ทริปคนเดียวตะเวนไหว้พระ 9 วัด อุบล-อำนาจ-มุกดาหาร-นครพนม

        สวัสดีครับ ห่างหายไปนานพอดูหลังจากการรีวิวทริปที่แล้ว ครั้งนี้จริงๆ แล้วผมจองตั๋วเครื่องบินไว้นานแล้วเพื่อจะข้ามไปปากเซ แต่ด่านยังปิดอยู่จากโควิด เลยเปลี่ยนแผน เป็นสายบุญแทน โดยการตะเวนไหว้พระให้ครบ 9 วัด ในจังหวัด อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร และนครพนม แทน รวมถึงแวะเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ระหว่างทางด้วย รวม 4 วัน 3 คืน ครับ ด้วยงบที่ไม่แพงมาก ได้สถานที่ท่องเที่ยวมากมาย
 
               1. น้ำตกแสงจันทร์ (ลงรู) 
               2. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม (เสาเฉลียงและผาแต้ม) 
               3. วัดถ้ำคูหาสวรรค์ (วัดที่ 1) 
               4. วัดสิริธรวนาราม (วัดที่ 2) 
               5. วัดมหาวนาราม (วัดที่ 3) 
               6. วัดทุ่งศรีเมือง (วัดที่ 4) 
               7. วัดพระธาตุหนองบัว (วัดที่ 5) 
               8. สามพันโบก 
               9. วัดปากแซง (วัดที่ 6) 
               10. วัดสี่แยกแสงเพชร (วัดที่ 7) 
               11. วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร (วัดที่ 8) 
               12. สะพานมิตรภาพไทย-ลาว (มุกดาหาร) 
               13. วัดภูมโนรมย์ (วัดที่ 9) 
               14. ร้านมานาเด้อ 
               ลองมาติดตามกันเลยครับ

ครั้งนี้ก็ใช้บริการของแอร์เอเชียเช่นเคย จองไว้นานมากแล้วครับ อย่างที่บอกไปตอนแรกจะข้ามไปลาว เลยได้ราคาแค่นี้ 555+ ผมไม่ชอบบินเช้ามากครับ ทรมานในการตื่น เลยเอาสายๆ หน่อย กลับก็ค่ำๆ
ครื่องบินมาแล้วครับ พร้อม ไปได้

ไม่นานก็มาถึงครับ ผมเผลอหลับไม่รู้เรื่องเลย >_<
สวัสดีอุบลฯ เราเจอกันอีกแล้วนะ มาบ่อยช่วงนี้ 555+
จากนั้นก็เดินออกมานอกตัวอาคารเลยครับ จุดรับรถเช่าอยู่ข้างนอกหมดเลย ครั้งนี้ผมก็ใช้บริการของ Thairentacar เช่นเดิมครับ จองมาในช่วงโปรฯ ยาริสใหม่ วันละ 399 รวม ประกันชั้น 1 รวมเป็นเงินประมาณ 1,200 บาท เองครับ แถมน้ำให้อีก 2 ขวด ^_^
คันนี้ครับที่ผมเช่ามา สภาพดีทีเดียวครับ
        จากนั้นก็ออกจากสนามบิน ยิงยาวไปจุดแรกที่วางแผนไว้เลยครับ วันนี้ตั้งใจจะไปดูวัดสิรินธรวรารามภูพร้าวยามค่ำ ที่เขาบอกว่าสวยงามยิ่งนัก เลยวางแผนไปแวะสถานที่อื่นๆ ก่อน แล้วไปค่ำที่วัดพอดี จุดแรกที่ไปจึงเป็นน้ำตกแสงจันทร์ หรือน้ำตกลงรู อช.ผาแต้ม มีเส้นทางไปหลายเส้น แต่เลือกเส้นที่ผ่านพิบูลมังสาหาร เพราะได้ข่าวว่าซาลาเปาที่นี้อร่อย 555+
 
ถึงพิบูลฯ จะเห็นร้านขายซาลาเปาอยู่แทบจะทุกหนแห่ง เลือกตามที่สะดวกได้เลยครับ หาซักร้านเอาทุกใส่เลย ได้อย่างเยอะเลยครับ 1 ชุด กล่องละ 60 บาท อร่อยทุกใส้เลย
 
และแล้วผมก็มาถึง ถนนนี่แอบโหดแฮะ หลุมจะเยอะไปไหน 55+ ลงรถมาก็ต้องไปวัดไข้ก่อน ตรงจุดวัดไข้มีป้ายบอกสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ละแวกนี้ให้วางแผนกันด้วย
 
อันนี้คือน้ำตกที่ว่าครับ (เอ้ยย ไม่ใช่ 55+) อันนี้คือด้านบนที่น้ำไหลลงรูครับ เดี๋ยวเราลงไปดูด้านล่างกัน
เดินลงมาประมาณ 50 เมตร ก็ถึงแล้วครับ มองเห็นน้ำตกไกลๆ
และแล้วก็เดินมาถึงครับ เด็กๆ กำลังเล่นน้ำกันอยู่พอดี
 
เป็นน้ำตกที่สวยและแปลกตาดีครับ ไหลลงช่องพอดี ขอแบบใกล้ๆ ซักรูป
จากนั้นก็ขับรถต่อไปยังสถานที่ถัดไป เสาเฉียงและผาแต้มครับ อยู่ไม่ไกลกันมาก
ระหว่างทางไปที่ทำการอุทยาน เราแวะเสาเฉียงได้ก่อนเลยครับ ออกจากด่านมานิดเดียวแล้วจะอยู่ทางซ้าย สวยดีครับ นี่ก็ถ่ายย้อนแสง 55+
ก็ไปต่อไม่ไกลก็ถึงที่ทำการอุทยานครับ
 
