ในที่สุดหลังทำงานมาสักพัก ก็ได้เวลาซื้อคอนโดห้องแรกในชีวิต หลังจากผ่านขั้นตอนเซ็นสัญญากับทางโครงการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วง “ตรวจคอนโด” เพื่อดูความเรียบร้อยและแก้ไขให้สมบูรณ์ก่อนจะรับโอนห้อง

ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นมือใหม่ในเรื่องการซื้อคอนโดมากๆ ค่ะ ในตอนแรกก็ไม่ค่อยเข้าใจการตรวจรับเท่าไหร่ นึกว่าเราสามารถตรวจด้วยตัวเองได้ เพราะมีพี่ชายเรียนจบวิศวะโยธามา (แต่นางดันทำสาย transport) คิดไปเองว่าให้นางช่วยดูได้ วันที่ไปเซ็นต์สัญญากับโครงการ เลยขอกุญแจแว็บขึ้นไปดูห้องมารอบนึง เรากับพี่ชายก็ได้ตรวจเองก่อนค่ะ ซึ่งก็เห็นตำหนิพวก รอยร้าว รอยขีดข่วนบนหนัง ซิลิโคลนไม่เรียบร้อย ดูการระบายน้ำในห้องน้ำ ดูมุมดูฉากต่างๆ ว่าได้องศาดีมั้ย ซึ่งเราคิดว่าพี่ชายเราดูค่อนข้างละเอียดและลึกกว่าคนทั่วๆไปแล้ว แต่นางดันบอกว่า “แกควรจ้างบริษัทตรวจดีกว่า เพราะยังมีเรื่องของงานระบบอีก ระบบไฟเอย ระบบน้ำเอย มีอีกหลายอย่างที่ค่อนข้างละเอียด มีดีเทล และเราเองก็ตรวจเองไม่ได้จริงๆ มันไม่ใช่แค่ใช้ตามองแล้วมาร์คจุดที่มีตำหนิ”

ไอ้เราตอนแรกก็อยากจะประหยัดเงินค่าจ้างตรวจ แต่พี่ชายที่เป็นวิศวกรแท้ๆ ยังบอกให้จ้างตรวจเถอะ ก็เลยเชื่อนาง จะได้หายกังวล เพราะนี่ก็คอนโดห้องแรกในชีวิต อยากจะให้ออกมาดีที่สุด

สรุปคือตัดสินใจจ้างบริษัทตรวจรับบ้านและคอนโดที่นึงไปค่ะ ต้องจองคิวก่อนนะคะ เพราะงานเค้าค่อนข้างแน่น แต่โชคดีมากกกกก เราได้คิวหลังจากวันที่เซ็นต์สัญญาถัดมาอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ เพราะมีคิวหลุดจอง ก็นัดวันเวลากันค่ะ แล้วโอนเงินมัดจำให้ทางบริษัทก่อนครึ่งนึง

.
.
วันตรวจรับ - เจ้าหน้าที่มากันสองคนค่ะ คอนโดเราเป็นห้องสตูดิโอ ขนาดแค่ 23 ตร.ม ตอนแรกคิดว่า
จะทีมงานมาแค่คนเดียว ซึ่งก็ดีแล้วค่ะ เพราะพี่เค้าช่วยกันตรวจแบ่งหน้าที่ ทำให้ประหยัดเวลาในการตรวจลงได้เยอะทีเดียว

มาตรวจห้องกันจ้าาา สิ่งแรกที่ทางทีมงานเริ่มทำก็คือนำไม้มาเคาะกระเบื้องผนังห้องน้ำทั่วห้องเพื่อฟังเสียงว่าอันไหนโปร่งมีโพรง  โชคดีห้องเราไม่ได้มีปัญหาอะไรตรงนี้ เรามองดูแล้วคอนโดเองก็ทำค่อนข้างดีเลยนะ ปูกระเบื้องสวยดี ยาแนวก็ดูเรียบร้อย สวยดีค่ะ

        

หลังจากตรวจผนังเสร็จ ก็เปิดน้ำให้ขังไว้ในห้องน้ำเพื่อรอดูการระบายน้ำภายหลัง



ขณะเดียวกันพี่อีกคนก็ไปตรวจเช็คมีตเตอร์น้ำ และวาว ของห้องเราว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ ผลก็คือเรียบร้อยดี เย้



