เมื่อไหร่ที่เรามีความฝัน เราก็ต้องพยายามทำมันให้สำเร็จ และการได้เดินทางไปยังดินแดนแห่งพุทธศาสนาอย่างจังหวัดนครพนม
เพื่อไปกราบ "องค์พระธาตุพนม" สักครั้งหนึ่งในชีวิตยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนอยู่ในความคิดครั้งแล้วครั้งเล่ามาตลอด 2 ปี
ตั้งแต่ที่ได้เริ่มไปกราบพระธาตุลำปางหลวง เมื่อปี 2561 และพระธาตุหริภุญไชย กับพระธาตุดอยสุเทพ เมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมานี้
จริง ๆ แล้วมันต้องเป็นทริปของปี 2562 นั่นแหละ แต่ก็ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง
และในเมื่อผมได้ไปกราบพระธาตุสำคัญที่อื่น ๆ มาแล้ว มันคงจะสมบูรณ์ไปกว่านี้ไม่ได้
หากยังไม่ได้มากราบ “ พระธาตุพนม ” ที่ประเทศไทยกำลังพยายามผลักดันให้เป็นมรดกโลกอยู่
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหารนั้น อยู่ในแพลนเพราะความอยากมาส่วนตัวล้วน ๆ
เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสในมาเที่ยวมุกดาหารแบบจริงๆ จัง ๆ เมื่อไหร่
และเรื่องราวการเดินทางตลอด 3 วัน 2 คืน ในทริปนี้ของผมทั้งหมด
ก็จะเต็มไปด้วยเรื่องของความเชื่อ ความศรัทธา และประวัติศาสตร์
*** หากใครไม่ชอบสไตล์นี้แนะนำให้ผ่านได้เลย ผมไม่อยากเห็นความคิดเห็นที่บั่นทอนจิตใจ เพราะทั้งหมดนี้คือ ความเชื่อส่วนบุคคล ***
เป้าหมายหลัก ๆ ของทริปนี้คือ
- พญาศรีมุกดา ฯ และ พญาศรีภุชงค์ ฯ : จ. มุกดาหาร
- ไหว้พระธาตุทั้ง 8 วัน : จ. นครพนม
- สัมผัสบรรยากาศริมฝั่งโขง และผู้คนในจังหวัดนครพนม
แพลนการเดินทางคร่าว ๆ ตลอด 3 วัน 2 คืน มีดังนี้
Day 1 : เที่ยว มุกดาหาร 2 แห่ง และตระเวนไหว้พระธาตุ ใกล้ ๆ อ. ธาตุพนม
ค้าง 1 คืน ที่ อ. ธาตุพนม
Day 2 : ตระเวนไหว้พระธาตุที่เหลือบริเวณรอบนอก และเที่ยวในตัวเมือง นครพนม
ค้าง 1 คืนในตัวเมือง
Day 3 : เก็บตกสถานที่ที่เหลือรอเวลากลับบ้าน
“ปฐมบท”
การเดินทางในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นที่ “สถานีขนส่งหมอชิต” มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครพนม ด้วยรถทัวร์ของบริษัทนครชัยแอร์ Gold Class ในราคา 630 บาท ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นการเดินทางที่ดีที่สุด เพราะระยะเวลาในการเดินทางนั้น 11 - 12 ชั่วโมง จาก กทม. เวลา 20.30 น. ผมเดินทางมาถึงยังสถานีขนส่งนครพนม เวลา 07.30 น. (11 ชั่วโมง)
และภารกิจต่อมาของก็คือ การโทรหาบริษัทรถเช่าที่ผมจะใช้เป็นพาหนะหลักในทริปนี้เกือบทั้งหมดเลยทีเดียว และไม่นานพี่เจ้าของก็ขับรถมารับเพื่อไปทำสัญญาต่าง ๆ ที่บริษัทซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากขนส่ง
***
ข้อมูลรถเช่า " นครโคราช รถเช่า " ***
เริ่มต้น 800 บาท
https://nakhonkoratcarrent.com/cars_list
เมื่อรถพร้อมแต่ร่างกายยังไม่พร้อม ก็เลยเข้าไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยว และปากหม้อญวนข้าง ๆ ร้านเช่ารถ
“ติดเครื่องลุย” | เวลา 08.00 น.
หลังจากที่ทุกอย่างพร้อม ก็เริ่มปักหมุดกันที่จุดหมายแรก นั่นก็คือ “ วัดป่าภูมโนรมย์ ” ที่มี “ องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ” ที่เป็นแลนด์มาร์กที่โด่งดังของจังหวัดมุกดาหาร
*** หากยังไม่ได้ทำภารกิจส่วนตัว ระหว่างทางก็อย่าลืมแวะปั๊มน้ำมัน ล้างหน้า แปรงฟัน และเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยล่ะ ***
“วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ และ พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ” | เวลา 10.00 น.
