คือมีคนเข้ามาเอาใจ ซื้อของมาให้ ซื้อของฝากแม่ ทำไรให้กิน เลี้ยงข้าว คนหน้าใหญ่เพื่อนฝูงก็เลี้ยงซื้อทำทานทำนองนี้ ก็รู้จักกัน เคยทำงานด้วยกัน เราไม่เคยเรียกร้อง เข้ามาจีบก็ว่าได้ แรกๆเราโสดก็ให้โอกาสทำความรู้จักกันนะ เค้าก็ขออนุญาตแม่เราก่อนจะมาหารับส่ง แต่ผ่านไปครึ่งปีก็ไปรู้ว่าเค้าก็จีบคนอื่นด้วยนะ ไปจีบแบบตามตื๊อขอบอกรักความรักทุกวัน หาเหตุให้มาช่วยงาน มาคุยด้วย พอได้งานก็ให้ค่าทำเพจโพสเฟชบุ๊คทีละ 1หมื่น ถ้ามาอยู่ด้วยก็จะให้ทุกอย่างของมีค่าเพิ่มเติม หวังว่าเค้าจะใจอ่อน มีวาสนาได้แต่ง เค้าให้ของมีค่าเรา และพร้อมที่จะให้อีกคน ต่อหน้าอีกคนก็บอกเราไม่ชัดเจน ไม่จริงใจ เราเคยเล่าที่เราต้องเลิกกันที่คบไปเพราะเรื่องผู้หญิง และเกลียดมากแบบ คบซ้อน โลเลไม่ได้รักอีกคนแต่รักคนนี้ก็อยู่ไปงั้น แบบเอาตัวรอด จากผู้หญิง เค้าก็สารภาพว่ารักคุยกันมาก่อนเจอแค่ครั้ง2ครั้ง ก็แอดเฟชไป แม้จะแค่คุยในเฟชบุค ขอเวลาเพื่อลบภาพคนเก่าในเฟช เราให้อภัยนะ แต่ไม่เหมือนเดิมได้แล้ว เค้าก็เริ่มห่าง ไม่ค่อย ให้อะไรแล้ว ของมีค่าที่ให้เราๆให้เอาไปให้อีกคนเลย มาให้เพื่อไปอวดยั่วอีกคนดู ไปถามเค้าว่าหึงไหมๆ
ผ่านไป อีก 9เดือน ที่เค้าเคยเลี้ยง มีของมาฝาก เค้าก็ขอคืนทั้งหมด และยืมเงินอีก 10,000บาท (นำเงินนำของไปจำนำของไปลงทุน เงินไปวางหลักประกันก่อน แต่ยังไม่ได้ลงทุนแล้วเสียดอกเบี้ยนอกระบบหลายหมื่น และหนี้สินเก่าที่ลงทุนอะไรก็ขาดทุนหมด หย่ากับเมีย มีลูก1 เคยคุยกันถ้าโดนเอาเปรียบขาดทุนมานับไม่ถ้วนเป็นคนกลางเป็นนายหน้าไหม เค้าเคยทำแต่บอกจบมาทางนี้ต้องลงทุน)
เค้าบอกว่าไม่เคยคิดทวงบุญคุณ ที่เรากินบนหยาดเหงื่อของเค้า แต่ตอนลำบาก ขอคืนเฉพาะที่มีส่วนร่วม ไม่ยุ่งทรัพสินส่วนตัว แต่ก็ท้อหมดกำลังจะยื้อไว้ ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ายามมีให้หมด ยามลำบากขอที่มีส่วน
ก็คิดว่า เงิน10,000ที่ให้ยืม ไม่หวังได้คืน ถือซะว่าค่าของที่ซื้อมา ค่าข้าวที่เลี้ยง และค่าเสียเวลา ค่าน้ำมัน เวลามาขอเราที่ละ2-3ร้อย อีก3พัน มาหาก็มาช่วยทำงาน แม่เราซื้อของให้กิน ให้เงินไปอีก
เราบอกว่าอย่าเรียกร้องจากเรามากเกินงาม เพราะคืนแถมให้อีก ถ้าจะยืมทรัพสินเราไปขาย รึขนของเราไป ถ้าจะมาหา ซื้อของฝาก เลี้ยงข้าว ช่วยทำงาน แล้วยืมที่ดินบ้าน ไปใช้หนี้ลงทุน ไม่สมเหตุนะ
แล้วอยากจะขอโอกาสคบเป็นแฟน ให้เราลืมที่เคยคบซ้อนมาครึ่งปี และผ่านมาเกือบครึ่งปี ให้อภัย คบแบบเพื่อนได้ แต่ไม่ให้เข้ามาในชีวิต อันนี้ไม่น่ามาเรียกร้องเร่งรัดนะ เพราะเหมือนมาให้แต่เหมือนเรายืมแบบชั่วคราวเราไม่ได้ร้องขอเลย
เค้าก็บอกทุ่มเท ทำทุกอย่าง ทำงานมากกว่าคนอื่นคนปกติหลายเท่า แบบไม่ติดค้างชดเชย
เหมือนเราดูโฆษณาชวนเชื่อที่คุณภาพยังไม่ตามที่กล่าวไว้ ให้ดูแลตัวเองให้ได้ก่อน และลูกแบบไม่ต้องขอยืมใครๆตลอดๆ
ญาติฝ่ายเขาบอก มีแต่คนเข้ามาผู้หญิงหลอกเงินแล้วหมดประโยชน์ก็ถีบหัวส่ง ไม่เคยมีใครให้เค้าเลย แต่เราให้ยืมเงิน คิดว่าคนอื่นก็โดนยืมละ เค้าเข้าไปหาไปจีบ ไปเสนอขายโฆษณา ให้ความหวัง แต่ไม่ได้เคยคุยกะญาติเค้าไง เค้าไม่เล่า ญาติเค้าถามเราในเฟชนะ เราก็ตอบตรง ญาติเค้าว่าเราเห็นแก่ตัวมองแต่ตัวเอง แฟนเค้าทำเลวกับเค้ากว่านี้ยังอภัยเลย เรามองคุ้มไม่คุ้ม มีแต่ผลประโยชน์ เราคิดว่าถ้าหากทำตัวไร้ประโยชน์ไม่ทำงานอะไร แต่ขอจากคนอื่นตลอด รึติดหนี้ไปทั่ว จนล้นพ้นตัว ล้มละลาย ก็ยังลงทุนและขาดทุนและยืมไปเรื่อยๆ ทำแบบเดิมแต่หวังผลจะเปลี่ยนแปลง มีบทเรียนอุดช่องโหว่ รอบคอบป้องกันความเสี่ยงทุกอย่างแล้ว แต่ผลเหมือนเดิมขาดทุน โดนทวงไม่มีไม่จ่าย คิดว่าทุกคนต้องกินต้องใช้เงินนะ ไม่ใช่แค่เราต้องใช้คนเดียว เราจะต้องไปตามรับผิดชอบแล้วเราจะไหวไหม รายได้เรา 15,000 ถ้าเรากู้เงินได้เป็นล้าน เราจะเอาไปเสี่ยงไหม เราต้องการหัวหน้าครอบครัว ที่บริหาร ดูแล รับภาระในอนาคตที่ไม่ได้มีเพียงแค่เราได้ ช่วยกันเท่าที่ช่วยได้ อย่าให้จนเราเดือดร้อนเป็นทุกข์เป็นบาป เราหาทำงานหาเงินเพิ่มสร้างอนาคต ไม่อยากเสียเวลาไปปวดหัวกับเรื่องแบบนี้
คิดว่าถ้าเจอแแบบนี้น่าเห็นใจรับเข้ามาในชีวิตไหม
อ่านข่าวกรณีนักร้องน่ะมีแนวโน้มเลยแบบฟุ้งซ่าน
มีคนมาทำอะไรให้แล้วก็ต้องคืนเค้าหมดแถมให้ด้วย
ผ่านไป อีก 9เดือน ที่เค้าเคยเลี้ยง มีของมาฝาก เค้าก็ขอคืนทั้งหมด และยืมเงินอีก 10,000บาท (นำเงินนำของไปจำนำของไปลงทุน เงินไปวางหลักประกันก่อน แต่ยังไม่ได้ลงทุนแล้วเสียดอกเบี้ยนอกระบบหลายหมื่น และหนี้สินเก่าที่ลงทุนอะไรก็ขาดทุนหมด หย่ากับเมีย มีลูก1 เคยคุยกันถ้าโดนเอาเปรียบขาดทุนมานับไม่ถ้วนเป็นคนกลางเป็นนายหน้าไหม เค้าเคยทำแต่บอกจบมาทางนี้ต้องลงทุน)
เค้าบอกว่าไม่เคยคิดทวงบุญคุณ ที่เรากินบนหยาดเหงื่อของเค้า แต่ตอนลำบาก ขอคืนเฉพาะที่มีส่วนร่วม ไม่ยุ่งทรัพสินส่วนตัว แต่ก็ท้อหมดกำลังจะยื้อไว้ ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ายามมีให้หมด ยามลำบากขอที่มีส่วน
