิดตาตัวเอง พร้อมกับส่ายหน้าไปมา เพื่อแสดงออกถึงความกังวลอย่างที่สุด
ทันใดนั้น ก็มีแสงสว่างจ้าเป็นวงกลมขนาดหนึ่งตารางเมตรในแนวตั้งเกิดขึ้นริมผนังมุมห้อง มีสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายคน แต่ศีรษะใหญ่กว่าเล็กน้อย ดวงตาดำกลมโต ลำตัวผอมเพรียวสูง โผล่ออกมาจากแสงจ้านั้น
“เอเลี่ยน !!!” เด็กหนุ่มและเด็กหญิงตะโกนอุทานออกมาพร้อมกันเมื่อสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นหลังจากแสงจ้าค่อย ๆ จางหายไป
“สวัสดี ฉันเป็นเจ้าของเอ็มเจ็ด ขอบคุณพวกเธอมากนะที่ช่วยดูแลแมวของฉัน ที่ดาวของฉันไม่มีสิ่งมีชีวิตที่ชาวโลกเรียกว่าแมว แต่พวกเรารักพวกมันมาก พวกเราจึงมักบินมาที่นี่ และปลอมตัวเป็นคน เพื่อมาซื้อแมว แล้วแปลงร่างมันให้สามารถใช้ชีวิตบนดาวของฉันได้ ฉันต้องรีบไปแล้ว เพราะเสียเวลาตามหาเจ้าตัวยุ่งนี่มาหลายวัน ขอให้พวกเธอโชคดี”
แสงสว่างจ้าปรากฏขึ้นอีกครั้ง มนุษย์ต่างดาวก้มตัวลงอุ้มแมวน้อยอย่างทะนุถนอม แล้วเดินมุดกลับเข้าไปในแสงนั้น
หลังจากแสงดับหายไป เด็กทั้งสองก็นั่งคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรกันอยู่ ความทรงจำเรื่องแมวหลงเมื่อสักครู่ไม่หลงเหลืออยู่แล้ว มันหายไปพร้อม ๆ กับแสงนั้นนั่นเอง
----------------/// จบ ///----------------
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. Chi River
2. Christian Trevelyan Grey
3. KTHc
4. Ladylongleg - 2326325 (คุณเล็ก)
5. Lady Star 919 (น้องดาว)
6. Psycho G
7. Soul Master
8. TOSHARE - 5212378
9. WANG JIE (กรรมการ)
10. แจ๊คในสวนถั่ว
11. ดินสอสีน้ำ
12. นลินมณี
13. ป้ามล - 3650985
14. รัชต์สารินท์
15. ไร้นาม - 3842840
16. ลุงแผน
17. ลูนาติก
18. วนิล - 3188982
19. สวนดอก
20. สิงห์ริมถนน
🛸🛸👽 THE GLOVES 2020 ถุงมือเรื่องสั้น#96 Week#23, 30/11 - 4/12 "ALIEN 90's" - ถุงมือ E.T.4 👽🛸🛸
และ มาอีกจนได้ครับเอเลี่ยน! คราวนี้เป็น ALIEN 90's เอ้าย้อนหลังไปยุคก่อนปี 2000 ก่อนขึ้นศตวรรษที่ 21 อีกเอาเข้าไป...
มันกลายเป็น "แฟรนไชส์" ไปเรียบร้อยแล้วครับท่านผู้ชม ^^
เวลา 14.30 น. ณ บ้านเลขที่ 1257 กรุงเทพมหานคร
“พี่กรีน...แก้วเจอแมวตัวนึง ไม่รู้ของใคร น่ารักดี มันมานอนเล่นอยู่ในสวนที่บ้าน” นราแก้ว อุ้มแมวเพศผู้พันธุ์สก็อตติชโฟลด์ สีขาวเทา ดวงตาสีเหลือง อายุราว 1 ปีเศษมาที่บ้านของรุ่นพี่ เพื่อนบ้านในซอยเดียวกัน
“น่ารักจริง ๆ ด้วย ไง...เจ้าเหมียว หลงทางมาล่ะสิ” อินทร เด็กหนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกัน เกิดและโตที่ประเทศไทย แต่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่องปร๋อ เพราะเรียนที่โรงเรียนอินเตอร์มาตั้งแต่เด็ก
“แก้วอยากจะตามหาเจ้าของ ๆ มัน ป่านนี้คงกำลังใจคอไม่ดีแล้ว เพราะเป็นห่วงที่แมวแสนรักของตัวเองหายไป” เด็กหญิงเข้าใจความรู้สึกนี้ดี เพราะตนเองก็เคยเลี้ยงแมว แล้วแมวหลุดหายออกจากบ้านไป ไม่กลับมาอีกเลย