ดูรายละเอียดคร่าวๆ แล้วก็ลงไปดูของจริงกัน ต้องเดินไกลเอาเรื่องอยู่นะครับ 55+
 
ลงมาซักหน่อยจะมีป้ายบอกว่าเราต้องเดินไปไกลขนาดไหน 555+
 
ได้เวลาลงแล้วครับ บันไดชันเอาเรื่องอยู่นะครับ แต่ก็แข็งแรงดี
ถึงทางลาดแล้วครับ เป็นเส้นทางทอดยาวตามริมหน้าผา สวยและแปลกตาไปอีกแบบครับ
บางช่วงนี้เราหลบฝนได้เลยนะเนี้ยะ ผ้ายื่นออกมาแบบนี้
และแล้วเราก็เดินมาถึงแล้วครับ แต่ละจุดจะมีป้ายอธิบายไว้ 
ของจริงครับ ใหญ่มากครับ ไม่รู้ตอนวาดนี่วาดยังไง คนสมัยนั้น แล้วก็วาดยาวไปไกลเลยครับ สุดมาก
  
เดินขึ้นมาก็นั่งพักเหนื่อยซักครู่ ผาแต้มถือว่าเป็นจุดวัดอากาศจุดหนึ่งที่สำคัญของประเทศ เช่น ผาชะได ที่เราฟังวิทยุกันบ่อยๆ ก็เป็นจุดที่มองเห็นแสงแรกของวัน ถือเป็นจุดแรกของประเทศ
จุดชมวิวอีกจุดครับ สวยงามมาก ด้านล่างผานี้ลงไปคือที่ผมลงไปเดินข้างล่างก่อนหน้า
 
จากนั้นก็เดินทางไปยังสถานที่ถัดไป วัดถ้ำคูหาสวรรค์ครับ ไม่ไกล
มาถึงแล้วครับ วัดถ้ำคูหาสวรรค์ สร้างโดยหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี แม้ท่านมรณภาพแล้วแต่สรีระไม่เน่าเปื่อย ทางวัดยังคงเก็บรักษารสรีระไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ ภายในวัดมีความโดดเด่นด้วยฆ้องขนาดใหญ่ เจดีย์ สวนไม้ดอกไม้ประดับ และจุดชมวิวแม่น้ำโขง แม่น้ำมูล บ้านเรือนเมืองโขงเจียมได้
มีองค์เจดีย์และฆ้องใหญ่อลังการ สวยงาม
เข้าไปด้านในเจดีย์เพื่อกราบสักการะ
จุดชมวิวมุมสูงเมืองโขงเจียม มองเห็นแม่น้ำมูลไหลบรรจบกับแม่น้ำโขงด้วย (แม่น้ำ 2 สี)
 
และแล้วก็ได้เวลาไปยังจุดไฮไลท์ของวันนี้ เดินทางไม่ไกล ครึ่งชั่วโมงก็ถึง
มาทันช่วงพระอาทิตย์ตกพอดี แต่พอมาถึงเท่านั้นแหล่ะ คนเป็นล้านครับ 555+
วัดสิรินธรวนารามตั้งอยู่บนเนินเขาสูง โดยจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศ บริเวณบนยอดเขาจะมองเห็นพระอุโบสถสีปัดทองตั้งเด่นเป็นสง่า จุดเด่นของวัดคือ การได้มาชมภาพเรืองแสงเป็นสีเขียวของของต้นกัลปพฤกษ์ที่เป็นจิตรกรรมที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถในยามค่ำคืน ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาชมและถ่ายภาพคือ ตั้งแต่เวลา 6.00 - 19.30 น. ซึ่งหากโชคดีก็จะได้เห็นดวงดาวมากมายเต็มท้องฟ้า อีกด้วย
พระอาทิตย์กำลังตกแล้วครับ สวยงาม
เมื่อมาถึงแล้วก็ขึ้นไปกราบพระก่อนดีกว่า
พระพุทธรูปองค์สีทองอร่าม
และแล้วก็ได้เวลาลองความเรืองแสงที่คนพูดถึงกัน ใช้แสงจากโทรศัพท์เขียนข้อความขึ้นมาได้จริงๆ ด้วย
มองด้วยตาอาจไม่ชัดเท่าใช้กล้องถ่ายครับ
อันนี้เป็นด้านหลังอุโบสถเป็นต้นกัลปพฤกษ์รูปใบโพธ์ สวยงามยิ่งครับ
ตั้งใจไว้ว่าครั้งหน้าจะมาอีกครั้งในวันที่คนน้อยๆ จะได้ถ่ายรูปสวยๆ ^_^
ขณะนี้เป็นเวลา 19:00 น. ได้เวลากลับเข้าเมืองอุบลแล้วครับ ยิงยาวๆ ไป ประมาณชั่วโมงนิดๆ
คืนนี้ผมพักที่ T3 House อุบลราชธานี คืนละ +500 ได้โปรจาก Agoda เก็บของเข้าที่แล้ว ดูแล้วว่าเอารถออกน่าจะค่อนข้างลำบากเวลากลับมาดึกๆ เลยเลือกเดินออกไปหาอะไรกินใกล้ๆ ดีกว่า โชคดีมีร้านหมูกระทะอยู่ข้างหน้าพอดี เดินออกมานิดหน่อย ชุดละ 129 บาท อิ่มทีเดียว
ซักพักก้กลับมานอนละครับ พรุ่งนี้ก็ไปอีกหลายที่ 555+

---- จบวันที่ 1 ----

ติดตามสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ได้ที่
Blog : https://goalonetravel.blogspot.com/
FB Page : https://www.facebook.com/คนเดียวก็ไปเที่ยวได้-1238634139627858/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่