สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
ขอให้ความเห็นเรื่องเกียร์พัง และการซ่อมแซมอย่างเดียวนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า
1. รถจขกท.หมดอายุรับประกันแล้ว โดยมีอายุการใช้งาน 3.5 ระยะทาง 5x,xxx กม.
2. ศูนย์ทำเกียร์พังเพราะเติมน้ำมันเกียร์มากไป
3. บทสรุปคือ เปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่ ไม่มีร้บประกัน จขกท.จ่ายเอง 20% (และค่าของเหลว อาจจะค่าแรงด้วยละป่าว?)
ตรงนี้ จขกท.ไม่โอเค เพราะคนทำพ้งคือศูนย์ ต้องรับผิดชอบ อันนี้เห็นด้วยครับ
เข้าเรื่องละ
ถ้าศูนย์ไม่เติม นมก.เกิน หรือไม่เอา นมก.ผิด spec เติมลงไป เกียร์อาจไม่พัง ดังนั้น พิสูจน์ไม่ได้ว่าเกียร์มี defect ด้วยละป่าว
กอปรกับ เจอปัญหา เมื่อพ้นระยะประกัน (= แม้จะเติม นมก.มากไป แต่นระยะประกันใบ้งานได้ตามปกติ ใช่ไหมครับ)
ผู้ผลิตมก็มีความชอบธรรมที่จะปฏิเสธการเคลม ด้วยว่าไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
แต่ศูนย์ก็ยังต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ที่ทำเกียร์พังเนอะ แล้วมำไม จขกท.ต้องเสียเงินด้วยล่ะ
เอาละครับ มองอย่างเป็นกลางว่า เกียร์ลูกนี้ใช้งานมาแล้วตามเวลาและนะทางข้างต้น ย่อมมีการเสื่อมสภาพ
ศูนย์นำเกียร์ลูกใหม่มาเปลี่ยน อันนั้น ของใหม่ 100 % มาเปลี่ยนกับของเดิมที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว
หากศูนย์จะคิดค่าเสื่อมราคา 20% ก็ฟังได้ ว่าแต่อัตรา 20% นี้ มีเหตุผลไหมนะ
ถ้าคิดจากการใช้งาน ในแง่อายุ 3.5 ปี คิดค่าเสื่อม 20%
อายุเกียร์ลูกนี้ หากไม่เสีย ก็น่ามากกว่านี้อีก 4 เท่าคือ 14 ปี รวมที่ใช้มา 3.5 ปี เป็นอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์17.5 ปี
หรือคิดแนวเดียวกัน จากระยะทาง ก็จะได้อายุ 100% ที่ 250000 กม.
จขกท.ว่า make sense หรือไม่ครับ อันนี้แล้วแต่ท่าน ผมว่าพอรับฟังได้ แต่ดีพอหรือไม่ อยู่ที่ใจของแต่ละท่านละ
แต่ .... ค่าแรง และค่าของเหลวศูนย์ "ต้อง" รับผิดชอบ เพราะถ้าไม่ทำพัง จขกท.ก็ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ คชจ.เหล่านี้ ย่อมไม่เกิด
และ ศูนย์ต้องรับประกันคุณภาพอะไหล่ อย่างน้อยเ เท่ากับอะไหล่ทั่วไปที่เลี่ยนกับศูนย์ ทั่วไป ผมก็เห็นว่า ประมาณ 6 เดือน
ทีนี้ประเด็นเรื่องเกียร์พังง่ายไปไหม ก็มีข้อควรพิเคราะห์ว่า
1. สัดส่วนรถที่มีปัญหา กับรถที่ใช้งานได้เป็นปกติ ต่างกันเพียงใด
