“ฉันมีชีวิตคนเดียวลำพัง ฉันมีความรักที่ไม่ยืนยาว
ฉันมีความฝันที่ยังต้องทำ ฉันมีหนทาง ที่ยังต้องเดิน..
ฉันแบกกระเป๋าย่ามเดินตามทาง ที่ไม่มีรถ ไม่มีแสงไฟ
มีแต่ต้นไม้ผีเสื้อลำธาร และกลิ่นของวันนั้น ฉันยังจดจำ "
บทเพลง ทางเดิน หรือ The Way ของ A BOY & KLEE BHO ที่ได้ฟังมาจากหนังเรื่อง Low Season สุขสันต์วันโสด มีภาพของรถเหลืองสองแถว กำลังวิ่งอยู่บนถนนที่คดเคี้ยวไปตามภูเขา สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าสน… นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางคนเดียวครั้งแรกของเราค่ะ...
.
.
.
ถ้าได้ลองไปเที่ยวเองคนเดียวครั้งแรก ทุกๆ คนจะเลือกไปเที่ยวที่ไหนคะ?
ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ในช่วงนี้ประเทศไทยยังอยู่ในหน้าฝน บรรยากาศ Low Season แบบนี้ก็ทำให้เราคิดถึงนาขั้นบันไดสีเขียวขจีเป็นที่แรกๆ บวกกับความอยากไปถ่ายรูปทุ่งนาอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปสักที เริ่มค้นหาที่เที่ยวที่เดินทางไปเองได้ง่าย แล้วก็มาเจอกับ "กระท่อมกลางนา" ที่ อ.กัลยานิวัฒนา จ.เชียงใหม่
ตัดสินใจจอง ณ ตอนนั้นเลย เลือกช่วงเวลาที่อยากจะเห็นนาข้าว คือวันที่ 27 กันยายน แล้วเฝ้านับวันรอที่จะได้เดินทางมาในอีก 2 เดือนข้างหน้า
คืนที่ 2 เราจองที่พักอีกที่ไว้คือ โกวิทกระท่อมปลายนา ที่ อ.แม่แจ่ม ลักษณะเป็นโฮมสเตย์ที่อยู่ท่ามกลางนาขั้นบันไดเหมือนกัน จะอยู่ใกล้ๆ กับนาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียงอันโด่งดัง แต่หนึ่งวันก่อนการเดินทางไปที่นี่ เราก็ตัดสินใจไลน์ไปบอกน้องวิท ว่าจะขอยกเลิกที่พัก... เพราะอะไร ตามมาค่ะ... เดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟัง
01
กรุงเทพฯ-เชียงใหม่-วัดจันทร์
เช้าวันที่การเดินทางคนเดียวครั้งแรกก็มาถึง คืนนั้นเราแทบจะนอนหลับไม่สนิทเพราะกังวลถึงสิ่งที่เราจะต้องเจอใน 3 วัน 2 คืนข้างหน้า เราเรียกแท็กซี่ไปสนามบิน เช็คอินล่วงหน้าไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ไม่มีสัมภาระต้องโหลด กว่าจะถึงเวลาเครื่องออกก็อีกชั่วโมงกว่าๆ เลยไปนั่งรอนั่งเล่นแถว Gate กะจะใช้สิทธิ์ Seranade รับกาแฟของ Black Canyon ฟรี แต่มีคนใช้สิทธิ์เต็มแล้ว
++++++++++++++++++++++++++
6.50 น. ได้เวลาเครื่องบินลัดฟ้าสู้จังหวัดเชียงใหม่ ภาพที่เมื่อมองจากบนฟ้าลงมาด้านล่างดูสดใส เห็นทะเลหมอกคลอเคลียอยู่ตามทิวเขาไกลๆ ค่อนข้างมั่นใจมากว่าวันนี้เชียงใหม่ต้องมีอากาศสดใสแน่นอน
เที่ยวบินเรามาถึงก่อนเวลา 10 นาที ทันที่ที่เปิดโทรศัพท์ Grab ที่เราจองล่วงหน้าไว้ตั้งแต่สนามบินดอนเมือง ก็โทรเข้ามาพอดี ภารกิจแรกที่เชียงใหม่ของเราคือต้องเดินทางไปขนส่งประตูช้างเผือกในทันก่อน 9 โมง เพราะถ้าพลาดรถเที่ยวแรกแล้วจะได้ขึ้นอีกทีตอน 11 โมงเลย
รถที่เราจะใช้เดินทางไปกระท่อมปลายนาจะเป็นรถเหลืองสองแถว ป้ายข้างๆ รถเขียนว่า เชียงใหม่-วัดจันทร์ ต้องนั่งไปลงที่ อบต.แม่แดดน้อย มีแค่วันละ 2 เที่ยวเท่านั้นคือรอบ 9 โมง และ 11 โมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ ค่ารถ 140฿
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที จากสนามบินเชียงใหม่ มาที่ขนส่งประตูช้างเผือก ที่นี่ก็จะมีรถสองแถวสีเหลืองหลายสายมาก เดินวนหาไม่นานเลยคิดว่าถามคนแถวนั้นดีกว่า
‘ไปกัลยาณิวัฒนาต้องขึ้นรถตรงไหนคะ?’
