จริงๆ การไปมุกดาหารรอบนี้ มีจุดประสงค์เพื่อจะไปทำธุระ แต่ทุกลมหายใจเข้าออกของผมคือการท่องเที่ยว การไปมุกดาหารครั้งนี้จะไปแค่ทำธุระอย่างเดียวก็คงไม่ใช่ผมแน่ๆ จึงรีบหาข้อมูลเพื่อวางแผนท่องเที่ยวในช่วงเวลาว่าง ทริปนี้มีข้อจำกัดเรื่องเวลาค่อนข้างเยอะ การไปเที่ยวแต่ละจุดเลยต้องวางแผนให้รัดกุมครับ
เริ่มตั้งแต่การวางแผนเดินทาง ทริปนี้ผมมีเวลา 3 วัน 2 คืน เลยเลือกที่จะเดินทางโดยเครื่องบิน แต่เนื่องจากมุกดาหารยังไม่มีสนามบิน เลยต้องเลือกบินลงที่จังหวัดข้างเคียง ซึ่งมีให้เลือก 2 จังหวัดคือสนามบินนครพนม และสนามบินสกลนคร ในช่วงวัน/เวลาที่ผมเดินทาง เมื่อเปรียบเทียบราคาแล้ว หากบินลงที่นครพนมราคาจะถูกกว่าครับ
สำหรับขาไป ผมเลือกบินกับนกแอร์ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ผมค่อนข้างสะดวกสุด คือบินตอนสายๆ จะได้ไม่ต้องรีบเดินทางมาที่สนามบินตั้งแต่เช้ามืด แถมยังถึงนครพนมไม่บ่ายจนเกินไป ยังพอมีเวลาให้เดินทางและเที่ยวระหว่างทางได้เล็กน้อย สำหรับขากลับ ผมเลือกบินกับแอร์เอเชีย เนื่องจากมีหลายไฟล์ทให้เลือกกลับมาก เลยเลือกบินกลับช่วงบ่ายแก่ๆ ในขณะที่นกแอร์มีบินเพียงวันละไฟล์ทเท่านั้น
สำหรับโปรแกรมการเดินทาง ก็ประมาณนี้ครับ ขาไป คือเส้นทางสีแดง ส่วนขากลับเป็นเส้นสีเขียว ดูแล้วอาจจะเที่ยวได้ไม่เยอะเพราะมีข้อจำกัดเรื่องเวลา แต่ก็ถือว่าตักตวงความสุขได้อย่างเต็มที่เหมือนกัน
วันเดินทาง
ดีหน่อยที่ผมเลือกเดินทางไฟล์ทสายๆ คือไฟล์ท 10.30 น. เผื่อเวลากันเหนียวให้มาถึงสนามบินเวลา 08.00 น. เลยไม่ต้องตื่นตั้งแต่หัวรุ่ง ออกจากลพบุรี 05.00 น.แบบสบายๆ
ผ่านกระบวนการ Check in ค่อนข้างเร็ว เลยมีเวลาเตร่ในสนามบินดอนเมืองพอสมควร วันที่ไปนี่ฟ้าใสสุดๆ ใจก็ภาวนาขอให้เจอฟ้าใสตลอดทริปด้วยเถิด
มาถึงสนามบินนครพนมตามเวลา คือ 11.50 น. ติดต่อรับรถที่เช่าไว้ ใช้เวลาไม่นานนัก ประมาณ 12.15 น. ก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางครับ
กองทัพเดินด้วยท้อง หลังออกจากสนามบินก็มุ่งหน้าไปหาของกินในตัวเมืองนครพนม มารอบนี้ตั้งใจจะมาทานข้าวเกรียบปากหม้อศรีเทพอีกเช่นเคย หลังจากที่เคยได้ลองทานแล้วติดใจ แต่เมื่อมาถึงก็แอบเสียใจ เพราะช่วงที่ผมไปเป็นช่วงพักการขายพอดี จะเปิดขายอีกทีก็บ่ายสามโมง แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่บ้าง ยังพอมีข้าวเกรียบปากหม้อที่ทำใส่กล่องรอการขายอยู่ 2 กล่อง พอทานให้หายอยากไปได้บ้าง มานครพนม แนะนำให้มาทานข้าวเกรียบปากหม้อศรีเทพดูนะครับ อร่อยอย่าบอกใครเชียว
จากนั้นมุ่งหน้าสู่วัดจอมศรีหมู่ 2 พิกัดอย่างไรนั้นแนะนำตั้ง GPS ไปเลยครับ ตั้งคำว่า “วัดจอมศรีหมู่ 2” ตอนที่ผมหาข้อมูลจากรีวิวท่องเที่ยวต่างๆ ในนั้นเขียนเพียง “วัดจอมศรี” ผมก็ตั้ง GPS ไปที่ “วัดจอมศรี” ปรากฏว่าเจอ 2 วัด ดูจากแผนที่ใน Google map แล้ว เลยเลือกวัดจอมศรีที่อยู่ใกล้สนามบิน มันก็พาไปถูกทางนะครับ แต่ผิดจุด เลยต้องสอบถามชาวบ้านแถวนั้นดู แต่ก็ลัดเลาะไปจนถึงจุดหมาย พอถึงหน้าวัดถึงได้รู้ว่า ที่ถูกแล้วชื่อ “วัดจอมศรีหมู่ 2” ครับ
แล้วผมดั้นด้นมาทำอะไรที่ “วัดจอมศรีหมู่ 2” เหรอครับ เพราะที่วัดนี้มีต้นก้ามปูยักษ์ ซึ่งนับว่าเป็น Unseen นครพนมครับ
วัดจอมศรีหมู่ 2 เป็นวัดเล็กๆ ที่บรรยากาศภายในวัดค่อนข้างร่มรื่นเลยทีเดียว บริเวณกลางวัดมีต้นก้ามปูขนาดใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ความร่มรื่นเป็นอย่างมาก ต้นก้ามปูที่วัดจอมศรีหมู่ 2 นี้แตกต่างจากต้นก้ามปูยักษ์ที่กาญจนบุรีอยู่พอสมควร เรื่องขนาดของวัดจอมศรีหมู่ 2 อาจจะเป็นรองอยู่นิดหน่อย แต่ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ ต้นก้ามปูที่วัดจอมศรีหมู่ 2 จะดูชุ่มชื่นกว่า มีมอสและเฟิร์นขึ้นอยู่ตามกิ่งก้านสาขาของต้นก้ามปู ดูแล้วสดชื่นจริงๆ ครับ
ตอนที่บอกสมาชิกร่วมทริปว่าจะมาที่วัดจอมศรีหมู่ 2 แต่ละคนดูเฉยๆ แต่เมื่อรถเข้ามาจอดที่ลานวัดเท่านั้นแหล่ะ ต่างรีบบอกออกมาว่า ถ้าไม่แวะคงเสียดายมากๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ผมได้แต่แอบยิ้มในใจ
[CR] ออกไปเติมความสุขที่...มุกดาหาร
จริงๆ การไปมุกดาหารรอบนี้ มีจุดประสงค์เพื่อจะไปทำธุระ แต่ทุกลมหายใจเข้าออกของผมคือการท่องเที่ยว การไปมุกดาหารครั้งนี้จะไปแค่ทำธุระอย่างเดียวก็คงไม่ใช่ผมแน่ๆ จึงรีบหาข้อมูลเพื่อวางแผนท่องเที่ยวในช่วงเวลาว่าง ทริปนี้มีข้อจำกัดเรื่องเวลาค่อนข้างเยอะ การไปเที่ยวแต่ละจุดเลยต้องวางแผนให้รัดกุมครับ
เริ่มตั้งแต่การวางแผนเดินทาง ทริปนี้ผมมีเวลา 3 วัน 2 คืน เลยเลือกที่จะเดินทางโดยเครื่องบิน แต่เนื่องจากมุกดาหารยังไม่มีสนามบิน เลยต้องเลือกบินลงที่จังหวัดข้างเคียง ซึ่งมีให้เลือก 2 จังหวัดคือสนามบินนครพนม และสนามบินสกลนคร ในช่วงวัน/เวลาที่ผมเดินทาง เมื่อเปรียบเทียบราคาแล้ว หากบินลงที่นครพนมราคาจะถูกกว่าครับ
สำหรับขาไป ผมเลือกบินกับนกแอร์ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ผมค่อนข้างสะดวกสุด คือบินตอนสายๆ จะได้ไม่ต้องรีบเดินทางมาที่สนามบินตั้งแต่เช้ามืด แถมยังถึงนครพนมไม่บ่ายจนเกินไป ยังพอมีเวลาให้เดินทางและเที่ยวระหว่างทางได้เล็กน้อย สำหรับขากลับ ผมเลือกบินกับแอร์เอเชีย เนื่องจากมีหลายไฟล์ทให้เลือกกลับมาก เลยเลือกบินกลับช่วงบ่ายแก่ๆ ในขณะที่นกแอร์มีบินเพียงวันละไฟล์ทเท่านั้น
สำหรับโปรแกรมการเดินทาง ก็ประมาณนี้ครับ ขาไป คือเส้นทางสีแดง ส่วนขากลับเป็นเส้นสีเขียว ดูแล้วอาจจะเที่ยวได้ไม่เยอะเพราะมีข้อจำกัดเรื่องเวลา แต่ก็ถือว่าตักตวงความสุขได้อย่างเต็มที่เหมือนกัน