117 กิโลเมตร กับเวลา 2 ชั่วโมง ผมได้เดินทางมาถึงยังวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งการจะขึ้นไปยัง “พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์” และ พญาศรีมุกดาฯ นั้น จะต้องจอดรถไว้ลานจอดรถด้านล่าง และนั่งรถสองแถวที่ทางวัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งก็จะมีค่าบริการแต่ว่า… ค่าบริการนั้นคือให้เราทำบุญตามกำลังศรัทธา นี่เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมาก ๆ
นั่งรถขึ้นมาเพียงแค่กลืนน้ำลายหนึ่งอึกก็ถึงแล้ว และที่คุณมองเห็นอยู่ไกล ๆ ด้านซ้ายนั้น
ก็คือตัวเมืองมุกดาหาร และอีกฝั่งของแม่น้ำโขงก็คือประเทศลาวนั่นเอง
และเมื่อหันหลังมาคุณก็จะพบกับ “ พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ ” ซึ่งเดี๋ยวเราจะขึ้นไปบนนั้นกัน
และด้านซ้ายก็คือทางที่จะเดินไปยัง “ พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ” แต่ยังไม่ได้ไปบอกไว้ก่อน 555
ก่อนจะไปยังองค์พระใหญ่นั้นก็ต้องเดินขึ้นไปไหว้พระที่ตรงนี้กันก่อน ซึ่งก็สำคัญไม่แพ้กัน
ตรงนี้ก็จะมี “พระอังคารเพ็ญ” และรอยพระพุทธบาท ซึ่งก็เป็นที่มาที่ไปของชื่อวัดที่นี่แหละ และเราจะเดินไปยังด้านขวาเพื่อไปยังองค์พระใหญ่กัน
มองจากระยะไกลว่าใหญ่แล้ว พอมาใกล้ ๆ ยิ่งดูใหญ่กว่าที่คิดเยอะเลย
และการจะขึ้นไปบนนั้นต้องเดินขึ้นบันไดไปประมาณ 3 ชั้น ใช่หรือป่าวไม่รู้จำไมได้ อิอิ
และก็มาถึงแล้วยังด้านบน “ พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ ” บอกได้คำเดียวว่าใหญ่มว๊ากกกกกกกกก
และไฮไลท์อีกหนึ่งจุดของที่นี่ที่เรากำลังจะไปต่อนั้นก็คือ “ พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ” ที่เห็นอยู่ไกล ๆ นั้น มองจากตรงนี้ลงไปดูเล็กไปเลย เดี๋ยวเราไปดูใกล้ ๆ กัน
ด้วยความที่มีต้นไม้รายล้อมอยู่รอบตัว มันบรรยากาศของเส้นทางที่จะเดินไปนั้นได้อารมณ์สุด ๆ เลย
และก่อนจะถึงองค์พญานาคนาคนั้นได้เจอกับ “พญาเต่าหิน” ที่มองไปแล้วมันดูคล้ายกระดองเต่าจริง ๆ
เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่แปลกจริง ๆ
และช่วงเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง “ พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ”
ด้วยความยาว 122 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.50 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร ช่างใหญ่โตสมคำร่ำลือจริง ๆ โดยคุณสามารถเดินลอดท้องทั้ง 7 ช่องเพื่อเป็นสิริมงคลได้ด้วย หลังจากนี้ขอให้ภาพบรรยายแทนแล้วกัน
ใช้เวลาอยู่ตรงนี้ไปประมาณ 2 ชั่วโมงเห็นจะได้ เกินคาดกว่าที่วางแพลนเอาไว้เสียอีก
“พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช” | เวลา 13.30 น.
