Super Cub คู่ลุยเที่ยวน่าน

กระทู้สนทนา
ก่อนที่เราจะได้ยืนอยู่ที่จังหวัดน่านด้วยอาการเพิ่งตื่นนอน เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งเป็นทริปแรกของเราปีนี้ ระหว่างผมและน้าบาน สุทธิสาร แววสมณะ ซึ่งช่วงนี้เมื่อปีที่แล้วเราไปเที่ยวที่ สปป ลาว แล้วกลับมาปิดทริปที่นี่


เป็นที่มาของทริปปีนี้ของเราทั้งคู่ ทริปนี้ค่อนข้างจะแหวกแนวนิดๆ แต่เรายังยืนที่โจทย์เดิมคือการเที่ยวด้วยรถจักรยานยนต์ แตกต่างนั่นก็เรื่องของแพลนการเดินทาง เส้นทางและสถานที่ทื่ไปจะสร้างอรรถรส ให้กับการขี่รถออกทริปของเราครั้งนี้ได้สนุกมากยิ่งขึ้น แต่จมากน้อยแค่ไหนกัน...

โดยแพลนทริปที่ผมและน้าบานได้ปรึกษากัน ว่าควรจะเป็นทริปที่ใครๆก็ไปได้ เอาง่ายๆก็ลางานวันศุกร์ 1 วัน แล้ววันจันทร์กลับมาเข้าที่ทำงานได้สบายๆไม่เหนื่อย กับการใช้เวลาเที่ยวอย่างคุ้มค่าด้วยรมอเตอร์ไซค์คันเล็ก

รวมเวลาไปกลับ 3 วัน 4 คืน โดยที่ไม่ต้องตะบี้ตะบันบิดรถเดินทางไกลมาก แถมยังได้เที่ยวหลายที่ ซึ่งหลังจากความคิดของเราตกผลึก น้าแกก็เริ่มวางแพลนทริปรวมถึงจัดการเรื่องของที่พักให้กับการเดินทางครั้งนี้ที่ จ.น่าน ทั้ง 2 คืน โดยคืนแรกที่ อช.นันทบุรี ผืนป่าสำคัญที่กว้างขวางคลอบคลุมเขต รอยตะเข็บจังหวัดน่านฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือกับเขตจังหวัดพะเยาฝั่งตะวันออก

ส่วนอีก 1 คืน เราจะไปนอนกันที่อช.ขุนน่าน อ.บ่อเกลือ น่านฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับสปป ลาว เพื่อเที่ยวเก็บภาพวิถีหมู่บ้านสะปัน เป็นสถานที่สุดป๊อปของใครหลายคนตอนนี้ สำหรับรับลมหนาวแรกของปีถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว

กรุงเทพฯ-น่าน ถือว่าเป็นการเดินทางไกล แต่ทริปนี้เราจะทำให้การเดินทางไกลใช้เวลาคุ้มค่าที่สุด ประหยัดค่าใช้จ่าย ไปชมความงามสัมผัสลมหนาว ด้วยเวลาจำกัดแต่เราได้ไปเที่ยวหลายที่และไม่เหนื่อยกับการเดินทาง

เอาหล่ะ.. เราเริ่มการเตรียมรถหลังจากได้แพลนทริปและเส้นทางกันแล้วก่อนวันเดินทางราวๆ 3 สัปดาห์ โดย
ครั้งนี้เราจะพา Honda Super Cub ทั้ง 2 รุ่นนั้นคือรุ่น 110 ซีซี และรุ่น 125 ซีซี ไปขี่เที่ยวด้วยกันทริปนี้

ต้องเตรียมรถให้พร้อมกับเส้นทาง เราต้องเปลี่ยนยางใหม่เป็นแบบที่ลุยฝุ่นได้ด้วย หลังจากได้ปรึกษากันเรื่องนี้ ก็ตกลงว่าต้องหายางดอกกึ่งเรียบกึ่งฝุ่น เพราะเส้นทางส่วนหนึ่งที่เราไปเป็นทางดิน ระยะทางวิ่งก็ราวๆ 12 กิโลเมตร เป็นทางขึ้นอช.นันทบุรี ลัดเลาะชันขึ้นตามไหล่เขา

เหล่เห็นยางเก่าเก็บในช็อปของน้าบานเป็นยาง IRC รุ่น GP1 ซึ่งน้าแกเคยใช้นานแล้วแกว่าเวิร์คเลยกับทางแบบนี้ น้าแกว่ายางทำมาให้ร่องดอกยางกำลังดี ใช้ได้กับทั้งทางเรียบและทางฝุ่น เหมาะมากเส้นทางที่เราไป

แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกความคิดที่จะเอายางดังกล่าวนี้ มาใส่กับรถทั้ง 2 คัน เนื่องด้วยปัจจุบันยาง IRC รุ่น GP1 ไม่มีผลิตขนาดที่เราต้องการ เลยไม่สามารถนำมายัดใส่วงล้อของรถ Super Cup ทั้ง 2 นี้ได้ก็เลยต้องหาขนาด 2.50 ค่ายอื่นมาลองใช้งาน

เราได้ยางที่เหมาะกับรถและการเดินทางครั้งนี้จากค่าย ND Rubber โดยการประสานงานของเพื่อนเก่าแก่ของเรา เป็นฝ่ายการตลาดของผู้ผลิตยางนั้น ได้จัดส่งยางรุ่น ND 504 มาให้เราได้ลองใช้กับรถทั้ง 2 คัน เป็นขนาดที่ตรงตามความต้องการของเรา

งานนี้ Honda Super Cup 125 คันที่น้าบานจะขี่ไปได้ใส่ยาง ND 504 กับวงล้ออะไหล่ที่มีภายในช็อป ปะกบเข้าไปกับรถได้อย่างพอเหมาะ โดยไม่ดัดแปลงชิ้นส่วนไหนๆ ทั้งช่วงล่างเดิมๆที่มองกันว่าลุยได้ก็เลยส่งไปร่วมท้าทายกันในเส้นทางครั้งนี้

ส่วนอีกคันที่ผมใช้ขี่เที่ยวทริปนี้เป็น Honda Super Cup 110 คันสีฟ้าก็มีการเปลี่ยนวงล้อและยางด้วยเช่นกัน รวมถึงยกตัวรถให้สูงขึ้นกว่าเดิมอีกนิด โดยการเซตติ้งช๊อคอัพของน้าบานเพื่อรองรับ การใช้งานเดินทางกับเส้นทางครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

เพิ่มเติมอีกส่วนคือโซ่ขับเคลื่อนเส้นใหม่จาก D.I.D เราใช้ขนาด 420 ที่เหลืออื่นๆเกี่ยวกับตัวรถเดิมๆทั้งหมด โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่เดิมสนิทไม่มีการปรับแต่งหรือเซตอัพใดๆ

ผมเฝ้าติดตามน้าบานเตรียมรถ เพื่อไปทริปนี้ด้วยกันอย่างใกล้ชิด หลังจากได้ทราบเส้นทางแล้วว่าเราต้องเอารถ “บังลม “ ทั้ง 2 คันนี้ลงดินเป็นทางแบบ 4x4 จากสภาพรถที่จัดการมา เห็นแล้วก็น่าจะลุยได้ ไม่น่าจะแตกต่างกับรถบังโคลนลอยรุ่นอื่นๆแน่

ได้ลองของจริงเมื่อทุกอย่างพร้อม เรียบร้อยก่อนวันเดินทางไม่กี่วัน ซึ่งก่อนหน้าได้ลองเทสช๊อคอัพแบบขำๆแล้วตัดสินใจขอน้าเปลี่ยนตัวโช้คหลังอยู่หลายครั้ง จนได้แบบที่พอใจกันที่สุด เพราะสำหรับรถ Super Cup 110 ช่วงล่างเดิมๆที่ดูนิ่มเกินไปกับเส้นทาง และสัมภาระที่ผมนำติดตัวไปขี่ไปไม่รอดแน่นอน