วันเดินทาง
ดีหน่อยที่ผมเลือกเดินทางไฟล์ทสายๆ คือไฟล์ท 10.30 น. เผื่อเวลากันเหนียวให้มาถึงสนามบินเวลา 08.00 น. เลยไม่ต้องตื่นตั้งแต่หัวรุ่ง ออกจากลพบุรี 05.00 น.แบบสบายๆ
ผ่านกระบวนการ Check in ค่อนข้างเร็ว เลยมีเวลาเตร่ในสนามบินดอนเมืองพอสมควร วันที่ไปนี่ฟ้าใสสุดๆ ใจก็ภาวนาขอให้เจอฟ้าใสตลอดทริปด้วยเถิด
มาถึงสนามบินนครพนมตามเวลา คือ 11.50 น. ติดต่อรับรถที่เช่าไว้ ใช้เวลาไม่นานนัก ประมาณ 12.15 น. ก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางครับ
กองทัพเดินด้วยท้อง หลังออกจากสนามบินก็มุ่งหน้าไปหาของกินในตัวเมืองนครพนม มารอบนี้ตั้งใจจะมาทานข้าวเกรียบปากหม้อศรีเทพอีกเช่นเคย หลังจากที่เคยได้ลองทานแล้วติดใจ แต่เมื่อมาถึงก็แอบเสียใจ เพราะช่วงที่ผมไปเป็นช่วงพักการขายพอดี จะเปิดขายอีกทีก็บ่ายสามโมง แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่บ้าง ยังพอมีข้าวเกรียบปากหม้อที่ทำใส่กล่องรอการขายอยู่ 2 กล่อง พอทานให้หายอยากไปได้บ้าง มานครพนม แนะนำให้มาทานข้าวเกรียบปากหม้อศรีเทพดูนะครับ อร่อยอย่าบอกใครเชียว
จากนั้นมุ่งหน้าสู่วัดจอมศรีหมู่ 2 พิกัดอย่างไรนั้นแนะนำตั้ง GPS ไปเลยครับ ตั้งคำว่า “วัดจอมศรีหมู่ 2” ตอนที่ผมหาข้อมูลจากรีวิวท่องเที่ยวต่างๆ ในนั้นเขียนเพียง “วัดจอมศรี” ผมก็ตั้ง GPS ไปที่ “วัดจอมศรี” ปรากฏว่าเจอ 2 วัด ดูจากแผนที่ใน Google map แล้ว เลยเลือกวัดจอมศรีที่อยู่ใกล้สนามบิน มันก็พาไปถูกทางนะครับ แต่ผิดจุด เลยต้องสอบถามชาวบ้านแถวนั้นดู แต่ก็ลัดเลาะไปจนถึงจุดหมาย พอถึงหน้าวัดถึงได้รู้ว่า ที่ถูกแล้วชื่อ “วัดจอมศรีหมู่ 2” ครับ
แล้วผมดั้นด้นมาทำอะไรที่ “วัดจอมศรีหมู่ 2” เหรอครับ เพราะที่วัดนี้มีต้นก้ามปูยักษ์ ซึ่งนับว่าเป็น Unseen นครพนมครับ
วัดจอมศรีหมู่ 2 เป็นวัดเล็กๆ ที่บรรยากาศภายในวัดค่อนข้างร่มรื่นเลยทีเดียว บริเวณกลางวัดมีต้นก้ามปูขนาดใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ความร่มรื่นเป็นอย่างมาก ต้นก้ามปูที่วัดจอมศรีหมู่ 2 นี้แตกต่างจากต้นก้ามปูยักษ์ที่กาญจนบุรีอยู่พอสมควร เรื่องขนาดของวัดจอมศรีหมู่ 2 อาจจะเป็นรองอยู่นิดหน่อย แต่ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ ต้นก้ามปูที่วัดจอมศรีหมู่ 2 จะดูชุ่มชื่นกว่า มีมอสและเฟิร์นขึ้นอยู่ตามกิ่งก้านสาขาของต้นก้ามปู ดูแล้วสดชื่นจริงๆ ครับ
ตอนที่บอกสมาชิกร่วมทริปว่าจะมาที่วัดจอมศรีหมู่ 2 แต่ละคนดูเฉยๆ แต่เมื่อรถเข้ามาจอดที่ลานวัดเท่านั้นแหล่ะ ต่างรีบบอกออกมาว่า ถ้าไม่แวะคงเสียดายมากๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ผมได้แต่แอบยิ้มในใจ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้