สวัสดีครับ ชื่อแอมนะครับ แอมเป็นผู้โชคดีจากกิจกรรมหาโมเดลและได้ตัดหน้าอกฟรีกับคุณหมอจักรรินทร์ (หมอตู่) เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่มีแพลนจะผ่าตัดหน้าอกว่าต้องเตรียมตัวยังไงอะไรบ้าง (คนที่ไม่มีแพลนทำก็อ่านเพลินๆ ได้นะครับ ตั้งใจเขียนมาก^^)
ขอย้อนเล่าเรื่องตัวเองก่อนนะครับ ตั้งแต่เด็กๆ เรารู้สึกว่าเราเป็นผู้ชาย เป็นเด็กผู้ชายคนนึง พอโตมาแล้วมีหน้าอกเรารู้สึกแย่กับตัวเอง ไม่อยากมี พอโตมาระดับนึงเราก็เริ่มทำความรู้จักตัวเองมากขึ้นว่าสิ่งที่เราเป็นมันคืออะไร สมัยก่อนประมาณมัธยม เราจะรู้จักแต่ผู้ชายข้ามเพศไปเป็นผู้หญิง แต่พอมาหาข้อมูลก็เจอว่ามันก็มีนะ ที่ผู้หญิงข้ามเพศไปเป็นผู้ชาย แต่ข้อมูลต่างๆ มันไม่ค่อยมีของคนไทยหรือภาษาไทยเลย จะมีแต่คนต่างชาติ หรือภาษาอังกฤษ ก็ใช้เวลาศึกษาและถามตัวเองมาเรื่อยๆ
จนเราใกล้เรียนจบมหาลัย ก็เริ่มมั่นใจกับตัวเองแล้วว่าเราอยากเป็นผู้ชายจริงๆ จึงเริ่มศึกษาเรื่องการเทคฮอร์โมน ก็ใช้เวลาคิดอยู่สักพักนึงเพราะถ้าเทคแล้วมันต้องเทคตลอดชีวิต ตัวเราพร้อมมั้ย เรื่องเงินหลักๆ เลย และผลข้างเคียงที่จะตามมา จนตัดสินใจและเริ่มเทคฮอร์โมน หลังเริ่มทำงานหาเงินเองได้สักพัก
หุ่นสมัยก่อน ก่อนเทคฮอร์โมนและตัดหน้าอก ผอมแห้งมาก หนักประมาณ 36-37 โล
หลังจากเทคฮอร์โมนมาไม่กี่เดือน เราก็เริ่มรู้สึกว่ามันก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงมาก โอเคขนเริ่มขึ้น เสียงเราเริ่มเปลี่ยน แต่หุ่นเรายังผอมแห้งแบบนี้มันรู้สึกไม่สุด หุ่นเราต้องเหมือนผู้ชาย แต่ด้วยสรีระของผู้หญิง แล้วเราเป็นคนผอมแบบติดกระดูก เลยเริ่มศึกษาการออกกำลังกาย ดูแลรูปร่างตัวเองอย่างจริงจัง ใช้เวลาประมาณเป็นปีเหมือนกันกว่ากล้ามเนื้อจะเริ่มขึ้นชัดเจนจนคนรอบข้างเริ่มทัก แต่พอกล้ามเนื้อขึ้นเราเลยรู้ว่ายังไงหน้าอกมันก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ กล้ามเนื้อมันไม่ได้ขึ้นมาเหมือนผู้ชาย100% รวมถึงปานนมกับหัวนมเราที่มันใหญ่กว่าของผู้ชาย เลยคิดว่าต้องตัดหน้าอกหรือตัดนมออกไปเลยดีกว่า
แต่ด้วยเรื่องของการเงินเนอะ ตัดหน้าอกก็ค่อนข้างจะราคาสูง และด้วยนิสัยของเราที่ต้องศึกษาให้มั่นใจ ก่อนที่จะทำอะไรเลยใช้เวลาพอสมควร ศึกษาด้วยตัวเองจนรู้สึกว่าอยากว่าลองเข้าไปปรึกษาเองดูสักครั้ง เลยลองไปปรึกษากับคลินิกนึง คุณหมอบอกว่าหน้าอกสองข้างของเราไม่เท่ากัน ข้างนึงใหญ่ ข้างนึงเล็ก ต้องผ่าข้างละเทคนิคนะ พอได้ยินแบบนั้นปุ๊ปเราเลยไม่แน่ใจ มันจะออกมาเท่ากันมั้ย แล้วจะมีความรู้สึกมั้ย ไม่ได้ขอดู before after เคสแบบเราด้วย เลยหยุดความคิดตัดหน้าอกไว้ก่อน