เริ่มคืนแรกจากกรุงเทพฯ(9/11/63) เอามอเตอร์ไซค์ขึ้นท้ายรถกะบะแล้วรอให้การจราจรในเมืองซาลง จึงได้ฤกษ์ออกเดินทางกันราว 3 ทุ่ม ยิงยาวในเส้นทางสายหลัก จากกรุงเทพฯสู่เมืองน่าน ระยะทางราวๆ 700 กิโลเมตร ถึงเกือบสว่างและได้นอนเอาแรงกันเล็กน้อย


เข้าสู่วันแรกของทริป(10/11/63) ที่เมืองน่านหลังจากเอารถ มอเตอร์ไซค์ลงจากท้ายรถกะบะแล้ว เราขี่วนหาอะไรทานก่อนจะเริ่มทริปของเราตามแผนที่วางไว้ เริ่มจากเที่ยววัดภูมินทร์ และไปต่อที่ศาลหลักเมือง ก่อนไปที่ร้านกาแฟดีที่ชื่อ “ณ น่าน” จากนั้นออกเมืองสู่จุดหมายแรกของทริปนี้เลย

เป้าหมายของการเดินทางวันแรกอยู่ที่ อช.นันทบุรี เราจะขึ้นไปนอนที่หน่วยต้นน้ำยม ซึ่งอยู่ที่ดอยกาด อ.ปง จังหวัดพะเยา เป็นเขตผืนป่าที่อยู่ระหว่างรอยต่อของ 2 จังหวัด คือน่านกับพะเยา ครั้งนี้เราขึ้นไปทางอ.ท่าวังผา จ.น่าน นั่นเอง

สำหรับเส้นทางของวันแรกขี่สนุกและท้าทาย หลังจาก ได้วัดกำลังเครื่องยนต์จากทางตรงยาวออกจากเมือง ผ่านอำเภอท่าวังผาแล้วลัดเลาะขึ้นเขาบนทางลาดยางสาย 1148 ก่อนพบกับทางดินเมื่อถึงปากทางเข้าด้านหน้าเขตอุทยานฯ อีกประมาณ 12 กิโลเมตร ขึ้นลงเนินลัดเลาะไปตามไหล่เขาถึงจุดชมวิว และที่พักสำหรับคืนแรกที่น่าน

ยาง ND 504 ที่ใส่มางานนี้รับบทพระเอก บนทางดินด้วยประสิทธิภาพการยึดเกาะที่ยอดเยี่ยม เรามั่นใจกับรถมากจนกล้าที่จะพาเลี้ยว บิดคันเร่งล้อจิกพื้นไต่ขึ้นเนินกันสบายๆพาเราไปถึงแลนด์มาร์คจุดแรก อช.นันทบุรี เสร็จแล้วได้ไปต่อที่จุดชมวิวบนดอยวาว ก่อนที่จะไปสุดกันที่ดอยกาด

Honda Super Cup ไปบนทางดินกับเราได้เหมือนกัน หลายคนที่มีรถรุ่นนี้อาจชอบเที่ยวเหมือนๆกับเรา หรือใครที่อยากลอง ข้อดีของตัวรถนี้คือมีน้ำหนักเบา ขี่มันก็คุมง่ายขี่ง่าย กำลังเครื่องยนต์ก็กำลังพอเหมาะกับรถที่แบกน้ำหนักคนขี่ แบกสัมภาระก็พากันขึ้นไปถึงยอดดอยได้เลยทีเดียว

ผมเก็บภาพวิวทิวทัศน์มาฝากกันพอสมควรสำหรับวันแรก ไม่ว่าจะเป็นบนดอยกาด จนถึงจุดชมวิวสวยๆด้านล่าง ส่วนเส้นทางที่ผ่านมา ผมรู้สึกสนุกกับการขี่รถ ใช้เวลาสุดจนแสงตะวันลาลับ พร้อมกับลมหนาวแรกของปีที่อุณหภูมิ 11 องศาเซลเซียส มาต้อนรับเราบนยอดดอยครั้งนี้

