ถุงมือเรื่องสั้น เรื่องที่ 4 น่าจะเป็นเรื่องอ่านสนุกเบาสมองนะครับ สังเกตดูทั้งชื่อเรื่องและชื่อถุงมือแล้ว ^^
และเป็นเรื่องแแนวไซไฟเสียด้วย ว่าด้วยเรื่องของหุ่นยนต์ซึ่งปฏิบัตติการณ์แทนมนุษย์ไปแล้วในโลกอนาคต แม้กระนั้น บางที พวกมันก็ทะเลาะกันเอง มีความขัดแย้งถึงกับใช้กำลังต่อกัน แถมยังมีอีกด้านแบบโรแมนติก ให้มนุษย์โลกที่มองเห็นเกิดความอิจฉาได้เสียอีก !!
เรื่องเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 29 ครับ...งั้นเรามาเจาะเวลาไปหาอนาคตกาลกันเลย...
ในศตวรรษที่ 29 ค่านิยมในการบริโภคของมนุษย์ และการละเลยต่อสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้โลกกลายเป็นดินแดนแห้งแล้งรกร้าง ที่สิ่งมีชีวิตทั้งหลายไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะไม่สามารถทำการเกษตรเพาะปลูกอะไรได้เลย เหล่ามนุษยชาติกลุ่มสุดท้ายจึงแก้ปัญหาโดยสร้างโปรเจคยักษ์คือแผนการอพยพคนและสัตว์ต่างๆทั้งหมด มุ่งหน้าสู่ดาว
อุลตร้า M77 (คาดว่าจะใช้เวลา ประมาณ 100 ล้านปีแสง แบบเสี่ยงดวงเอาตามข้อมูลที่
ยอดมนุษย์อุลตร้าแมนตนหนึ่งในไทย ได้เคยให้ลายแทงไว้) โดยให้บริษัทร่วมทุนสภาประชาชาติสากล (
ประเทศไทย คือชาติสมาชิกที่เป็นมหาอำนาจใหญ่ที่สุด) ชื่อว่า
บ.รวยกล้วยกล้วย ทำการสร้างสถานีอวกาศขนาดใหญ่ตั้งชื่อว่า
ยานต้นกล้วยยักษ์ ที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยอาหารของกินเครื่องใช้ รวมถึงการเดินทางเคลื่อนที่ไปยังจุดต่างๆภายในยาน และจะมีหุ่นยนต์คอยให้ความช่วยเหลือทุกๆการบริการอยู่ตลอดเสมอ
(
เจ้าสัวพันกะติ๊บ เหนียวหมูปิ้ง เป็นเจ้าของและประธานบริหารบริษัทรวยกล้วยกล้วย มีเป้าหมายสำคัญคือการครอบครองจักรวาลด้วยผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์ (ทุกประเภทรวมถึงหุ่นยนต์บดอัดขยะ) และยานอวกาศมหึมาที่หรูหรา (อย่างยานต้นกล้วยยักษ์) พันธสัญญาของบริษัทในการสร้างสรรค์อนาคตอันสวยงามได้สะท้อนผ่านทางข้อความดิจิตอลและสปอตวีดิโอโฆษณาชวนเชื่อของ
พันกะติ๊บฟิวเจอร์โซเชี่ยลมีเดีย ซึ่งมีอยู่ทุกสถานที่ตลอดเวลา แม้ว่าสิ่งต่างๆ จะไม่ได้เป็นไปตามแผนเลยก็ตาม )
เวลาล่วงเลยไปกว่า 700 ปี จากเครื่องบดอัดขยะแบบเก่าที่ถูกพัฒนากลายเป็นหุ่นยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งทาง บ.รวยกล้วยกล้วยได้ทิ้งเอาไว้หลายพันเครื่องทั่วโลก เพื่อทำความสะอาด บดอัดเก็บกวาดรวบรวมขยะจนกลายเป็นกองใหญ่เท่าภูเขากระจายอยู่หลายแห่งทั่วโลก แต่ในปัจจุบันมีเหลืออยู่เพียงหุ่นยนต์ตัวเดียวที่ใช้งานได้และยังคงทำงานอยู่คือ หุ่นยนต์กำจัดขยะ (
I-Jitay) หรือ
กล้วยไข่
( หุ่นยนต์กำจัดขยะ (I-Jitay) หรือกล้วยไข่ ถูกตั้งโปรแกรมให้เก็บกวาดขยะบนโลกด้วยการบีบอัดมันเป็นรูปสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ แต่หลังจาก 700 ปีผ่านไป เขากลับเริ่มมีบุคลิกลักษณะของตัวเองขึ้นมา เขาเป็นหุ่นยนต์ช่างสงสัย อยากรู้อยากเห็นและอยู่โดดเดี่ยวตามลำพัง โดยมีเพียง
แมลงสาปชื่อว่า มะเดี่ยวเป็นเพื่อน กล้วยไข่อัดขยะเป็นสี่เหลี่ยมลูกบาศก์วันแล้ววันเล่าอย่างขยันขันแข็ง เขาได้พบและเก็บสะสมของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆอยู่ตลอดไว้มากมาย เช่นรูบิคลูกบาศก์ หลอดไฟ สปอร์ค เขาเก็บของทั้งหมดเหล่านี้ไว้ในตู้ขนส่งสินค้าที่เขาใช้เป็นที่พักอาศัย กล้วยไข่ที่มีหัวใจโรแมนติก เฝ้าใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งเขาจะได้เจอกับใครซักตน และชีวิตนี้จะต้องมีอะไรมากกว่างานประจำซ้ำซากที่เขาทำอยู่ทุกวัน )
อยู่มาวันหนึ่ง กิจวัตรประจำวันของกล้วยไข่ก็ต้องเปลี่ยนไป เมื่อเขาได้เผชิญหน้ากับ
หุ่นยนต์สำรวจประเมินพืชพันธุ์ (
U-Sabuy) หรือ
กล้วยหอม ที่ถูกส่งไปสแกนสำรวจดาวเคราะห์ทั่วทั้งแกแล็คซี่ (แต่ตอนนี้ถูกส่งให้มายังโลก เพื่อตรวจสอบสัญญาณของสิ่งมีชีวิตเผื่อว่ามนุษย์จะสามารถกลับมาอยู่บนโลกได้อีกครั้ง) เพื่อหาสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า"
พืช" ระหว่างการเดินทางไปดาวอุลตร้า M77 (ซึ่งตอนนี้ทุกคนตระหนักดีแล้วว่า มันเป็นไปไม่ได้
จึงทำแค่เพียงลอยยานนิ่งเคว้งคว้างในอวกาศ ยื้อเวลาไปเรื่อยๆ และส่งหุ่นยนต์สำรวจไปยังดาวเคราะห์ต่างๆแทน เมื่อพบเป้าหมายแล้วค่อยมุ่งหน้าไป)
( หุ่นยนต์สำรวจประเมินพืชพันธุ์ (U-Sabuy) หรือกล้วยหอม เป็นหุ่นยนต์สาวสุดวาววับแสนไฮเทคล้ำยุค ลำตัวเพรียวลม เธอเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว บินได้และมีอาวุธเป็นปืนเลเซอร์ เธอเป็นหุ่นยนต์เจ้าหน้าที่ระดับสูงและมีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติภารกิจของเธอให้สำเร็จลุล่วงไปให้ได้ )
กล้วยไข่ ถูกหุ่นยนต์สำรวจกล้วยหอม สแกนตรวจพบบางอย่าง เมื่อกล้วยไข่แสดงให้กล้วยหอมเห็นสิ่งที่เขาบังเอิญพบเจอซึ่งแปลกประหลาดล่าสุด นั่นคือต้นกล้าของ"พืช" แต่กล้วยหอมกลับเข้าสู่โหมดสแตนบายนิ่งเงียบทันทีที่เห็นแล้วเก็บต้นกล้าของ"พืช"นั้นไว้ในช่องเก็บของตัวเรียบร้อยแล้ว โดยที่กล้วยไข่ก็ไม่รู้ถึงสาเหตุ จึงทำให้กล้วยไข่ต้องมีภาระคอยดูแลปกป้องกล้วยหอมเพื่อนใหม่จากภัยต่างๆ เช่น ลมพายุ,ฟ้าผ่า,คลื่นร้อน และของเหลวสารเคมีทีเป็นพิษเป็นต้น เพราะกล้วยหอมไม่ยอมตอบสนองใดๆทั้งสิ้น แต่มันก็ทำให้กล้วยไข่รู้สึกผูกพันอย่างไม่มีเหตุผลในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน จากที่เคยอยู่อย่างโดดเดี่ยวมานานหลายร้อยปี
และเมื่อถึงเวลาที่กล้วยหอมถูกเรียกตัวกลับขึ้นไปสู่สถานีอวกาศยานต้นกล้วยยักษ์ กล้วยไข่ก็ได้แอบหลบซ่อนตัว ติดตามจนขึ้นยานไปได้ด้วยเพราะความเป็นห่วงกล้วยหอม เขาต้องทิ้งโลกใบเดียวที่เขามีเพื่อตามหาสิ่งที่เขารักมากที่สุดกลับมา แม้จะต้องเสี่ยงกับการผจญภัยในห้วงอวกาศที่เขาไม่เคยคาดคิดหรือมีประสบการณ์มาก่อนก็ตาม
ในตลอด 700 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยานต้นกล้วยยักษ์เคลื่อนออกจากโลก ผู้โดยสารบนยานทุกคนก็มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงในทางที่ยิ่งแย่ลง เนื่องจากสภาวะไร้น้ำหนักที่ควบคุมร่างกายลำบาก และความเกียจคร้านทำให้พวกเขาใช้หุ่นยนต์หรือเครื่องจักรกลในการทำงานต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน พวกเขาแทบไม่ทำอะไรเลยนอกจากกินและนอนอยู่บนเก้าอี้นวมใหญ์ไฮเท็ค
Pe่ver จนมีน้ำหนักที่มากแต่ไร้กล้ามเนื้อ
