สารานุกรมปืนตอนที่ 427 M40 & M24 Rifle

"ขอขอบคุณเพจ ป ปืนอย่างสูงครับ"
 
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/

Remington M700



Remington Model 700 (M700) เป็นปืนไรเฟิลแบบ Bolt Action ในรูปแบบพลเรือนตำรวจและทหาร ผลิตโดย Remington Arms เริ่มในปี 1962 จวบจนวันนี้ M700 rifle series นาวิกโยธิน สหรัฐฯ ในรหัส M40 rifles. และ กองทัพบก สหรัฐฯ รับเข้าประจำการด้วยรหัส M24 Sniper Weapon System (SWS)
รายละเอียดของ ทั้ง M40 และ M24





M40 rifle
นาวิกโยธิน สหรัฐฯ เข้าประจำการในปี 1966 ช่วงสงครามเวียดนาม โดยใช้กระสุนขนาด 7.62×51mm NATO ชื่อบ้างครั้งก็จะเรียกว่า Remington 700/40x หรือ Remington Model 40x rifles
ซึ่งปัจจุบันถูกทดแทนด้วย Mk 13 Mod 7.ของ Accuracy International Chassis System (AICS)
M40 ใช้ลำกล้องยาว 24 นิ้ว 6 เกลียวเวียนขวา ครบรอบที่ 1:12 นิ้ว
โดยมีการปรับปรุง มีรุ่นต่างๆคือ M40, M40A1(ยุค70), M40A3(ยุค2000), และ M40A5.(ปี2009)
M40 - เป็นรุ่นที่มาจาก M700 ที่ได้รับการปรับปรุงโดยเฉพาะสำหรับ นาวิกโยธิน สหรัฐฯติดตั้งกล้องเล็งแบบ Redfield 3-9x Accu-Rangeใช้พานท้ายไม้ ลำกล้องยาว 24 นิ้ว
M40A1 -ปรับปรุงโดย USMC Marksmanship Training Unit (MTU) ใช้พานท้ายเป็นวัสดุสังเคราะห์(synthetic) ใช้กล้องเล็งแบบ Redfield 3-9X Accu-Range ใช้พานท้ายแบบ McMillan HTG
M40A2 -ใช้พานท้ายแบบ McMillan’s A2 Tactical stock แบบ semi-straight grip ปรับแต่งไกให้มีน้ำหนัก 2 to 2-1/2 lbs.
M40A3-เริ่มปรับปรุงในปี1996 และได้ข้อสรุปในปี2001 ซึ่งก็ใช้ฟีดเจอร์ของA2 ได้รับการปรับปรุงชุดโกร่งไกจากทั้ง DD Ross Company แบบซองกระสุนใน และ Badger Ordnance ซึ่งเป็นซองกระสุนแบบถอดได้ สในปี 2007 ก็มีใช้งานทั้ง 2แบบ ลำกล้องปืนผลิตโดย Schneider 610 ยาว 24 นิ้ว 6-เกลียว 1:12" match-grade heavy barrel ติดตั้งขาทราย S-BRM, ในตอนแรกมีการใช้กล้องเล็งแบบ M8541 Scout Sniper Day Scope ซึ่งคือ Schmidt and Bender Police Marksman II LP 3–12×50 ปรับปรุงโดย Premier Reticles และ 2007 แทนที่ด้วย Unertl MST-100 10× fixed day scope.
M40A5-แทนที่ M40A3 ในปี 2009 ซึ่งมีการใช้ลำกล้องที่มีเกลียวปลายลำกล้องที่สามารถติดตั้งปลอกลดแสง/กันสะบัดหรือ ปลอกลดเสียงได้ ใช้ซองกระสุนแบบถอดได้ของ Badger Ordnance ทั้งหมด ใช้ศูนย์เล็งกลางคืนแบบ AN/PVS-22 night vision optic ใช้ลำกล้องแบบ Schneider Stainless-Steel
M40A6 /A7 -ใช้ชุดพานท้ายแบบโมดุล่า สามรถพับท้ายได้ ซึ่งเรมิงตันได้สัญญาการปรับปรุงในปี2014 สามารถส่งมอบได้ในปี 2016 ให้แก่นาวิกโยธินสหรัฐในการนำมาอัพเกรด M40A5 และ เร มิงตันทำขายเองใช้ชื่อรุ่น M40A7 .ในปี2017
M24 +
มีชื่อเต็มๆว่า Rifle, Caliber 7.62 mm, Sniper Weapon System, M24 หรือ M24 Sniper Weapon System (SWS) ซึ่งนอกจจากรวมตัวปี M700 แล้วก๋ยังหมายถึง อุปกรณ์ของปืนทั้งหมดทั้งกล้องเล็ง ขาทราย ฯลฯ .ในปี 1988