เช้าตรู่เสียงนกป่านานาพันธุ์ร้องทักทายกันตั้งแต่ตี 5 ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 63 เวาลานั้นผมรู้สึกตัวตื่นแล้ว แต่ก็ยังขอนอนขดเป็นกุ้งอยู่ใต้ผ้าห่ม เพราะอากาศที่เย็นจัดจนไม่กล้าแม้กระทั่งพลิกตัว ที่สุดก็เผลอหลับต่อรู้สึกตัวอีกทีแสงเช้ามาต้อนรับกันแล้ว กับอากาศที่ยังเย็นจัดจนต้องตัดใจที่ ดื่มกาแฟชมแสงเช้าบนดอยได้คนละแก้ว แล้วรีบเก็บของจรลีลงสู่พื้นราบตั้งแต่ก่อน 9 โมงเช้า

เป้าหมายถัดไปที่อำเภอบ่อเกลือ เราข้ามจากแนวตะเข็บจังหวัดแพร่กับน่าน ข้ามฟากฝั่งตะวันตกมาที่ฝั่งตะวันออก ลงเขามาทางเดิมจากท่าวังผามาทางอำเภอปัว เพื่อข้ามดอยภูคาไปลงทางบ่อเกลือ ก็จะถึงจุดหมายที่ 2 ของทริปนี้

ด้วยเส้นทางเดิมที่เคยใช้บ่อยครั้ง แต่กลับมีเรื่องเล่าระหว่างทางใหม่ๆ กับวิวทิวทัศน์ที่ไม่เคยแวะมาตรงนี้แม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งจุดนี้ถึงก่อนถึงจุดถ่ายภาพต้นภูคาบนดอยนิดหน่อย เราได้พบจุดที่งดงามยิ่ง จะว่าไปก็เหมือนในหนังการ์ตูนอย่างเรื่อง “กังฟูแพนด้า” หรือหนังจีนกำลังภายในหลายๆเรื่อง จะมีที่สำหรับจอมยุทธ์บนยอดเขาสูง และมีไม้ยืนต้นที่ยืนหยัดอยู่บนนั้นเป็นมุมมองแบบ 360 องศา ฉากนี้ต้องมีผมก็เลยจัดกันคนละภาพสองภาพ งดงามจริงๆ

ลงเขามาได้ก็เข้าเขตอำเภอบ่อเกลือ ผมยังสนุกกับการขี่ Honda Super Cup แบบไม่เร่งรีบลัดเลาะไหล่เขา ชมวิวกันมาตลอดทางอยากจอดตรงไหนก็จอกกันตามอำเภอใจ ลุยไปทุกทางที่อยากเข้าไป จนลืมความเหน็ดเหนื่อยพร้อมกับรู้สึกว่า ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ

ทริปนี้เรามองข้ามการเดินเที่ยว ที่หมู่บ้านทำเกลือภูเขา พอลงดอยภูคาได้ก็เลยเอาสัมภาระ ไปจัดเก็บไว้ที่พักอช.ขุนน่าน แล้วรีบบิดรถไปเซอเวย์หมู่บ้านสะปันก่อนพระอาทิตย์ตก ซึ่งหมู่บ้านอยู่ไม่ห่างกับที่พักมากนัก

ขณะที่ขี่รถวนเวียนที่สะปันช่วงเย็น ท้องเกิดร้องขณะเดินเก็บภาพ ก่อนที่พระอาทิตย์จะลับเหลี่ยมเขาเสียอีก เราคงต้องกลับไปแล้วค่อยมาใหม่วันรุ่งขึ้น โดยวางแพลนไว้ว่าจะมาหลังจากถ่ายวิวทะเลหมอกจากมุมสูงช่วงเช้า ณ จุดชมวิวสะปันที่อช.ขุนน่าน

เช้าของวันที่ 12 พฤศจิกายน เป็นไปตามแพลนที่วางไว้นั้นคือ ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นจะไปจุดชมวิวที่อช.ขุนน่าน จุดนั้นอยู่ไม่ห่างจากที่พักของเรา จะได้เก็บภาพทะเลหมอกที่ปกคลุมหมู่บ้านสะปันช่วงพระอาทิตย์ขึ้นเล็กน้อย