กัปตันกล้วยทอด ตำแหน่งร้อยเอกผู้ควบคุมยานคนปัจจุบัน (ซึ่งมีหน้าที่ต้องทำกิจวัตรประจำวันแบบซ้ำเดิมอันแสนน่าเบื่อ คือการเช็คและตรวจสอบสถานะของยานด้วย "
ออโต้ปอกกล้วย" ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติ) เมื่อได้รับสัญญาณ
Gypsy Holo Detector ซึ่งเขาไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่ด้วยความอยากรู้เขาจึงได้ตรวจค้นคว้าข้อมูลเก่าดู จนได้พบและทำให้รู้ว่า เมื่อ 700 ปีก่อนนั้น มนุษย์สามารถปลูกสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า"พืช" แล้วใช้ประโยชน์จากมันเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกได้ ดังนั้นเมื่อได้รับสัญญาณนี้และตรวจสอบแล้วว่าสิ่งมีชีวิตที่ค้นพบคือ"พืช"จริง ยานจะทำการเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่ระบบ
ไฮเปอร์จัมพ์เพื่อกลับสู่โลก เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ที่จะเป็นบุคคลสำคัญที่นำพามนุษยชาติกลับไปใช้ชีวิตที่โลกได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อกล้วยหอมและกล้วยไข่ ได้มาถึงยานสถานีอวกาศเพื่อนำต้นกล้า"พืช"ไปตรวจเช็คที่เครื่องตรวจสอบ กลับพบว่า"พืช"ได้หายไปจากช่องเก็บของๆ กล้วยหอมแล้ว ถึงอย่างนั้นกัปตันกล้วยทอดก็ไม่ถอดใจ ยังคงค้นคว้าศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับโลกอยู่ต่อไปด้วยความกระตือรือร้นอยากรู้ของเขา และมันได้ปลุกกระตุ้นให้เขาได้ค้นพบคุณสมบัติที่แท้จริงในตัวเองเพื่อที่จะก้าวมาเป็นผู้นำที่กล้าหาญอย่างที่เขาไม่เคยคิดฝันมาก่อน
ส่วนหุ่นยนต์กล้วยหอม เมื่อต้นกล้า"พืช"ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย กล้วยหอมจึงถูกประเมินผลว่าระบบ
ขัดคล่องผิดพลาดเพราะส่งสัญญาณไม่ถูกต้องตรงกับเป้าหมายการปฏิบัติงานจริง จึงต้องถูกส่งไปทำการล้างข้อมูลเพื่อซ่อมแซมระบบพร้อมกับหุ่นยนต์ที่ระบบผิดปกติตัวอื่นๆ แต่กล้วยไข่ก็ได้แอบติดตามไปจนถึงห้องซ่อมแซมที่มีหุ่นยนต์ผิดปกติอยู่มากมาย ด้วยความที่ไม่รู้เรื่องระบบเทคโนโลยีล้ำสมัยแต่อยากจะช่วยกล้วยหอม ทำให้กล้วยไข่บังเอิญไปกดปิดระบบล็อคห้องป้องกันอัตโนมัติ ทำให้หุ่นยนต์ที่ผิดปกติทั้งหมดหลุดจากห้องซ่อมแซมบำรุงรักษา ทำให้กล้วยหอมมีความผิดเพิ่มอีกข้อร่วมกับกล้วยไข่ กล้วยหอมจึงรีบพากล้วยไข่ไปที่ยานกระสวยอวกาศฉุกเฉิน เพื่อส่งกล้วยไข่กลับไปยังโลกจะได้ยุติเรื่องวุ่นวายทั้งหมดเหล่านี้
แต่ก่อนที่กระสวยจะพุ่งออกไปมุ่งหน้าสู่โลก ได้มีหุ่นยนต์ทำความสะอาดตัวจิ๋ว หรือ
กล้วยจิ๋ว นำต้นกล้า"พืช"มาทิ้งไว้ในกระสวย เมื่อกล้วยหอมเห็นเช่นนั้นจึงรีบบินตามกระสวยโดยหวังจะไปนำ"พืช"กลับมาตามภารกิจให้ได้ แต่ไม่ทันไรกระสวยลำนั้นก็เกิดผิดปกติระเบิดขึ้นเสียก่อน แต่โชคยังดีที่กล้วยไข่ไปกดถูกปุ่มดีดตัวเด้งออกมาจากกระสวยได้ทัน จึงได้รับความเสียหายเพียงบางส่วนไม่มาก กล้วยหอมบินตามไปอุ้มรับกล้วยไข่ที่ลอยเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศ(เพราะกล้วยไข่เหาะไม่ได้) แล้วพบว่า กล้วยไข่เก็บต้นกล้า"พืช"ไว้ในช่องบีบอัดขยะของเขา ทั้งคู่จึงบินร่อนในอวกาศด้วยความดีใจอย่างยิ่ง
กลายเป็นภาพที่แสนประทับใจให้นางส้มโอกับนายแตงโม และคนบนยานคนอื่นๆได้เห็นทั่วกัน