ก็คิดว่า เงิน10,000ที่ให้ยืม ไม่หวังได้คืน ถือซะว่าค่าของที่ซื้อมา ค่าข้าวที่เลี้ยง และค่าเสียเวลา ค่าน้ำมัน เวลามาขอเราที่ละ2-3ร้อย อีก3พัน มาหาก็มาช่วยทำงาน แม่เราซื้อของให้กิน ให้เงินไปอีก
เราบอกว่าอย่าเรียกร้องจากเรามากเกินงาม เพราะคืนแถมให้อีก ถ้าจะยืมทรัพสินเราไปขาย รึขนของเราไป ถ้าจะมาหา ซื้อของฝาก เลี้ยงข้าว ช่วยทำงาน แล้วยืมที่ดินบ้าน ไปใช้หนี้ลงทุน ไม่สมเหตุนะ
แล้วอยากจะขอโอกาสคบเป็นแฟน ให้เราลืมที่เคยคบซ้อนมาครึ่งปี และผ่านมาเกือบครึ่งปี ให้อภัย คบแบบเพื่อนได้ แต่ไม่ให้เข้ามาในชีวิต อันนี้ไม่น่ามาเรียกร้องเร่งรัดนะ เพราะเหมือนมาให้แต่เหมือนเรายืมแบบชั่วคราวเราไม่ได้ร้องขอเลย
เค้าก็บอกทุ่มเท ทำทุกอย่าง ทำงานมากกว่าคนอื่นคนปกติหลายเท่า แบบไม่ติดค้างชดเชย
เหมือนเราดูโฆษณาชวนเชื่อที่คุณภาพยังไม่ตามที่กล่าวไว้ ให้ดูแลตัวเองให้ได้ก่อน และลูกแบบไม่ต้องขอยืมใครๆตลอดๆ
ญาติฝ่ายเขาบอก มีแต่คนเข้ามาผู้หญิงหลอกเงินแล้วหมดประโยชน์ก็ถีบหัวส่ง ไม่เคยมีใครให้เค้าเลย แต่เราให้ยืมเงิน คิดว่าคนอื่นก็โดนยืมละ เค้าเข้าไปหาไปจีบ ไปเสนอขายโฆษณา ให้ความหวัง แต่ไม่ได้เคยคุยกะญาติเค้าไง เค้าไม่เล่า ญาติเค้าถามเราในเฟชนะ เราก็ตอบตรง ญาติเค้าว่าเราเห็นแก่ตัวมองแต่ตัวเอง แฟนเค้าทำเลวกับเค้ากว่านี้ยังอภัยเลย เรามองคุ้มไม่คุ้ม มีแต่ผลประโยชน์ เราคิดว่าถ้าหากทำตัวไร้ประโยชน์ไม่ทำงานอะไร แต่ขอจากคนอื่นตลอด รึติดหนี้ไปทั่ว จนล้นพ้นตัว ล้มละลาย ก็ยังลงทุนและขาดทุนและยืมไปเรื่อยๆ ทำแบบเดิมแต่หวังผลจะเปลี่ยนแปลง มีบทเรียนอุดช่องโหว่ รอบคอบป้องกันความเสี่ยงทุกอย่างแล้ว แต่ผลเหมือนเดิมขาดทุน โดนทวงไม่มีไม่จ่าย คิดว่าทุกคนต้องกินต้องใช้เงินนะ ไม่ใช่แค่เราต้องใช้คนเดียว เราจะต้องไปตามรับผิดชอบแล้วเราจะไหวไหม รายได้เรา 15,000 ถ้าเรากู้เงินได้เป็นล้าน เราจะเอาไปเสี่ยงไหม เราต้องการหัวหน้าครอบครัว ที่บริหาร ดูแล รับภาระในอนาคตที่ไม่ได้มีเพียงแค่เราได้ ช่วยกันเท่าที่ช่วยได้ อย่าให้จนเราเดือดร้อนเป็นทุกข์เป็นบาป เราหาทำงานหาเงินเพิ่มสร้างอนาคต ไม่อยากเสียเวลาไปปวดหัวกับเรื่องแบบนี้
คิดว่าถ้าเจอแแบบนี้น่าเห็นใจรับเข้ามาในชีวิตไหม
อ่านข่าวกรณีนักร้องน่ะมีแนวโน้มเลยแบบฟุ้งซ่าน