สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 48
เรามาตอบในฐานะที่เป็นแม่ค้าร้านโชว์ห่วยเหมือนกันค่ะ มาช่วยแม่ขายหลังเรียนจบป.ตรีแล้ว ช่วยมาประมาณ 4ปีแล้วค่ะ ยอมรับว่าช่วงหลังมานี้ตั้งแต่ปี 2561 ยอดขายลดลงมา จากทั้งพิษเศรฐกิจ คู่แข่งมากมาย ทั้งจากห้างใหญ่ ร้านสะดวกซื้อ รวมถึงโชว์ห่วยในซอยเดียวกันที่ผุดมาอย่างกเห็ด ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนไป มีการซื้อออนไลน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ทางเลือกลูกค้ามีมากขึ้น และ ปี 2563 ที่แย่หนักกว่าเดิมคือ มีโควิด หลายร้านที่ต้องปิดกิจการไป หรือหลายร้านต้องพยายามให้อยู่รอดให้ได้แม้ยอดขายจะซบเซา ซึ่งร้านเราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่พยายามทำให้อยู่รอดได้ อาจไม่ได้ยอดขายดีเท่าแต่ก่อน แต่ก็สามารถฟันฝ่าช่วงวิกฤติพอไปได้ จึงอยากมาแลกเปลี่ยนความเห็นดูค่ะ
เรามองว่าสาเหตุหลักที่กล่าวมานั้นเป็นปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ จึงหันมามองว่าสิ่งที่ร้านเราสามารถทำได้มีอะไรบ้าง ดังนี้ค่ะ
1.จุดเด่นโชว์ห่วยคือ การเข้าถึงลูกค้า ในด้านของปฏิสัมพันธ์ ยิ่งเป็นร้านค้าในชุมชน ลูกค้าเสมือนญาติพี่น้องค่ะ ร้านเราเหมือนเป็นสถานที่พบปะกันเล็กๆ มีการพูดคุย ทักทายกัน ถามสารทุกข์สุขดิบ ในส่วนตัวฐานะที่เป็นแม่ค้า เราให้เกียรติลูกค้าค่ะ เรารับฟังเขาด้วยความเข้าใจ แต่เราจะไม่นำไปพูดต่อค่ะ หากลูกค้าทุกข์เราให้กำลังใจ หากลูกค้าโกรธ เราทำให้เขาใจเย็น หากลูกค้าสงสัยถ้าเราช่วยแก้ปัญหาได้ เราก็ยินดีช่วยค่ะ ถามว่ามันเกี่ยวกับการขายยังไง เราว่ามันสำคัญมาก เพราะการที่เราบริการเขาด้วยความจริงใจ นั่นทำให้ลูกค้าเกิดความสบายใจเมื่อมาซื้อของที่ร้านค่ะ เราเป็นทุกอย่างให้ลูกค้าแล้วจริงๆ เป็นศาลาพักใจอ่ะค่ะ555 และคติหลักของร้านข้อนึงคือไม่ฉวยโอกาส ไม่ขึ้นราคาตามกระแส ไม่เอาเปรียบลูกค้า ด้วยการบริการแบบนี้ที่เราเห็นจากแม่เราปฏิบัติต่อลูกค้ามา 20 กว่าปี ลูกค้าที่ร้านส่วนใหญ่จะรู้จักแม่ ให้ความเคารพนับถือ มาถึงร้านถ้าไม่เจอแม่ต้องถามถึงแม่ก่อน มันเป็นการสร้างแบรนด์ให้ร้านอย่างนึงในตัวค่ะ ให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันธ์กับร้านของเรา แต่เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาค่อยๆสร้างไปค่ะ