แว็บมาต่อในห้องน้ำ นอกจากจะต้องเช็คผนังแล้ว ส่วนอื่นๆ ก็ต้องตรวจเช่นกัน ไม่ว่าจะพื้น ธรณีประตู ตรงไหนมีปัญหา ทางทีมจะแปะสติ๊กเกอร์เขียนว่าแก้ไข เพื่อให้ทางโครงมาแก้ไขได้ถูก ห้องของเราจะมีปัญหาตรงธรณีประตูที่พอเคาะแล้วมันกลวงเพราะเหมือนไม่มีปูนรองอยู่ด้านล่าง และพวกเล็กๆ น้อยๆ เช่น ขอแขวนผ้าติดตั้งเบี้ยว 



สเต็ปต่อมาที่สำคัญมาก ภาวนาให้ไม่มีปัญหาเถอะนะ นั่นคือการทดสอบการรั่วซึมของประตูบานเลื่อนตรงระเบียง โดยวิธีที่ทางทีมงานใช้ตรวจสอบคือ การต่อท่อลองฉีดน้ำแรงๆใส่ แล้วคอยดูว่ามีน้ำรั่วเข้ามาตามช่อง ตามขอบของประตูบานเลื่อนมั้ย เผื่อว่าฝนตกลมแรงแล้วสาดเข้าห้อง จะได้มั่นใจว่าไม่มีน้ำรั่วซึมเข้ามาในห้อง โดยเฉพาะตรงขอบพื้นที่ส่วนใหญ่ห้องที่มีปัญหาจะมีน้ำซึมเข้ามา ทำให้พื้นบริเวณนั้นบวมได้ 
.
.
และผลคือ ‘ผ่านจ้า’ เย้



ขณะดียวกันพี่ผู้หญิงก็เช็คตรงครัวต่อ เริ่มจากเปิดน้ำใส่ซิ้งค์รอดูการระบายน้ำ และดูความเรียบร้อยของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ก็อกน้ำมีสนิมขึ้นหรือไม่ ซิลิโคลนยึดซิงค์เรียบร้อยดีไหม



ต่อมาก็เริ่มไล่ดู defect ตามตู้ตามเฟอร์ built-in ที่โครงการให้มา ตัวเราและทีมงานก็ตรวจร่วมกัน โดยการเปิดปิด ทำตัวเสมือนใช้งานจริง บางจุดเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้ามองจริงๆก็มีผลกับใช้งานเหมือนกันนะ เช่น บานพับที่ไม่เสมอ ถ้าเปิดครั้งเดียวคงไม่รู้สึกอะไร แต่นี่เราจะต้องอยู่กับมันไปอีกนานนนนนนน เปิด-ปิดก็บ่อย ถ้ามีเสียงดัง หรือปิดบานนึง อีกบานนึงก็เด้งออกมา ปิดแล้วไม่สนิทดูไม่เรียบร้อยคงรำคาญใจอยู่ไม่น้อย รีบแก้ซะตั้งแต่แรกจะดีกว่า โครงการของเราใช้เฟอร์จาก Index ซึ่งทางโครงการจะให้ช่างของ Index เข้ามาแก้ไขให้ค่ะ



หน้าต่างมีความเปิด-ปิดยาก เหมือนเค้าติดตั้งแล้วขอบมันเบียดกันเกินไป
และบานเลื่อนกั้นห้องที่โครงการ(บอกว่า)แถมมาให้  ก็ค่อนข้างฝืดเพราะติดตั้งเอียง และขบกัน
ทางทีมงานใช้ปากกาเขียนกระจกเขียนไว้ให้ช่างที่มาแก้ไขแบบนี้เลย  ซึ่งเห็นชัดเจนดี ชอบมากเลยวิธีนี้



ตรวจพื้น ทีมงานตรวจโดยการเดินหยียบและเคาะทุกบริเวณของห้องว่า เดินแล้วเกิดเสียงมั้ย วางลามิเนตไม่พอดีกัน มีร่อง มีจุดที่ยวบ หรือด้านล่างไม่มีโฟมรองรึเปล่า ห้องของเราพบตรงใกล้ๆธรณีประตูบริเวณไม่มีโฟมรองด้านล่าง ทำให้ด้านล่างกลวง ยวบ และมีเสียง คาดว่าตอนแก้ไขคงต้องยกพื้นใหม่หมด5555555 (ร้องไห้แน้ว)