รถสองแถวเชียงใหม่-วัดจันทร์จอดรอต้อนรับเราอยู่ เราเอากระเป๋าเป้วางไว้ที่นั่งท้ายสุด เราเดินมาซื้อน้ำดื่มและยาดมตรงร้านค้าใกล้ๆ กับที่ที่รถจอดอยู่ ถามคุณลุงที่ร้านค้าถึงวิธีการขึ้นรถสองแถวไปแม่แจ่ม ลุงเลยบอกว่าต้องนั่งรถไปลงที่จอมทองก่อน มันเป็นรถสายใต้ แล้วต้องนั่งสองแถวจากจอมทองไปลงที่แม่แจ่มอีกที
จริงๆ เราก็รู้มาก่อนที่เราจะเดินทางแล้วว่าที่พักที่เราจองทั้งสองคืนนั้นอยู่คนละทิศละทางกันเลย แต่ด้วยความที่อยากไปหลายที่ก็เลยคิดว่าทนๆ เดินทางเอาหน่อย เพื่อรูปสวยๆ
++++++++++++++++++++++++++
09.00 น.
รถสองแถวสีเหลืองสดเริ่มออกเดินทางแล้ว เพื่อนร่วมทางของเราวันนี้มีคนในพื้นที่ หมอฟัน นักเรียน นักเดินทาง ที่บางคนก็มาคนเดียว บางคนก็มาด้วยกันกับเพื่อน
พี่หมอฟันเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนบนรถคันนี้ก็มีแค่คนในพื้นที่เท่านั้นแหละที่ใช้บริการ เที่ยวละ 2-3 คนเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเยอะขึ้นมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ดูเลเล, บูเดอช่า, เด๊อะโพ, บ้านเกอลีโกล (บ้านสายลม), กระท่อมกลางนา, ป่าสนวัดจันทร์ (อ.อ.ป) ก็อยู่ในเส้นทางนี้ทั้งนั่น
แล้วบนรถคันนี้เราก็เจอเพื่อนร่วมทางที่จะไปกระท่อมกลางนาด้วยกันกับเราด้วย เธอมีชื่อว่า 'อาร์ม' มาจากขอนแก่น จะมาพักที่กระท่อมกลางนา 2 คืน และชอบไปเที่ยวคนเดียวตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ เลย
โคตรเจ๋งเลยเนอะ ในขณะที่เราเพิ่งเริ่มเที่ยวคนเดียวตอนอายุ 30
02
เมารถเหมือนกัน...
รถวิ่งออกไปได้สักพัก ไม่มีใครส่งเสียงพูดคุยกันเลย เพราะทุกคนคงมีอาการคลื่นไส้เหมือนกันกับเราแน่ เพราะตอนนี้เราเองก็เริ่มทนไม่ไหวแล้ว ต้องอาศัยยาดมช่วยตลอดเวลา พยายามข่มตาหลับก็หลับไม่ลง เพราะรถมันเหวี่ยงเหลือเกิน
เลยสะกิดถามพี่หมอฟันว่า 'เราจะแวะหยุดพักมั้ยคะ รู้สึกเมารถหนักมาก' อาร์มที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นมาว่า 'เมารถเหมือนกัน'
'เดี๋ยวมีแวะพักที่สะเมิง ใกล้ถึงแล้ว...' พี่หมอฟันตอบ
ไม่นานก็ถึงจุดพักรถสะเมิง คนขับลงมาบอกผู้โดยสารว่า แวะกินข้าว กินอะไรได้เลย ไม่รีรอเรารีบบอกคนขับว่า
'ขอไปนั่งข้างหน้าได้มั้ยคะ หนูเมารถค่ะ แหะๆ'
หลังจากรออาร์มแวะอ๊วกในห้องน้ำ เราสองคนก็เดินไปหาซื้อยาแก้เมารถและผลไม้เปรี้ยวๆ ที่เซเว่นกัน ผ่านร้านขายผลไม้ ก็ซื้อมามะม่วงเปรี้ยวๆ มาถุงนึง
เอาวะ....อีก 2 ชั่วโมงง เราต้องรอด!!
