คิดถึง 2 บทที่ 6

กระทู้สนทนา


.

               เมื่อหน้าหนาวมาเยือน ถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าว ทำนาก็ต้องไปนา โตแล้วก็ยิ่งต้องไปทำช่วยยายกับตา บอสขอยายไม่อยากดำนา เธอกลัวไส้เดือน เกี่ยวข้าวพอไหว ยายก็ตกลง ไม่บังคับ หลาน ๆ จะทำไม่ทำก็ได้ ยังไงเสียแม่ก็ให้ตากับยายจ้างคนงานอยู่แล้ว ปีละสิบกว่าคนเสร็จในวันเดียว

               วันนี้เป็นวันลงแขกเกี่ยวข้าวนาของเธอ ตากับยายจ้างคนงานมาสิบกว่าคน ค่าแรงวันละ 350 บาท เพราะจ้างเป็นเจ้าแรก เจ้าต่อ ๆ ไปต้องเพิ่มเป็นสี่ร้อยห้าร้อยก็ว่ากันไป

               เกิดปรากฏการณ์แย่งคนงานกันเกิดขึ้นในทุก ๆ ปี เจ้านั้นจ่ายเยอะกว่า ยกเลิกเจ้านี้ก็ว่ากันไป ใครจ้างก่อนได้เปรียบ ทว่ายายของเธอจ้างก่อน กะเอาวันเดียวเสร็จ จึงได้เปรียบคนอื่น ได้จ่ายค่าแรงน้อยหน่อย

               เธอ น้องบีมและพี่ชายสองคน ก็มาเกี่ยวข้าวช่วยคนงานด้วย ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ เนื่องจากคนงานหลายคน ช่วย ๆ กันทำ แดดร้อนเหนื่อยแต่สนุก ส่วนพี่ปาวกับพี่แป้งอยู่เฝ้าบ้าน ไม่ขอตามมาด้วย

               เธอก็ทำ ๆ เล่น ๆ ไป ได้ค่าแรงจากยายด้วย น้องบีมก็ทำ ช่วยเกี่ยวข้าวด้วย ตายายไม่เคยห้าม ตาทำเคียวเล็ก ๆ ให้น้อง เคียวไม่ค่อยคมเท่าไหร่ สนิมเขรอะ ให้น้องบีมหัดทำ ไม่ได้ห่วงเรื่องอันตรายเท่าไหร่ เป็นลูกชาวนาก็ต้องทำเป็นทุกอย่าง

               “ค่อย ๆ เกี่ยวนะบีม ระวังเคียวโดนมือ” ยายทั้งเกี่ยวข้าว ทั้งคอยมองน้องบีม กลัวโดนเคียวบาดมือ “นี่ ๆ ทำแบบยายนี่ อย่าโค้งเข้าหาตัวเองสิ”

              “ทำยังไงนะ แบบนี่เหรอยาย” น้องบีมทำตามที่ยายสอน เกี่ยวข้าวทีละต้นสองต้น ตามกำลังของตัวเอง

               ป้า ๆ คนงานแซวน้องบีม ล้อกันสนุกสนาน บางคนถึงกับชมพวกเธอ ที่วันหยุดมาเกี่ยวข้าวช่วยยาย พูดถึงคนนู้นคนนี้ว่าแบบนี้ไม่ทำหรอกอย่างนั้นอย่างนี้

               “ครูต้วยเกี่ยวข้าวเก่งแท้” ลุงบินยืนยืดตัวบิดขี้เกียจไปมา หลังก้มเกี่ยวข้าวอยู่นาน แซวน้องบีม ขณะเกี่ยวข้าวอยู่ใกล้ ๆ กัน ยายจ้างลุงบินกับป้าต้อยมาเกี่ยวข้าวด้วย น้องบีมเป็นหลานรักของทุกคน เพราะเป็นคนเล็กสุดของลุงป้าทั้งสองบ้าน

               “ลุงบินน้องบีมเป็นครูต้วย แล้วพี่บอสเป็นครูอะไร “ น้องสาวของเธอถามอย่างคนใคร่รู้ ไร้เดียงสามาก ไม่รู้เลยว่าลุงบินกำลังหลอกด่า ลุงหัวร่อออกมาอย่างสะใจกับคำถามของน้อง และคนอื่น ๆ ด้วยที่ได้ยิน แซวน้องบีมกันใหญ่