งานพื้นและบัว พี่เค้าตรวจค่อนข้างละเอียดใช้ได้เลย สติ๊กเกอร์แดงแปะเต็มพื้น เห็นแล้วหวั่นใจต้องแก้กันบานแน่เลย แต่โดยรวมพี่เค้าบอกว่าห้องของเรา ’ไม่ได้แย่’ นะ อันนี้เป็นเรื่องของความเรียบร้อยมากกว่า ซึ่งก็ทำให้เราใจชื้นขึ้นมาหน่อยไม่งั้นคงเฟลหนัก 



ต่อมาเป็นงานผนัง ตรงไหนเป็นรอยร้าว มีรอยเปื้อน ทีมงานจะแปะมาร์กไว้ และขีดเส้นให้เห็นชัดเจน เพื่อทำรีพอร์ตส่งโครงการในการแก้ไขกันต่อไป ตอนเห็นรอยร้าวใหญ่ยาวกลางห้องกับที่สีที่กร่อนออกมา ก็แอบเครียดนะ ว่าห้องเราไม่ดี ไม่เพอร์เฟ็กต์ ฮือออ แต่พี่เค้าให้ความรู้ว่ามันเป็นพื้นผิวของชั้นนอก ไม่ใช่โครงสร้าง เป็นแค่เรื่องของความสวยงามเช่นกัน ต้องให้โครงการมาแก้โดยการโป้วและทาสีให้เนี๊ยบๆเท่านั้นเอง


มาต่อที่งานระบบกันบ้าง พี่เค้าเอาอุปกรณ์ต่อพ่วงบริเวณบล็อกไฟเพื่อที่จะตรวจสอบสายไฟน้ำอุ่น  ซึ่งจะดูการใช้งานของระบบสายดิน และระบบตัดไฟ เซฟทีคัท ทางทีมงานอธิบายว่า ไฟสีแดงคือมีไฟเข้า ส่วนไฟสีเขียวคือแสดงว่ามีสายดิน และถ้าขึ้นทั้งสองแปลว่าครบระบบแล้ว เราสามารถซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นแล้วมาติดตั้งได้เลย แต่ต้องดูกำลังวัตต์ที่รองรับได้ อย่างคอนโดเราเป็น 3500w สำหรับคนที่กำลังจะซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นต้องดูดีๆนะคะ เราจะได้ไม่ซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาผิด 



และเมื่อกดปุ่มสีเหลืองเล็กๆ ตรงกลาง จะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟรั่ว เพื่อทดสอบดูการตัดไฟของห้องเราว่าทำงานหรือไม่ พอกดปุ๊ปไฟก็ตัดเลยค่ะ โดยบริเวณที่ไฟจะตัดนั้นเป็นส่วนของเครื่องทำน้ำอุ่นและตรงครัวที่ทางโครงการทำไว้เพื่อป้องกันความปลอดภัยเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นส่วนที่ใช้ไฟค่อนข้างเยอะ โอกาสที่ไฟจะรั่วมีสูงมากกว่าจุดอื่น



เมื่อเดินมาดูตรงคัทเอ้าท์ ก็จะพบว่าคัทเอ้าท์ถูกสับลงเนื่องจากการตัดไฟเมื่อสักครู่นี้ เช็คลิสต์เรื่องความปลอดภัยไปหนึ่ง เย้



ทำการทดสอบแบบเดียวกับปลั๊กตรงส่วนครัว ดูเรื่องการตัดไฟ เพราะตรงส่วนนี้จะใช้ไฟฟ้าเยอะ และตรงนี้ก็ผ่านจ้าาาาา



ต่อมาก็ตรวจปลั๊กทุกจุดในห้อง โดยใช้เครื่องหน้าตาแบบนี้ตรวจ หากขึ้นสีเขียวและแดงแบบในรูปแปลว่า ‘ปกติ’ เดินสายไฟถูกต้อง ในบางกรณี แม้เราจะต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วมีไฟเข้า ใช้งานได้ปกติก็จริง แต่สายไฟด้านในอาจเดินมาผิด หรือสลับเส้นซ้ายขวา ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ในอนาคต  เพราะฉะนั้นตรวจให้เซฟตั้งแต่ทีแรกจะเป็นผลดีมากๆ 
.
.
ผลก็คือห้องเราผ่านทุกจุดจ้า สบายใจไปอีกหนึ่ง



ส่วนเครื่องนี้ใช้สำหรับตรวจสัญญาณโทรทัศน์ว่าโครงการได้เตรียมไว้ให้เรียบร้อยดีหรือเปล่า เอาไว้ดูว่าภาพจะชัดมั้ย หากเราซื้อทีวีมาติดตั้ง อย่างของห้องเรา เครื่องอ่านค่าได้ว่าใช้งานได้ สัญญาณดี และภาพชัด

บางครั้งโครงการอาจจะเดินสายให้เราไม่ดี แล้วเราก็อาจเข้าใจผิดแล้วโทษว่าเป็นปัญหาของทีวีที่ซื้อมาก็เป็นได้ หากเราตรวจและทราบปัญหานี้ล่วงหน้า ก็สามารถบอกโครงการให้แก้ไขได้ค่ะ



กลับมาที่ห้องน้ำที่ได้เปิดน้ำทิ้งไว้ตั้งแต่ตอนแรก พอปล่อยให้น้ำระบายลงท่อก็พบว่าท่อระบายน้ำในส่วนเปียก(ใช้อาบน้ำ) ปกติดี 

แต่...

ปัญหากลับเป็นที่ท่อระบายน้ำตรงส่วนแห้ง (ใกล้กับชักโครก) ทีมงานได้ส่งไฟฉายตรวจดูด้านในแล้วพบว่า 
floor drain ตำแหน่งอยู่ไม่ตรงกับท่อด้านใน ซึ่งอันนี้ถือเป็นปัญหาที่ค่อนข้างใหญ่ (ตอนได้ยินนี่แบบ...ซวยแล้ว มาตายตอนจบ) เพราะจะทำให้น้ำที่ระบายลงไปซึมใส่ปูนก่อนที่จะไหลไปถึงปากท่อ(ที่อยู่เยื้องๆ) แล้วถ้าเวลาผ่านไปเรื่อยๆ อาจจะทำให้ซึมเยอะจนมีปัญหาไปถึงเพดานของห้องชั้นล่าง 





ทีมงานตรวจบ้านแนะนำให้ทางโครงการยกชักโครกออก รื้อกระเบื้อง แล้วต้องทำท่อเฉียงๆ รับปาก floor drain ให้สไลด์เอียงลงไปหาปากท่อระบายน้ำในงานระบบ โดยอันนี้เป็นงานแก้ที่สำคัญอันดับหนึ่ง ต้องรอดูว่าโครงการจะแก้ให้ได้ตามที่แจ้งไปมั้ย 

เป็นอันว่าจบการตรวจ ทีมงานก็จะไล่ถ่ายรูปทุกจุดแก้ไขเพื่อไปทำรายงานให้กับทางโครงการ ใช้เวลาไปประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็ไปพบกับเจ้าหน้าที่ของคอนโดต่อ โดยเจ้าหน้าที่คอนโดจะให้อีเมลล์กับคนตรวจรับ เพื่อส่งรายงานของวันนี้ว่าต้องแก้ไขตรงจุดไหนบ้าง 
.
.
.
ประมาณ 2 วัน ทีมตรวจรับก็ส่งรายงานให้ทางเราพร้อมกับส่งให้ทางโครงการด้วย ตอนเราเปิดดูนี่เหงื่อตก มาเป็นไฟล์ .pdf จำนวน 25 หน้า รายการแก้ไขทั้งหมด 112 รายการ จ้าาาาา เป็นลมมมมม

หน้าตาจะเป็นเป็นแบบนี้ค่ะ
สีเหลืองคือ major defect 



ในการตรวจรับรอบ 2 ทางทีมตรวจรับจะเข้ามาเช็คให้ หากทางโครงการแก้ไขเรียบร้อยครบทุกข้อ ก็สามารถเซ็นต์รับได้เลย แต่ถ้าหากยังไม่เรียบร้อยดี เราจะต้องเป็นคนเข้ามาตรวจรอบ 3 เอง โดยเราสามารถโทรถามหรือปรึกษาทีมงานตรวจรับได้อยู่ตลอด สบายใจได้

หน้าตาเป็นแบบนี้ ค่อนข้างเขียนละเอียด อ่านแล้วเข้าใจว่าต้องแก้ไขอะไรบ้าง