จากวัดป่าภูมโนรมย์ ย้อนกลับมาทางเข้าจังหวัดนครพนม ประมาณ 37 กิโลเมตร ผมก็จะพามาถึงยังอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์กอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดมุกดาหาร นั่นก็คือ “พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช” พญานาคสีขาวที่ตั้งอยู่บริเวณแก่งกะเบา ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถือเป็นพญานาคที่ประดับหินอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูง 11 เมตร ยาว 51 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.50 เมตร ซึ่งที่นี่ก็สามารถเดินลอดท้องพญานาคเพื่อเป็นสิริมงคลได้เช่นกัน
และที่สำคัญอีกหนึ่งเรื่องก็คือ บริเวณแก่งกะเบาตรงนี้เอง มีร้านอาหารเด็ด ๆ หลายร้าน และเมนูที่เลื่องชื่อลือชาก็คือ “หมูหัน” จากที่มีคนแนะนำมาก็อยากให้ไปลองร้านหมูหันศิริชัย ถ้าหากคุณมีงบเพียงพอ แต่สำหรับทริปนี้ผมงบไม่พอเลยอดรีวิวให้ดู
“ พระธาตุศรีคุณ (อังคาร) ” | เวลา 14.50 น
จากแก่งกะเบามุ่งหน้ามายัง อ. นาแก ประมาณ 39 กม. เดินทางประมาณ 45 นาที
ก็ได้มาถึงยัง “ พระธาตุศรีคุณ ” พระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันอังคาร ภายในบรรจุอัฐิของ พระอรหันต์ คือ พระโมคัลลานะ พระสาลีบุตร และพระกัจจายะนะ ซึ่งนำมาจากประเทศอินเดียว เมื่อปี พ.ศ. 2490
เชื่อกันว่าหากใครได้มาสักการะ จะได้รับอานิสงส์ให้มีศักดิ์ศรีทวีคูณ และเสริมพลังนักสู้ให้มีจิตใจเข้มแข็ง
“ พระธาตุเรณูนคร (จันทร์) ” | เวลา 15.40 น.
เดินทางต่อมาอีก 27 กม. กับเวลาประมาณ 30 นาที ก็ได้มาถึงยัง “ พระธาตุเรณูนคร ” อ. เรณูนคร ที่เป็นเมืองที่น่าค้นหามาก ๆ โดยเฉพาะขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นของชาวภูไท
สำหรับ “ พระธาตุเรณูนคร ” เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันจันทร์ ภายในบรรจุพระไตรปิฎก พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน เพชรนิลจินดา หน่องา เครื่องกกุธภัณฑ์ของพระยาและเจ้าเมือง รวมถึงสิ่งของอื่นๆ ที่ชาวบ้านบริจาค
เชื่อว่าหากผู้ใดได้มาสักการะจะได้รับอาณิสงส์ให้มีวรรณะงดงามผุดผ่องดังแสงจันทร์
นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปที่สำคัญ คือ “พระองค์แสน” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำศิลปะแบบลาว และถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของอำเภอเรณูนคร
[CR] ทริปสายบุญ นครพนม - มุกดาหาร 3 วัน 2 คืน
เพื่อไปกราบ "องค์พระธาตุพนม" สักครั้งหนึ่งในชีวิตยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนอยู่ในความคิดครั้งแล้วครั้งเล่ามาตลอด 2 ปี
ตั้งแต่ที่ได้เริ่มไปกราบพระธาตุลำปางหลวง เมื่อปี 2561 และพระธาตุหริภุญไชย กับพระธาตุดอยสุเทพ เมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมานี้
จริง ๆ แล้วมันต้องเป็นทริปของปี 2562 นั่นแหละ แต่ก็ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง
และในเมื่อผมได้ไปกราบพระธาตุสำคัญที่อื่น ๆ มาแล้ว มันคงจะสมบูรณ์ไปกว่านี้ไม่ได้
หากยังไม่ได้มากราบ “ พระธาตุพนม ” ที่ประเทศไทยกำลังพยายามผลักดันให้เป็นมรดกโลกอยู่
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหารนั้น อยู่ในแพลนเพราะความอยากมาส่วนตัวล้วน ๆ
เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสในมาเที่ยวมุกดาหารแบบจริงๆ จัง ๆ เมื่อไหร่
และเรื่องราวการเดินทางตลอด 3 วัน 2 คืน ในทริปนี้ของผมทั้งหมด
ก็จะเต็มไปด้วยเรื่องของความเชื่อ ความศรัทธา และประวัติศาสตร์
*** หากใครไม่ชอบสไตล์นี้แนะนำให้ผ่านได้เลย ผมไม่อยากเห็นความคิดเห็นที่บั่นทอนจิตใจ เพราะทั้งหมดนี้คือ ความเชื่อส่วนบุคคล ***
เป้าหมายหลัก ๆ ของทริปนี้คือ