ช่วงหุ่นเฟิร์มๆ ถ้าดูเผินๆ อาจจะดูเหมือนหน้าอกผู้ชาย แต่ช่วงเต้านมมันไม่ได้เลย เรารู้สึกขัดตามากๆ
หลายคนถามว่าทำไมผันตัวมาเป็นเทรนเนอร์ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เรียนด้านนี้มาแต่แรก
สาเหตุเพราะเราอยากจะปรับเปลี่ยนรูปร่างตัวเองให้ดูดีขึ้น เราเป็นคนผอม สรีระแบบผู้หญิง
การที่เราอยากมีสรีระแบบผู้ชาย ก็ต้องมีความเข้าใจในเรื่องของสรีระร่างกาย เลยคิดว่าไปให้สุดไปเลย
ยังคงศึกษาอยู่เรื่อยๆ ด้วยความที่หมอตัดหน้าอกในไทยก็ยังไม่เยอะ เราเลยรู้สึกไม่รีบ รอดูไปเรื่อยๆ ดีกว่า จนเทคฮอร์โมนเข้าปีที่ 3 เราได้เข้าไปเป็นสมาชิกกลุ่มไลน์ FTM เป็นสังคมของ FTM ที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์และความรู้กันทั้งเรื่องการเทคฮอร์โมน แปลงเพศ และตัดหน้าอก รีวิวเยอะมาก โรงพยาบาล หรือคลินิกแต่ละที่ ก็ซุ่มอ่านมาตลอด
จนกระทั่งคนในกลุ่มแนะนำให้ไปเล่นกิจกรรมหาโมเดลตัดหน้าอกของคุณหมอจักรรินทร์ เราก็รีบหาดูรีวิวก่อนเลย เพราะตอนแรกเราไม่รู้จัก ปรากฏว่าผลงานหมอสวยมาก มีรูป before after ก่อนหลังให้ดูอย่างชัดเจน ก็ไปลองคอมเมนท์ดู แอบหวังลึกๆ ว่าตัวเองจะได้ เพราะรีวิวคุณหมอส่วนใหญ่จะไม่เป็นคนที่อ้วนไปเลย ก็ผอมไปเลย ยังไม่มีหุ่นที่มีกล้ามแบบเราเท่าไหร่ ซึ่งตรงนี้เรามั่นใจว่าหุ่นเราโอเคระดับนึง สามารถเป็นแรงบันดาลใจในการดูแลรูปร่างให้คนอื่นได้ด้วย
หลังจากคอมเมนท์ประมาณอาทิตย์นึงก็มีทีมงานทักมาว่าคุณหมออ่านคอมเมนท์และส่องโปรไฟล์เราแล้วสนใจในตัวเรา จะขอนัดสัมภาษณ์ตัวต่อตัวกับคุณหมอที่ตรัยญา โรงพยาบาลปิยะเวท เพื่อจะได้ดูหน้าอกเราด้วยว่าเป็นยังไง ตอนนั้นดีใจมากๆ รีบนัดวันเร็วที่สุด พอวันปรึกษาเจอคุณหมอเข้าจริงๆ แอบตื่นเต้นหนักกว่าเดิม และได้ถอดเสื้อให้คุณหมอดูเพื่อประเมินหน้าอกเรา คุณหมอบอกของเราผ่าตัดผ่านปานนมได้เลย แผลเล็ก แต่ยากตรงที่เรามีกล้ามเนื้อแล้ว ซึ่งคนเล่นกล้ามบวกกับเทคฮอร์โมนเส้นเลือดจะขยายใหญ่กว่าคนทั่วไปและจะมีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงตรงหน้าอกเยอะกว่าคนทั่วไปด้วย ฟังดูน่ากลัวนิดๆ แต่ตอนนั้นรู้สึกดีใจมากที่เราสามารถผ่าแผลเล็กและเทคนิคเดียวกันได้ทั้งสองข้าง
พอปรึกษาเสร็จคุณหมอก็เดินออกไปน่าจะมีคนไข้ เราก็นึกว่าเสร็จแล้ว แต่ทีมงานให้ไปสัมภาษณ์ต่อเกี่ยวกับที่มาที่ไปของเรา เพื่อให้คุณหมอดูย้อนหลังอีกรอบหนึ่ง ตอนนั้นทำเอาตื่นเต้นเลยเพราะคำตอบเราอาจจะเป็นตัวตัดสินว่าได้หรือไม่ได้ แต่ก็ผ่านไปด้วยดี แล้วก็มีการแจ้งรายละเอียดเรื่องการติดสัญญาก่อนจะกลับบ้าน โดยส่วนตัวเราก็โอเคกับสัญญาและไม่ติดปัญหา