ผมไม่ทราบยอดขายรายปีของ FC แต่ไม่น่าจะน้อยกว่าปีละ 30000 คันมั๊ง มโนเอาเองจากการเป็นที่ 1 ใน C Segment
ไม่ทราบว่าในแต่ละปี มีเกียร์พัง เกิน 10% คือ 3000 คันไหม
ไม่น่าจะถึง หากเป็นดังว่าปีละ 3000 คัน ขายมา 3 ปี ก็น่าจะมีผู้เดือดร้อนสะสม ไม่ต่ำกว่า 10000 รายเข้าไปโน่น
แต่ตอนนี้ ที่เป็นข่าว 1000 คัน จะถึงละป่าว ก็ยังไม่ขัดเจน
2.หากคักยภาพ นมก.หรือเจ้าหน้าเกี่ยวข้อง ไม่ได้มาตรฐานก็จะถูกฟ้องด้วยอัตราผู้เสียหาย ดังข้อแรก
3. หาก CVT เปราะ ผู้บริโภค ก็แทบไม่มีตัวเลือกเหลือละมัง แต่ละยีาห้อ ก็แห่ๆปซบ CVT ทั้งนั้น
แต่ ... เจ้าอื่นเค้าไม่พังนี่ ก็สรุปว่าของฮอน คุณภาพสู้ไม่ได้
อันนี้ ผู้บริโภค ต้องเลือกเองละ ว่าจะซื้อเจ้าใด ถ้าไม่มั่นใจ ก็ต้องชี้อเจ้าอื่นแทนน่ะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า
1. รถจขกท.หมดอายุรับประกันแล้ว โดยมีอายุการใช้งาน 3.5 ระยะทาง 5x,xxx กม.
2. ศูนย์ทำเกียร์พังเพราะเติมน้ำมันเกียร์มากไป
3. บทสรุปคือ เปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่ ไม่มีร้บประกัน จขกท.จ่ายเอง 20% (และค่าของเหลว อาจจะค่าแรงด้วยละป่าว?)
ตรงนี้ จขกท.ไม่โอเค เพราะคนทำพ้งคือศูนย์ ต้องรับผิดชอบ อันนี้เห็นด้วยครับ
เข้าเรื่องละ
ถ้าศูนย์ไม่เติม นมก.เกิน หรือไม่เอา นมก.ผิด spec เติมลงไป เกียร์อาจไม่พัง ดังนั้น พิสูจน์ไม่ได้ว่าเกียร์มี defect ด้วยละป่าว
กอปรกับ เจอปัญหา เมื่อพ้นระยะประกัน (= แม้จะเติม นมก.มากไป แต่นระยะประกันใบ้งานได้ตามปกติ ใช่ไหมครับ)
ผู้ผลิตมก็มีความชอบธรรมที่จะปฏิเสธการเคลม ด้วยว่าไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
แต่ศูนย์ก็ยังต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ที่ทำเกียร์พังเนอะ แล้วมำไม จขกท.ต้องเสียเงินด้วยล่ะ
เอาละครับ มองอย่างเป็นกลางว่า เกียร์ลูกนี้ใช้งานมาแล้วตามเวลาและนะทางข้างต้น ย่อมมีการเสื่อมสภาพ
ศูนย์นำเกียร์ลูกใหม่มาเปลี่ยน อันนั้น ของใหม่ 100 % มาเปลี่ยนกับของเดิมที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว
หากศูนย์จะคิดค่าเสื่อมราคา 20% ก็ฟังได้ ว่าแต่อัตรา 20% นี้ มีเหตุผลไหมนะ
ถ้าคิดจากการใช้งาน ในแง่อายุ 3.5 ปี คิดค่าเสื่อม 20%
อายุเกียร์ลูกนี้ หากไม่เสีย ก็น่ามากกว่านี้อีก 4 เท่าคือ 14 ปี รวมที่ใช้มา 3.5 ปี เป็นอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์17.5 ปี
หรือคิดแนวเดียวกัน จากระยะทาง ก็จะได้อายุ 100% ที่ 250000 กม.
จขกท.ว่า make sense หรือไม่ครับ อันนี้แล้วแต่ท่าน ผมว่าพอรับฟังได้ แต่ดีพอหรือไม่ อยู่ที่ใจของแต่ละท่านละ
แต่ .... ค่าแรง และค่าของเหลวศูนย์ "ต้อง" รับผิดชอบ เพราะถ้าไม่ทำพัง จขกท.ก็ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ คชจ.เหล่านี้ ย่อมไม่เกิด
และ ศูนย์ต้องรับประกันคุณภาพอะไหล่ อย่างน้อยเ เท่ากับอะไหล่ทั่วไปที่เลี่ยนกับศูนย์ ทั่วไป ผมก็เห็นว่า ประมาณ 6 เดือน
ทีนี้ประเด็นเรื่องเกียร์พังง่ายไปไหม ก็มีข้อควรพิเคราะห์ว่า
1. สัดส่วนรถที่มีปัญหา กับรถที่ใช้งานได้เป็นปกติ ต่างกันเพียงใด
ผมไม่ทราบยอดขายรายปีของ FC แต่ไม่น่าจะน้อยกว่าปีละ 30000 คันมั๊ง มโนเอาเองจากการเป็นที่ 1 ใน C Segment
ไม่ทราบว่าในแต่ละปี มีเกียร์พัง เกิน 10% คือ 3000 คันไหม
ไม่น่าจะถึง หากเป็นดังว่าปีละ 3000 คัน ขายมา 3 ปี ก็น่าจะมีผู้เดือดร้อนสะสม ไม่ต่ำกว่า 10000 รายเข้าไปโน่น
แต่ตอนนี้ ที่เป็นข่าว 1000 คัน จะถึงละป่าว ก็ยังไม่ขัดเจน
2.หากคักยภาพ นมก.หรือเจ้าหน้าเกี่ยวข้อง ไม่ได้มาตรฐานก็จะถูกฟ้องด้วยอัตราผู้เสียหาย ดังข้อแรก
3. หาก CVT เปราะ ผู้บริโภค ก็แทบไม่มีตัวเลือกเหลือละมัง แต่ละยีาห้อ ก็แห่ๆปซบ CVT ทั้งนั้น
แต่ ... เจ้าอื่นเค้าไม่พังนี่ ก็สรุปว่าของฮอน คุณภาพสู้ไม่ได้
อันนี้ ผู้บริโภค ต้องเลือกเองละ ว่าจะซื้อเจ้าใด ถ้าไม่มั่นใจ ก็ต้องชี้อเจ้าอื่นแทนน่ะครับ
แสดงความคิดเห็น
แชร์ประสบการณ์เกียร์cvt Honda Civic FC พังที่ 50,xxxโล และคำตอบของ Honda ที่ฟังแล้วถึงกับส่ายหัว
รถเรามีเสียงผิดปกติ เวลาออกตัวเสียงดังวืดๆๆๆ เหมือนโลหะหมุนฝืดๆ และหมุนดังเร็วขึ้นตามการเร่งความเร็ว เอาเข้าศูนย์บริการแห่งหนึ่งของชลบุรี ศูนย์บอกว่าเสียงเกิดจากในเกียร์ ศูนย์ยอมรับว่าเติมน้ำมันเกียร์เกินไป(เติมตามใจฉัน) และจะรับผิดชอบเปลี่ยนเกียร์ใหม่ให้ ให้มาเช็คอีกรอบวันจันทร์ พอวันจันทร์เปลี่ยนเหตุผลใหม่บอกว่าน้ำมันเกียร์เสื่อมคุณภาพจากการเก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่ดีหรือเกิดจากความชื้นเข้าไปข้างใน(อ่างน้ำมันเกียร์เป็นระบบปิดไม่มีทางที่อากาศจะเข้าไปได้ นอกจากศูนย์หมุนฝาอ่างน้ำมันเกียร์ไม่แน่นตอนที่เติมน้ำมันเกียร์อากาศจึงเข้าไปได้ และบอกว่า น้ำมันเกียร์เสื่อมเพราะจอดนานไม่ค่อยได้ใช้รถ แต่เราใช้รถขับไปทำงานทุกวัน ) และไม่ขอรับผิดชอบเรื่องของเหลว แต่จะขอเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ใหม่ให้แทน หลังจากเปลี่ยนแล้วได้ออกไปวิ่งเทสรถ ปรากฏว่ารถมีเสียงดังด้านหน้ากว่าเดิม เกียร์ถอยหลังดังครึ่กๆๆจากตอนแรกที่ไม่ดัง ศูนย์เลยบอกว่าเป็นเพราะชิ้นส่วนของเกียร์อาจสึกเหรอแทน