“เจ้าเหมียวมีปลอกคอนี่ มีป้ายชี่อเขียนว่า M-7 แต่ไม่มีเบอร์โทรเจ้าของ” อินทรอ่านป้ายชื่อที่ทำมาจากเรซิ่นใสรูปกระดูกซึ่งติดอยู่กับปลอกคอของแมว
“ชื่ออย่างกับเครื่องดื่มชูกำลังเลยนะ ฮ่า ๆ ๆ” นราแก้วนึกถึงยี่ห้อที่คุ้นเคยที่มักเห็นพ่อดื่มตอนต้องขับรถไกล ๆ ไปเที่ยวต่างจังหวัด
“พี่ว่าเจ้าของ ๆ มันคงจะอยู่บ้านแถวนี้นะ เดี๋ยวพี่จะทำโปสเตอร์ประกาศตามหาเจ้าของมาหลาย ๆ ใบ แล้วไปติดที่เสาไฟฟ้าในซอยหมู่บ้านของเรา และซอยอื่นใกล้ ๆ นี้” เด็กหนุ่ม หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วถ่ายรูปเจ้าแมวน้อย 2-3 ภาพ
“ตอนนี้แก้วคงต้องเอามันกลับไปที่บ้านก่อนนะ หาอาหารและน้ำให้มันกิน หากระบะทรายให้มันด้วย เผื่อมันจะรู้สึกอยากปลดทุกข์น่ะ เดี๋ยวพี่กรีนทำโปส เตอร์เสร็จแล้วส่งเอ็มมาบอกนะ จะไปช่วยติดป้ายด้วย”
แล้วทั้งสองก็แยกย้ายกัน เพื่อไปทำภารกิจจำเป็นนี้
เด็กหนุ่มเปิดคอมพิวเตอร์โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด เลือกใส่ภาพแมวหนึ่งรูป และพิมพ์ข้อความใต้ภาพว่า
“แมวหลง ตามหาเจ้าของแมว พันธุ์สก็อตติชโฟล์ด สีขาวเทา เพศผู้ มีปลอกคอหนังและป้ายชื่อรูปกระดูกเขียนข้อความว่า M-7 ผู้ใดเป็นเจ้าของ หรือรู้จักเจ้าของ โปรดติดต่อ I.D.MSN greenery ขอบคุณครับ”
หลังจากอินทรปริ๊นท์โปสเตอร์ออกมาประมาณ 10 แผ่นแล้ว ก็ส่งเอ็มไปบอกนราแก้ว ทั้งสองขี้จักรยานไปด้วยกัน และช่วยกันติดประกาศที่เสาไฟฟ้าในซอยตัวเอง และซอยข้าง ๆ
“เฮ้อออ...เหนื่อยเหมือนกันนะ” เด็กหญิงบ่นออกมาหลังจากทำภารกิจเสร็จ และมานั่งพักที่ชิงช้าหน้าบ้านของเด็กหนุ่ม
“ตอนนี้เราก็แค่รอเจ้าของติดต่อกลับมา น่าจะไม่นานนะ แล้วเอ็มเจ็ดเป็นยังไงบ้าง”
“แก้วปล่อยให้มันอยู่ในบ้านกับแม่ กำชับแม่แล้วว่า อย่าให้มันหลุดออกมานอกบ้านได้ แต่แปลกอย่างคือ มันไม่ยอมกินอะไรเลย อาหารน้ำ และก็ไม่ยอมเข้ากระบะทรายด้วย”
“หรือว่ามันไม่สบาย ต้องพาไปหาหมอ ?” เด็กหนุ่มจึงขอไปบ้านเด็กหญิงเพื่อไปดูอาการของเจ้าแมวน้อย
เวลา 17.45 น. ณ บ้านเลขที่ 1013 กรุงเทพมหานคร
“ดูมันก็ร่าเริงดีนะ” เด็กหนุ่มออกความเห็นหลังจากที่ใช้ไม้ล่อแมวที่มีลักษณะเป็นก้านลวดสปริงยาว ติดขนนกหลากสีที่ปลายเส้น เล่นกับเจ้าเหมียวไปสักพัก
“ใช่ มันดูแข็งแรงดี แต่ไม่ยอมกินอะไรเลย” เด็กหญิงทำหน้าครุ่นคิดสงสัย
“เพราะฉันกินสิ่งที่เธอให้ไม่ได้ไงล่ะ สาวน้อย”
“ใครพูดน่ะ เสียงใคร” เด็กหญิงตกใจหันซ้ายหันขวา เพราะได้ยินเสียงของบุคคลที่สามซึ่งไม่เคยได้ยินมาก่อนมาตอบปัญหา
“พี่ก็ได้ยินเหมือนกัน นั่นสิเสียงใคร” เด็กหนุ่มหันไปทางเจ้าแมวน้อย ซึ่งกำลังหาวอ้าปากกว้าง
“ฉันเอง...แมวหลงทาง...ที่เธอกำลังช่วยตามหาเจ้าของอยู่ไงล่ะ” เจ้าเหมียวมองไปที่เด็กทั้งสองโดยไม่ได้ขยับปาก
“หา...แมวพูดได้” เด็กหญิงอุทานเสียงดัง