- พญาศรีมุกดา ฯ และ พญาศรีภุชงค์ ฯ : จ. มุกดาหาร
- ไหว้พระธาตุทั้ง 8 วัน : จ. นครพนม
- สัมผัสบรรยากาศริมฝั่งโขง และผู้คนในจังหวัดนครพนม
แพลนการเดินทางคร่าว ๆ ตลอด 3 วัน 2 คืน มีดังนี้
Day 1 : เที่ยว มุกดาหาร 2 แห่ง และตระเวนไหว้พระธาตุ ใกล้ ๆ อ. ธาตุพนม
ค้าง 1 คืน ที่ อ. ธาตุพนม
Day 2 : ตระเวนไหว้พระธาตุที่เหลือบริเวณรอบนอก และเที่ยวในตัวเมือง นครพนม
ค้าง 1 คืนในตัวเมือง
Day 3 : เก็บตกสถานที่ที่เหลือรอเวลากลับบ้าน
“ปฐมบท”
การเดินทางในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นที่ “สถานีขนส่งหมอชิต” มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครพนม ด้วยรถทัวร์ของบริษัทนครชัยแอร์ Gold Class ในราคา 630 บาท ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นการเดินทางที่ดีที่สุด เพราะระยะเวลาในการเดินทางนั้น 11 - 12 ชั่วโมง จาก กทม. เวลา 20.30 น. ผมเดินทางมาถึงยังสถานีขนส่งนครพนม เวลา 07.30 น. (11 ชั่วโมง)
และภารกิจต่อมาของก็คือ การโทรหาบริษัทรถเช่าที่ผมจะใช้เป็นพาหนะหลักในทริปนี้เกือบทั้งหมดเลยทีเดียว และไม่นานพี่เจ้าของก็ขับรถมารับเพื่อไปทำสัญญาต่าง ๆ ที่บริษัทซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากขนส่ง
*** ข้อมูลรถเช่า " นครโคราช รถเช่า " ***
เริ่มต้น 800 บาท https://nakhonkoratcarrent.com/cars_list
เมื่อรถพร้อมแต่ร่างกายยังไม่พร้อม ก็เลยเข้าไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยว และปากหม้อญวนข้าง ๆ ร้านเช่ารถ
“ติดเครื่องลุย” | เวลา 08.00 น.
หลังจากที่ทุกอย่างพร้อม ก็เริ่มปักหมุดกันที่จุดหมายแรก นั่นก็คือ “ วัดป่าภูมโนรมย์ ” ที่มี “ องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ” ที่เป็นแลนด์มาร์กที่โด่งดังของจังหวัดมุกดาหาร
*** หากยังไม่ได้ทำภารกิจส่วนตัว ระหว่างทางก็อย่าลืมแวะปั๊มน้ำมัน ล้างหน้า แปรงฟัน และเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยล่ะ ***
“วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ และ พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ” | เวลา 10.00 น.
117 กิโลเมตร กับเวลา 2 ชั่วโมง ผมได้เดินทางมาถึงยังวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งการจะขึ้นไปยัง “พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์” และ พญาศรีมุกดาฯ นั้น จะต้องจอดรถไว้ลานจอดรถด้านล่าง และนั่งรถสองแถวที่ทางวัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งก็จะมีค่าบริการแต่ว่า… ค่าบริการนั้นคือให้เราทำบุญตามกำลังศรัทธา นี่เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมาก ๆ
นั่งรถขึ้นมาเพียงแค่กลืนน้ำลายหนึ่งอึกก็ถึงแล้ว และที่คุณมองเห็นอยู่ไกล ๆ ด้านซ้ายนั้น
ก็คือตัวเมืองมุกดาหาร และอีกฝั่งของแม่น้ำโขงก็คือประเทศลาวนั่นเอง
และเมื่อหันหลังมาคุณก็จะพบกับ “ พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ ” ซึ่งเดี๋ยวเราจะขึ้นไปบนนั้นกัน
และด้านซ้ายก็คือทางที่จะเดินไปยัง “ พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ” แต่ยังไม่ได้ไปบอกไว้ก่อน 555
ก่อนจะไปยังองค์พระใหญ่นั้นก็ต้องเดินขึ้นไปไหว้พระที่ตรงนี้กันก่อน ซึ่งก็สำคัญไม่แพ้กัน
ตรงนี้ก็จะมี “พระอังคารเพ็ญ” และรอยพระพุทธบาท ซึ่งก็เป็นที่มาที่ไปของชื่อวัดที่นี่แหละ และเราจะเดินไปยังด้านขวาเพื่อไปยังองค์พระใหญ่กันมองจากระยะไกลว่าใหญ่แล้ว พอมาใกล้ ๆ ยิ่งดูใหญ่กว่าที่คิดเยอะเลย
และการจะขึ้นไปบนนั้นต้องเดินขึ้นบันไดไปประมาณ 3 ชั้น ใช่หรือป่าวไม่รู้จำไมได้ อิอิ
และก็มาถึงแล้วยังด้านบน “ พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์ ” บอกได้คำเดียวว่าใหญ่มว๊ากกกกกกกกก
