เพราะอะไรฉินเจาเซียงหวัง (ปู่ทวดของจิ๋นซีฮ่องเต้) ถึงไม่สามารถรวมแผ่นดินได้ครับ ทั้งที่ปัจจัยแทบเหมือนกัน?

ยุคของฉินเจาเซียงหวังห่างจากยุคจิ๋นซีแค่ 3-4 ปี ทั้งที่เป็นปู่ทวด-เหลนกัน ด้วยเหตุที่ปู่และพ่อของจิ๋นซีฯครองราชย์ไม่นาน

ฉินเจาเซียงหวังนั้นเมื่อเทียบปัจจัยต่างๆกับจิ๋นซีแทบไม่ต่างกัน
ในด้านความสามารถและเล่ห์กลไม่มีใครด้อยไปกว่าใคร แถมปู่ทวดของจิ๋นซีฯคนนี้เครองราชย์ยาวนานมาก


ปัจจัยภายใน
ในด้านกุนซือ
ฟ่านซุย เทียบกับหลี่ซือ ก็ทำผลงานที่ยิ่งใหญ่ให้กับแคว้นฉิน เป็นอย่างมาก ไม่ว่า...
- รวบอำนาจจากพระญาติคืนฉินเจาเซียงหวัง
- เสนอนโยบายผูกมิตรกับแคว้นห่างไกลคือแคว้นฉี เพื่อตีแคว้นใกล้คือสามจิ้น (จ้าว,เว่ย,หาน)
- ในศึกฉางผิงวางกลจนรัฐจ้าวถอดเหลียนพอ (1 ใน 4 ยอดแม่ทัพแห่งยุคจ้านกว๋อ) แล้วเอานักวิชาการมาเป็นแม่ทัพใหญ่ทำให้ไป๋ฉีสยบทัพจ้าว 400,000 นายได้ง่ายขึ้น


ในด้านการทหาร
ฉินจาวเซียงหวังมีไป๋ฉี ซึ่งเป็นสุดยอดแม่ทัพ 1 ใน 4 แห่งยุคจ้านกว๋อ เช่นเดียวกับหวังเจี่ยนของจิ๋นซีฯ แถมตอนที่ไป๋ฉีมีชื่อเสียงทั่วแผ่นดิน หวังเจี่ยนยังเป็นลูกน้องเค้าอยู่เลย


ส่วนปัจจัยภายนอกนั้น 6 แคว้นในยุคฉินเจาเซียงหวังก็เละเทะสะบักสะบอม สู้แคว้นฉินไม่ได้เลย
- แคว้นฉู่ที่เป็นแคว้นใหญ่โดนไป๋ฉีตีเมืองหลวงแตก จนต้องย้ายเมืองหลวงหนี แถมฉู่ไหวหวังก็โดนฉินกักตัวและมาตายที่แคว้นฉิน

-แคว้นจ้าว คู่ปรับแพ้ที่ศึกฉางผิงราบคาบ ทหาร 400,000 โดนฝังตายหมด หานตานแทบที่จะเป็นเมืองแม่หม้าย

-แคว้นฉี พันธมิตรตะวันออกของฉิน สุดท้ายก็โดน งักเย ไอดอลขงเบ้งและทัพสหประชาติ 6 แคว้น รวมทั้งฉินรุมถล่ม จนไม่สามารถกลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิม

-แคว้นเอี้ยน อ๋องคนใหม่เชื่อคำยุยงประหารงักเย ทั้งที่เป็นคนช่วยทำให้แคว้นเอี้ยนยิ่งใหญ่ขึ้นมา

-แคว้นเว่ย โดนแคว้นฉินตอดเมืองไปมากจนต้องย้ายเมืองหลวงหนี

-แคว้นหานกับราชวงศ์โจว เหมือนไข่ใกล้มือฉิน จะทุบให้แตกเสียเมื่อไหร่ก็ได้


เมื่อปัจจัยภายนอก-ภายในของฉินเจาเซียงหวังดีขนาดนี้ ทำไมถึงไม่สามารถรวมแผ่นดินได้ในยุคนี้ครับ หรือเพราะการที่ฉินเจาเซียงหวังประทานความตายให้แก้ไป๋ฉีจึงทำให้ไม่สามารถบรรลุปณิธานรวมแผ่นดินได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
2) ปัจจัยภายใน

สมัยฉินจาวเซียงอ๋อง แคว้นฉินเต็มไปด้วยขุนนางต่างแคว้นที่เข้ามาแสวงหาความรุ่งเรืองครับ ซึ่งบางทีพวกเขาก็เกลียดกัน หรือบางทีก็อยากช่วยบ้านเกิดตัวเอง และเบนเป้าให้ฉินไปถล่มชาวบ้านแทนก็มี ไม่รวมราชินิกูลสกุลหมี่ที่เดินกันเต็มราชสำนัก และพระญาติสกุลอิ๋งที่กุมอำนาจเข้มแข็งอีก

มันเลยเกิดเป็นการคานอำนาจเชิงนโยบายกัน 4 ขาคือ พวกราชินิกูล (มักเป็นชาวฉู่), พวกพระญาติแซ่อิ๋ง, ขุนนางชาวฉิน และ ขุนนางชาวต่างแคว้น เราจะพบว่านโยบายต่อหกแคว้นซานตงในยุคฉินจาวเซียงอ๋องนั้นปรับเปลี่ยนได้เรื่อยๆเลยครับ บางทีก็ญาติดีกับหาน-เว่ย ไปตีฉู่ บางยุคก็ดีกับฉีมาตีหาน-เว่ย บางยุคก็ร่วมมือกับฉู่ไปตีจ้าวและฉี ก็มี

เพราะนอกจากสถานการณ์ภายนอกที่แปรเปลี่ยนแล้ว พวกขุนนางภายในที่ฉินจาวเซียงอ๋องให้ความนับถือเชื่อถือก็เปลี่ยนแปลงกลุ่มไปมาอีกด้วย และบางครั้งพวกเขาก็ขัดกันเองอันนำมาซึ่งความเสียหายต่อฉินครับ เช่นการเปลี่ยนตัวไป๋ฉีออกจากการบุกแคว้นจ้าว ทำให้สุดท้ายทัพฉินตีหานตานไม่แตก เสียทหารไปเยอะ และเสียดินแดนที่ยึดมาไปมากมาย

มายุคของฉินอ๋องเจิ้ง พระองค์ไม่มีพระญาติฝ่ายมารดาเลย เพราะจ้าวจีไทเฮาเป็นคนไม่มีพื้นเพ กลุ่มราชินิกูลเลยตัดออกไป
ตามด้วยพวกราชินิกูลชาวฉู่ ที่โดนลดบทบาทลงมากหลังกรณีกบฏเฉิงเจี้ยว

พระญาติแซ่อิ๋งนั้น หลังจากกรณีกบฏเฉิงเจี้ยว พระญาติแซ่อิ๋งก็โดนจำกัดอำนาจลงไปมากครับ นั่นทำให้อำนาจของพระญาติลดลง

เมื่อพวกพระญาติลดบทบาทลงแล้ว กลุ่มที่มีบทบาทก็คือพวกขุนนางครับ ซึ่งตกมาถึงยุคของฉินอ๋องเจิ้ง ผมมองว่าขุนนางชาวฉินและขุนนางต่างแคว้นค่อนข้างทำงานกันเป็นระบบแล้ว เนื่องจากมีการทำงานร่วมกันมาหลายสิบปีตั้งแต่ยุคของฉินฮุ่ยเหวินอ๋อง ความแตกแยกในเชิงถิ่นฐานกำเนิดก็ลดลง

ด้วยเหตุผลนี้เมื่ออิ๋งเจิ้งมีแผนจะยึดครอง 6 แคว้น ทุกคนก็มีหน้าที่สนองนโยบายของเขาโดยไม่เป็นอื่นครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่