ซึ่งระบบของ M24 นั้นเป็น "long action" ซึ่งโครงปืน-ลูกเลื่อนจะยาวกว่า M700 ปกติ ซึ่งปืนใช้กระสุนแบบ 7.62×51mm NATO ที่เป็นกระสุนแบบ "short action cartridge” ซึ่งมีความยาวกระสุน 2.75 นิ้ว แต่โครงปืนสามารถใช้กระสุนที่ยาวกว่าได้ถึง 3.34 นิ้ว
ระบบกล้องเล็งเดิมใช้แบบ Leupold Ultra M3A 10×42mm fixed-power scope และในปี1998 ถูกทดแทนด้วย Leupold Mk 4 LR/T M1 10×40mm fixed-power scope
ลำล้องทำมาจากเหล็ก 416R stainless steel. มีอัตราเกลียวครบรอบที่ 1:11.25 นิ้ว 5 เกลียวเวียนขวา สันเกลียวแบบ radial lands
ชุดพานท้ายใช้แบบ : H-S Precision PST-024 สามารถปรับระยะพานท้ายได้ (adjustable LOP)
ใช้กระสุนแบบ Match-grade ammunition ได้แก่
7.62 × 51mm M118 Match Grade:
7.62 × 51mm M118LR Long Range
7.62 × 51mm MK 316 MOD 0 Special Ball, Long Range
มีรุ่นที่พัฒนาขึ้นมาอีกคือ
XM24A1 - ใช้กระสุนขนาด .300 Winchester Magnum /7.62×67mm แต่ก็ไม่ได้ถูกนำมาใช้งานเพราะความไม่วางใจในกระสุนขนาดนี้
M24A2-เรมิงตันได้ทำการพัฒนาให้ใช้ซองกระสุนแบบถอดได้ 5นัด และมีรางติดอุปกรณ์แบบ Picatinny rails โดยระบบนี้เรมิงตันใช้ชื่อว่า Modular Accessory Rail System หรือ “MARS”. ปลายลำกล้องมีการทำเกลียวเพื่อติดตั้งที่ลดเสียง และพานท้ายเป็นแบบ H-S Precision PST-026 ซึ่งสามารถปรับได้ทั้งความยาวและที่รองแก้ม
M24A3-ในรุ่นนี้พัฒนาใช้กระสุนขนาด .338 Lapua Magnum round (8.58×70mm)และมีลำกล้องยาวขึ้น 27 นิ้ว ใช้กล้องเล็งแบบ Leupold Mk 4 M1LR/T 8.5–25×50mm Variable Power day scope. สามารถใช้ระบบศูนย์เปิดได้แบบ Back-Up Iron Sights ซึ่งศูนย์หลังแบบ BUISจะติดตั้งบนรางอีกที









M2010 M24E1 Enhanced Sniper Rifle reconfiguration competition - โดยที่ United States Army's Joint Munitions and Lethality Contracting Center ได้มีการทำสัญญาอัพเกรด M24 Sniper Weapon Systems เป็น M24E1 Enhanced Sniper Rifle (ESR) กับเรมิงตัน จำนวน 3,600 กระบอก แต่ต่อมาก็ได้ถูกจัดเป็น XM2010 และขยับกระสุนเป็น .300 Winchester Magnum/ 7.62×67mm ซึ่งสามารถทำได้เพราะเป็นโรงปืนแบบ "long action" มีความยาวมากพอที่จะรองรับกระสุนที่ยาวขึ้นมาจาก 7.62 × 51mm
ลำกล้องใช้ความยาว 24 นิ้ว 5เกลียวเวียนขวาครบรอบที่ 1:10 นิ้ว ปลานลำกล้องมีเกลียวสามารถติดตั้งท่อลดเสียงได้ของ Advanced Armament Corp. ซึ่งเป็นแบบถอดเร็ว รวมถึงปลอดลดเสียง/กันสะบัด
ติดตั้งกล้องเล็งแบบ Leupold Mark 4 6.5–20×50mm ER/T M5 Front Focal
ใช้ชุดพานท้ายแบบ โมดุล่า พับท้ายได้ และปืนเคลือบสารทนการกัดกร่อนสูง
หลังได้ข้อสรุปในปี 2011 ก็ได้ชื่อคือ M2010 เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2014 M2010 จำนวน 2,558 กระบอกก็ได้ส่งมอบให้กองทัพบกสหรัฐฯ
จริงๆแล้วกองทัพสหรัฐฯ มีการแทนที่ M24 ด้วย M110 Semi-Automatic Sniper System,ของ Knight's Armament Company.แต่สุดท้ายก็ยังคงมีการอัพเกรดใช้งาน M24/M2010 อยู่ต่อมา
MK 248 MOD 1
เป็นรุ่นที่กองทัพเรือได้สั่งซื้อไปใช้งานรู โดยใช้กระสุนขนาด .300 Winchester Magnum match-grade ammunition ในปี 2009 และใช้โครงปืนแบบโมดุล่าแบบ M2010 ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีการสั่งซื้อ Mk.13 MOD 5 Sniper Weapon System

ขอบคุณที่ติดตามและขออภัยหากมีขอผิดพลาดประการใด มา ณ.ที่นี้ด้วยครับ

Cr.
https://en.wikipedia.org/wiki/M40_rifle
https://en.wikipedia.org/wiki/M24_Sniper_Weapon_System
http://www.texasbrigadearmory.com/custconfigs.htm
http://93zj.blogspot.com/2018/01/
#M40_M24 #ป_ปืน


สวัสดีครับ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่