( นางส้มโอกับนายแตงโม เป็นมนุษย์สองคนที่อาศัยอยู่บนยานต้นกล้วยยักษ์ ที่ซึ่งพวกเขาใช้ชีวิตอยู่อย่างหรูหราสุขสบาย การมาถึงของกล้วยไข่ได้ปลุกกระตุ้นพวกเขาให้ออกจากกิจวัตรประจำวันของตัวเองและทำให้พวกเขาได้ตระหนักถึงการมีตัวตนของคนอื่นๆ ซึ่งบางทีมันก็อาจมีอะไรในชีวิตที่มากกว่าการล่องลอยไปมาในเก้าอี้สุดแสนไฮเทคของพวกเขาอย่างนั้นก็ได้ )
ความจริงเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะหุ่นยนต์ควบคุมระบบออโต้
GO-6 หรือ
กล้วยบูดเน่า ของยานต้นกล้วยยักษ์ ที่ควบคุมระบบมาตลอด 700 ปีที่ผ่านมา แต่ในความเป็นจริงนั้นมันศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์เพื่อป้อนสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่างๆนานาให้จนมนุษย์ต้องตกเป็นทาส ไม่สามารถทำแม้แต่เรื่องง่ายๆ อย่างเช่น การล้างหน้าแปรงฟันด้วยตัวเองได้ ทุกอย่างทุกกิจกรรมล้วนแล้วแต่ต้องพึ่งพาหุ่นยนต์ทั้งสิ้น
เรื่องกลับกลายเป็นว่าหุ่นยนต์ที่มีหน้าที่รับใช้มนุษย์ ได้ควบคุมมนุษย์ทั้งหมดไว้แล้วโดยสิ้นเชิงอย่างแนบเนียน และมันกลัวเป็นอย่างมากที่จะต้องกลับไปยังโลก เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นมันก็จะไม่สามารถควบคุมมนุษย์ได้อีกต่อไป
กล้วยหอมนำ"พืช"กลับมาให้กัปตันกล้วยทอดได้ตามภารกิจ กัปตันจึงตัดสินใจใช้ระบบไฮเปอร์จัมพ์เพื่อกลับไปยังดาวบ้านเกิดคือโลกนั่นเอง แต่ปรากฏว่าหุ่นยนต์ควบคุมระบบออโต้ GO-6 หรือกล้วยบูดเน่า ปฏิเสธไม่ให้ใช้
คำสั่งพิเศษ ตากอบน้ำผึ้ง (A191) โดยให้เหตุผลว่าเป็นคำสั่งที่ทางบริษัท รวยกล้วยกล้วย สรุปข้อมูลผิดพลาดเมื่อหลายศตรรษที่แล้ว ถึงยังไงดาวเคราะห์โลกก็ไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้ เมื่อกัปตันกล้วยทอดไม่เชื่อจึงพยายามกดปุ่มคำสั่งแต่กลับถูกออโต้ GO-6 หรือกล้วยบูดเน่า ทำร้ายเอาและบังคับจับตัวไว้ กับใช้ไฟฟ้าแรงสูงช๊อตใส่กล้วยไข่จนแน่นิ่งไป
รวมทั้งปิดระบบทำงานของกล้วยหอมลงและจับหุ่นยนต์ทั้งสองโยนลงสู่บ่อเก็บขยะเพื่อทำลายทิ้งแล้วปล่อยออกไปสู่ห้วงอวกาศ
ฝ่ายกัปตันกล้วยทอดไม่ยอมแพ้ หาทางหลุดพ้นจากการถูกควบคุมตัวจนได้ และกำลังต่อสู้กับ GO-6 หรือกล้วยบูดเน่า อยู่ภายในห้องควบคุมทำให้ยานโคลงเคลงไปมาไร้การควบคุม ผู้โดยสารทุกคนบนยานต่างตื่นตระหนกตกใจกลัวและสับสนอลหม่าน
ในขณะที่กล้วยหอมซึ่งได้รับการช่วยเหลือเปิดระบบทำงานใหม่โดยกล้วยจิ๋วที่บ่อเก็บขยะ จึงรีบนำ"พืช"กลับไปยังเครื่องตรวจสอบ Gypsy Holo Detector ของยาน โดยกล้วยไข่ได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้"พืช"ถูกทำลาย จนตัวเองถูก GO-6 หรือกล้วยบูดเน่า ใช้เครื่อง Gypsy Holo Detector บีบอัดทำให้เสียหายอย่างหนัก
(มีต่ออีกนิดครับ) ^^
😊😁 THE GLOVES 2020 ถุงมือเรื่องสั้น#93 Week#22, 23 - 27 พ.ย. 🍌เรื่อง กล้วยกล้วย - ถุงมือ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด 🍌😊
และเป็นเรื่องแแนวไซไฟเสียด้วย ว่าด้วยเรื่องของหุ่นยนต์ซึ่งปฏิบัตติการณ์แทนมนุษย์ไปแล้วในโลกอนาคต แม้กระนั้น บางที พวกมันก็ทะเลาะกันเอง มีความขัดแย้งถึงกับใช้กำลังต่อกัน แถมยังมีอีกด้านแบบโรแมนติก ให้มนุษย์โลกที่มองเห็นเกิดความอิจฉาได้เสียอีก !!
เรื่องเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 29 ครับ...งั้นเรามาเจาะเวลาไปหาอนาคตกาลกันเลย...
ในศตวรรษที่ 29 ค่านิยมในการบริโภคของมนุษย์ และการละเลยต่อสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้โลกกลายเป็นดินแดนแห้งแล้งรกร้าง ที่สิ่งมีชีวิตทั้งหลายไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะไม่สามารถทำการเกษตรเพาะปลูกอะไรได้เลย เหล่ามนุษยชาติกลุ่มสุดท้ายจึงแก้ปัญหาโดยสร้างโปรเจคยักษ์คือแผนการอพยพคนและสัตว์ต่างๆทั้งหมด มุ่งหน้าสู่ดาวอุลตร้า M77 (คาดว่าจะใช้เวลา ประมาณ 100 ล้านปีแสง แบบเสี่ยงดวงเอาตามข้อมูลที่ยอดมนุษย์อุลตร้าแมนตนหนึ่งในไทย ได้เคยให้ลายแทงไว้) โดยให้บริษัทร่วมทุนสภาประชาชาติสากล (ประเทศไทย คือชาติสมาชิกที่เป็นมหาอำนาจใหญ่ที่สุด) ชื่อว่า บ.รวยกล้วยกล้วย ทำการสร้างสถานีอวกาศขนาดใหญ่ตั้งชื่อว่า ยานต้นกล้วยยักษ์ ที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยอาหารของกินเครื่องใช้ รวมถึงการเดินทางเคลื่อนที่ไปยังจุดต่างๆภายในยาน และจะมีหุ่นยนต์คอยให้ความช่วยเหลือทุกๆการบริการอยู่ตลอดเสมอ
( เจ้าสัวพันกะติ๊บ เหนียวหมูปิ้ง เป็นเจ้าของและประธานบริหารบริษัทรวยกล้วยกล้วย มีเป้าหมายสำคัญคือการครอบครองจักรวาลด้วยผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์ (ทุกประเภทรวมถึงหุ่นยนต์บดอัดขยะ) และยานอวกาศมหึมาที่หรูหรา (อย่างยานต้นกล้วยยักษ์) พันธสัญญาของบริษัทในการสร้างสรรค์อนาคตอันสวยงามได้สะท้อนผ่านทางข้อความดิจิตอลและสปอตวีดิโอโฆษณาชวนเชื่อของพันกะติ๊บฟิวเจอร์โซเชี่ยลมีเดีย ซึ่งมีอยู่ทุกสถานที่ตลอดเวลา แม้ว่าสิ่งต่างๆ จะไม่ได้เป็นไปตามแผนเลยก็ตาม )
เวลาล่วงเลยไปกว่า 700 ปี จากเครื่องบดอัดขยะแบบเก่าที่ถูกพัฒนากลายเป็นหุ่นยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งทาง บ.รวยกล้วยกล้วยได้ทิ้งเอาไว้หลายพันเครื่องทั่วโลก เพื่อทำความสะอาด บดอัดเก็บกวาดรวบรวมขยะจนกลายเป็นกองใหญ่เท่าภูเขากระจายอยู่หลายแห่งทั่วโลก แต่ในปัจจุบันมีเหลืออยู่เพียงหุ่นยนต์ตัวเดียวที่ใช้งานได้และยังคงทำงานอยู่คือ หุ่นยนต์กำจัดขยะ (I-Jitay) หรือ กล้วยไข่
( หุ่นยนต์กำจัดขยะ (I-Jitay) หรือกล้วยไข่ ถูกตั้งโปรแกรมให้เก็บกวาดขยะบนโลกด้วยการบีบอัดมันเป็นรูปสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ แต่หลังจาก 700 ปีผ่านไป เขากลับเริ่มมีบุคลิกลักษณะของตัวเองขึ้นมา เขาเป็นหุ่นยนต์ช่างสงสัย อยากรู้อยากเห็นและอยู่โดดเดี่ยวตามลำพัง โดยมีเพียงแมลงสาปชื่อว่า มะเดี่ยวเป็นเพื่อน กล้วยไข่อัดขยะเป็นสี่เหลี่ยมลูกบาศก์วันแล้ววันเล่าอย่างขยันขันแข็ง เขาได้พบและเก็บสะสมของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆอยู่ตลอดไว้มากมาย เช่นรูบิคลูกบาศก์ หลอดไฟ สปอร์ค เขาเก็บของทั้งหมดเหล่านี้ไว้ในตู้ขนส่งสินค้าที่เขาใช้เป็นที่พักอาศัย กล้วยไข่ที่มีหัวใจโรแมนติก เฝ้าใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งเขาจะได้เจอกับใครซักตน และชีวิตนี้จะต้องมีอะไรมากกว่างานประจำซ้ำซากที่เขาทำอยู่ทุกวัน )