“ฉันไม่ได้พูดออกเสียงนะ ฉันแค่ใช้โทรจิตคุยอยู่กับพวกเธอต่างหาก คนอื่น ๆ จะไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันคุยหรอก” แมวน้อยอธิบาย
“แล้วเจ้ามาจากไหน ทำไมสื่อสารภาษาคนได้” เด็กหนุ่มรีบถาม
“ฉันเป็นแมวที่โลกมนุษย์นี้แหละ แต่มีเอเลี่ยนตนหนึ่งปลอมตัวเป็นคนมาซื้อฉันจากฟาร์มแมว แล้วเปลี่ยนฉันให้เป็นแมวเอเลี่ยนโดยการให้ฉันกินของเหลวสีน้ำตาลหนึ่งหลอด ฉันสลบไป พอฟื้นอีกที ฉันก็รู้สึกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ฉันกินอาหารที่เคยกินไม่ได้ ฉันไม่ต้องอึฉี่ ฉันแค่กินลูกกลม ๆ นิ่ม ๆ สีขาวขนาดเท่าลูกมะนาว ที่เจ้านายเอเลี่ยนให้ฉันกินแค่หนึ่งลูก ฉันก็สามารถอยู่ได้ 5 วันโดยไม่ต้องกินอะไรเลย และไม่ต้องขับถ่ายด้วย” แมวน้อยสาธยายที่มาที่ไปของตนเองให้เพื่อนใหม่ฟัง
“แล้ว ๆ เธอมาอยู่บ้านฉันได้ยังไงล่ะ” เด็กหญิงตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้ยิน ละล่ำละลักถามแมวน้อยต่อ
“ก็ฉันแอบหนีออกมาเที่ยวนอกยานอวกาศตอนที่เจ้านายเอเลี่ยนของฉันเผลอนะสิ อ้อ ฉันสามารถกระโดดได้ไกลและสูงเหมือนเจ้ายักษ์เขียวชื่อฮัลค์น่ะ จริง ๆ แล้วยานอวกาศจอดห่างไกลจากที่นี่มาก”
“แล้วทำไมเจ้าไม่กลับไปที่ยานล่ะ” เด็กหนุ่มถามบ้าง
“พอฉันกลับไป ยานอวกาศก็ไม่อยู่แล้ว เจ้านายเอเลี่ยนคงไม่รู้ว่าฉันหนีออกมา เลยบินไปไหนแล้วไม่รู้ แย่เลย” แมวน้อยเอเลี่ยนทำหน้าเศร้าเพราะพรุ่งนี้จะถึงกำหนดที่มันต้องกินอาหารจากเจ้านายเอเลี่ยน ไม่อย่างนั้นมันจะต้องตาย
“หรือว่าเจ้านายเธอจะบินกลับดาวตัวเองไปแล้ว” เด็กหญิงออกความเห็น
“นี่ล่ะ สิ่งที่ฉันกลัว” เจ้าแมวนำอุ้งเท้าหน้าทั้งสองมาปิดตาตัวเอง พร้อมกับส่ายหน้าไปมา เพื่อแสดงออกถึงความกังวลอย่างที่สุด
ทันใดนั้น ก็มีแสงสว่างจ้าเป็นวงกลมขนาดหนึ่งตารางเมตรในแนวตั้งเกิดขึ้นริมผนังมุมห้อง มีสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายคน แต่ศีรษะใหญ่กว่าเล็กน้อย ดวงตาดำกลมโต ลำตัวผอมเพรียวสูง โผล่ออกมาจากแสงจ้านั้น
“เอเลี่ยน !!!” เด็กหนุ่มและเด็กหญิงตะโกนอุทานออกมาพร้อมกันเมื่อสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นหลังจากแสงจ้าค่อย ๆ จางหายไป
“สวัสดี ฉันเป็นเจ้าของเอ็มเจ็ด ขอบคุณพวกเธอมากนะที่ช่วยดูแลแมวของฉัน ที่ดาวของฉันไม่มีสิ่งมีชีวิตที่ชาวโลกเรียกว่าแมว แต่พวกเรารักพวกมันมาก พวกเราจึงมักบินมาที่นี่ และปลอมตัวเป็นคน เพื่อมาซื้อแมว แล้วแปลงร่างมันให้สามารถใช้ชีวิตบนดาวของฉันได้ ฉันต้องรีบไปแล้ว เพราะเสียเวลาตามหาเจ้าตัวยุ่งนี่มาหลายวัน ขอให้พวกเธอโชคดี”
แสงสว่างจ้าปรากฏขึ้นอีกครั้ง มนุษย์ต่างดาวก้มตัวลงอุ้มแมวน้อยอย่างทะนุถนอม แล้วเดินมุดกลับเข้าไปในแสงนั้น
หลังจากแสงดับหายไป เด็กทั้งสองก็นั่งคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรกันอยู่ ความทรงจำเรื่องแมวหลงเมื่อสักครู่ไม่หลงเหลืออยู่แล้ว มันหายไปพร้อม ๆ กับแสงนั้นนั่นเอง