ควรจะพึ่งพาสิ่งใด ก.หมอดู
ข. พึ่งตนเอง
ค.ไม่พึ่งสิ่งใดเลย
ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อทำให้ท่านทั้งหลายที่ยังหาที่พึ่งทางใจได้เข้าใจถึงสภาพเเห่งความเป็นจริงเเละกฎเเห่งการเปลี่ยนสภาพของกฎเเห่งธรรมชาติ
ซึ่งมนุษย์ได้ห่างจากสิ่งเหล่านี้มานานมากเเล้ว นั้นก็คือ พระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา อันมีโลกธรรม8เป็นเครื่องเตือนใจ มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มีสุข มีทุกข์ โลกธรรม8คือทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นอนิจจังไม่เที่ยงแท้ เราไม่ควรลืมงานกับความสำเร็จและความสุขที่ได้รับ ไม่ท้อถอยกับความผิดหวังและความทุกข์ที่เกิดขึ้น เตือนสติมิให้ประมาท มองสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง
ซึ่งในปัจจุบัน3 ลัทธิ ที่ชาวพุทธพึงทราบว่า “ไม่ใช่พระพุทธศาสนา”
1. ลัทธิกรรมเก่า คือ ลัทธิที่เชื่อกันว่าความเป็นไปในชีวิตของคนเรานั้นไม่ว่าจะในทางดีหรือในทางร้าย ล้วนเป็นผลมาจากกรรมเก่าทั้งสิ้น เช่น เกิดมาจนก็เพราะกรรมเก่า เกิดมารวยก็เพราะกรรมเก่า เกิดมามีอำนาจก็เพราะกรรมเก่า เกิดมาต่ำต้อยก็เพราะกรรมเก่า อะไรๆ ก็เพราะกรรมเก่าทั้งนั้น
2.ลัทธิพระเจ้าบันดาล คือ ลัทธิที่เชื่อกันว่าความเป็นไปในชีวิตของเรานั้นมีพระเจ้าเป็นผู้ “เขียนบท” หรือ “ลิขิต” เอาไว้เรียบร้อยแล้ว ชีวิตจะเป็นอย่างไร ขึ้นสูงหรือลงต่ำ สำเร็จหรือล้มเหลว รุ่งโรจน์หรือร่วงโรย ล้วนแต่เป็นไปตามบทที่เทพเจ้าเบื้องบนท่านลิขิตเอาไว้ให้ตั้งแต่ต้น มนุษย์เป็นเพียง“ตัวละคร” ของเจ้าของโรงละครที่ชื่อพระเจ้าเท่านั้น
3.ลัทธิบังเอิญ คือ ลัทธิที่เชื่อกันว่าความเป็นไปของชีวิตหรือของสิ่งต่างๆ ในโลกนี้ไม่มีที่มา ไม่มีที่ไป ถึงเวลาอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด พอมันจะไม่เกิด ถึงอย่างไรมันก็ไม่เกิด ตรงกับความเชื่อที่ว่า “Whatever will be, will be.”
ข้อยกเครดิต พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี
ช่วงสถานการณ์โควิด ปัญหาคนตกงาน เศรษฐกิจย่ำเเย่ ชีวิตมีเเต่ปัญหาไม่ว่าการงาน การเงิน สุขภาพ ควรจะทำอย่างไร
ข. พึ่งตนเอง
ค.ไม่พึ่งสิ่งใดเลย
ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อทำให้ท่านทั้งหลายที่ยังหาที่พึ่งทางใจได้เข้าใจถึงสภาพเเห่งความเป็นจริงเเละกฎเเห่งการเปลี่ยนสภาพของกฎเเห่งธรรมชาติ
ซึ่งมนุษย์ได้ห่างจากสิ่งเหล่านี้มานานมากเเล้ว นั้นก็คือ พระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา อันมีโลกธรรม8เป็นเครื่องเตือนใจ มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มีสุข มีทุกข์ โลกธรรม8คือทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเป็นอนิจจังไม่เที่ยงแท้ เราไม่ควรลืมงานกับความสำเร็จและความสุขที่ได้รับ ไม่ท้อถอยกับความผิดหวังและความทุกข์ที่เกิดขึ้น เตือนสติมิให้ประมาท มองสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง
ซึ่งในปัจจุบัน3 ลัทธิ ที่ชาวพุทธพึงทราบว่า “ไม่ใช่พระพุทธศาสนา”
1. ลัทธิกรรมเก่า คือ ลัทธิที่เชื่อกันว่าความเป็นไปในชีวิตของคนเรานั้นไม่ว่าจะในทางดีหรือในทางร้าย ล้วนเป็นผลมาจากกรรมเก่าทั้งสิ้น เช่น เกิดมาจนก็เพราะกรรมเก่า เกิดมารวยก็เพราะกรรมเก่า เกิดมามีอำนาจก็เพราะกรรมเก่า เกิดมาต่ำต้อยก็เพราะกรรมเก่า อะไรๆ ก็เพราะกรรมเก่าทั้งนั้น
2.ลัทธิพระเจ้าบันดาล คือ ลัทธิที่เชื่อกันว่าความเป็นไปในชีวิตของเรานั้นมีพระเจ้าเป็นผู้ “เขียนบท” หรือ “ลิขิต” เอาไว้เรียบร้อยแล้ว ชีวิตจะเป็นอย่างไร ขึ้นสูงหรือลงต่ำ สำเร็จหรือล้มเหลว รุ่งโรจน์หรือร่วงโรย ล้วนแต่เป็นไปตามบทที่เทพเจ้าเบื้องบนท่านลิขิตเอาไว้ให้ตั้งแต่ต้น มนุษย์เป็นเพียง“ตัวละคร” ของเจ้าของโรงละครที่ชื่อพระเจ้าเท่านั้น
3.ลัทธิบังเอิญ คือ ลัทธิที่เชื่อกันว่าความเป็นไปของชีวิตหรือของสิ่งต่างๆ ในโลกนี้ไม่มีที่มา ไม่มีที่ไป ถึงเวลาอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด พอมันจะไม่เกิด ถึงอย่างไรมันก็ไม่เกิด ตรงกับความเชื่อที่ว่า “Whatever will be, will be.”
ข้อยกเครดิต พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี