หลังปิดตลาดวันนี้ 11/11/2563 บริษัทได้ประกาศผลประกอบการ 3/2563 ส่งผลมีการเปลี่ยนแปลงผลประกอบการ 4 ไ่ตรมาสสุดท้าย (4/2562, 1/2563, 2/2563 & 3/2563) ดังนี้
A. ผลประกอบการ 3/2563 รวม 9 เดือน 2563 (1/2563, 2/2563 & 3/2563)
9 เดือน หรือ 3 ไตรมาสแรก (1/2563, 2/2563 & 3/2563) มีกำไร 1,163.886 ล้านบาท
B. ผลประกอบการ 4/2562
ก. ประจำปี 2562 (4 ไตรมาสรวมกัน)
กำไร 123.923 ล้านบาท
ข. ผลประกอบการ 3 ไตรมาส 2562 (1/2562, 2/2562 & 3/2562)
กำไร 51.585 ล้านบาท
ค. ผลประกอบการ 4/2562
ข้อ ก. ลบ ข้อ ข. = 123.923 - 51.585 = 72.338 ล้านบาท
C. ผลประกอบการ 4 ไตรมาสสุดท้าย (4/2562, 1/2563, 2/2563 & 3/2563) = 72.338 + 1,162.886 = 1,235.224
D. กำไรเฉลี่ยต่อหุ้น = 1,235.224/23,812.809911 = 0.05187 บาทต่อหุ้น
E. ณ PE40.00 = 0.05187*40 = 2.0748 บาท
F. มาตรการกำกับหลักทรัพย์ 3 หลักเกณฑ์ตืด Cash
เนื่องจากผลประกอบ 3/2563 ดีกว่า 2/2563 ทำให้ผลประกอลการ 4 ไตรมาสสุดท้าย ณ PE40.00 เพื่มขึ้นจาก 1.803 บาท เป็น 2.0748 บาท
นั้นหมายถึง stark จะติด Cash เช่น ในสัปดาห์นี้ 6-12/11/2563
ถ้าปริมาณซื้อร้อนแรงถึง 1,300.00 ล้านบาท และ ราคาปิด >=2.08 ถึง 2.20 บาท จะติด Cash
เริ่มต้นสัปดาห์ Turnover List เริ่ม 13/11 - 19/11/2563 เป็นต้นไป โอกาสโดน Cash ดังนี้
ก. ในวันสุดท้ายสัปดาห์ Turnover List ราคาปิด >=2.08 บาท; และ
ข. ณ ระดับราคาปิดเฉลี่ยต่อวัน*5 ปริมาณซื้อ ดังนี้
ราคาปิดเฉลี่ย ปริมาณซื้อเฉลี่ยต่อวัน*5
ของสัปดาห์ Turnover list
2.08 4,200.00 ล้านบาท
2.50 5,000.00
3.00 6,000.00
ไม่น่าแปลกใจมีการทำราคาก่อนปิดตลาดไม่มีความเกรงกลัวมารตราการกำกับซื้อขายหลักทรัพย์ตืด Cash มาจากจ้าวได้รู้ข่าวผลประกอบการ 3/2563 ซึ่งได้เปลี่ยนแปลง >=PE40.00 มากขึ้น ทำให้จ้าวมีท้องทีกว้างขึ้นในการลาก ตราบเท่าราคาปิด <2.08 ก็จะไม่โดน Cash
ด้วยความปรารถนาดี
ปล : ผิดพลาดกล่นประการใดๆก็ตาม ขออภัยด้วย
STARK : ประกาศผลประกอบการ 3/2563 ส่งผลเปลี่ยนแปลง "ผลประกอบการ 4 ไตรมาสสุดท้าย (4/2562, 1/2563, 2/2563 & 3/2563)"
A. ผลประกอบการ 3/2563 รวม 9 เดือน 2563 (1/2563, 2/2563 & 3/2563)
9 เดือน หรือ 3 ไตรมาสแรก (1/2563, 2/2563 & 3/2563) มีกำไร 1,163.886 ล้านบาท
B. ผลประกอบการ 4/2562
ก. ประจำปี 2562 (4 ไตรมาสรวมกัน)
กำไร 123.923 ล้านบาท
ข. ผลประกอบการ 3 ไตรมาส 2562 (1/2562, 2/2562 & 3/2562)
กำไร 51.585 ล้านบาท
ค. ผลประกอบการ 4/2562
ข้อ ก. ลบ ข้อ ข. = 123.923 - 51.585 = 72.338 ล้านบาท
C. ผลประกอบการ 4 ไตรมาสสุดท้าย (4/2562, 1/2563, 2/2563 & 3/2563) = 72.338 + 1,162.886 = 1,235.224
D. กำไรเฉลี่ยต่อหุ้น = 1,235.224/23,812.809911 = 0.05187 บาทต่อหุ้น
E. ณ PE40.00 = 0.05187*40 = 2.0748 บาท
F. มาตรการกำกับหลักทรัพย์ 3 หลักเกณฑ์ตืด Cash
เนื่องจากผลประกอบ 3/2563 ดีกว่า 2/2563 ทำให้ผลประกอลการ 4 ไตรมาสสุดท้าย ณ PE40.00 เพื่มขึ้นจาก 1.803 บาท เป็น 2.0748 บาท
นั้นหมายถึง stark จะติด Cash เช่น ในสัปดาห์นี้ 6-12/11/2563
ถ้าปริมาณซื้อร้อนแรงถึง 1,300.00 ล้านบาท และ ราคาปิด >=2.08 ถึง 2.20 บาท จะติด Cash
เริ่มต้นสัปดาห์ Turnover List เริ่ม 13/11 - 19/11/2563 เป็นต้นไป โอกาสโดน Cash ดังนี้
ก. ในวันสุดท้ายสัปดาห์ Turnover List ราคาปิด >=2.08 บาท; และ
ข. ณ ระดับราคาปิดเฉลี่ยต่อวัน*5 ปริมาณซื้อ ดังนี้
ราคาปิดเฉลี่ย ปริมาณซื้อเฉลี่ยต่อวัน*5
ของสัปดาห์ Turnover list
2.08 4,200.00 ล้านบาท
2.50 5,000.00
3.00 6,000.00
ไม่น่าแปลกใจมีการทำราคาก่อนปิดตลาดไม่มีความเกรงกลัวมารตราการกำกับซื้อขายหลักทรัพย์ตืด Cash มาจากจ้าวได้รู้ข่าวผลประกอบการ 3/2563 ซึ่งได้เปลี่ยนแปลง >=PE40.00 มากขึ้น ทำให้จ้าวมีท้องทีกว้างขึ้นในการลาก ตราบเท่าราคาปิด <2.08 ก็จะไม่โดน Cash
ด้วยความปรารถนาดี
ปล : ผิดพลาดกล่นประการใดๆก็ตาม ขออภัยด้วย