กลับมาจากสัมภาษณ์มาก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากทางเพจ ถ้าจำไม่ผิดเกือบ 2 อาทิตย์ก็เลยลองติดต่อทางทีมงานว่าเราพอมีสิทธิจะได้ไหม เพราะเราก็แอบคาดหวังไปแล้ว สรุปได้คำตอบว่าให้รอสิ้นเดือนจะมีการประกาศรายชื่อ ก็รอต่อไปอีก จนวันประกาศก็มีชื่อเราเป็น 1 ในผู้โชคดีได้เป็นโมเดลตัดหน้าอก บรรยายความดีใจไม่ถูก เป็นการดีใจที่มากที่สุดในชีวิตครั้งนึงเลยก็ว่าได้ ทีมงานก็แจ้งรายละเอียดต่างๆ จะมีการนัดให้เข้ามาตรวจสุขภาพ ตรวจเลือด และตรวจโควิด
แต่เนื่องจากรพ.ที่คุณหมอผ่าเป็นรพ.เอกชน การตรวจสุขภาพและตรวจเลือดจะราคาค่อนข้างแพง ทีมงานก็น่ารัก แนะนำให้เราไปตรวจตามรพ.รัฐ และขอส่วนลดการตรวจโควิดให้เราเพิ่มเติม ตรงนี้ต้องขอขอบคุณทีมงานจริงๆ ที่ดูแลเราตั้งแต่แรกเลย ไม่ใช่ว่าเป็นเคสฟรีแล้วไม่สนใจ แต่ดูแลเราดีมากๆ ให้คำแนะนำ การเตรียมตัวต่างๆ ก่อนผ่าตัดดีตลอด (ผลตรวจสุขภาพและตรวจเลือดต้องไม่เกิน 1 เดือน และผลโควิดต้องไม่เกิน 7 วัน ส่วนวันรอผลแล้วแต่รพ.จะต่างกัน)
[SR] แชร์ประสบการณ์ เมื่อเทรนเนอร์ชายข้ามเพศอย่างเราไปตัดหน้าอก
ขอย้อนเล่าเรื่องตัวเองก่อนนะครับ ตั้งแต่เด็กๆ เรารู้สึกว่าเราเป็นผู้ชาย เป็นเด็กผู้ชายคนนึง พอโตมาแล้วมีหน้าอกเรารู้สึกแย่กับตัวเอง ไม่อยากมี พอโตมาระดับนึงเราก็เริ่มทำความรู้จักตัวเองมากขึ้นว่าสิ่งที่เราเป็นมันคืออะไร สมัยก่อนประมาณมัธยม เราจะรู้จักแต่ผู้ชายข้ามเพศไปเป็นผู้หญิง แต่พอมาหาข้อมูลก็เจอว่ามันก็มีนะ ที่ผู้หญิงข้ามเพศไปเป็นผู้ชาย แต่ข้อมูลต่างๆ มันไม่ค่อยมีของคนไทยหรือภาษาไทยเลย จะมีแต่คนต่างชาติ หรือภาษาอังกฤษ ก็ใช้เวลาศึกษาและถามตัวเองมาเรื่อยๆ
จนเราใกล้เรียนจบมหาลัย ก็เริ่มมั่นใจกับตัวเองแล้วว่าเราอยากเป็นผู้ชายจริงๆ จึงเริ่มศึกษาเรื่องการเทคฮอร์โมน ก็ใช้เวลาคิดอยู่สักพักนึงเพราะถ้าเทคแล้วมันต้องเทคตลอดชีวิต ตัวเราพร้อมมั้ย เรื่องเงินหลักๆ เลย และผลข้างเคียงที่จะตามมา จนตัดสินใจและเริ่มเทคฮอร์โมน หลังเริ่มทำงานหาเงินเองได้สักพัก
แต่ด้วยเรื่องของการเงินเนอะ ตัดหน้าอกก็ค่อนข้างจะราคาสูง และด้วยนิสัยของเราที่ต้องศึกษาให้มั่นใจ ก่อนที่จะทำอะไรเลยใช้เวลาพอสมควร ศึกษาด้วยตัวเองจนรู้สึกว่าอยากว่าลองเข้าไปปรึกษาเองดูสักครั้ง เลยลองไปปรึกษากับคลินิกนึง คุณหมอบอกว่าหน้าอกสองข้างของเราไม่เท่ากัน ข้างนึงใหญ่ ข้างนึงเล็ก ต้องผ่าข้างละเทคนิคนะ พอได้ยินแบบนั้นปุ๊ปเราเลยไม่แน่ใจ มันจะออกมาเท่ากันมั้ย แล้วจะมีความรู้สึกมั้ย ไม่ได้ขอดู before after เคสแบบเราด้วย เลยหยุดความคิดตัดหน้าอกไว้ก่อน
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม