ท่านคิดเห็นยังไงกับกีฬาสีที่จัดขึ้นในโรงเรียนและจำเป็นที่จะต้องมีงานนี้อยู่ไหม
.
แต่ในความคิดผมนะผมมองว่าไม่ควรที่จะมีแล้วจากที่ผมเคยเป็นstaffสีช่วงเรียนมัธยมมีเพียงแค่คนไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเป็นนักกีฬาได้จากสมมุติคนในห้องมี50คนเป็นนักกีฬาจริงๆแค่20-25คนรวมตัวสำรองแล้วส่วนใหญ่เป็นพวกที่ค่อนข้างมีร่างกายที่แข็งแรงอยู่แล้วด้วยความที่เราจำกัดกีฬาที่อยู่ในรูปแบบของการใช้แรงทั้งหมด อาทิ ฟุตบอล บาสเกตบอล กรีฑา นอกนั้น*โดนบังคับ โดนขู่ตัดคะแนน*ให้ไปเป็นฝ่ายเชียร์ทั้งหมดทำให้คนบางส่วนแหละที่ไม่รู้ทำไมต้องเข้ากิจกรรมนี้ทั้งที่ไม่ได้อยากมานั่งตบมือง่อยๆ โดนstaffสี จี้ บังคับ ทำนู้นทำนี่ จนเกิดอคติซึ่งจะทำให้คนๆหนึ่งมองกีฬาสีเปลี่ยนไปทั้งชีวิตไปเลยก็ได้ ตอนผมเป็นstaffผมเห็นน้องเดินออกมาจากกองเชียร์คือผมก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่เพื่อนคนอื่นๆของผมก็ไปตามจี้ บังคับไม่ให้หนีอยู่ดี ซึ่งมุมมองของพวกstaffคือปีสุดท้ายของตัวเองแล้วต้องทำให้ดีที่สุด ส่วนครูมองว่าต้องเข้ากิจกรรมเท่านั้นถึงจะแสดงถึงการมีส่วนรวมโดยที่ผมก็ไม่รู้เหตุผลหรอกว่าจะไปบังคับกันทำไมอยากเข้ากิจกรรมก็เข้าถ้าไม่อยากเข้าก็ไม่ต้องเข้าแค่นั้นเอง
.
ถ้าคิดว่าในมุมมองของนักเรียนทั่วไปที่ไม่ใช่นักเรียนที่เป็นstaffคิดว่าแย่แล้วมาดูมุมมองตอนเป็นstaffคือบอกได้เลยว่าไม่เคยคิดว่าพวกเพื่อนตัวเองจะแย่กันได้ขนาดนี้คือเพื่อนเราคัดตัวนักกีฬานี่ก็มีระบบเส้นกันด้วยนะเพราะวันจริงที่แข่งกรีฑาไม่อยากไปนั่งเชียร์แล้วโดนแดดร้อนๆซึ่งก็เข้าใจแหละแต่มันไม่สมควรมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย มีทะเลาะเรื่องความเห็นไม่ตรงกันด้วยนะกันด้วยนะซึ่งก็ไม่รู้จะอินอะไรกันขนาดนั้น ตัดมาตอนจบงานต่างพากันดีใจ ได้ถ้วยสั่งทำและขนมปี๊บมาแล้วก็ถ่ายรูปแยกย้ายกลับ เหลือแค่ไม่กี่คนเท่านั้นแหละที่ต้องเคลียสถานที่เก็บขยะและนี่แหละที่มันไม่ตรงจุดประสงค์ที่ควรจัดกีฬาสีคือให้มีความสามัคคีกัน รู้จักทำงานเป็นทีม แต่ไม่ใช่เลยมันไม่เคยมีอยู่แล้วมันก็แค่ความเชื่อเพ้อเจ้อเท่านั้นเอง
.
กีฬาสีคือความสิ้นเปลื้องมากๆๆๆ ค่าชุดเชียร์ลีดเดอร์ ค่าสแตน ค่าอุปกรณ์นู้นนี่นั่นที่เหลือเชื่อคือค่าเช่าชุดลีดราคาเป็นพัน ต้องมาเก็บเงินเพิ่มจากคนในสีอีก มีการติกชื่อด้วยใครจ่ายไม่จ่ายบ้าง งานกีฬาสีเนี่ยคือการถลุงเงินจนเงินไม่พอจนต้องหาสปอนเซอร์จากผู้ปกครองเลยทีเดียว ซึ่งแค่จัดให้มีการแข่งก็พอแล้วไหมทำไมต้องถลุงเงินไปกับความอลังการขนาดนั้นด้วยก็ไม่เข้าใจซึ่งตอนนั้นสีผมถลุงเงินหมดไปเป็นแสนเลยซึ่งเป็นอะไรที่น่าตกใจมากที่งานกีฬาระดับโรงเรียนต้องใช้จ่ายอะไรกันขนาดนี้
การจัดกีฬาสีในโรงเรียนยังจำเป็นอยู่ไหม?