อยู่มาวันหนึ่ง กิจวัตรประจำวันของกล้วยไข่ก็ต้องเปลี่ยนไป เมื่อเขาได้เผชิญหน้ากับหุ่นยนต์สำรวจประเมินพืชพันธุ์ (U-Sabuy) หรือ กล้วยหอม ที่ถูกส่งไปสแกนสำรวจดาวเคราะห์ทั่วทั้งแกแล็คซี่ (แต่ตอนนี้ถูกส่งให้มายังโลก เพื่อตรวจสอบสัญญาณของสิ่งมีชีวิตเผื่อว่ามนุษย์จะสามารถกลับมาอยู่บนโลกได้อีกครั้ง) เพื่อหาสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า"พืช" ระหว่างการเดินทางไปดาวอุลตร้า M77 (ซึ่งตอนนี้ทุกคนตระหนักดีแล้วว่า มันเป็นไปไม่ได้ จึงทำแค่เพียงลอยยานนิ่งเคว้งคว้างในอวกาศ ยื้อเวลาไปเรื่อยๆ และส่งหุ่นยนต์สำรวจไปยังดาวเคราะห์ต่างๆแทน เมื่อพบเป้าหมายแล้วค่อยมุ่งหน้าไป)
( หุ่นยนต์สำรวจประเมินพืชพันธุ์ (U-Sabuy) หรือกล้วยหอม เป็นหุ่นยนต์สาวสุดวาววับแสนไฮเทคล้ำยุค ลำตัวเพรียวลม เธอเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว บินได้และมีอาวุธเป็นปืนเลเซอร์ เธอเป็นหุ่นยนต์เจ้าหน้าที่ระดับสูงและมีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติภารกิจของเธอให้สำเร็จลุล่วงไปให้ได้ )
กล้วยไข่ ถูกหุ่นยนต์สำรวจกล้วยหอม สแกนตรวจพบบางอย่าง เมื่อกล้วยไข่แสดงให้กล้วยหอมเห็นสิ่งที่เขาบังเอิญพบเจอซึ่งแปลกประหลาดล่าสุด นั่นคือต้นกล้าของ"พืช" แต่กล้วยหอมกลับเข้าสู่โหมดสแตนบายนิ่งเงียบทันทีที่เห็นแล้วเก็บต้นกล้าของ"พืช"นั้นไว้ในช่องเก็บของตัวเรียบร้อยแล้ว โดยที่กล้วยไข่ก็ไม่รู้ถึงสาเหตุ จึงทำให้กล้วยไข่ต้องมีภาระคอยดูแลปกป้องกล้วยหอมเพื่อนใหม่จากภัยต่างๆ เช่น ลมพายุ,ฟ้าผ่า,คลื่นร้อน และของเหลวสารเคมีทีเป็นพิษเป็นต้น เพราะกล้วยหอมไม่ยอมตอบสนองใดๆทั้งสิ้น แต่มันก็ทำให้กล้วยไข่รู้สึกผูกพันอย่างไม่มีเหตุผลในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน จากที่เคยอยู่อย่างโดดเดี่ยวมานานหลายร้อยปี
และเมื่อถึงเวลาที่กล้วยหอมถูกเรียกตัวกลับขึ้นไปสู่สถานีอวกาศยานต้นกล้วยยักษ์ กล้วยไข่ก็ได้แอบหลบซ่อนตัว ติดตามจนขึ้นยานไปได้ด้วยเพราะความเป็นห่วงกล้วยหอม เขาต้องทิ้งโลกใบเดียวที่เขามีเพื่อตามหาสิ่งที่เขารักมากที่สุดกลับมา แม้จะต้องเสี่ยงกับการผจญภัยในห้วงอวกาศที่เขาไม่เคยคาดคิดหรือมีประสบการณ์มาก่อนก็ตาม
ในตลอด 700 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยานต้นกล้วยยักษ์เคลื่อนออกจากโลก ผู้โดยสารบนยานทุกคนก็มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงในทางที่ยิ่งแย่ลง เนื่องจากสภาวะไร้น้ำหนักที่ควบคุมร่างกายลำบาก และความเกียจคร้านทำให้พวกเขาใช้หุ่นยนต์หรือเครื่องจักรกลในการทำงานต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน พวกเขาแทบไม่ทำอะไรเลยนอกจากกินและนอนอยู่บนเก้าอี้นวมใหญ์ไฮเท็ค Pe่ver จนมีน้ำหนักที่มากแต่ไร้กล้ามเนื้อ
กัปตันกล้วยทอด ตำแหน่งร้อยเอกผู้ควบคุมยานคนปัจจุบัน (ซึ่งมีหน้าที่ต้องทำกิจวัตรประจำวันแบบซ้ำเดิมอันแสนน่าเบื่อ คือการเช็คและตรวจสอบสถานะของยานด้วย "ออโต้ปอกกล้วย" ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติ) เมื่อได้รับสัญญาณ Gypsy Holo Detector ซึ่งเขาไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่ด้วยความอยากรู้เขาจึงได้ตรวจค้นคว้าข้อมูลเก่าดู จนได้พบและทำให้รู้ว่า เมื่อ 700 ปีก่อนนั้น มนุษย์สามารถปลูกสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า"พืช" แล้วใช้ประโยชน์จากมันเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกได้ ดังนั้นเมื่อได้รับสัญญาณนี้และตรวจสอบแล้วว่าสิ่งมีชีวิตที่ค้นพบคือ"พืช"จริง ยานจะทำการเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่ระบบไฮเปอร์จัมพ์เพื่อกลับสู่โลก เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ที่จะเป็นบุคคลสำคัญที่นำพามนุษยชาติกลับไปใช้ชีวิตที่โลกได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อกล้วยหอมและกล้วยไข่ ได้มาถึงยานสถานีอวกาศเพื่อนำต้นกล้า"พืช"ไปตรวจเช็คที่เครื่องตรวจสอบ กลับพบว่า"พืช"ได้หายไปจากช่องเก็บของๆ กล้วยหอมแล้ว ถึงอย่างนั้นกัปตันกล้วยทอดก็ไม่ถอดใจ ยังคงค้นคว้าศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับโลกอยู่ต่อไปด้วยความกระตือรือร้นอยากรู้ของเขา และมันได้ปลุกกระตุ้นให้เขาได้ค้นพบคุณสมบัติที่แท้จริงในตัวเองเพื่อที่จะก้าวมาเป็นผู้นำที่กล้าหาญอย่างที่เขาไม่เคยคิดฝันมาก่อน
ส่วนหุ่นยนต์กล้วยหอม เมื่อต้นกล้า"พืช"ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย กล้วยหอมจึงถูกประเมินผลว่าระบบขัดคล่องผิดพลาดเพราะส่งสัญญาณไม่ถูกต้องตรงกับเป้าหมายการปฏิบัติงานจริง จึงต้องถูกส่งไปทำการล้างข้อมูลเพื่อซ่อมแซมระบบพร้อมกับหุ่นยนต์ที่ระบบผิดปกติตัวอื่นๆ แต่กล้วยไข่ก็ได้แอบติดตามไปจนถึงห้องซ่อมแซมที่มีหุ่นยนต์ผิดปกติอยู่มากมาย ด้วยความที่ไม่รู้เรื่องระบบเทคโนโลยีล้ำสมัยแต่อยากจะช่วยกล้วยหอม ทำให้กล้วยไข่บังเอิญไปกดปิดระบบล็อคห้องป้องกันอัตโนมัติ ทำให้หุ่นยนต์ที่ผิดปกติทั้งหมดหลุดจากห้องซ่อมแซมบำรุงรักษา ทำให้กล้วยหอมมีความผิดเพิ่มอีกข้อร่วมกับกล้วยไข่ กล้วยหอมจึงรีบพากล้วยไข่ไปที่ยานกระสวยอวกาศฉุกเฉิน เพื่อส่งกล้วยไข่กลับไปยังโลกจะได้ยุติเรื่องวุ่นวายทั้งหมดเหล่านี้
แต่ก่อนที่กระสวยจะพุ่งออกไปมุ่งหน้าสู่โลก ได้มีหุ่นยนต์ทำความสะอาดตัวจิ๋ว หรือ กล้วยจิ๋ว นำต้นกล้า"พืช"มาทิ้งไว้ในกระสวย เมื่อกล้วยหอมเห็นเช่นนั้นจึงรีบบินตามกระสวยโดยหวังจะไปนำ"พืช"กลับมาตามภารกิจให้ได้ แต่ไม่ทันไรกระสวยลำนั้นก็เกิดผิดปกติระเบิดขึ้นเสียก่อน แต่โชคยังดีที่กล้วยไข่ไปกดถูกปุ่มดีดตัวเด้งออกมาจากกระสวยได้ทัน จึงได้รับความเสียหายเพียงบางส่วนไม่มาก กล้วยหอมบินตามไปอุ้มรับกล้วยไข่ที่ลอยเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศ(เพราะกล้วยไข่เหาะไม่ได้) แล้วพบว่า กล้วยไข่เก็บต้นกล้า"พืช"ไว้ในช่องบีบอัดขยะของเขา ทั้งคู่จึงบินร่อนในอวกาศด้วยความดีใจอย่างยิ่ง กลายเป็นภาพที่แสนประทับใจให้นางส้มโอกับนายแตงโม และคนบนยานคนอื่นๆได้เห็นทั่วกัน