               “น้องบีมก็ครูต้วย น้องบอสก็ครูต้วย” ลุงบินพูดออกมาช้า ๆ ชัดเจนมาก

               “ไม่ใช่! บอสไม่ใช่ครูต้วย บอสเป็นครูเฉย ๆ “ เธอปฏิเสธผู้เป็นลุง พร้อมหัวเราะชอบใจ

               พอเวลาเดินมาถึง 11.00 นาฬิกา ยายก็ให้เธอกับพี่บอลขับรถเข้าหมู่บ้านไปซื้อน้ำแข็งมาเพิ่ม ส่วนพวกเครื่องดื่มชูกำลังยายกับตาเตรียมมาพร้อมหมดแล้ว

                เธอกับพี่ชายเดินมายังเถียงนา ถอดหมวก ถอดถุงมือและรองเท้าบูทออก สวมรองเท้าแตะธรรมดา เพื่อไปร้านค้าซื้อน้ำแข็งให้ยาย พี่บอลเป็นคนขับมอเตอร์ไซค์ เธอเป็นคนซ้อนท้ายแล้วขับออกไป   สักพักก็กลับเข้ามา ซื้อแค่น้ำแข็งเท่านั้นเอง จึงทำเวลาได้ไว

               “บอสไปเอามะละกอ ต้นอยู่เถียงนาของป้าหน่อย” เมื่อมาถึงป้าลีก็ร้องเรียกเธอให้ไปสอยลูกมะละกอต้นที่ตนปลูกเอาไว้มาตำส้มตำ ก็อยู่ไม่ไกลกัน ถัดนาป้าดาวไปก็เป็นนาป้าลีแล้ว พี่สาวของแม่ ก็ลูก ๆ ของยายนั่นแหละ

               “สอยมาสักสองลูก สามลูกก็ได้เด้อนาง เอาต้นอยู่ขอบสระนะ มันถึงจะแก่ห่ามพอกิน”

               “จ้า” มาถึงนาป้าก็เรียกใช้ต่อเลย “บีม น้องบีมพาพี่ไปหน่อย” นาของป้าลีก็เดินไปไกลนิดหน่อย เธอรู้สึกวังเวงเกินไปหากจะไปคนเดียว จึงชวนน้องสาวไปด้วย

               “ได้! “ น้องบีมวางเคียวไว้บนคันนา รีบวิ่งมาหาเธอ จากนั้นพวกเธอสองพี่น้องก็พากันเดินไปยังเถียงนาของป้า ทว่าที่นาของป้า ป้าล้อมรั้วลวดหนามเอาไว้ หากจะเข้าต้องไปเปิดประตูเข้าด้านติดกับถนน พวกเธอสองคนขี้เกียจเดินอ้อม เพราะรู้สึกว่าเสียเวลาและไกลมาก จึงคิดจะลอดรั้วลวดหนามตรงนี้เลย

               บอสดึงรวดหนามง้างออกจากกันให้น้องสาว พอลอดช่องไปได้ น้องบีมรอดไปอย่างง่ายดาย เพราะตัวเล็ก ส่วนเธอน้องสาวก็พยายามง้างให้ ทว่าแรงของเธอมีน้อยนิด บอสต้องพยายามช่วยเหลือตัวเองอีกแรงให้ลอดผ่านไปได้

              สุดท้ายก็ข้ามมาได้อย่างทุลักทุเล ทั้งสองคนพี่น้องพากันเดินไปยังต้นมะละกอต้นที่ป้าบอก ป้าปลูกไว้ที่ขอบสระเลี้ยงปลา เธอใช้ไม้สอยลงมาสามลูก ขนาดพอดีพอเหมาะในการตำส้มตำ คงจะกรอบอร่อยน่าดู

               พอได้ลูกมะละกอตามที่ต้องการแล้ว ก็พากันกลับ โดยกลับทางเดิม ทั้งที่ประตูรั้วของป้ามันก็อยู่ตรงนี้ ทว่าต้องเดินอ้อมไกลกว่าจะถึง บอสจึงพาน้องสาวกลับทางเดิม โดยลอดรั้วลวดหนามเช่นเดิม ที่เดิมด้วย เพียงลอดผ่านตรงนี้ไปก็เป็นนาป้าดาว ถัดไปก็เป็นนาของเธอแล้ว