และไฮไลท์อีกหนึ่งจุดของที่นี่ที่เรากำลังจะไปต่อนั้นก็คือ “ พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ” ที่เห็นอยู่ไกล ๆ นั้น มองจากตรงนี้ลงไปดูเล็กไปเลย เดี๋ยวเราไปดูใกล้ ๆ กัน
ด้วยความที่มีต้นไม้รายล้อมอยู่รอบตัว มันบรรยากาศของเส้นทางที่จะเดินไปนั้นได้อารมณ์สุด ๆ เลย
และก่อนจะถึงองค์พญานาคนาคนั้นได้เจอกับ “พญาเต่าหิน” ที่มองไปแล้วมันดูคล้ายกระดองเต่าจริง ๆ
เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่แปลกจริง ๆ
และช่วงเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง “ พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ”
ด้วยความยาว 122 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.50 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร ช่างใหญ่โตสมคำร่ำลือจริง ๆ โดยคุณสามารถเดินลอดท้องทั้ง 7 ช่องเพื่อเป็นสิริมงคลได้ด้วย หลังจากนี้ขอให้ภาพบรรยายแทนแล้วกัน
ใช้เวลาอยู่ตรงนี้ไปประมาณ 2 ชั่วโมงเห็นจะได้ เกินคาดกว่าที่วางแพลนเอาไว้เสียอีก
“พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช” | เวลา 13.30 น.
จากวัดป่าภูมโนรมย์ ย้อนกลับมาทางเข้าจังหวัดนครพนม ประมาณ 37 กิโลเมตร ผมก็จะพามาถึงยังอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์กอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดมุกดาหาร นั่นก็คือ “พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช” พญานาคสีขาวที่ตั้งอยู่บริเวณแก่งกะเบา ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถือเป็นพญานาคที่ประดับหินอ่อนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูง 11 เมตร ยาว 51 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.50 เมตร ซึ่งที่นี่ก็สามารถเดินลอดท้องพญานาคเพื่อเป็นสิริมงคลได้เช่นกัน
และที่สำคัญอีกหนึ่งเรื่องก็คือ บริเวณแก่งกะเบาตรงนี้เอง มีร้านอาหารเด็ด ๆ หลายร้าน และเมนูที่เลื่องชื่อลือชาก็คือ “หมูหัน” จากที่มีคนแนะนำมาก็อยากให้ไปลองร้านหมูหันศิริชัย ถ้าหากคุณมีงบเพียงพอ แต่สำหรับทริปนี้ผมงบไม่พอเลยอดรีวิวให้ดู
“ พระธาตุศรีคุณ (อังคาร) ” | เวลา 14.50 น
จากแก่งกะเบามุ่งหน้ามายัง อ. นาแก ประมาณ 39 กม. เดินทางประมาณ 45 นาที
ก็ได้มาถึงยัง “ พระธาตุศรีคุณ ” พระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันอังคาร ภายในบรรจุอัฐิของ พระอรหันต์ คือ พระโมคัลลานะ พระสาลีบุตร และพระกัจจายะนะ ซึ่งนำมาจากประเทศอินเดียว เมื่อปี พ.ศ. 2490
เชื่อกันว่าหากใครได้มาสักการะ จะได้รับอานิสงส์ให้มีศักดิ์ศรีทวีคูณ และเสริมพลังนักสู้ให้มีจิตใจเข้มแข็ง
“ พระธาตุเรณูนคร (จันทร์) ” | เวลา 15.40 น.
เดินทางต่อมาอีก 27 กม. กับเวลาประมาณ 30 นาที ก็ได้มาถึงยัง “ พระธาตุเรณูนคร ” อ. เรณูนคร ที่เป็นเมืองที่น่าค้นหามาก ๆ โดยเฉพาะขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่นของชาวภูไท
สำหรับ “ พระธาตุเรณูนคร ” เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันจันทร์ ภายในบรรจุพระไตรปิฎก พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน เพชรนิลจินดา หน่องา เครื่องกกุธภัณฑ์ของพระยาและเจ้าเมือง รวมถึงสิ่งของอื่นๆ ที่ชาวบ้านบริจาค
เชื่อว่าหากผู้ใดได้มาสักการะจะได้รับอาณิสงส์ให้มีวรรณะงดงามผุดผ่องดังแสงจันทร์
นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปที่สำคัญ คือ “พระองค์แสน” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำศิลปะแบบลาว และถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของอำเภอเรณูนคร
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้