โดยเฉพราะพวกทรงสปอร์ต800ccขึ้นไปราคาตั้งแต่7แสนขึ้นไปถึงล้านกว่าค่าบำรุ่งรักษาที่เราทำเองเป็นประจำแพงกว่ารถยนต์ตลาดทั่วไปอีก ถ้าผมซื้อมาใช้งานในชีวิตประจำวันผมใช้รถวันละ30กิโลเติมน้ำมันอาทิตย์ละครั้ง ผมบวกเลขดูค่าบำรุงรักษาไปอยู่ที่62000บาทโดยผมแบ่งออกเป็นตั้งนี้เอาแค่ที่เรามักจะทำเองเป็นประจำยังไม่รวมค่าเช็คระยะ
(1)ค่าน้ำมัน ค่าน้ำมันเป็นค่าใช้จ่ายที่เราต้องเสียมากที่สุดค่าน้ำมัน500บาทต่ออาทิตย์
(2)น้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องลิตร์ละ400บาทต้องซื้อ4ลิตร์1600บาท
(3)ผ้าเบรค ผ้าเบรคหน้าอาจต้องเปลี่ยนปีละ4คู่ คู่ละ3000บาทรวมแล้ว4คู่12000บาท ผ้าเบรคหลังเปลี่ยนปีละ2คู่ คู่ละ3000บามรวมแล้ว6000บาท
(4)ยาง ถ้ารวมในรอบ2ปีด้วย ยางดีๆราคา2เส้นราคา1หมื่นบาทตกแล้วเส้นละ5000ถึง6000บาท
(5)โซ่สเตอร์ ชุดนึงราคา4000บาท เมื่อรวมแล้วเราต้องเสียเงินเป็นจำนวน62000บาท
เมื่อเทียบกับรถยนต์ตลาดทั่วไปถ้าใช้งานวันละ30กิโลเท่ากันคาง่าบำรุงรักษาอาจไปอยู่ที่40000กว่าบาท แค่ผมคิดดูเล่นๆมันก็แพงกว่ารถยนต์หลายหมื่นอยู่เหมือนกันถ้ารวมค่าเซอร์วิสด้วยราคาจะแพงกว่านี้มาก ทั้งๆที่ของเหลวที่ต้องเปลี่ยนถ่ายมันก็มีแค่น้ำมันเครื่องต่างจากรถยนต์นอกจากจะมีน้ำมันเครื่องแล้ว ยังมีน้ำมันพวงมาลัย น้ำมันเกียร์ น้ำมันครัช น้ำมันเฟืองถ้าย แต่ทำค่าบำรุงรักษาถึงแพงกว่ารถยนต์ตลาดทั่วไปครับ
ทำไมรถบิ๊กไบค์ค่าบำรุ่งรักษาแพงกว่ารถยนต์ตลาดทั่วไปครับ
(1)ค่าน้ำมัน ค่าน้ำมันเป็นค่าใช้จ่ายที่เราต้องเสียมากที่สุดค่าน้ำมัน500บาทต่ออาทิตย์
(2)น้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องลิตร์ละ400บาทต้องซื้อ4ลิตร์1600บาท
(3)ผ้าเบรค ผ้าเบรคหน้าอาจต้องเปลี่ยนปีละ4คู่ คู่ละ3000บาทรวมแล้ว4คู่12000บาท ผ้าเบรคหลังเปลี่ยนปีละ2คู่ คู่ละ3000บามรวมแล้ว6000บาท
(4)ยาง ถ้ารวมในรอบ2ปีด้วย ยางดีๆราคา2เส้นราคา1หมื่นบาทตกแล้วเส้นละ5000ถึง6000บาท
(5)โซ่สเตอร์ ชุดนึงราคา4000บาท เมื่อรวมแล้วเราต้องเสียเงินเป็นจำนวน62000บาท
เมื่อเทียบกับรถยนต์ตลาดทั่วไปถ้าใช้งานวันละ30กิโลเท่ากันคาง่าบำรุงรักษาอาจไปอยู่ที่40000กว่าบาท แค่ผมคิดดูเล่นๆมันก็แพงกว่ารถยนต์หลายหมื่นอยู่เหมือนกันถ้ารวมค่าเซอร์วิสด้วยราคาจะแพงกว่านี้มาก ทั้งๆที่ของเหลวที่ต้องเปลี่ยนถ่ายมันก็มีแค่น้ำมันเครื่องต่างจากรถยนต์นอกจากจะมีน้ำมันเครื่องแล้ว ยังมีน้ำมันพวงมาลัย น้ำมันเกียร์ น้ำมันครัช น้ำมันเฟืองถ้าย แต่ทำค่าบำรุงรักษาถึงแพงกว่ารถยนต์ตลาดทั่วไปครับ