สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เอาตรง ๆ ศาสนาพุทธไม่ได้สอนเพื่อเอาใจใคร ไม่ได้สอนเพราะอยากได้ศาสนิก ไม่ได้สอนให้เป็นทางเลือก แต่สอนความจริงที่เราหนีไม่พ้น
สัจธรรมมันไม่ได้แปรเปลี่ยนตามความเชื่อหรือความพอใจของเรา ไม่ใช่ว่า เออ ศาสนานั้นสอนว่าไม่มีชาติหน้า ถูกใจเรา งั้นนับถือศาสนานั้นดีกว่าจะได้ไม่มีชาติหน้า มันไม่ใช่แบบนี้
ศาสนาพุทธสอนว่า ไฟมันร้อน ถ้าเราจับไฟมือจะโดนไหม้ แบบนี้ แล้วใครไม่เชื่อเอามือไปจับไฟก็โดนเผา แล้วบอกว่าศาสนาพุทธไม่ดีเลย จับไฟแล้วโดนเผา มันไม่ใช่
เรื่องกรรมมักส่งผลชาติหน้ามันเป็นเรื่องจริง มันเป็นกฎธรรมชาติ เหมือนเราปลูกต้นมะม่วง ปลูกไป 3 เดือนเราก็บ่นว่าทำไมยังไม่ได้กินมะม่วง ดูคนอื่นเขามีต้นมะม่วงลูกดกกันหมด แบบนี้ปลูกต้นหอมดีกว่าได้กินแน่ ๆ ถ้าเราไม่เข้าใจตรงนี้ ก็คงไม่มีใครห้ามได้
เช่นกัน สิ่งที่เราเจอตอนนี้ส่วนมากเป็นกรรมในอดีตทั้งสิ้น จึงไม่แปลกที่เราไม่ได้ทำอะไรในชาตินี้แต่ต้องรับผล มันมีที่มาที่ไป ตรงข้าม ถ้าเราไม่เคยทำกรรมบางอย่างไว้ ทำไมเกิดมาต้องเจอล่ะ พระเจ้าบันดาลให้เจอเหรอ เรื่องบังเอิญเหรอ ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ที่เราต้องเจอความไม่ยุติธรรมจากการบันดาลหรือบังเอิญ
พระพุทธเจ้าไม่ได้เป็นผู้บันดาลสิ่งเหล่านี้ให้เรา แต่สอนให้เราเอาตัวรอดจากสิ่งเหล่านี้ในมุมมองที่ไม่มีใครเคยรู้ไม่มีใครเคยเห็น เพราะโลกมันน่ากลัวมาก กิเลสมันน่ากลัวมาก มันบังคับบัญชาให้เราสร้างกรรม แล้วก็บังคับให้รับผล แล้วก็บังคับให้เราตายอย่างยับเยิน บังคับให้เราเกิดอย่างยับเยิน เกิดมาก็ยังลืมทุกอย่างอีก ไม่ใช่ความผิดพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงเพียงบอกหนทางรอดเท่านั้น ไม่ได้บันดาลสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาเหมือนที่บางศาสนาสอน ฉะนั้น ไม่ควรนำไปรวมกัน แต่เราต้องรู้ให้ได้ว่าความจริงเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะความจริงมันมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
สัจธรรมมันไม่ได้แปรเปลี่ยนตามความเชื่อหรือความพอใจของเรา ไม่ใช่ว่า เออ ศาสนานั้นสอนว่าไม่มีชาติหน้า ถูกใจเรา งั้นนับถือศาสนานั้นดีกว่าจะได้ไม่มีชาติหน้า มันไม่ใช่แบบนี้
ศาสนาพุทธสอนว่า ไฟมันร้อน ถ้าเราจับไฟมือจะโดนไหม้ แบบนี้ แล้วใครไม่เชื่อเอามือไปจับไฟก็โดนเผา แล้วบอกว่าศาสนาพุทธไม่ดีเลย จับไฟแล้วโดนเผา มันไม่ใช่
เรื่องกรรมมักส่งผลชาติหน้ามันเป็นเรื่องจริง มันเป็นกฎธรรมชาติ เหมือนเราปลูกต้นมะม่วง ปลูกไป 3 เดือนเราก็บ่นว่าทำไมยังไม่ได้กินมะม่วง ดูคนอื่นเขามีต้นมะม่วงลูกดกกันหมด แบบนี้ปลูกต้นหอมดีกว่าได้กินแน่ ๆ ถ้าเราไม่เข้าใจตรงนี้ ก็คงไม่มีใครห้ามได้
เช่นกัน สิ่งที่เราเจอตอนนี้ส่วนมากเป็นกรรมในอดีตทั้งสิ้น จึงไม่แปลกที่เราไม่ได้ทำอะไรในชาตินี้แต่ต้องรับผล มันมีที่มาที่ไป ตรงข้าม ถ้าเราไม่เคยทำกรรมบางอย่างไว้ ทำไมเกิดมาต้องเจอล่ะ พระเจ้าบันดาลให้เจอเหรอ เรื่องบังเอิญเหรอ ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ที่เราต้องเจอความไม่ยุติธรรมจากการบันดาลหรือบังเอิญ
พระพุทธเจ้าไม่ได้เป็นผู้บันดาลสิ่งเหล่านี้ให้เรา แต่สอนให้เราเอาตัวรอดจากสิ่งเหล่านี้ในมุมมองที่ไม่มีใครเคยรู้ไม่มีใครเคยเห็น เพราะโลกมันน่ากลัวมาก กิเลสมันน่ากลัวมาก มันบังคับบัญชาให้เราสร้างกรรม แล้วก็บังคับให้รับผล แล้วก็บังคับให้เราตายอย่างยับเยิน บังคับให้เราเกิดอย่างยับเยิน เกิดมาก็ยังลืมทุกอย่างอีก ไม่ใช่ความผิดพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงเพียงบอกหนทางรอดเท่านั้น ไม่ได้บันดาลสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาเหมือนที่บางศาสนาสอน ฉะนั้น ไม่ควรนำไปรวมกัน แต่เราต้องรู้ให้ได้ว่าความจริงเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะความจริงมันมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
หมดความเชื่อเรื่องเวรกรรม-เกี่ยวกับการนับถือศาสนาพุทธไปแล้ว