ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าผมไม่ได้เป็นคนที่ review มือถือบ่อย เป็นคนที่เปลื่ยนมือถือไม่บ่อย ใช้ตามจริงเท่านั้น อีกทั้งเป็นคนที่ anti Samsung ตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อนด้วยซ้ำ เพราะมาจาก Support ที่ห่วยแตกของ Samsung ในเรื่อง Tablet และเครื่องซักผ้า ดังนั้นจะเป็นการ review โดยการใช้งานตามจริง จากคนธรรมดาที่ใช้งานมือถือทั่วไปในชีวิตประจำวัน แบบคนบ้านๆเลย ไม่ได้เน้นการใช้งานอะไรพิเศษ คืออย่างกล้องมีโหมด Pro ผมก็ไม่ได้ใช้ เพราะถ่ายรูปกล้อง Pro ไม่เป็นโว้ย

เริ่มแรกของการอยากลองใช้งาน
สิ่งที่ทำให้ผมเริ่มอยากลองใช้งานมือถือจอพับได้ เพราะผมเป็นคนที่เข้ายิมบ่อยมาก แล้วกิจกรรมปกติที่ผมเข้ายิมคือการวิ่งบนลู่วิ่ง แล้วไอ้การบนลู่วิ่งเป็นชม. เป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก ถ้าไม่มีอะไรให้ดู ดังนั้นโดยปกติแล้วผมจึงเอา iPad 10'' ไปด้วย แต่ด้วยความที่มันหนัก แล้วหลังๆผมเล่น weight และหลังเพิ่ม + ทำงานคอมเป็นปกติด้วย ทำให้เริ่มมีอาการปวดหลังจากการแบก iPad ไปด้วย (อาการชัดเจน เพราะลองว่าถ้าวันไหนไม่เอาไปอาการของหลังจะไม่รู้สึกอะไร) จึงอยากหา Solution ทางออก ซึ่งตอนแรกก็มองว่าหรือจะ iPad mini ดี ในช่วงนั้นก็มีการดู review ไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งไปเจอมือถือหน้าจอที่พับได้นี่หว่า นั่นคือ Samsung Galaxy Z Fold 2 กับ Huawei XS นั่นเอง แต่ราคามันแพงๆกันทั้งคู่(ไปหาราคากันเอาเองนะครับ) ก็เลยยังไม่ได้ตัดสินใจซื้ออะไร
จนกระทั่งการมาของ iPhone 12 ซึ่งผมก็ใช้ Oppo มา 2 ปีแล้ว ก็เลยคิดว่าจะเปลี่ยนมือถือ ทีนี้ประเด็นคือมันดันมีข่าวด้านลบของ iPhone12 ทั้งเรื่องของบาดมือและสีถลอก ซึ่งเฮ้ยนี่มันปี 2020 แล้วนะ มันจะยังมีอะไรแบบนั้นอีกหรอ แล้วประจวบเหมาะของการมาของโปรที่ลดราคามาเยอะของ Samsung Galaxy Z Fold 2 พร้อมกับเพื่อนยุ(ป้ายยา) ก็เลยตัดสินใจที่จะเปลี่ยนใจกลับมาลองดูอีกที จนกระทั่งตัดสินใจลองซื้อในที่สุด

เรื่องของ Spec. และ Feature
บอกเลยว่าส่วนนี้ไปหากันเอาเอง ผมไม่สนใจมัน เพราะเอาเข้าจริง ไอ้ความเร็วกี่ Hz หรือ RAM เท่าไหร่ มันไม่เป็นประเด็นสำหรับผม เพราะในยุคปี 2020 แล้ว ความเร็วของเครื่องไม่ได้เป็นประเด็นสำหรับผมอีกต่อไป เพราะไม่ว่าจะ Benchmark กันยังไง ผมก็ไม่ได้ใช้ขนาดนั้นอยู่แล้ว ผมใช้ตามกิจวัตรประจำวันของคนทั่วไปและคนทำงานใช้ เช่น
- Facebook
- Twitter
- Google Drive + เปิด Google Doc, Google Sheet ไปด้วย
- Youtube
- Slack
- Notion
- Gmail
- Kindle
- Manga Plus
- เล่นเกมส์ Pokemon Go**(เยอะสุด) + Wild Rift + Final Fantasy 6 + Chrono Trigger + Among Us

จะเห็นว่า App ทั้งหมดที่ผมใช้ มือถือระดับ 10000 ก็สามารถรันได้อย่างเร็วแบบไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นผมไม่สนใจเกี่ยวกับ spec ว่าจะ clock แตกต่างกันมั้ย ram อันไหนเยอะกว่ากัน ดังนั้นช่างมันปล่อยผ่านไป ใครสนใจไปหาเอง บอกได้แค่ว่าผมรันโดยไม่มีปัญหาอะไร เร็วดีครับ

First Impression
- การ response ของหน้าจอ
มือถือรุ่นก่อนหน้าที่ผมใช้คือ Oppo Reno2 ซึ่งหน้าจอปกติธรรมดาทั่วไป 60Hz ซึ่งพอมาใช้หน้าจอของ Z Fold 2 ที่เป็น 120Hz เห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทำให้รู้สึกว้าวมาก มันลื่นไหล มันสบายตา เล่นเกมส์อย่าง Wild Rift แบบลื่นไหลโคตรๆ รู้สึกประทับใจมาก
- Battery ที่ไปไวมาก
รายละเอียดของ battery และการชาร์ทจะเป็นตามด้านล่างครับ
- ความจุรวม 4500 mAh
- ชาร์จไวแบบมีสาย 25W Fast Charging และ QuickCharge 2.0
- ชาร์จไวแบบไร้สาย 11W Fast Wireless Charging
แต่สิ่งที่ตามมาคือแบตก็สูบเช่นกัน คือวันนึงจะต้องชาร์ทอย่างน้อย 2-3 รอบแน่นอน ถ้าหากคุณเป็น Gamer ขนาดผมเล่นน้อยมาก วันๆนึงยังต้องชาร์ทในช่วงทำงานไปด้วย ไม่งั้นตอนเย็นได้เสียบ power bank เข้ายิมแน่ๆ
- Fingerprint position
อีกอันนึงที่ไม่ชอบคือการที่ fingerprint นั้นอยู่ตรงข้างของเครื่อง ทำให้การ scan ทำได้ยาก เมื่อเทียบกับอารมณ์ที่ใช้ Oppo Reno2 มาก่อนหน้านี้ที่เอาที่ scan fingerprint ไปไว้ใต้จอ ความรู้สึกดีกว่าเยอะเลย
- App ที่รองรับหน้าจอแบบไม่พับ
และอีกอย่างที่แย่ก็คือการที่ App หลายๆตัวมันไม่ได้ปรับมาเพื่อใช้งานให้เหมาะกับลักษณะหน้าจอของ Z Fold 2 (7.6 นิ้ว, 2208x1768 , Ratio 22.5:18) ดังนั้นมันจึงมีปัญหาใหญ่บ้างเล็กบ้าง หรือบาง app พอขยายหน้าจอแล้วดันกดไม่ติดซะงั้นก็มี ต้องเปลี่ยนไปใช้พับจอแทน (6.23นิ้ว, 816 x 2260, Ratio 25:9) ซึ่งถามว่ามีเยอะมั้ยก็ไม่เยอะนะครับ แค่บางอันเท่านั้น
- ตำแหน่งของลำโพงคิดมาได้ไง 
ตำแหน่งของลำโพงนั้นอยู่ด้านข้างทำให้เวลาเล่นเกมส์ไปด้วยนั้นจะทำให้ไม่ได้ยินเสียงเพราะมือเราไปปิดลำโพงพอดี ไม่รู้ว่าทำไมไปไว้ตรงนั้นเหมือนกัน รู้แค่ว่ามันควรไปไว้ที่อื่นแทนมากกว่านะ
- กล้องที่ดันให้มาไม่สุด
กล้องที่ให้มากับทาง Samsung Z Fold 2 นั้นจะมี 2 ส่วนคือกล้องหน้าและกล้องหลัง Link ข้อมูล
กล้องหลังมีดังนี้ 
- กล้องหลัก (Wide) 12 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/1.8, เซนเซอร์รับภาพขนาด 1/1.76 นิ้ว, ระบบโฟกัสภาพแบบ Dual Pixel PDAF และระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS
- กล้อง Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.2, มุมรับภาพกว้าง 123 องศา
- กล้อง Telephoto 12 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.4, เซนเซอร์รับภาพขนาด 1/3.6 นิ้ว, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF, ระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS, ซูมภาพแบบ Optical Zoom ได้ 2 เท่า และซูมภาพแบบ Digital Zoom ได้ 10 เท่า
กล้องหน้ามีดังนี้
- กล้องหน้า (บนจอด้านหน้าฝาพับ) 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ขนาดพิกเซล 1.22 ไมครอน
- กล้องหน้า (บนจอหลักด้านใน) 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ขนาดพิกเซล 1.22 ไมครอน
คือโดยส่วนตัวผมมองว่ากล้องทำมาได้ดี เพราะโหมดการถ่ายมีหลากหลาย สามารถใช้กล้องหลังมาถ่าย Selfie ซึ่งน่าจะเหมาะสำหรับผู้หญิงที่ชอบ Selfie มากๆ ครับ
โดยผมลองถ่ายภาพทั้งในลักษณะต่างๆ โดยใช้กล้องหลัง และภาพในตำแหน่งเดียวกันโดยใช้กล้องหลัง 3 ตัวตามนี้ครับ

ซึ่งจะเห็นว่าถ้าเป็นสถานที่ที่มีแสงจะชัดเจนดี และคุณภาพโอเค

ถ่ายจาก Fitness First ไปทาง Central World จะเห็นว่าคุณภาพ drop ไปเยอะมาก โดยเฉพาะ Telephoto

ลองซูมแบบเต็มๆ ก็เห็นว่าภาพมันไม่ได้ชัดมากเท่าไหร่

ถ่ายภาพปกติถือว่าใช้ได้อยู่ครับ
ภาพในลักษณะเปรียบเทียบเช้าและกลางคืน

ส่วนกล้องหน้าถือว่าโอเคได้อยู่ครับ แต่ถ้าบอกว่าสู้กับตัวท็อปอันอื่นอย่าง Note 20 หรือ iPhone12 ก็คิดว่าไม่สามารถเทียบได้เลยครับ

ส่วนเรื่อง VDO ด้วยความที่ไฟล์ใหญ่ขอไม่โพสต์นี้ละกันครับ แต่ก็ถือว่าทำมาได้โอเคครับ กั่นสั่นใช้ได้ ภาพก็ชัดเจนดี แต่อย่าถ่ายกลางคืนครับ fail หากใครอยากลองตัวอย่างสามารถดูได้ของทาง Beartai ครับ

- ความจุ 256GB
Z Fold 2 นั้นไม่สามารถเพิ่มความจุด้วย External SD Card ได้ แต่อย่างที่ผมบอกไปข้างต้น ผมใช้มือถือไม่หนักมาก ทำให้ผมใช้พื้นที่เหลือๆครับ ไม่มีประเด็นอะไรครับ
- ระบบเครือข่าย และการเชื่อมต่อ
อีกจุดหนึ่งที่ตัดสินใจเลือกลอง Z Fold 2 5G โดย spec. เป็นดังต่อไปนี้ครับ
- 5G : Non-Standalone (NSA), Standalone (SA), Sub6 / mmWave
ซึ่งหากใครจะใช้ผมบอกเลยว่าแนะนำให้เช็คก่อนว่าพื้นที่ที่เราใช้งานเป็นปกตินั้นอยู่ในขอบเขตที่ให้บริการ 5G หรือไม่ครับ ไม่งั้นก็จะเหมือนไม่ได้ใช้ 5G นั่นเอง แต่ถ้าได้ใช้ก็ถือว่าเวิร์คมาก เพราะมันเร็วมาก วิ่งที่ 1Gbps เลยทีเดียว

ตอบโจทย์มั้ย
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าผมซื้อมาเพื่อใช้แทน iPad ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ครับ ทำให้ลดภาระเรื่องหลังไปเยอะ หน้าจอที่ใหญ่และลื่นไหล ทำให้สามารถใช้ออกกำลังกายได้ดีมาก ดู Youtube หรือ Netflix ไปพร้อมกับวิ่งไปด้วย อย่างดีเยี่ยม ไม่กระตุก หน้าจอ 120Hz ทำให้ภาพดูดีเลย รู้สึกว่าดีกว่าดูบน iPad อีกต่างหาก สำหรับการคุยงานหรือทำงานผ่าน Samsung Galaxy Z Fold 2 ก็ทำได้ดี ไม่มีปัญหาอะไรในการใช้งาน Google Doc, Google Sheet การดูข้อมูลก็ทำได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับ Oppo Reno2 เพราะความที่สามารถกางออกมาดูรายละเอียดได้ง่ายขึ้น จิ้มอะไรก็ง่าย แก้ไขพิมพ์อะไรก็ง่ายครับ ดังนั้นถือว่าไม่ผิดหวังและโอเคมากสำหรับโจทย์ที่ตั้งไว้ตอนแรก ทุกวันนี้กลายเป็น iPad ถูกทิ้งไว้ที่ห้อง ใช้เฉพาะตอนที่ต้องวาดอะไรเท่านั้น ทีเ่หลือ Samsung Galaxy Z Fold 2 ตอบโจทย์หมดครับ มิหนำซ้ำด้วยความที่มันไม่หนักมาก ทำให้สามารถอ่าน Kindle ได้อย่างดีเยี่ยม สบายมือ กลายเป็นว่าผมกลับมาอ่าน Kindle หลังจากที่แต่ก่อนไม่ได้ใช้บ่อยเท่าไหร่นัก เพราะ iPad มันหนักนั่นเอง

สรุปข้อดีข้อเสีย
- ข้อดี
-- เหมาะสำหรับดูการ์ตูน online และ Kindle มากๆ เหมาะมือ น้ำหนักใช้ได้เลย
-- ดูหนัง ฟังเพลงได้อย่างลื่นไหล สามารถใช้ระหว่างวิ่งบนลู่วิ่งได้อย่างสบายมาก
-- จอ 120Hz เปิดประตูสู่โลกใหม่ได้อย่างดีเยี่ยม
-- งานประกอบทนทานมีความคิดว่ามันไม่พับแล้วพังคามือแน่ๆ
-- โหมดกล้องมีหลากหลาย และสามารถเอากล้องด้านหลังมาถ่าย Selfie ได้ (ข้อนี้สาวๆน่าจะชอบสุด)
-- VDO ถือว่านิ่งดีและภาพออกมาใช้ได้
-- เครื่องมืความเร็วดี เหมาะสมไม่มีปัญหาอะไร (จากการใช้งานมา 2 อาทิตย์)
-- ลำโพงคู่สเตอริโอ พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos และปรับจูนโดย AKG เสียงโ-ค-ต-ร-ดัง มว้ากกกก
- ข้อเสีย
-- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างของตัวเครื่องทำให้มันยากต่อการใช้งานในบางครั้ง
-- ตำแหน่งของลำโพงไปอยู่ด้านข้างทำให้เวลาเล่นเกมส์แล้วมันโดนบัง
-- เครื่องแบตหมดเร็ว (แต่ถ้าใช้โหมด optimization ก็อยู่ได้นานขึ้นระดับหนึ่ง แต่ผมชอบจอ 120Hz ดังนั้นโดยปกติเลยชอบที่จะเป็น Performance Mode มากกว่า)
-- เครื่องร้อนง่าย เมื่อเล่น VDO หรือ Game เยอะๆ
-- App บางอันไม่ตอบสนองในจอลักษณะกางแล้ว (Unfold)
-- แพง
-- หา case ยาก
สำหรับผม การกลับมาเป็นลูกค้าของ Samsung อีกครั้งหลังจากผ่านไปหลายปี ถือว่าโอเค คือมันไม่ถึงขั้นดีเยี่ยม แต่ก็ถือว่าตอบโจทย์ทุกอย่างที่ตั้งไว้ในตอนแรกก่อนซื้อมือถือใหม่ ดังนั้นถ้าถามว่าจะแนะนำคนอื่นมั้ย ก็บอกว่า หากคุณเป็นคนที่ชอบดู VDO ลื่นๆ, อยากหาอะไรแทนการใช้งาน iPad, อยากใช้มือถือที่เป็นการเปลี่ยนแปลง technology ขายเรื่องนวัตกรรม ไม่ใช่แค่จะอัพ spec ไปในแต่ละรุ่น, Samsung Galaxy Z Fold 2 คือคำตอบของคุณในปี 2020 นี