ข่าวใน "ทันหุ้น" พูดถึงในอนาคต ยังไม่เป็นรูปธรรมในขณะนี้ ถ้าเป็นไปได้แน่นอนจะเป็นผลดีต่อ etc แต่ ในปัจจุบันต้องอยู่กับภาวะความเป็นจริงจะเกิดขึ้นในช่วงนี้จนกว่าจะประกาศผลประกอบการ 3/2563 ครบกำหนด 15/11/2563 กับมาตรการกำกับซื้อขายหลักทรัพย์ หรือ ติด Cash พอสรุปได้ดังนี้
(๑) ผลประกอบการ 4 ไตรมาสสุดท้าย >=PE40.00 หรือ ขาดทุน
ผลประกอบการ กำไร/(ขาดทุน)
ประจำปี 2562 ................................................ 57.548
หัก 1/2562 & 2/2562 กำไร ............................ -36.635
3/2562 & 4/2562 กำไร ................................. 20.913
1/2563 & 2/2563 กำไร ................................. 82.367
4 ไตรมาสสุดท้าย (3/2562 - 2/2563) กำไร .... 103.28
ณ 18/8/2563 มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,240.00 ล้านหน่วย เฉลี่ยกำไรจะได้ = 103.28/2,240.00 = 0.046107 บาทต่อหุ้น
ณ ราคา ipo 2.60 = PE56.39
ณ ราคาปิด 2.72 (18/8/2563) = PE58.9932
ณ PE40.00 = 1.84428 บาท นั้นหมายถึงราคาปิดวันสุดท้ายสัปดาห์ Cash ต้องไม่เกิน 1.84 บาทถึงจะไม่เข้าข่ายหลักเกณฑ์ข้อนี้ ไม่น่าเป็นไปได้ ไม่แล้วขาดทุนหมดตูดกันถ้วนหน้า รวมถึงเซียนผู้ถือหุ้นรายใหญ๋ด้วย
(๒) มูลค่าซื้อเฉลี่ยต่อวันทำการ >=90.00 ล้านบาท
18/8/2563 ซื้อขายวันแรก เริ่มต้นด้วยปริมาณร้อนแรงถึง 5,952.838 ล้านบาท กระชากขึ้นแล้วตบลงจากราคาเปิด 4.00 ทำจุดสูงสุด 4.60 ต่ำสุด 2.64 ปิดที่ 2.72 ส่งผลให้มีทั้งดีใจ และ ผิดหวังเพราะติดกับจ้าวอยู่บนดอยไม่รู้ว่าจะหาทางลงได้เมื่อไรรอความกรุณาปณานีจากจ้าว น่าจะไม่สมหวังในเร็วๆวันนี้ เพราะ etc ยับมีคขวากหนามจาก "มาตรการกำกับซื้อขายหลักทรัพย์ (ติด Cash) จ้าวลากด้วยปริมาณซื้อสูงๆเมื่อไร โอกาส "ติด Cash" มากเท่านั้น
ด้วยมูลค่าซื้อ 450.00 บาทในวันทำการ 1 สัปดาห์ Cash ไม่เพียงพอในการทำราคา ฉะนั้นไม่ทางหลีกเลี่ยงหลักเกณฑ์นี้
(๓) %1W Turnover Ratio >=40%
ดั่งได้กล่าวไว้ etc ไม่น่ารอด หลักเกณฑ์ (๑) & (๒) ข้างบน ทางรอดจึงอยู่ที่หลักเกณฑ์ "%1W Turnover Ratop >=40%" ซึ่งขึ้นอยู่ปริมาณซื้อต่อ 1 สัปดาห์ มากเท่าไร ราคาปิดก็ต้องมากพอไม่ทำให้ Turnover Ratio <400% เข่น
ด้วยปริมาณซื้อ 900.00 ล้านบาทต่อ 1 สัปดาห์ Cash ราคาปิด <=3.44 บาท หรือ 40.02% จะเข้าข่ายหลักเกณฑ์นี้ ติด Cash และ
ในกรณีราคาปิด >=3.46
Turnover Ratio ลดลง 39.92% ไม่เข้าข่ายติด Cash
ตัวอย่างข้างบนเป็นการคำนวนคร่าวๆ เพื่อให้เห็นภาพเล็กๆน้อยๆก่อน จักได้เข้าคำนวนแท้จริง ตามความเห็นในกระทู้
https://ppantip.com/topic/39924259
เช่นเคย มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นแนวทางเล่นเก็งกำไรหลังหมดเวลาดึ่มน้ำผึ้นพระจันทร์ถึง 2/9/2563 ส้ปดาห์แรกซื้อขาย เรื่มตั้งแต่ 3/9/2563 เข้าสัปดาห์ที่สอง (3 - 10/9/2563) ถ้าติด Cash จะเริ่มต้นวันจันทร์ 14/9/2563 ดีหรือไม่ดู sict, iig, stgt มีผลต่อราคาอย่างไรหลังติด Cash
ขอให้โชคดี รวยๆช่วงวิกฤติ COVID-19
ด้วยความปรารถนาดี
ETC : เจาะลึกกับมาตรการกำกับซื้อขายหลักทรัพย์ (ติด Cash) เดินตามรอย sict, iig & stgt เป้นต้น
ข่าวใน "ทันหุ้น" พูดถึงในอนาคต ยังไม่เป็นรูปธรรมในขณะนี้ ถ้าเป็นไปได้แน่นอนจะเป็นผลดีต่อ etc แต่ ในปัจจุบันต้องอยู่กับภาวะความเป็นจริงจะเกิดขึ้นในช่วงนี้จนกว่าจะประกาศผลประกอบการ 3/2563 ครบกำหนด 15/11/2563 กับมาตรการกำกับซื้อขายหลักทรัพย์ หรือ ติด Cash พอสรุปได้ดังนี้
(๑) ผลประกอบการ 4 ไตรมาสสุดท้าย >=PE40.00 หรือ ขาดทุน
ผลประกอบการ กำไร/(ขาดทุน)
ประจำปี 2562 ................................................ 57.548
หัก 1/2562 & 2/2562 กำไร ............................ -36.635
3/2562 & 4/2562 กำไร ................................. 20.913
1/2563 & 2/2563 กำไร ................................. 82.367
4 ไตรมาสสุดท้าย (3/2562 - 2/2563) กำไร .... 103.28
ณ 18/8/2563 มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 2,240.00 ล้านหน่วย เฉลี่ยกำไรจะได้ = 103.28/2,240.00 = 0.046107 บาทต่อหุ้น
ณ ราคา ipo 2.60 = PE56.39
ณ ราคาปิด 2.72 (18/8/2563) = PE58.9932
ณ PE40.00 = 1.84428 บาท นั้นหมายถึงราคาปิดวันสุดท้ายสัปดาห์ Cash ต้องไม่เกิน 1.84 บาทถึงจะไม่เข้าข่ายหลักเกณฑ์ข้อนี้ ไม่น่าเป็นไปได้ ไม่แล้วขาดทุนหมดตูดกันถ้วนหน้า รวมถึงเซียนผู้ถือหุ้นรายใหญ๋ด้วย
(๒) มูลค่าซื้อเฉลี่ยต่อวันทำการ >=90.00 ล้านบาท
18/8/2563 ซื้อขายวันแรก เริ่มต้นด้วยปริมาณร้อนแรงถึง 5,952.838 ล้านบาท กระชากขึ้นแล้วตบลงจากราคาเปิด 4.00 ทำจุดสูงสุด 4.60 ต่ำสุด 2.64 ปิดที่ 2.72 ส่งผลให้มีทั้งดีใจ และ ผิดหวังเพราะติดกับจ้าวอยู่บนดอยไม่รู้ว่าจะหาทางลงได้เมื่อไรรอความกรุณาปณานีจากจ้าว น่าจะไม่สมหวังในเร็วๆวันนี้ เพราะ etc ยับมีคขวากหนามจาก "มาตรการกำกับซื้อขายหลักทรัพย์ (ติด Cash) จ้าวลากด้วยปริมาณซื้อสูงๆเมื่อไร โอกาส "ติด Cash" มากเท่านั้น
ด้วยมูลค่าซื้อ 450.00 บาทในวันทำการ 1 สัปดาห์ Cash ไม่เพียงพอในการทำราคา ฉะนั้นไม่ทางหลีกเลี่ยงหลักเกณฑ์นี้
(๓) %1W Turnover Ratio >=40%
ดั่งได้กล่าวไว้ etc ไม่น่ารอด หลักเกณฑ์ (๑) & (๒) ข้างบน ทางรอดจึงอยู่ที่หลักเกณฑ์ "%1W Turnover Ratop >=40%" ซึ่งขึ้นอยู่ปริมาณซื้อต่อ 1 สัปดาห์ มากเท่าไร ราคาปิดก็ต้องมากพอไม่ทำให้ Turnover Ratio <400% เข่น
ด้วยปริมาณซื้อ 900.00 ล้านบาทต่อ 1 สัปดาห์ Cash ราคาปิด <=3.44 บาท หรือ 40.02% จะเข้าข่ายหลักเกณฑ์นี้ ติด Cash และ
ในกรณีราคาปิด >=3.46
Turnover Ratio ลดลง 39.92% ไม่เข้าข่ายติด Cash
ตัวอย่างข้างบนเป็นการคำนวนคร่าวๆ เพื่อให้เห็นภาพเล็กๆน้อยๆก่อน จักได้เข้าคำนวนแท้จริง ตามความเห็นในกระทู้
https://ppantip.com/topic/39924259
เช่นเคย มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นแนวทางเล่นเก็งกำไรหลังหมดเวลาดึ่มน้ำผึ้นพระจันทร์ถึง 2/9/2563 ส้ปดาห์แรกซื้อขาย เรื่มตั้งแต่ 3/9/2563 เข้าสัปดาห์ที่สอง (3 - 10/9/2563) ถ้าติด Cash จะเริ่มต้นวันจันทร์ 14/9/2563 ดีหรือไม่ดู sict, iig, stgt มีผลต่อราคาอย่างไรหลังติด Cash
ขอให้โชคดี รวยๆช่วงวิกฤติ COVID-19
ด้วยความปรารถนาดี