จากนั้นค่อยตีล่องลงมาเก็บบรรยากาศ ของสายหมอกยามเช้าในหมู่บ้านสะปัน
นั้นเป็นอะไรที่งดงามยิ่งนัก สำหรับการมาสัมผัสวิถีสะปันครั้งแรกของเรา กับวิถีดั้งเดิมของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ ในหุบเขาที่สูงใหญ่ทั้งเป็นแหล่งต้นน้ำ โดยมีลำน้ำว้าช่วยหล่อเลี้ยงวิถีเกษตรกรรม ทั้งทำให้ทั้งพื้นที่มีสีเขียวชอุ่มดูสมบูรณ์

รวมถึงสภาพภูมิศาสตร์ของหมู่บ้านสะปัน อยู่ในหุบเขาขนาดใหญ่ที่เป็นป่าต้นน้ำ จึงมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามไม่ว่าจะมองจากพื้นราบหรือมุมสูง เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายมาที่นี่ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว ที่พักโฮมสเตย์ของที่นี่ถูกจองล่วงหน้าเต็มหมด ที่เหลือก็จุดกางเตนท์ที่พอจะมีพื้นที่ของเอกชน และที่วัดสะปันซึ่งนั้นเป็นอีกจุดชมวิวหุบเขาบ้านสะปันที่งดงามเหมือนกัน

เก็บภาพที่สะปันมาฝากกัน ตั้งแต่ฟ้าสางจนหมอกเริ่มจางหายไปราวๆ 8 โมงเช้า แล้วเรากลับไปเก็บของที่พัก เตรียมโบกมือลาจากอ.บ่อเกลือ ไปปิดทริปกันในเมืองน่าน จุดที่เรามาถึงวันแรกแล้วเตรียมล่องกลับกรุงเทพฯ ในวันเดียวกันนี้...

เส้นทางจากอ.บ่อเกลือถึงอ.สันติสุขระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ที่เหมือนเป็นของขวัญที่ทำให้การขี่รถเที่ยวครั้งนี้มีความสุขมากขึ้น จากเส้นทางลาดยางลัดเลาะไหล่ขึ้นลงจุดสูงสุดของดอย ทางดีขี่ง่ายเหมาะกับรถมอเตอร์ไซค์ ถ้าใครไม่เคยใช้ทางนี้น่าจะมาลอง ทางสวยจริงๆ

ไม่กี่อึดใจเราเดินทางกลับมาถึงในเมืองน่าน ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการพารถ Honda Super Cub ทั้ง 2 คัน มาขี่เที่ยวในครั้งนี้ ช่วงเที่ยงๆของวัน เราเตรียมนำรถขึ้นท้ายกะบะ แล้วพร้อมเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาช่วงเย็น

หลังจากขี่รถเที่ยวน่านครั้งนี้มา 2-3 วัน เรายังไม่รู้สึกเหนื่อยกับระยะทาง แต่กลับรู้สึกว่าแม้ระยะเวลามีน้อยเราก็เที่ยวจังหวัดไกลๆได้ แล้วยังได้เที่ยวมากขึ้น ครั้งนี้ยังได้รู้จักกับหลายๆสถานที่มากขึ้น จากมุมมองแคบๆเดิมๆที่เคยเป็น

ได้เห็นบางสิ่งในมุมมองกว้างมากขึ้น พบความสุขกับการเที่ยวด้วยรถมอเตอร์ไซค์ มาได้จะมาอีก.... ยังมีอีกหลายมุมที่ยังไม่ไป...

พบกันใหม่ทริปหน้า
ขอขอบคุณเพื่อนร่วมทาง        รถจักรยานยนต์ Honda Super Cub /น้าบาน สุทธิสาร แววสมณะ ขอขอบคุณที่พัก                        อุทยานแห่งชาติ นันทบุรี /อุทยานแห่งชาติ ขุนน่าน     
ตัวช่วยที่สำคัญ     ยางรถจักรยานยนต์ ND Rubber /โซ่ D.I.D 
  
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่