ต้องเปลี่ยนเกียร์แต่ไม่เกี่ยวกับศูนย์เพราะไม่ใช่เกียร์ของฮอนด้าแต่เป็นชิ้นส่วนของ supplier จึงให้เราทิ้งรถไว้ที่ศูนย์อีกหนึ่งวันเพื่อติดตั้งเครื่องมือตรวจสอบเพื่อเป็นการยืนยันว่าเสียงดังมาจากเกียร์จริงๆ ทางศูนย์ให้เรารับผิดชอบจ่ายค่าเกียร์เอง เราจึงร้องเรียนไปที่ call center คุยกันล่าสุดศูนย์รับผิดชอบจ่ายให้ 80% และให้เวลาเราถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 นี้ ถ้าเราไม่เอารถเข้ามาตามระยะเวลาที่เขากำหนดเขาก็จะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น แต่ยังยืนยันว่าไม่รับประกันเรื่องชิ้นส่วนและไม่รับประกันงานซ่อม ถ้าอยากได้การรับประกันต้องจ่าย100% เนื่องจากรถเรารถเราหมด warrantyไปแล้วแต่ช่วงที่ศูนย์เติมน้ำมันเกียร์เกินยังอยู่ในระยะเวลา warranty (ก่อนหน้าที่จะถึง 80% ศูนย์จ่ายให้ที่ 50% รับประกันที่ 1 ปีแต่เราไม่โอเคเพราะความผิดไม่ได้เกิดจากเรา มาตอนหลังกลับบอกว่าไม่เคยพูดประโยคที่ว่าจะรับประกันให้ออกมา เรานี่เงิบเลยค่ะ) รถเรา 3 ปี 6 เดือนแต่เลขไมล์เพียง 50,xxx แต่ตอนที่ศูนย์ยอมรับว่าเติมน้ำมันเกียร์เกิน ตอนนั้นยังอยู่ในประกัน( เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เมื่อ กุมภาพันธ์ 2019 )
เราได้สอบถามกับผู้จัดการศูนย์ ว่าที่ผ่านมาเคยเกิดเคสเรื่องเกียร์มีปัญหานี้กับผู้ใช้ฮอนด้าท่านอื่นหรือไม่ คำตอบที่ได้รับคือเป็นเคสที่น้อยมากจะเกิดขึ้น เราจึงลองไปสืบค้นหาข้อมูลเรื่องเกียร์มีปัญหา สอบถามกับคนที่ใช้รถรุ่นนี้ พบว่า มีผู้ใช้รถฮอนด้าหลายท่านที่มีปัญหาเรื่องเกียร์ เหมือนกับเรา ทั้งเกียร์กระตุก เกียร์หอนมีเสียงดัง เหยียบแล้วฟรี หรือรถดับกลางถนนไปเลยก็มี แล้วยังพบเคสตัวอย่างของท่านอื่นที่สาเหตุเกิดจากการเติมน้ำมันเกียร์เกิน โดยลูกค้าท่านนี้ได้ไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ร้านบริการด้านนอก และเกิดเสียงดังจากในเกียร์ จึงไปเข้าศูนย์ฮอนด้าแห่งหนึ่ง ทางศูนย์แจ้งว่าเกิดจากร้านบริการด้านอกเติมน้ำมันเกียร์เกิน ต้องเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่ กลับกันเคสของเรา ที่เกิดจากการศูนย์เติมน้ำมันเกียร์เกินเองกับมือ แต่กลับปฏิเสธเปลี่ยนคำพูดในวันต่อมา ว่าขอไม่รับผิดชอบเรื่องของเหลวและจะไม่พูดถึงการเติมน้ำมันเกียร์เกินกับน้ำมันเกียร์เสื่อมสถาพอีก ถ้าจะฟ้องต้องฟ้องที่ตัวพนักงานที่เป็นคนเติมไม่เกี่ยวกับทางศูนย์ฮอนด้า
มีหลายข้อข้องใจที่อยากได้รับคำตอบจากทางฮอนด้า
1. ทำไมตอนแรกบอกเติมน้ำมันเกียร์เดือนกรกฎาคม 2563 เราถามย้ำหลายครั้งเลยว่าเติมเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี่ใช่ไหม ช่างตอบว่าใช่ เราก็งงทั้งที่ยังไม่ถึงรอบเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เลย ตอนหลังเราเช็คจากใบเสร็จปรากฏว่า เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ล่าสุดปี กุมภาพันธ์ 2562 สงสัยว่าช่างได้เช็ครถจริงหรือเปล่าหรือแค่เดามั่วๆ
2. แล้วการที่บอกว่าเช็คเบรก ล้อ สายพาน ลูกปืน แล้วไม่พบอะไรผิดปกติ นี่ก็ได้เช็คจริงๆอีกหรือเปล่า(เริ่มไม่แน่ใจ)
3. ช่างบอกว่าจะเปลี่ยนเกียร์ใหม่ให้ ให้มาวันจันทร์เพื่อเช็ครถอีกที พอมาวันจันทร์ยังไม่ทันได้เช็ครถเลย ศูนย์มาเปลี่ยนเหตุผลว่าไม่ได้เกิดจากการเติมน้ำมันเกียร์เกิน เป็นที่น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพ เพราะความชื้นเข้าไป และเพราะลูกค้าจอดรถนาน ไม่ค่อยได้ใช้รถ แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเราไม่ได้ใช้รถ เป็นการเดาของช่างที่ฟังแล้วรู้สึกได้ถึงผลักความรับผิดชอบให้ลูกค้า แล้วเมื่อวันก่อนที่มาเช็คทำไมไม่แจ้งถึงน้ำมันเกียร์เสื่อม ทำไมมาแจ้งเอาวันจันทร์ เอาเวลาตอนไหนไปเช็คว่าน้ำมันเกียร์เสื่อม
4. ตอนแรกบอกเติมน้ามันเกียร์เกินจะเปลี่ยนเกียร์ให้ใหม่ ตอนหลังบอกเราหมด warranty ต้องจ่ายเอง แต่ตอนที่เติมน้ำมันเกียร์ถ้าดูจากใบเสร็จ มันก็คือเดือน กุมภาพันธ์ 2562 ยังอยู่ใน warranty แล้วรอบถัดไปของการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ คือ ปีหน้า สงสัยว่าน้ำมันเกียร์ฮอนด้าได้มาตรฐานจริงๆหรือไม่ ทำไมถึงอยู่ได้ไม่ถึงระยะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์รอบถัดไป หรือมีเหตุผลทางธุรกิจใดแอบแฝง หรือต้องการให้ลูกค้าเสียค่าซ่อมบำรุงเอง ถึงได้ ให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ40,000 โล ทั้งที่ลูกค้าบางคนยังรู้จักการบำรุงรักษาเกียร์ CVT เลยว่าต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 20,000 โล
5. มาตรฐานการทำงานของพนักงานเกี่ยวกับเรื่องขั้นตอนการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ มีหรือไม่ ทำไมพนักงานถึงไม่ทำตามมาตรฐาน แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า พนักงานทำตามมาตรฐาน ทั้งๆที่แค่การเติมน้ำมันให้ได้ตามสเปคที่กำหนด พนักงานศูนย์ยังทำไม่ได้เลย แล้วมั่นใจไหมว่ากับรถลูกค้าท่านอื่น พนักงานจะทำถูกต้องตาม standard
6. ผู้จัดการศูนย์ไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้า บอกว่า สามารถขับรถได้ตามปกติ ขับที่ความเร็วสูง 120 km/hr ก็ไม่มีปัญหา แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะปลอดภัย
7. ศูนย์บริการนี้ ได้มาตรฐานจริงๆหรือ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้วทางฮอนด้าที่ดูแล dealer พวกนี้ ยังปล่อยให้ ตัวแทน dealer ให้บริการกับลูกค้าฮอนด้าโดยที่ไร้ซึ่งมาตรฐานแบบนี้อยู่อีกหรือ
8. ทางผู้จัดการศูนย์ยืนยันว่า ไม่เคยเกิดเคสที่มีปัญหาเรื่องเกียร์แบบนี้มาก่อน แต่หลังจากมที่เราได้ไปหาข้อมูล พบว่า ปัญหาเรื่องเกียร์นี้ได้เกิดขึ้นกับลูกค้าฮอนด้ารายอื่นด้วย ไม่ใช่เป็นเคสที่ไม่ค่อยเกิดอย่างที่ทางฮอนด้าเข้าใจ หรือทางฮอนด้ากำลังปกปิดเรื่องเกียร์ที่ไม่ได้คุณภาพนี้ อยู่หรือความจริงเกียร์lot นี้มีปัญหามาตั้งแต่แรก แต่ยังดึงดันที่จะขายต่อไป
ทางฮอนด้าแจ้งว่า เราเพิ่งมามีเสียงหลังหมด warrenty แต่ความจริงรถเราสะอึกมาเป็นปีๆแล้ว หลังจากที่เราขับรถออกจากศูนย์ฮอนด้าเนื่องจากนำรถเข้าเช็คระยะ แต่เราคิดว่าคงเป็นจังหวะเปลี่ยนเกียร์ปกติ ส่วนเสียง วืดๆๆ เราได้ยินมานานแล้ว เพียงแต่ช่วงแรกๆ มันดังเบาๆ คิดว่าเป็นที่เศษดินหรืออะไรไปติดจานเบรก แต่ช่วงหลังๆมันดังมากขึ้นๆ เมื่อมีเวลาเลยนำเข้าศูนย์ให้ตรวจเช็ค ถึงได้รู้จากปากช่างว่าเกินจากการที่ช่างเติมน้ำมันเกียร์เกินและน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพเนื่องจากการเก็บไว้ในที่ที่ไม่ถูกต้อง และจะทำการเปลี่ยนเกียร์ให้ใหม่ แต่หลังจากที่ได้ลองเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แล้ว รถมีปัญหาหนักกว่าเดิม ตอนที่นำรถออกไปเทสและมีปัญหาเรื่องเกียร์ถอยหลังดังขึ้นมา ทางช่างแนะนำกับเราว่า ให้เราร้องเรียนเรื่องคุณภาพเกียร์ไปยังสำนักงานใหญ่ เพื่อร้องขอให้พิจารณาเรื่องคุณภาพของเกียร์ เพราะรถเราเลขไมล์น้อยมาก
เกียร์ไม่ควรมาพังแบบนี้
อยากสอบถามค่ะว่า กรณีนี้ เราเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่กับศูนย์ ศูนย์ไม่รับประกันให้เราแบบนี้ถูกต้องหรือไม่ และต้องเปลี่ยนภายใน 30 พฤศจิกายน 2563 นี้เท่านั้นและถ้าหากเราฟ้อง สคบ ทางสำนักงานใหญ่แจ้งว่า เงื่อนไขอาจจะเปลี่ยนแปลงไป ท่านอื่นมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ ควรฟ้องสคบ หรือฟ้องศาลดีหรือไม่คะ🙇
ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่เราอยากแชร์เป็นประสบการณ์โดยตรงของเรา และเราตั้งใจว่า เราจะไม่เชื่อใจศูนย์บริการนี้อีกแล้ว และจะไม่ซื้อรถฮอนด้าอีกต่อไป ศูนย์บริการฮอนด้าควรจะปรับปรุงเรื่องการบริการของศูนย์บริการให้ได้มาตรฐานให้มีความรับผิดชอบมากกว่านี้และหวังว่า รถ civic รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวนี้ ฮอนด้าได้ทำการแก้ไขปัญหาเรื่องคุณภาพเกียร์เรียบร้อยแล้ว หวังว่าคงจะไม่ได้ยินข่าวว่าเกียร์ CVT พัง จากกลุ่มคนใช้รถ Honda อีกนะคะ