2.ในด้านของตัวสินค้า เราต้องทราบว่าคนในหมู่บ้านเราส่วนใหญ่ทำอาชีพ มีวิถีชีวิตยังไง มีช่วงอายุแบบไหนบ้าง ยกตัวอย่างหมู่บ้านของเรา ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง งานช่าง ก่อสร้าง ก็คือเป็นกลุ่มแรงงานเป็นหลัก สินค้าที่ร้านนอกจากสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ก็จะมีอุปกรณ์งานช่าง ปะปา ไฟฟ้า เพิ่มเข้ามาลูกค้าไม่ต้องถ่อรถไปในเมืองเพื่อหาซื้อ เราจัดหามาให้ในอุปกรณ์ที่ต้องใช้บ่อยๆ จำเป็น ในราคาที่ไม่ได้แพง หากชิ้นไหนพิเศษหน่อยร้านเราไม่มี สั่งล่วงหน้าได้เราจะไปหามาขายให้ ลูกค้ากลุ่มแรงงานก็จะมีรายได้ต่อวันที่ไม่มากนัก สินค้าเราหลักๆคือข้าวสาร จะมีหลายราคาตั้งแต่หอมมะลิ ยั้นข้าวแข็ง เราขายตักแบ่งได้ จะเอากี่กิโลกี่ขีด เป็นถังเป็นท่อน เรามีให้หมด เลยได้ทุกกลุ่มลูกค้าเช่นกัน พูดง่ายๆคือของกินของใช้เรามีขายตั้งแต่เกรดดีจนถึงทั่วไป นั่นจึงทำให้ลูกค้าเข้าถึงได้หลายกลุ่ม ส่วนการตั้งราคา ก็คือพอมีกำไร ไม่ได้แพงจนเกินไป ร้านค้าพออยู่ได้ ลูกค้าก็มีกำลังซื้อ ส่วนเรื่องไลฟ์สไตล์ คนในหมู่บ้านเรารักสัตว์มาก เลี้ยงหมาแมวกันแทบทุกบ้าน ร้านเราก็เลยนำอาหารสัตว์เลี้ยงมาตักแบ่งขายด้วยมียั้นทรายแมว ยากำกัดเห็บหมัด อาหารปลา อาหารนก ซึ่งขายดีไม่แพ้ข้าวสารเลย และหมู่บ้านเราก็มีกลุ่มแม่บ้าน อสม.ที่มักรวมตัวช่วยงานครัวในงานต่างๆ งานศพ งานบวช งานแต่ง งานของวัด เครื่องครัวที่ร้านเราก็พร้อม ทั้งเครื่องปรุงต่างๆ มีไปถึงเตาถ่าน กับถ่านหุงข้าว พร้อมออกบิลให้ได้ทุกกรณี เอาของไปก่อนก็ได้ จบงานแล้วค่อยมาเคลียร์ก็มี
3.ร้านเราเพิ่มบริการ รับโอนเงิน จ่ายบิล เพราะแถวบ้านเราไม่ค่อยมีตู้ATM จะทำธุกรรม หรือจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ต้องเข้าเมืองหรือไปห้าง เราจะทำให้ลูกค้าบางกรณีเช่น ต้องการเอาเงินเข้าบัญชีตัวเอง หรือโอนเงินให้ลูกที่ไปเรียนต่างจังหวัดหรือทำงานที่อื่น หรือส่งเงินไปให้ที่บ้าน จ่ายบิลค่าน้ำค่าไฟค่าเน็ตเป็นต้น ไม่ได้โอนให้ทุกกรณี เช่นโอนเงินซื้อของ ซื้อหวย จ่ายค่าแชร์ แบบนี้เราไม่รับโอน เพราะเพื่อความปลอดภัยของเราด้วย เด๋วกลายเป็นซื้อของโจรไป เราก็คิดค่าบริการครั้งละ 10 บาทอย่างงี้เป็นต้น เน้นความสะดวกให้ลูกค้าเป็นหลัก ร้านเรามีบริการเติมเงินออนไลน์ด้วย ปัจจุบันลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะมีวัยผู้ใหญ่ หรือสูงอายุรวมด้วย ซึ่งมักจะมีปัญหากับโทรศัพท์ วันหมด เงินหมดไม่มีสาเหตุ โดนตัดเงินเพราะข้อความ โทรศัพท์ไม่มีเสียง โทรออกไม่ได้ ส่วนใหญ่เขาก็จะมาปรึกษาร้านค้าอย่างเรา เราก็ช่วยเช็คได้ อธิบายให้เขาเข้าใจได้ เปลี่ยนโปรให้ได้ ยกเลิกข้อความให้ได้ จุดนี้เราไม่ได้คิดค่าบริการเพิ่มเติม แต่ถือเป็นการช่วยเหลือกันค่ะ
3.ร้านเรารับสินค้าฝากขายของคนในชุมชนเพราะมีกลุ่มเกษตรกร ที่ปลูกผักเอง ปลอดสารด้วย ก็จะนำผักมาฝากขายในราคาที่ไม่แพง ได้ปริมาณมาก ทำเป็นชุดๆ 10 บาท 20 บาท ร้านเราไม่ได้เก็บค่าวาง แต่เราช่วยเขาขาย ฟรีๆเลย คนที่นำมาฝากขายก็คือลูกค้าเรา ของสดก็จะดึงกลุ่มแม่บ้าน พ่อบ้าน พอได้ผัก เครื่องปรุ่งต่างๆก็หาซื้อในร้านเรา กลับบ้านพร้อมแกงได้เลย ลูกค้าเราก็ได้กินของปลอดสาร เราเองก็ได้ช่วยชุมชน ของในร้านก็ขายได้ วินวิน กันทุกฝ่าย
4.ร้านเราอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ลูกค้าก็จะมีคนทำงานในโรงแรม ร้านอาหาร เยอะอยู่ เรื่องบุคลิกจึงสำคัญ เราก็มีสินค้าโหมดบิวตี้ ครีมซองต่างๆ เครื่องสำอางค์ราคาไม่แพงมาก แต่มีคุณภาพ น้ำหอมหลอด 20 กว่าบาท มาจำหน่าย ก็ขายได้เรื่อยๆ ดึงกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงานเข้าร้านได้ด้วย
5.นอกจากสินค้าและบริการแล้ว การบริหารในร้านก็สำคัญ เราทำบัญชีรายรับรายจ่ายทุกวันค่ะ เพื่อให้เห็นว่าเงินเราไปจมอยู่ตรงไหน ปรับเพิ่มลดค่าใช้จ่ายตรงไหนได้บ้าง ต้องเช็คสต็อคทุกครั้งก่อนมีการสั่งซื้อ เราว่าสำคัญมากๆเพื่อไม่ให้มีของค้าง ที่เกิดจากการสั่งซ้ำ สั่งผิด เพราะมันคือต้นทุนทั้งหมด สั่งของให้พอขายแต่ละรอบ บางครั้งเซลล์จะมีส่วนลดมาให้เราซื้อปริมาณที่มากขึ้น แต่ถ้าเราดูแล้วว่าสินค้านั้นมันไม่ได้ขายดีขนาดนั้น ก็สั่งแค่พอประมาณ ส่วนลดที่ได้อาจไม่คุ้มกับของค้างสต็อคค่ะ หาแหล่งซื้อสินค้าหลายๆที่ ไม่ต้องรอเซลล์อย่างเดียว ของจะได้มีเต็มชั้นตลอด ของไม่ขาด ลูกค้าก็จะมาแต่ร้านเราตลอดค่ะ เพราะมาแล้วได้ของ มีสินค้าใหม่ๆมานำเสนอบ้าง ให้ลูกค้าได้ตื่นเต้น
6.ติดป้ายราคาสินค้าชัดเจนทุกชิ้น รักษาความสะอาดของร้านค้าและชั้นวาง อย่าให้มีฝุ่นจับสินค้า ติดไฟให้สว่าง เรียงของเป็นหมวดหมู่ มีระเบียบ อันไหนใช้ร่วมกันก็วางไกล้กัน เช่นผงซักฟอก กับปรับผ้านุ่ม ยาสระผม กับ สบู่ยาสีฟัน เป็นต้น เช็ควันหมดอายุ มาก่อนขายก่อน