               ขากลับเธอง้างให้น้องบีมลอดข้ามไปก่อนเหมือนเดิม และน้องบีมง้างให้เธอ พระเจ้า! เป็นเวรกรรมอะไรของเธอ หรือเจ้ากรรมนายเวรตามทัน เธอสะดุดขาตัวเองล้ม ขณะกำลังลอดข้ามยังไม่พ้น ทำให้ล้มไปกองกับพื้น ลวดหนามเกี่ยวที่ขาข้างซ้ายของเธอเต็ม ๆ

               ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดจากลวดหนาม เธอยกขาออกในท่าไหนไม่รู้ ลวดหนาวเกี่ยวขาเธอจนได้ ที่ขาซ้ายสองแผล เลือดไหลเยอะมาก เธอแทบร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บ นี่ขนาดสวมกางเกงขายาว ถ้าเป็นกางเกงขาสั้นไม่อยากจะนึกเลย

               เลือดไหลออกมาเยอะมาก เธอหน้าถอดสีด้วยความเจ็บ แต่ความกลัวยายด่ามีมากกว่า บอสหาใบไม้แถวนั้นมาเช็ดซับเลือดออก พยายามทำอย่างไรก็ได้ห้ามเลือดให้หยุดก่อนจะไปเถียงนาตัวเอง สุดท้ายก็ใช้เสื้อแขนยาวซับเลือดตัวเองออก

               “พี่บอสเจ็บมั้ย ไหนน้องบีมขอดูหน่อย เป็นแผลลึกมั้ย” น้องบีมถามอาการของเธอด้วยความเป็นห่วง พวกเธอนั่งซับเลือดกันที่คันนา แดดก็ร้อนด้วยช่วงเที่ยง ไม่ห่วงร้อนเลยห่วงเลือดมากกว่า ให้มันหยุดซึมเร็ว ๆ

               “ไม่เป็นไรบีม แผลนิดเดียวไม่ใหญ่เท่าไหร่ “ แต่ภายในใจของเธอเจ็บมาก พร้อมหัวเราะกับเหตุการณ์เมื่อครู่ “เดี๋ยวพี่ซับเลือดออกก่อน ไม่อยากให้ตากับยายรู้” พอซับเลือดออกหมดพวกเธอก็เดินทางกันต่อ บอสเดินขากะเผลกกลับไป พอถึงเถียงนาของตนก็พยายามเดินให้ปกติที่สุด

               เมื่อมาถึงยายยังไม่พาคนงานพัก ก็ยังไม่เที่ยงเหลือตั้งหลายนาที เธอจัดการสับมะละกอรอยายไว้ ที่เหลือเดี๋ยวป้ากับยายจะมาจัดการเอง หลังจากนั้นก็ปฐมพยาบาลตัวเองต่อ ก่อนที่ทุกคนจะขึ้นมา

               อาการปวดแผลก็ยังไม่ทุเลา ยิ่งขยับยิ่งเดินยิ่งปวด ลวดหนามขูดเธอสองที่กับขาข้างซ้ายข้างเดียว แผลแรกอยู่เลยหัวเข่าขึ้นมาน้อยนิด เป็นแผลนิดเดียวแต่เจ็บมาก แผลที่สองถัดขึ้นมาอีก เป็นแผลลึก เลือดซึมไม่หยุดเลย ต้องคอยซับไว้ตลอด ปวดก็ปวดเจ็บก็เจ็บ แต่ไม่กล้าบอกยาย

               ไหนจะเสื้อแขนยาวที่เปื้อนเลือดอีก ใส่เกี่ยวข้าวยายคงถามแน่ หรือไม่ก็คนอื่นคงทักท้วงแน่นอนเมื่อเห็นรอยเลือด จะทำอย่างไรดี จะกลับบ้านกลางคันก็น่าสงสัยอีก แผลก็เจ็บทำไมเธอต้องเจออะไรแบบนี้

              “พี่บอสเป็นยังไงบ้าง เหลือดหยุดไหลยัง” น้องบีมเข้ามาถามอาการเธออีกรอบ หลังจากที่เธอนอนตะแคงใช้มือกุมแผลเอาไว้ หลังจากที่สับมะละเสร็จ น้ำตาคลอด้วยความปวดแผล คิดถึงแม่ อยากโทรหาแม่ อยากบอกว่าเธอเจ็บ ปวดแผลเหลือเกิน

                 “หยุดแล้ว บีมห้ามบอกยายนะ ห้ามบอกทุกคน” เธอเช็ดน้ำตาที่คลอออก กำชับน้องสาวอย่างเคร่งครัด ห้ามปริปากบอกใครเด็ดขาด

               “อือ น้องบีมจะไม่บอกใคร” บอสรู้สึกโล่งอก  เมื่อน้องบีมรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ กลัวน้องนำเรื่องวันนี้ไปเล่าให้ยายฟังที่สุด

               “ทำไมนอนล่ะบอส ไม่สบายเหรอ” ป้าต้อยเดินขึ้นมาบนเถียงนา ยายกำลังพาคนงานทยอยขึ้นมากินข้าวเที่ยง ป้าต้อยเป็นแม่ครัวในวันนี้ เมื่อป้าเห็นเธอนอนจึงทักขึ้น

               พอขยับตัวก็รู้สึกเจ็บจี๊ดที่แผล ต้องเก็บอาการไว้ไม่ให้ป้าต้อยรู้ “เปล่า บอสนอนเฉย ๆ เพลีย”

               “ลุก ๆ มาทำกับข้าวช่วยป้า ไปก่อไฟให้ป้าไป น้องบีมไปเก็บพริกที่สวนให้ป้า”

               “จ้า” ทั้งเธอและน้องบีมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้เจ็บแผลเจียนตายต้องข่มใจไว้”

               บอสอยู่แบบเจ็บแผลทั้งวัน กางเกงขาดนิดหน่อยเพราะโดนลวดหนามเกี่ยว ทว่าไม่มีใครสังเกตเห็น รอดตัวไป เธอต้องอยู่แบบเจ็บแผลตลอดทั้งบ่าย กว่าจะได้กลับบ้านในตอนเย็น เกี่ยวข้าวได้ไม่เต็มร้อย ดีที่ยายไม่ได้สนใจ แค่มาช่วยวันหยุดก็เพียงพอแล้ว

               ...

               เธอมองเห็นแผลเป็นที่ขาตัวเอง อดนึกถึงเรื่องราววันนั้นไม่ได้ เพราะลวดหนามทำให้เธอใส่กางเกงขาสั้นไม่ได้ ใส่สั้นมาก ๆ เหมือนคนอื่นไม่ได้ มันจะเห็นแผลเป็นที่ขาโผล่ออกมาทันที ใส่ได้เฉพาะอยู่บ้านหรืออยู่หอพัก

               เป็นเหตุให้เธอต้องใส่กางเกงขายาว ๆ เสมอ ๆ ทุกทีไป แผลเป็นที่มันจะอยู่กับเธอไปทั้งชีวิต แถมสมัยนั้นเป็นตอนหน้าหนาวอีก กว่าจะหายอย่างทรมานมากเลยทีเดียว

                “เธอเค้าใส่กางเกงตัวนี้นะ” วันหยุดของเธอจะไปนั่งร้านกาแฟเสมอ ๆ หากเพื่อนร่วมห้องว่างพาไป เธอหยิบกางเกงยีนส์ขาสั้นโชว์ให้เพื่อนร่วมห้องดู

                “ใส่ไม่ว่านะ แต่ช่วยเกรงใจแผลเป็นที่ขาด้วย” เพื่อนร่วมมองด้วยหางตา นี่ไม่ให้ใส่เพราะอายแผลเป็นที่ขาแทนเธอ หรือว่าอย่างอื่นกันแน่

              “อันนี้ไม่เท่าไหร่นะ แต่อันถัดขึ้นมาหนินูนเชียว” เพื่อนร่วมห้องชี้นิวมาที่ขาซ้ายของเธอ และเธอก็รีบถอยหนีอย่างเร็ว

               “โอ้ย! ชี้เฉย ๆ ไม่ได้หรือไง จะล้วงมือเข้ามาทำไมเดี๋ยวหนิ” บอสขมวดคิ้วทำหน้าหงุดหงิดให้ เพื่อนยังจะมาหัวร่ออีก น่าถีบชะมัด

                 “ทำไมแผลอันข้างในมันนูนล่ะอ้วน ทำไมอันนี้ไม่นูน ตอนโดนใหม่ ๆ ไม่ซื้อยาทาแผลเป็นมาทาเหรอ หรือปล่อยไว้อย่างนั้น”

               “ อือ ไม่ได้ทายาอะไรเลยนะ แอบเอายาหม่องยายมาทาอยู่ ฮา “ แล้วสุดท้ายเธอก็เปลี่ยนเป็นกางเกงขายาวตามเดิม

จบบท...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่