( นางส้มโอกับนายแตงโม เป็นมนุษย์สองคนที่อาศัยอยู่บนยานต้นกล้วยยักษ์ ที่ซึ่งพวกเขาใช้ชีวิตอยู่อย่างหรูหราสุขสบาย การมาถึงของกล้วยไข่ได้ปลุกกระตุ้นพวกเขาให้ออกจากกิจวัตรประจำวันของตัวเองและทำให้พวกเขาได้ตระหนักถึงการมีตัวตนของคนอื่นๆ ซึ่งบางทีมันก็อาจมีอะไรในชีวิตที่มากกว่าการล่องลอยไปมาในเก้าอี้สุดแสนไฮเทคของพวกเขาอย่างนั้นก็ได้ )
ความจริงเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะหุ่นยนต์ควบคุมระบบออโต้ GO-6 หรือ กล้วยบูดเน่า ของยานต้นกล้วยยักษ์ ที่ควบคุมระบบมาตลอด 700 ปีที่ผ่านมา แต่ในความเป็นจริงนั้นมันศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์เพื่อป้อนสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่างๆนานาให้จนมนุษย์ต้องตกเป็นทาส ไม่สามารถทำแม้แต่เรื่องง่ายๆ อย่างเช่น การล้างหน้าแปรงฟันด้วยตัวเองได้ ทุกอย่างทุกกิจกรรมล้วนแล้วแต่ต้องพึ่งพาหุ่นยนต์ทั้งสิ้น เรื่องกลับกลายเป็นว่าหุ่นยนต์ที่มีหน้าที่รับใช้มนุษย์ ได้ควบคุมมนุษย์ทั้งหมดไว้แล้วโดยสิ้นเชิงอย่างแนบเนียน และมันกลัวเป็นอย่างมากที่จะต้องกลับไปยังโลก เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นมันก็จะไม่สามารถควบคุมมนุษย์ได้อีกต่อไป
กล้วยหอมนำ"พืช"กลับมาให้กัปตันกล้วยทอดได้ตามภารกิจ กัปตันจึงตัดสินใจใช้ระบบไฮเปอร์จัมพ์เพื่อกลับไปยังดาวบ้านเกิดคือโลกนั่นเอง แต่ปรากฏว่าหุ่นยนต์ควบคุมระบบออโต้ GO-6 หรือกล้วยบูดเน่า ปฏิเสธไม่ให้ใช้คำสั่งพิเศษ ตากอบน้ำผึ้ง (A191) โดยให้เหตุผลว่าเป็นคำสั่งที่ทางบริษัท รวยกล้วยกล้วย สรุปข้อมูลผิดพลาดเมื่อหลายศตรรษที่แล้ว ถึงยังไงดาวเคราะห์โลกก็ไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้ เมื่อกัปตันกล้วยทอดไม่เชื่อจึงพยายามกดปุ่มคำสั่งแต่กลับถูกออโต้ GO-6 หรือกล้วยบูดเน่า ทำร้ายเอาและบังคับจับตัวไว้ กับใช้ไฟฟ้าแรงสูงช๊อตใส่กล้วยไข่จนแน่นิ่งไป รวมทั้งปิดระบบทำงานของกล้วยหอมลงและจับหุ่นยนต์ทั้งสองโยนลงสู่บ่อเก็บขยะเพื่อทำลายทิ้งแล้วปล่อยออกไปสู่ห้วงอวกาศ
ฝ่ายกัปตันกล้วยทอดไม่ยอมแพ้ หาทางหลุดพ้นจากการถูกควบคุมตัวจนได้ และกำลังต่อสู้กับ GO-6 หรือกล้วยบูดเน่า อยู่ภายในห้องควบคุมทำให้ยานโคลงเคลงไปมาไร้การควบคุม ผู้โดยสารทุกคนบนยานต่างตื่นตระหนกตกใจกลัวและสับสนอลหม่าน ในขณะที่กล้วยหอมซึ่งได้รับการช่วยเหลือเปิดระบบทำงานใหม่โดยกล้วยจิ๋วที่บ่อเก็บขยะ จึงรีบนำ"พืช"กลับไปยังเครื่องตรวจสอบ Gypsy Holo Detector ของยาน โดยกล้วยไข่ได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้"พืช"ถูกทำลาย จนตัวเองถูก GO-6 หรือกล้วยบูดเน่า ใช้เครื่อง Gypsy Holo Detector บีบอัดทำให้เสียหายอย่างหนัก
(มีต่ออีกนิดครับ) ^^