สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
อยู่ในประเทศดีอันดับ3ของโลกสำหรับการจัดอันดับสุขภาพและความเป็นอยู่ของเด็กๆ
คาร์ซีทหรือเบาะรองนั่งในรถ เป็นเรื่องจริงจังมาก เด็กๆทุกคนต้องใช้จนสูงถึง 130 ซม. เป็นกฏหมายค่ะ
ทางนี้หลังคลอดเสร็จถ้าจะพาลูกกลับบ้านไม่มีคาร์ซีท หมอพยาบาลไม่อนุญาติให้พาเด็กออกโรงพยาบาลค่ะ หมอพยาบาลเห็นเพราะคำแนะนำคทอเอากระเช้าคาร์ซีทไปรับลูกค่ะ
(ยกเว้นกรณีที่เดินมา คือมีสโตรลเลอร์เด็กอ่อนมาด้วยลักษณะเป็นแบบนี้ค่ะ ) แต่ตัวนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับพาเด็กอ่อนนั่งรถค่ะ.
คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด ใช้แบบที่เป็นกระเช้าค่ะ ติดตั้งแบบกลับหลัง เวลาเบรครถจะลดแรกกระตุกได้ดีกว่าหันหน้าค่ะ
คำแนะนำทางนี้คือ เด็กแรกเกิดไม่ควรนั่งด้านหลังคนเดียว และนั่งไม่เกิน30นาทีค่ะ.
หากลูกคอเริ่มแข็งแล้ว นั่งไม่เกิน2ชั่วโมงค่ะ. ต้องอุ้มออกมาเปลี่ยนอริยาบทบ้าง (ทำได้เฉพาะตอนรถจอดนะคะ)
ห้ามให้ลูกดื่มน้ำหรือนมอะไรทั้งสิ้นในระหว่างนี้
พอลูกเริ่มโตพอที่จะคลานได้ คอแข็งแรงพอแล้วก็ค่อยสลับมาหันหน้าไปด้านหน้าและเลิกใช้แบบกระเช้าได้ค่ะ.
เปลี่ยนเป็นคาร์ซีทธรรมดาได้เลย
สำคัญมากๆ คือต้องติดตั้งให้ถูกค่ะ พ่อแม่ส่วนมากถึง90% ติดตั้งคาร์ซีทไม่ถูกต้องค่ะ อันนี้ศูนย์เด็กเล็กที่นี่บอกมาค่ะ.
ขอแนะนำพ่อแม่ทั้งหลายว่า คาร์ซีทตั้งแต่เกิดค่ะ. ลูกจะได้ชินด้วย จะมาฝึกตอนโตนิดนิดก็ฝึกยากกว่าค่ะ
ถ้ามันไม่สำคัญจริง ทำไมหลายๆชาติถึงออกกฏหมายตัวนี้มาค่ะ.
คาร์ซีทหรือเบาะรองนั่งในรถ เป็นเรื่องจริงจังมาก เด็กๆทุกคนต้องใช้จนสูงถึง 130 ซม. เป็นกฏหมายค่ะ
ทางนี้หลังคลอดเสร็จถ้าจะพาลูกกลับบ้านไม่มีคาร์ซีท หมอพยาบาลไม่อนุญาติให้พาเด็กออกโรงพยาบาลค่ะ หมอพยาบาลเห็นเพราะคำแนะนำคทอเอากระเช้าคาร์ซีทไปรับลูกค่ะ
(ยกเว้นกรณีที่เดินมา คือมีสโตรลเลอร์เด็กอ่อนมาด้วยลักษณะเป็นแบบนี้ค่ะ ) แต่ตัวนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับพาเด็กอ่อนนั่งรถค่ะ.

คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด ใช้แบบที่เป็นกระเช้าค่ะ ติดตั้งแบบกลับหลัง เวลาเบรครถจะลดแรกกระตุกได้ดีกว่าหันหน้าค่ะ

คำแนะนำทางนี้คือ เด็กแรกเกิดไม่ควรนั่งด้านหลังคนเดียว และนั่งไม่เกิน30นาทีค่ะ.
หากลูกคอเริ่มแข็งแล้ว นั่งไม่เกิน2ชั่วโมงค่ะ. ต้องอุ้มออกมาเปลี่ยนอริยาบทบ้าง (ทำได้เฉพาะตอนรถจอดนะคะ)
ห้ามให้ลูกดื่มน้ำหรือนมอะไรทั้งสิ้นในระหว่างนี้
พอลูกเริ่มโตพอที่จะคลานได้ คอแข็งแรงพอแล้วก็ค่อยสลับมาหันหน้าไปด้านหน้าและเลิกใช้แบบกระเช้าได้ค่ะ.
เปลี่ยนเป็นคาร์ซีทธรรมดาได้เลย

สำคัญมากๆ คือต้องติดตั้งให้ถูกค่ะ พ่อแม่ส่วนมากถึง90% ติดตั้งคาร์ซีทไม่ถูกต้องค่ะ อันนี้ศูนย์เด็กเล็กที่นี่บอกมาค่ะ.
ขอแนะนำพ่อแม่ทั้งหลายว่า คาร์ซีทตั้งแต่เกิดค่ะ. ลูกจะได้ชินด้วย จะมาฝึกตอนโตนิดนิดก็ฝึกยากกว่าค่ะ
ถ้ามันไม่สำคัญจริง ทำไมหลายๆชาติถึงออกกฏหมายตัวนี้มาค่ะ.
ความคิดเห็นที่ 9
ตอนเราไปคลอดจะเอาลูกกลับบ้าน พยาบาลก็บอกแบบนี้แต่เราไม่สนใจจะใช้คาร์ซีท พยาบาลก็ต้องยอมอะทำอะไรไม่ได้นี่เพราะเราเป็นพ่อแม่
ช่วงแรกที่ใช้ปู่ย่าตายายก็บ่นหลานอึดอัดบ้างล่ะหลานไม่สบายตัวบ้างล่ะ แต่เราไม่สนใจ เราทำตามแบบของเรา เพราะเราเลี้ยงเอง แยกบ้านออกมาไม่มีคนช่วยและไม่ให้ช่วยด้วยเรากลัวปัญหาการเลี้ยงที่เห็นไม่ตรงกัน (ขนาดเจออาทิตย์ละครั้งยังจะบอกให้ทำแบบนั้นแบบนี้ ถ้ามาช่วยเลี้ยงจริงเราคงเครียดน่าดู)
มีครั้งนึงนั่งรถไปกับปู่ย่า ลูกเราร้อง ปู่ย่าก็สงสารจะให้เอาออกจากคาร์ซีท เราไม่ยอม สามีก็ไม่ยอม พูดจนเครียดกันทั้งรถคือแทบจะทะเลาะกันแล้ว แต่ก็ไม่ยอมค่ะ
พอโตหน่อย ลูกรู้เรื่อง นั่งจนชิน ทีนี้ปู่ย่าตายายชมใหญ่บอกดี สบายด้วยไม่ต้องอุ้มให้เมื่อย ไม่มีมาปีนป่ายในรถ
จริงๆพยาบาลเด็หควรอบรมเรื่องนี้ได้แล้วนะ คนใช้กันเยอะแยะ ยิ่งโรงพยาบาลเอกชนยิ่งควรอบรมเลย ถ้าบ้านไหนมีก็อย่าไปขัดช่วยส่งเสริมไปเลย แล้วช่วยพูดให้ปู่ย่าตายายที่ไม่เห็นด้วยให้คล้อยตามได้ยิ่งดี
ช่วงแรกที่ใช้ปู่ย่าตายายก็บ่นหลานอึดอัดบ้างล่ะหลานไม่สบายตัวบ้างล่ะ แต่เราไม่สนใจ เราทำตามแบบของเรา เพราะเราเลี้ยงเอง แยกบ้านออกมาไม่มีคนช่วยและไม่ให้ช่วยด้วยเรากลัวปัญหาการเลี้ยงที่เห็นไม่ตรงกัน (ขนาดเจออาทิตย์ละครั้งยังจะบอกให้ทำแบบนั้นแบบนี้ ถ้ามาช่วยเลี้ยงจริงเราคงเครียดน่าดู)
มีครั้งนึงนั่งรถไปกับปู่ย่า ลูกเราร้อง ปู่ย่าก็สงสารจะให้เอาออกจากคาร์ซีท เราไม่ยอม สามีก็ไม่ยอม พูดจนเครียดกันทั้งรถคือแทบจะทะเลาะกันแล้ว แต่ก็ไม่ยอมค่ะ
พอโตหน่อย ลูกรู้เรื่อง นั่งจนชิน ทีนี้ปู่ย่าตายายชมใหญ่บอกดี สบายด้วยไม่ต้องอุ้มให้เมื่อย ไม่มีมาปีนป่ายในรถ
จริงๆพยาบาลเด็หควรอบรมเรื่องนี้ได้แล้วนะ คนใช้กันเยอะแยะ ยิ่งโรงพยาบาลเอกชนยิ่งควรอบรมเลย ถ้าบ้านไหนมีก็อย่าไปขัดช่วยส่งเสริมไปเลย แล้วช่วยพูดให้ปู่ย่าตายายที่ไม่เห็นด้วยให้คล้อยตามได้ยิ่งดี
ความคิดเห็นที่ 6
เข้าใจคุณมากๆ ตอนเราคลอดลูกคนแรก5ปีก่อน รพเอกชนกลางกทม.ชื่อดังเรื่องฝากครรภ์แม่และเด็ก เราเตรียมคารซีทติดรถมาอย่างดี พยาบาลมาส่งที่รถพอเราอุ้มจะวางลงคารซีทพยาบาลบอกเหมือนของคุณ น้องยังเล็กไปมันจะไม่ปลอดภัยนะคะ ให้แม่อุ้มเถอะค่ะ เราตอนนั้นลูกคนแรกก็ลังเลเขวไปอีก ตัดปัญหาอุ้มขึ้นรถ พอลับตาพยาบาลเรากะสามีจอดรถและเอาลูกใส่คารซีทค่ะ กลับบ้านมาเราก็ร้องเรียนไป มาคลอดลูกคนที่สองตอนกลางปีนี้ รพ.เดิม พยาบาลพูดเหมือนเดิมเลยค่ะ แต่เราไม่สนพยาบาลแล้วค่ะจุดนี้เราบอกพยาบาลไปขอบคุณค่ะพี่ส่งเท่านี้ก็พอค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ แล้วเมินพยาบาลเลย ใส่คารซีทของเราไป ของคุณดันมีแม่ยายมาด้วยเรื่องเลยยากขึ้น คนแก่ประเทศเราไม่ชินกับคารซีทอยู่แล้วยิ่งมีคำพูดพยาบาลสนับสนุนความคิดแกอีกยิ่งต้องใช่แน่ๆ สถานการณ์น่าอึดอัดจริงๆ ควรร้องเรียนไปนะคะ ยุคนี้แล้วคารซีทสำคัญมากๆ ไม่ใช่ว่าเราขับปลอดภัยแล้วมันจะปลอดภัยอย่างใจ ควรร้องเรียนไปที่รพ.มากๆค่ะ
เดี๋ยวจะต้องมีเวลาเด็กอยู่ในคารซีทแล้วร้องจะออกให้อุ้มๆแม่ยายอยู่ด้วยในรถ สถานการอึดอัดกดดันจริงๆเลยค่ะเราเจอมาแต่เป็นกับแม่สามี เด็กก็ร้องแม่ก็กดดัน ที่เราทำเรายืนยันจุดยืนเลยค่ะ ไม่เอาออกค่ะ ต้องจอดรถก่อน พูดเรียบๆแต่จริงจัง สู้นะคะ ค่อยๆปรับกันไป
เดี๋ยวจะต้องมีเวลาเด็กอยู่ในคารซีทแล้วร้องจะออกให้อุ้มๆแม่ยายอยู่ด้วยในรถ สถานการอึดอัดกดดันจริงๆเลยค่ะเราเจอมาแต่เป็นกับแม่สามี เด็กก็ร้องแม่ก็กดดัน ที่เราทำเรายืนยันจุดยืนเลยค่ะ ไม่เอาออกค่ะ ต้องจอดรถก่อน พูดเรียบๆแต่จริงจัง สู้นะคะ ค่อยๆปรับกันไป
แสดงความคิดเห็น
เด็กแรกเกิดไม่ควรนั่งคาร์ซีท เพราะไม่ปลอดภัย ให้แม่อุ้มปลอดภัยกว่า / พยาบาลบอกแบบนี้ เครียดมาก
สวัสดีครับ พ่อๆแม่ๆ Pantip ผมมีเรื่องอัดอั้นตันใจอยากมาเล่าให้ฟังครับ
พึ่งไปรับลูกกลับบ้านมาครับ จากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง *ขออนุญาตเอาชื่อโรงพยาบาลออกนะครับ*
น้องผ่าคลอดตามเกณฑ์ ไม่ได้คลอดก่อนกำหนด น้องแข็งแรงดีครับ
ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมคุณหมอ ทั้งคุณหมอที่ทำคลอด และคุณหมอเด็ก ที่ดูแลลูกและภรรยาผมอย่างเอาใจใส่
บริการดีมากๆครับ ประทับใจนะครับ พยาบาลก็ดีมากครับ ใส่ใจดูแลอย่างดี
ก่อนพาน้องกลับ ผมได้เตรียมคาร์ซีทแบบกระเช้าของ Graco รุ่นสำหรับเด็กอ่อน (0-9 เดือน) เอาไว้ ซื้อมา 3 หมื่นกว่าบาทครับ (เป็นเซ็ตพร้อมรถเข็น)
ทุกอย่างราบรื่นดีมากครับ จนกระทั้งถึงเวลากลับ ผมจะเอาน้องลงคาร์ซีม(ที่ประกอบกับรถเข็นไว้แล้ว) แต่พยาบาลไม่ยอมครับ เขาบอกว่าขอลงไปส่งน้องที่รถ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าเป็นระเบียบของโรงพยาบาลเอกชนส่วนใหญ่ ที่ต้องไปส่งคนไข้ให้ถึงหน้าประตู ก็ไม่ได้ติดใจอะไรในจุดนี้ครับ เป็นบริการที่ดี ที่เอาใจใส่ลูกค้านะครับ
พออะไรเรียบร้อยแล้ว พยาบาลของเนิร์สเซอรี่ก็เข็นแม่และน้องลงมาส่ง (รถเข็นของโรงพยาบาล สำหรับเด็กเล็ก เป็นที่นอนแบบเข็นได้)
พอมาถึงหน้าประตู ผมก็จะเตรียมน้องลงคาร์ซีท ก็เกิดเรื่องครับ
พยาบาลเนิร์สเซอรี่ไม่ยอมให้ผมเอาน้องลงคาร์ซีทครับ
ผมก็บอกว่า "ให้น้องนั่งคาร์ซีทดีกว่าครับ อันนี้เป็นรุ่นสำหรับเด็กแรกเกิด ปลอดภัยกว่าเวลาอยู่บนรถ"
คราวนี้เวรเปลก็เสริมขึ้นมาว่า "อย่าเลยครับ น้องยังเล็กอยู่เลย"
แม่ยายก็ไม่ยอมให้ผมเอาลูกลงคาร์ซีท เพราะคิดว่ามันอันตรายกับเด็ก
ผมไม่ยอม ผมจะเอาลูกลงคาร์ซีท เพราะอยากให้ลูกได้รับการป้องกันเหตุไม่คาดฝันอย่างดีที่สุด
ก็ถกเถียงกันอยู่เล็กน้อย
พยาบาลก็พูดขึ้นมาว่า "คุณพ่อคะน้องยังเล็กมากอย่าพึ่งให้น้องนั่งคาร์ซีทเลยมันไม่ปลอดภัย ให้คุณแม่อุ้มไปเถอะนะคะปลอดภัยกว่าค่ะ ให้คุณแม่อุ้มน้องเถอะนะคะ"
ผมนี่เงิบไปพักนึงเลย ทุกคนในที่นั้นก็พยายามทัดทานผม
พอได้สติผมก็เริ่มเสียงแข็งใส่ทุกคนในที่นั้นว่า "ไม่ได้ครับ แล้วถ้าเกิดรถชนล่ะ"
แม่ยายก็บอกให้ผมขับรถดีๆสิ
พอถึงตรงนี้ ภรรยาผมก็ร้องไห้
ผมจำต้องหยุดทุกอย่างแล้วเดินไปเอารถ ผมพยายามติดต่อหมอเด็กทางโทรศัพท์ในระหว่างเดินไปที่รถ แต่เนื่องจากคุณหมอขึ้นเยี่ยมคนไข้ที่วอร์ด จึงมีพยาบาลรับเรื่องจะให้คุณหมอโทรกลับ
สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ แล้วขับรถมารับลูกขึ้นรถทั้งอย่างนั้น
พอถึงหน้าประตู ภรรยาก็อุ้มลูกขึ้นมานั่งเบาะหน้า ผมจึงไล่ให้ภรรยาย้ายไปนั่งเบาะหลัง แล้วชี้ป้ายเตือนที่ติดตรงแผ่นบังแดดให้ดูว่าเด็กเล็กห้ามมาอยู่เบาะหน้า
ระหว่างทางที่ขับกลับบ้าน ผมเครียดไปหมด กังวลไปทุกสิ่งอย่าง แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมา
มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บใจมาก ว่าลูกเราแค่คนเดียวเรายังไม่มีปัญญาต่อสู้เพื่อมอบความปลอดภัยในการเดินทางให้กับเขาได้
วันนั้นผมจับรถกลับบ้านด้วยความเร็วไม่ถึง 40 คลานกลับไปจนถึงบ้าน
ผมโกรธมากๆครับ ผมอยากจะถามพยาบาลคนนั้นมาก ว่าคุณเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเด็กแรกเกิด ทำไมคุณถึงกล้าพูดอะไรแบบนั้นออกมา คุณไม่ศีกษา ไม่เรียนรู้หรอว่า สถิติสาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้เด็กตายบนท้องถนน เพราะให้แม่อุ้ม/ไม่นั่งคาร์ซีท
คุณพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง
ใช่ครับ อุบัติเหตุมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ
แต่ถ้ามันเกิดล่ะ?
เราถึงบ้านกันอย่างปลอดภัยครับ
แต่พอถึงบ้าน ผมต้องมาเจอปัญหาครอบครัว เถียงกันเรื่องนี้กับแม่ยายและภรรยา
ผมผิดมากไหม ที่ปกป้องลูกไม่ได้ นึกขึ้นมาทีไร ผมยังน้ำตาไหลอยู่เลย
โชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้ามันเกิดล่ะ แค่คิดผมก็จะขาดใจตายแล้ว