พอย้ายไปนั่งข้างหน้าเราก็ไม่เมารถแล้ว ปกติเวลากินยาแก้เมารถเข้าไปมันต้องง่วงใช่มั้ย.. แต่เราไม่ได้นอนเลย เพราะพี่คนขับชวนคุยตลอดทาง ขับไปขับมาอากาศดีก็ให้ลดกระจกลง พอเริ่มร้อนก็ให้หมุนกระจกขึ้นแล้วเปิดแอร์ เจอเพลงถูกใจก็ร้องเพลงนั้นไปพร้อมกับเสียงในวิทยุด้วย แล้วมันก็เป็นอย่างนี้ไปตลอดทาง
ระหว่างทางคนขับจอดรถให้เราได้ลงไปถ่ายรูป 'จุดชมวิวผาเหยียบเมฆา'
เราโทรหาน้องป๋อง เมื่อเราเดินทางใกล้จะถึง อบต.แม่แดดน้อย บอกกับป๋องว่าน่าจะถึงประมาณเที่ยงกว่าๆ และมารถคันเดียวกันกับอาร์มคนที่จะมาพักที่กระท่อมคืนนี้ด้วยกัน
ไม่นานนักรถก็จอดข้างทาง เราเดินทางมาถึงหน้า อบต.แม่แดดแล้วหรอ? ฉันรีบขนสัมภาระแล้วลงจากรถมายืนแบบงงๆ อาร์มที่กำลังสะลึมสะลือเพิ่งตื่นก็กำลังเดินลงมาจากท้ายรถสองแถว
อีกฝากฝั่งถนนเห็นผู้ชายสวมเสื้อยืดสีเทาแขนสีดำ สมหมวกแก๊ปสีดำ สะพายกระเป๋าย่าม เดินตรงมาที่พวกเราสองคนยืนอยู่ เขาทักทายคนขับรถสองแถวด้วยภาษาถิ่นที่เราไม่เข้าใจ แล้วหันมาพูดกับพวกเรา
‘ไปกระท่อมใช่มั้ย เดี๋ยวไปกินข้าวก่อน เพราะต้องรออีก 1 คน’
จากนั้นพวกเรา 3 คนก็แนะนำตัวทำความรู้จักกัน พี่ที่มารอรับพวกเรามีชื่อว่า ‘พี่โญ่’ เป็นหนึ่งในผู้ดูแลกระท่อมกลางนา ถามไปถามมาถึงจำนวนวันที่เข้าพัก พี่โญ่บอกว่าถ้าแค่คืนเดียวก็จะเร่งรีบมากเลยนะ ตอนนี้เราเริ่มลังเลแล้ว จริงๆ เริ่มคิดหนักตั้งแต่นั่งอยู่บนรถสองแถว เพราะพี่คนขับบอกว่า ‘ขากลับต้องมายืนรอที่หน้า อบต. ตอน 8 โมงครึ่งนะ’ แล้วจะต้องตื่นตั้งแต่กี่โมงละนี่...
ถ้าพัก 2 คืน พรุ่งนี้พี่ไปธุระที่กัลยาณิวัฒนาพอดี ติดรถไปเที่ยวได้ เดี๋ยวพาไป
เอ้ออ…นั่นไง เอาที่เที่ยวมายั่วอีก
งั้น…พี่เช็คให้หน่อยว่าอีกคืนจะมีที่นอนว่างมั้ย?
.
.
ความสนุกมันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วสินะ! ฉันสัมผัสมันได้
[CR] ไปเที่ยวคนเดียวด้วยกัน ณ กระท่อมกลางนา บ้านห้วยปู อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่
“ฉันมีชีวิตคนเดียวลำพัง ฉันมีความรักที่ไม่ยืนยาว
ฉันมีความฝันที่ยังต้องทำ ฉันมีหนทาง ที่ยังต้องเดิน..
ฉันแบกกระเป๋าย่ามเดินตามทาง ที่ไม่มีรถ ไม่มีแสงไฟ
มีแต่ต้นไม้ผีเสื้อลำธาร และกลิ่นของวันนั้น ฉันยังจดจำ "
บทเพลง ทางเดิน หรือ The Way ของ A BOY & KLEE BHO ที่ได้ฟังมาจากหนังเรื่อง Low Season สุขสันต์วันโสด มีภาพของรถเหลืองสองแถว กำลังวิ่งอยู่บนถนนที่คดเคี้ยวไปตามภูเขา สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าสน… นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางคนเดียวครั้งแรกของเราค่ะ...
.
.
.
ถ้าได้ลองไปเที่ยวเองคนเดียวครั้งแรก ทุกๆ คนจะเลือกไปเที่ยวที่ไหนคะ?
ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ในช่วงนี้ประเทศไทยยังอยู่ในหน้าฝน บรรยากาศ Low Season แบบนี้ก็ทำให้เราคิดถึงนาขั้นบันไดสีเขียวขจีเป็นที่แรกๆ บวกกับความอยากไปถ่ายรูปทุ่งนาอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปสักที เริ่มค้นหาที่เที่ยวที่เดินทางไปเองได้ง่าย แล้วก็มาเจอกับ "กระท่อมกลางนา" ที่ อ.กัลยานิวัฒนา จ.เชียงใหม่
ตัดสินใจจอง ณ ตอนนั้นเลย เลือกช่วงเวลาที่อยากจะเห็นนาข้าว คือวันที่ 27 กันยายน แล้วเฝ้านับวันรอที่จะได้เดินทางมาในอีก 2 เดือนข้างหน้า
คืนที่ 2 เราจองที่พักอีกที่ไว้คือ โกวิทกระท่อมปลายนา ที่ อ.แม่แจ่ม ลักษณะเป็นโฮมสเตย์ที่อยู่ท่ามกลางนาขั้นบันไดเหมือนกัน จะอยู่ใกล้ๆ กับนาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียงอันโด่งดัง แต่หนึ่งวันก่อนการเดินทางไปที่นี่ เราก็ตัดสินใจไลน์ไปบอกน้องวิท ว่าจะขอยกเลิกที่พัก... เพราะอะไร ตามมาค่ะ... เดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟัง
01
กรุงเทพฯ-เชียงใหม่-วัดจันทร์
เช้าวันที่การเดินทางคนเดียวครั้งแรกก็มาถึง คืนนั้นเราแทบจะนอนหลับไม่สนิทเพราะกังวลถึงสิ่งที่เราจะต้องเจอใน 3 วัน 2 คืนข้างหน้า เราเรียกแท็กซี่ไปสนามบิน เช็คอินล่วงหน้าไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ไม่มีสัมภาระต้องโหลด กว่าจะถึงเวลาเครื่องออกก็อีกชั่วโมงกว่าๆ เลยไปนั่งรอนั่งเล่นแถว Gate กะจะใช้สิทธิ์ Seranade รับกาแฟของ Black Canyon ฟรี แต่มีคนใช้สิทธิ์เต็มแล้ว
++++++++++++++++++++++++++
6.50 น. ได้เวลาเครื่องบินลัดฟ้าสู้จังหวัดเชียงใหม่ ภาพที่เมื่อมองจากบนฟ้าลงมาด้านล่างดูสดใส เห็นทะเลหมอกคลอเคลียอยู่ตามทิวเขาไกลๆ ค่อนข้างมั่นใจมากว่าวันนี้เชียงใหม่ต้องมีอากาศสดใสแน่นอน
เที่ยวบินเรามาถึงก่อนเวลา 10 นาที ทันที่ที่เปิดโทรศัพท์ Grab ที่เราจองล่วงหน้าไว้ตั้งแต่สนามบินดอนเมือง ก็โทรเข้ามาพอดี ภารกิจแรกที่เชียงใหม่ของเราคือต้องเดินทางไปขนส่งประตูช้างเผือกในทันก่อน 9 โมง เพราะถ้าพลาดรถเที่ยวแรกแล้วจะได้ขึ้นอีกทีตอน 11 โมงเลย
รถที่เราจะใช้เดินทางไปกระท่อมปลายนาจะเป็นรถเหลืองสองแถว ป้ายข้างๆ รถเขียนว่า เชียงใหม่-วัดจันทร์ ต้องนั่งไปลงที่ อบต.แม่แดดน้อย มีแค่วันละ 2 เที่ยวเท่านั้นคือรอบ 9 โมง และ 11 โมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ ค่ารถ 140฿
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที จากสนามบินเชียงใหม่ มาที่ขนส่งประตูช้างเผือก ที่นี่ก็จะมีรถสองแถวสีเหลืองหลายสายมาก เดินวนหาไม่นานเลยคิดว่าถามคนแถวนั้นดีกว่า
‘ไปกัลยาณิวัฒนาต้องขึ้นรถตรงไหนคะ?’