.
แต่ในความคิดผมนะผมมองว่าไม่ควรที่จะมีแล้วจากที่ผมเคยเป็นstaffสีช่วงเรียนมัธยมมีเพียงแค่คนไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเป็นนักกีฬาได้จากสมมุติคนในห้องมี50คนเป็นนักกีฬาจริงๆแค่20-25คนรวมตัวสำรองแล้วส่วนใหญ่เป็นพวกที่ค่อนข้างมีร่างกายที่แข็งแรงอยู่แล้วด้วยความที่เราจำกัดกีฬาที่อยู่ในรูปแบบของการใช้แรงทั้งหมด อาทิ ฟุตบอล บาสเกตบอล กรีฑา นอกนั้น*โดนบังคับ โดนขู่ตัดคะแนน*ให้ไปเป็นฝ่ายเชียร์ทั้งหมดทำให้คนบางส่วนแหละที่ไม่รู้ทำไมต้องเข้ากิจกรรมนี้ทั้งที่ไม่ได้อยากมานั่งตบมือง่อยๆ โดนstaffสี จี้ บังคับ ทำนู้นทำนี่ จนเกิดอคติซึ่งจะทำให้คนๆหนึ่งมองกีฬาสีเปลี่ยนไปทั้งชีวิตไปเลยก็ได้ ตอนผมเป็นstaffผมเห็นน้องเดินออกมาจากกองเชียร์คือผมก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่เพื่อนคนอื่นๆของผมก็ไปตามจี้ บังคับไม่ให้หนีอยู่ดี ซึ่งมุมมองของพวกstaffคือปีสุดท้ายของตัวเองแล้วต้องทำให้ดีที่สุด ส่วนครูมองว่าต้องเข้ากิจกรรมเท่านั้นถึงจะแสดงถึงการมีส่วนรวมโดยที่ผมก็ไม่รู้เหตุผลหรอกว่าจะไปบังคับกันทำไมอยากเข้ากิจกรรมก็เข้าถ้าไม่อยากเข้าก็ไม่ต้องเข้าแค่นั้นเอง
.
ถ้าคิดว่าในมุมมองของนักเรียนทั่วไปที่ไม่ใช่นักเรียนที่เป็นstaffคิดว่าแย่แล้วมาดูมุมมองตอนเป็นstaffคือบอกได้เลยว่าไม่เคยคิดว่าพวกเพื่อนตัวเองจะแย่กันได้ขนาดนี้คือเพื่อนเราคัดตัวนักกีฬานี่ก็มีระบบเส้นกันด้วยนะเพราะวันจริงที่แข่งกรีฑาไม่อยากไปนั่งเชียร์แล้วโดนแดดร้อนๆซึ่งก็เข้าใจแหละแต่มันไม่สมควรมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย มีทะเลาะเรื่องความเห็นไม่ตรงกันด้วยนะกันด้วยนะซึ่งก็ไม่รู้จะอินอะไรกันขนาดนั้น ตัดมาตอนจบงานต่างพากันดีใจ ได้ถ้วยสั่งทำและขนมปี๊บมาแล้วก็ถ่ายรูปแยกย้ายกลับ เหลือแค่ไม่กี่คนเท่านั้นแหละที่ต้องเคลียสถานที่เก็บขยะและนี่แหละที่มันไม่ตรงจุดประสงค์ที่ควรจัดกีฬาสีคือให้มีความสามัคคีกัน รู้จักทำงานเป็นทีม แต่ไม่ใช่เลยมันไม่เคยมีอยู่แล้วมันก็แค่ความเชื่อเพ้อเจ้อเท่านั้นเอง
.
กีฬาสีคือความสิ้นเปลื้องมากๆๆๆ ค่าชุดเชียร์ลีดเดอร์ ค่าสแตน ค่าอุปกรณ์นู้นนี่นั่นที่เหลือเชื่อคือค่าเช่าชุดลีดราคาเป็นพัน ต้องมาเก็บเงินเพิ่มจากคนในสีอีก มีการติกชื่อด้วยใครจ่ายไม่จ่ายบ้าง งานกีฬาสีเนี่ยคือการถลุงเงินจนเงินไม่พอจนต้องหาสปอนเซอร์จากผู้ปกครองเลยทีเดียว ซึ่งแค่จัดให้มีการแข่งก็พอแล้วไหมทำไมต้องถลุงเงินไปกับความอลังการขนาดนั้นด้วยก็ไม่เข้าใจซึ่งตอนนั้นสีผมถลุงเงินหมดไปเป็นแสนเลยซึ่งเป็นอะไรที่น่าตกใจมากที่งานกีฬาระดับโรงเรียนต้องใช้จ่ายอะไรกันขนาดนี้