7.ทำโปรโมชั่นลดราคาบ้าง มีจับฉลากปีใหม่บ้าง บางทีเราก็ได้โปรมาจากเซลล์ ก็มาทำให้ลูกค้าได้ซื้อสินค้าที่ถูกลงบ้าง แถมให้ลูกค้าบ้าง คืนกำไรให้ลูกค้าไปค่ะ แต่ไม่ต้องถึงขั้นเข้าเนื้อตัวเองนะคะ ดูตามความเหมาะสม
8.เราทำเพจร้านค้าด้วย มันไม่ได้ช่วยเพิ่มยอดขาย แต่เป็นการประชาสัมพันธ์ร้านค่ะ มีข่าวสารอะไรมาแจ้ง หรือมีสินค้าใหม่มาแนะนำ ก็จะทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นค่ะ และเพิ่มช่องทางการติดต่อจากลูกค้าด้วยค่ะ
9.สิ่งสำคัญอีกเรื่องคือเงินทุน เราต้องมีเงินทุนสำรองเพื่อใช้ในการหมุนเวียน ก็คือสายป่านต้องยาวพอสมควรค่ะ เพื่อให้ร้านสามารถพยุงตัวเองได้ในช่วงวิกฤติแบบนี้ ต้องรู้จักประหยัด ประมาณตน ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นค่ะช่วงนี้ ไม่ก่อหนี้ใดๆเพิ่ม
10.ติดตามโครงการของรัฐ ร้านเราเคยเข้าร่วมโครงการ ชิมช้อปใช้ ซึ่งกระตุ้นยอดขายได้ดีค่ะ และปัจจุบันเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ซึ่งได้ผลตอบรับจากลูกค้าในชุมชน รวมถึงลูกค้าจากที่อื่นก็มาใช้สิทธิที่ร้านค่ะ เพราะโครงการนี้ให้เฉพาะร้านค้ารายย่อย ที่ไม่เป็นนิติบุคคล ร้านค้าเล็กๆ แม่ค้า พ่อค้าตลาดนัด หาบเร่ รถเข็น สามารถเข้าร่วมได้หมด ยอดขายกระเตื้องขึ้นดีมากๆเลยค่ะ เป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนจริงๆรอบนี้ ไม่ได้เอื้อรายใหญ่อย่างเดียวค่ะ
...สุดท้ายนี้เป็นกำลังใจให้พ่อค้าแม่ขายทุกคนนะคะ อดทนสู้ไปด้วยกันค่ะ ขอให้ใช้ความจริงใจเป็นสำคัญค่ะ ไม่ว่าจะทำงานอะไร ขอให้มีจริยธรรมในสิ่งที่ตัวเองทำค่ะ ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ความพอเพียง เป็นสิ่งจำเป็น แต่ต้องไม่หยุดพัฒนาค่ะ
เรามองว่าสาเหตุหลักที่กล่าวมานั้นเป็นปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ จึงหันมามองว่าสิ่งที่ร้านเราสามารถทำได้มีอะไรบ้าง ดังนี้ค่ะ
1.จุดเด่นโชว์ห่วยคือ การเข้าถึงลูกค้า ในด้านของปฏิสัมพันธ์ ยิ่งเป็นร้านค้าในชุมชน ลูกค้าเสมือนญาติพี่น้องค่ะ ร้านเราเหมือนเป็นสถานที่พบปะกันเล็กๆ มีการพูดคุย ทักทายกัน ถามสารทุกข์สุขดิบ ในส่วนตัวฐานะที่เป็นแม่ค้า เราให้เกียรติลูกค้าค่ะ เรารับฟังเขาด้วยความเข้าใจ แต่เราจะไม่นำไปพูดต่อค่ะ หากลูกค้าทุกข์เราให้กำลังใจ หากลูกค้าโกรธ เราทำให้เขาใจเย็น