รถสองแถวเชียงใหม่-วัดจันทร์จอดรอต้อนรับเราอยู่ เราเอากระเป๋าเป้วางไว้ที่นั่งท้ายสุด เราเดินมาซื้อน้ำดื่มและยาดมตรงร้านค้าใกล้ๆ กับที่ที่รถจอดอยู่ ถามคุณลุงที่ร้านค้าถึงวิธีการขึ้นรถสองแถวไปแม่แจ่ม ลุงเลยบอกว่าต้องนั่งรถไปลงที่จอมทองก่อน มันเป็นรถสายใต้ แล้วต้องนั่งสองแถวจากจอมทองไปลงที่แม่แจ่มอีกที
จริงๆ เราก็รู้มาก่อนที่เราจะเดินทางแล้วว่าที่พักที่เราจองทั้งสองคืนนั้นอยู่คนละทิศละทางกันเลย แต่ด้วยความที่อยากไปหลายที่ก็เลยคิดว่าทนๆ เดินทางเอาหน่อย เพื่อรูปสวยๆ
++++++++++++++++++++++++++
09.00 น.
รถสองแถวสีเหลืองสดเริ่มออกเดินทางแล้ว เพื่อนร่วมทางของเราวันนี้มีคนในพื้นที่ หมอฟัน นักเรียน นักเดินทาง ที่บางคนก็มาคนเดียว บางคนก็มาด้วยกันกับเพื่อน
พี่หมอฟันเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนบนรถคันนี้ก็มีแค่คนในพื้นที่เท่านั้นแหละที่ใช้บริการ เที่ยวละ 2-3 คนเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเยอะขึ้นมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ดูเลเล, บูเดอช่า, เด๊อะโพ, บ้านเกอลีโกล (บ้านสายลม), กระท่อมกลางนา, ป่าสนวัดจันทร์ (อ.อ.ป) ก็อยู่ในเส้นทางนี้ทั้งนั่น
แล้วบนรถคันนี้เราก็เจอเพื่อนร่วมทางที่จะไปกระท่อมกลางนาด้วยกันกับเราด้วย เธอมีชื่อว่า 'อาร์ม' มาจากขอนแก่น จะมาพักที่กระท่อมกลางนา 2 คืน และชอบไปเที่ยวคนเดียวตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ เลย
โคตรเจ๋งเลยเนอะ ในขณะที่เราเพิ่งเริ่มเที่ยวคนเดียวตอนอายุ 30
02
เมารถเหมือนกัน...
รถวิ่งออกไปได้สักพัก ไม่มีใครส่งเสียงพูดคุยกันเลย เพราะทุกคนคงมีอาการคลื่นไส้เหมือนกันกับเราแน่ เพราะตอนนี้เราเองก็เริ่มทนไม่ไหวแล้ว ต้องอาศัยยาดมช่วยตลอดเวลา พยายามข่มตาหลับก็หลับไม่ลง เพราะรถมันเหวี่ยงเหลือเกิน
เลยสะกิดถามพี่หมอฟันว่า 'เราจะแวะหยุดพักมั้ยคะ รู้สึกเมารถหนักมาก' อาร์มที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นมาว่า 'เมารถเหมือนกัน'
'เดี๋ยวมีแวะพักที่สะเมิง ใกล้ถึงแล้ว...' พี่หมอฟันตอบ
ไม่นานก็ถึงจุดพักรถสะเมิง คนขับลงมาบอกผู้โดยสารว่า แวะกินข้าว กินอะไรได้เลย ไม่รีรอเรารีบบอกคนขับว่า
'ขอไปนั่งข้างหน้าได้มั้ยคะ หนูเมารถค่ะ แหะๆ'
หลังจากรออาร์มแวะอ๊วกในห้องน้ำ เราสองคนก็เดินไปหาซื้อยาแก้เมารถและผลไม้เปรี้ยวๆ ที่เซเว่นกัน ผ่านร้านขายผลไม้ ก็ซื้อมามะม่วงเปรี้ยวๆ มาถุงนึง
เอาวะ....อีก 2 ชั่วโมงง เราต้องรอด!!
พอย้ายไปนั่งข้างหน้าเราก็ไม่เมารถแล้ว ปกติเวลากินยาแก้เมารถเข้าไปมันต้องง่วงใช่มั้ย.. แต่เราไม่ได้นอนเลย เพราะพี่คนขับชวนคุยตลอดทาง ขับไปขับมาอากาศดีก็ให้ลดกระจกลง พอเริ่มร้อนก็ให้หมุนกระจกขึ้นแล้วเปิดแอร์ เจอเพลงถูกใจก็ร้องเพลงนั้นไปพร้อมกับเสียงในวิทยุด้วย แล้วมันก็เป็นอย่างนี้ไปตลอดทาง
ระหว่างทางคนขับจอดรถให้เราได้ลงไปถ่ายรูป 'จุดชมวิวผาเหยียบเมฆา'
เราโทรหาน้องป๋อง เมื่อเราเดินทางใกล้จะถึง อบต.แม่แดดน้อย บอกกับป๋องว่าน่าจะถึงประมาณเที่ยงกว่าๆ และมารถคันเดียวกันกับอาร์มคนที่จะมาพักที่กระท่อมคืนนี้ด้วยกัน
ไม่นานนักรถก็จอดข้างทาง เราเดินทางมาถึงหน้า อบต.แม่แดดแล้วหรอ? ฉันรีบขนสัมภาระแล้วลงจากรถมายืนแบบงงๆ อาร์มที่กำลังสะลึมสะลือเพิ่งตื่นก็กำลังเดินลงมาจากท้ายรถสองแถว
อีกฝากฝั่งถนนเห็นผู้ชายสวมเสื้อยืดสีเทาแขนสีดำ สมหมวกแก๊ปสีดำ สะพายกระเป๋าย่าม เดินตรงมาที่พวกเราสองคนยืนอยู่ เขาทักทายคนขับรถสองแถวด้วยภาษาถิ่นที่เราไม่เข้าใจ แล้วหันมาพูดกับพวกเรา
‘ไปกระท่อมใช่มั้ย เดี๋ยวไปกินข้าวก่อน เพราะต้องรออีก 1 คน’
จากนั้นพวกเรา 3 คนก็แนะนำตัวทำความรู้จักกัน พี่ที่มารอรับพวกเรามีชื่อว่า ‘พี่โญ่’ เป็นหนึ่งในผู้ดูแลกระท่อมกลางนา ถามไปถามมาถึงจำนวนวันที่เข้าพัก พี่โญ่บอกว่าถ้าแค่คืนเดียวก็จะเร่งรีบมากเลยนะ ตอนนี้เราเริ่มลังเลแล้ว จริงๆ เริ่มคิดหนักตั้งแต่นั่งอยู่บนรถสองแถว เพราะพี่คนขับบอกว่า ‘ขากลับต้องมายืนรอที่หน้า อบต. ตอน 8 โมงครึ่งนะ’ แล้วจะต้องตื่นตั้งแต่กี่โมงละนี่...
ถ้าพัก 2 คืน พรุ่งนี้พี่ไปธุระที่กัลยาณิวัฒนาพอดี ติดรถไปเที่ยวได้ เดี๋ยวพาไป
เอ้ออ…นั่นไง เอาที่เที่ยวมายั่วอีก
งั้น…พี่เช็คให้หน่อยว่าอีกคืนจะมีที่นอนว่างมั้ย?
.
.
ความสนุกมันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วสินะ! ฉันสัมผัสมันได้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้