หากลูกค้าสงสัยถ้าเราช่วยแก้ปัญหาได้ เราก็ยินดีช่วยค่ะ ถามว่ามันเกี่ยวกับการขายยังไง เราว่ามันสำคัญมาก เพราะการที่เราบริการเขาด้วยความจริงใจ นั่นทำให้ลูกค้าเกิดความสบายใจเมื่อมาซื้อของที่ร้านค่ะ เราเป็นทุกอย่างให้ลูกค้าแล้วจริงๆ เป็นศาลาพักใจอ่ะค่ะ555 และคติหลักของร้านข้อนึงคือไม่ฉวยโอกาส ไม่ขึ้นราคาตามกระแส ไม่เอาเปรียบลูกค้า ด้วยการบริการแบบนี้ที่เราเห็นจากแม่เราปฏิบัติต่อลูกค้ามา 20 กว่าปี ลูกค้าที่ร้านส่วนใหญ่จะรู้จักแม่ ให้ความเคารพนับถือ มาถึงร้านถ้าไม่เจอแม่ต้องถามถึงแม่ก่อน มันเป็นการสร้างแบรนด์ให้ร้านอย่างนึงในตัวค่ะ ให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันธ์กับร้านของเรา แต่เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาค่อยๆสร้างไปค่ะ
2.ในด้านของตัวสินค้า เราต้องทราบว่าคนในหมู่บ้านเราส่วนใหญ่ทำอาชีพ มีวิถีชีวิตยังไง มีช่วงอายุแบบไหนบ้าง ยกตัวอย่างหมู่บ้านของเรา ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง งานช่าง ก่อสร้าง ก็คือเป็นกลุ่มแรงงานเป็นหลัก สินค้าที่ร้านนอกจากสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ก็จะมีอุปกรณ์งานช่าง ปะปา ไฟฟ้า เพิ่มเข้ามาลูกค้าไม่ต้องถ่อรถไปในเมืองเพื่อหาซื้อ เราจัดหามาให้ในอุปกรณ์ที่ต้องใช้บ่อยๆ จำเป็น ในราคาที่ไม่ได้แพง หากชิ้นไหนพิเศษหน่อยร้านเราไม่มี สั่งล่วงหน้าได้เราจะไปหามาขายให้ ลูกค้ากลุ่มแรงงานก็จะมีรายได้ต่อวันที่ไม่มากนัก สินค้าเราหลักๆคือข้าวสาร จะมีหลายราคาตั้งแต่หอมมะลิ ยั้นข้าวแข็ง เราขายตักแบ่งได้ จะเอากี่กิโลกี่ขีด เป็นถังเป็นท่อน เรามีให้หมด เลยได้ทุกกลุ่มลูกค้าเช่นกัน พูดง่ายๆคือของกินของใช้เรามีขายตั้งแต่เกรดดีจนถึงทั่วไป นั่นจึงทำให้ลูกค้าเข้าถึงได้หลายกลุ่ม ส่วนการตั้งราคา ก็คือพอมีกำไร ไม่ได้แพงจนเกินไป ร้านค้าพออยู่ได้ ลูกค้าก็มีกำลังซื้อ ส่วนเรื่องไลฟ์สไตล์ คนในหมู่บ้านเรารักสัตว์มาก เลี้ยงหมาแมวกันแทบทุกบ้าน ร้านเราก็เลยนำอาหารสัตว์เลี้ยงมาตักแบ่งขายด้วยมียั้นทรายแมว ยากำกัดเห็บหมัด อาหารปลา อาหารนก ซึ่งขายดีไม่แพ้ข้าวสารเลย และหมู่บ้านเราก็มีกลุ่มแม่บ้าน อสม.ที่มักรวมตัวช่วยงานครัวในงานต่างๆ งานศพ งานบวช งานแต่ง งานของวัด เครื่องครัวที่ร้านเราก็พร้อม ทั้งเครื่องปรุงต่างๆ มีไปถึงเตาถ่าน กับถ่านหุงข้าว พร้อมออกบิลให้ได้ทุกกรณี เอาของไปก่อนก็ได้ จบงานแล้วค่อยมาเคลียร์ก็มี
3.ร้านเราเพิ่มบริการ รับโอนเงิน จ่ายบิล เพราะแถวบ้านเราไม่ค่อยมีตู้ATM จะทำธุกรรม หรือจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ต้องเข้าเมืองหรือไปห้าง เราจะทำให้ลูกค้าบางกรณีเช่น ต้องการเอาเงินเข้าบัญชีตัวเอง หรือโอนเงินให้ลูกที่ไปเรียนต่างจังหวัดหรือทำงานที่อื่น หรือส่งเงินไปให้ที่บ้าน จ่ายบิลค่าน้ำค่าไฟค่าเน็ตเป็นต้น ไม่ได้โอนให้ทุกกรณี เช่นโอนเงินซื้อของ ซื้อหวย จ่ายค่าแชร์ แบบนี้เราไม่รับโอน เพราะเพื่อความปลอดภัยของเราด้วย เด๋วกลายเป็นซื้อของโจรไป เราก็คิดค่าบริการครั้งละ 10 บาทอย่างงี้เป็นต้น เน้นความสะดวกให้ลูกค้าเป็นหลัก ร้านเรามีบริการเติมเงินออนไลน์ด้วย ปัจจุบันลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะมีวัยผู้ใหญ่ หรือสูงอายุรวมด้วย ซึ่งมักจะมีปัญหากับโทรศัพท์ วันหมด เงินหมดไม่มีสาเหตุ โดนตัดเงินเพราะข้อความ โทรศัพท์ไม่มีเสียง โทรออกไม่ได้ ส่วนใหญ่เขาก็จะมาปรึกษาร้านค้าอย่างเรา เราก็ช่วยเช็คได้ อธิบายให้เขาเข้าใจได้ เปลี่ยนโปรให้ได้ ยกเลิกข้อความให้ได้ จุดนี้เราไม่ได้คิดค่าบริการเพิ่มเติม แต่ถือเป็นการช่วยเหลือกันค่ะ
3.ร้านเรารับสินค้าฝากขายของคนในชุมชนเพราะมีกลุ่มเกษตรกร ที่ปลูกผักเอง ปลอดสารด้วย ก็จะนำผักมาฝากขายในราคาที่ไม่แพง ได้ปริมาณมาก ทำเป็นชุดๆ 10 บาท 20 บาท ร้านเราไม่ได้เก็บค่าวาง แต่เราช่วยเขาขาย ฟรีๆเลย คนที่นำมาฝากขายก็คือลูกค้าเรา ของสดก็จะดึงกลุ่มแม่บ้าน พ่อบ้าน พอได้ผัก เครื่องปรุ่งต่างๆก็หาซื้อในร้านเรา กลับบ้านพร้อมแกงได้เลย ลูกค้าเราก็ได้กินของปลอดสาร เราเองก็ได้ช่วยชุมชน ของในร้านก็ขายได้ วินวิน กันทุกฝ่าย
4.ร้านเราอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ลูกค้าก็จะมีคนทำงานในโรงแรม ร้านอาหาร เยอะอยู่ เรื่องบุคลิกจึงสำคัญ เราก็มีสินค้าโหมดบิวตี้ ครีมซองต่างๆ เครื่องสำอางค์ราคาไม่แพงมาก แต่มีคุณภาพ น้ำหอมหลอด 20 กว่าบาท มาจำหน่าย ก็ขายได้เรื่อยๆ ดึงกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงานเข้าร้านได้ด้วย
5.นอกจากสินค้าและบริการแล้ว การบริหารในร้านก็สำคัญ เราทำบัญชีรายรับรายจ่ายทุกวันค่ะ เพื่อให้เห็นว่าเงินเราไปจมอยู่ตรงไหน ปรับเพิ่มลดค่าใช้จ่ายตรงไหนได้บ้าง ต้องเช็คสต็อคทุกครั้งก่อนมีการสั่งซื้อ เราว่าสำคัญมากๆเพื่อไม่ให้มีของค้าง ที่เกิดจากการสั่งซ้ำ สั่งผิด เพราะมันคือต้นทุนทั้งหมด สั่งของให้พอขายแต่ละรอบ บางครั้งเซลล์จะมีส่วนลดมาให้เราซื้อปริมาณที่มากขึ้น แต่ถ้าเราดูแล้วว่าสินค้านั้นมันไม่ได้ขายดีขนาดนั้น ก็สั่งแค่พอประมาณ ส่วนลดที่ได้อาจไม่คุ้มกับของค้างสต็อคค่ะ หาแหล่งซื้อสินค้าหลายๆที่ ไม่ต้องรอเซลล์อย่างเดียว ของจะได้มีเต็มชั้นตลอด ของไม่ขาด ลูกค้าก็จะมาแต่ร้านเราตลอดค่ะ เพราะมาแล้วได้ของ มีสินค้าใหม่ๆมานำเสนอบ้าง ให้ลูกค้าได้ตื่นเต้น
6.ติดป้ายราคาสินค้าชัดเจนทุกชิ้น รักษาความสะอาดของร้านค้าและชั้นวาง อย่าให้มีฝุ่นจับสินค้า ติดไฟให้สว่าง เรียงของเป็นหมวดหมู่ มีระเบียบ อันไหนใช้ร่วมกันก็วางไกล้กัน เช่นผงซักฟอก กับปรับผ้านุ่ม ยาสระผม กับ สบู่ยาสีฟัน เป็นต้น เช็ควันหมดอายุ มาก่อนขายก่อน
7.ทำโปรโมชั่นลดราคาบ้าง มีจับฉลากปีใหม่บ้าง บางทีเราก็ได้โปรมาจากเซลล์ ก็มาทำให้ลูกค้าได้ซื้อสินค้าที่ถูกลงบ้าง แถมให้ลูกค้าบ้าง คืนกำไรให้ลูกค้าไปค่ะ แต่ไม่ต้องถึงขั้นเข้าเนื้อตัวเองนะคะ ดูตามความเหมาะสม
8.เราทำเพจร้านค้าด้วย มันไม่ได้ช่วยเพิ่มยอดขาย แต่เป็นการประชาสัมพันธ์ร้านค่ะ มีข่าวสารอะไรมาแจ้ง หรือมีสินค้าใหม่มาแนะนำ ก็จะทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นค่ะ และเพิ่มช่องทางการติดต่อจากลูกค้าด้วยค่ะ
9.สิ่งสำคัญอีกเรื่องคือเงินทุน เราต้องมีเงินทุนสำรองเพื่อใช้ในการหมุนเวียน ก็คือสายป่านต้องยาวพอสมควรค่ะ เพื่อให้ร้านสามารถพยุงตัวเองได้ในช่วงวิกฤติแบบนี้ ต้องรู้จักประหยัด ประมาณตน ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นค่ะช่วงนี้ ไม่ก่อหนี้ใดๆเพิ่ม
10.ติดตามโครงการของรัฐ ร้านเราเคยเข้าร่วมโครงการ ชิมช้อปใช้ ซึ่งกระตุ้นยอดขายได้ดีค่ะ และปัจจุบันเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ซึ่งได้ผลตอบรับจากลูกค้าในชุมชน รวมถึงลูกค้าจากที่อื่นก็มาใช้สิทธิที่ร้านค่ะ เพราะโครงการนี้ให้เฉพาะร้านค้ารายย่อย ที่ไม่เป็นนิติบุคคล ร้านค้าเล็กๆ แม่ค้า พ่อค้าตลาดนัด หาบเร่ รถเข็น สามารถเข้าร่วมได้หมด ยอดขายกระเตื้องขึ้นดีมากๆเลยค่ะ เป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนจริงๆรอบนี้ ไม่ได้เอื้อรายใหญ่อย่างเดียวค่ะ
...สุดท้ายนี้เป็นกำลังใจให้พ่อค้าแม่ขายทุกคนนะคะ อดทนสู้ไปด้วยกันค่ะ ขอให้ใช้ความจริงใจเป็นสำคัญค่ะ ไม่ว่าจะทำงานอะไร ขอให้มีจริยธรรมในสิ่งที่ตัวเองทำค่ะ ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ความพอเพียง เป็นสิ่งจำเป็น แต่ต้องไม่หยุดพัฒนาค่ะ
ความคิดเห็นที่ 13
บ้านป้าผมทำมา30ปียังขายไดัปกติแม้จะมีเซเว่น โลตัสเล็กใกล้ๆก็ตาม เน้นการใช้พันธมิตร
ให้ก๋วยเตี๋ยวป้อกๆผมก็ไม่รู้จะเรียกอะไร มาขายหน้าร้าน แถวบ้านมี4คันมั้งกระจายขายไปทั่วที่ร้านก็มาลงคันนึ่ง ที่ร้านมีเก้าอี้เลยให้นั้งได้เลย พอคนมากินก๋วยเตี๋ยว ของที่ร้านก็ขายได้ตาม พอคนเยอะ ก็มีพวกแม่ค้ามาเข็นของขายใกล้ๆ ก็มาซื้อของที่ขาดอีก พอพ่อค้าแม่ค้าเยอะ คนมา ก็ขายได้เรื่อยๆ ตอนนี้หลานมาขายข้าวแกงก็เรียกคนมาเพิ่มได้อีก แล้วของขายก็เน้นพวกซัพพ่อค้าแม่ค้าด้วย แบบถ่านยังมี แล้วก็มีห้องน้ำด้วยครบวงจรยังดีที่คนแถวนึ้เขาช่วบกันรักษาความสะอาด ป้าเลยไม่เหนื่อยให้เข้าฟรีแล้วมาล้างคงไม่ไหว หลังๆช่วงโควิดก็รับสินค้าชาวบ้านมาวางขายไม่เก็บค่าอะไรขายให้ฟรีแต่ขายไม่หมดคือส่งคืนอย่างเดียว มีคนมาขอขายหน้าร้านก็ให้ขาย เหมือนสร้างแหล่งที่คนหิว คนต้องการอะไรต้องอยากแวะมาหนะ
ของทั่วๆไปคนมันต้องกินต้องใช้มันไม่มีประหยัดหรอกมีแต่เขาไปซื้อที่อื่นมากกว่า
ให้ก๋วยเตี๋ยวป้อกๆผมก็ไม่รู้จะเรียกอะไร มาขายหน้าร้าน แถวบ้านมี4คันมั้งกระจายขายไปทั่วที่ร้านก็มาลงคันนึ่ง ที่ร้านมีเก้าอี้เลยให้นั้งได้เลย พอคนมากินก๋วยเตี๋ยว ของที่ร้านก็ขายได้ตาม พอคนเยอะ ก็มีพวกแม่ค้ามาเข็นของขายใกล้ๆ ก็มาซื้อของที่ขาดอีก พอพ่อค้าแม่ค้าเยอะ คนมา ก็ขายได้เรื่อยๆ ตอนนี้หลานมาขายข้าวแกงก็เรียกคนมาเพิ่มได้อีก แล้วของขายก็เน้นพวกซัพพ่อค้าแม่ค้าด้วย แบบถ่านยังมี แล้วก็มีห้องน้ำด้วยครบวงจรยังดีที่คนแถวนึ้เขาช่วบกันรักษาความสะอาด ป้าเลยไม่เหนื่อยให้เข้าฟรีแล้วมาล้างคงไม่ไหว หลังๆช่วงโควิดก็รับสินค้าชาวบ้านมาวางขายไม่เก็บค่าอะไรขายให้ฟรีแต่ขายไม่หมดคือส่งคืนอย่างเดียว มีคนมาขอขายหน้าร้านก็ให้ขาย เหมือนสร้างแหล่งที่คนหิว คนต้องการอะไรต้องอยากแวะมาหนะ
ของทั่วๆไปคนมันต้องกินต้องใช้มันไม่มีประหยัดหรอกมีแต่เขาไปซื้อที่อื่นมากกว่า
แสดงความคิดเห็น
ร้านโชห่วย(ร้านขายของชำ)ในยุคนี้ทำยังไงถึงจะไปรอดคะ?
-ทำร้านให้ดูน่าสนใจยังไงดี
-ร้านขายของชำควรจะมีสินค้าแบบไหนบ้าง
-เหตุผลที่ไม่เข้า
ขอบคุณทุกๆคำแนะนำนะคะ