การพัฒนา
ในช่วงทศวรรศที่ 1960 ขนาดที่สงครามเวียดนามกำลังครุกกรุ่นถึงขีดสุดนาวิกโยธินของสหรัฐต้องการปืนซุ่มยิงแบบใหม่มาทดแทนปืนซุ่มยิงแบบ m1903 springfield ที่ใช้มาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 มันต้องมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและใช้ร่วมกับเหล่าทัพอื่นๆของสหรัฐได้ ramington m700 model 40 จากบริษัท ramington ได้ถูกรับเลือกมาทดแทน m1903 โดยนาวิกโยธินสหรัฐได้สั่งซื้อ m700 จาก ramington 100 กระบอก แล้วนำเจ้า m700 มาดัดแปลงติดกล้องที่กำลังขยายสูงกว่าเดิมและใช้โครงปืนที่ทำจากไม้ทั้งแถบเพิ่มความแข็งแรงใส่เข้าไปแทน โดยตั้งชื่อให้ปืนว่า m40
m40
รายละเอียดปืนการพัฒนาจากรุ่นสู่รุ่น
ในช่วงทศวรรศที่ 1970 นาวิกโยธินสหรัฐได้นำเจ้า m40 มาดัดแปลงด้วยการถอดโครงปืนที่เป็นไม้ออกทั้งหมด แล้วแทนที่ด้วยไฟเบอร์กลาสที่เบากว่าและให้ความแข็งแรงที่เหนือกว่ากล้องเล็งแบบ redfield กำลังขยาย 9x ถูกแทนที่ด้วยกล้องเล็งแบบ unertl กำลังขยาย 10x พายท้ายที่สามารถหมุนปรับตัวสลิงข้างบนได้และแผ่นรองแก้มของ pachmeyr และตัวปืนนั้นไม่มีศูนย์เล็งติดมากันปืน ต้องใช้กล้องอย่างเดียว โดยนาวิกโยธินสหรัฐได้ตั้งชื่อปืนแบบใหม่นี้ว่า m40a1
m40a1
การพัฒนาตัวปืนมาอีกครั้งในปี 1996 ในช่วงยุทธการปลดปล่อยอิรัก ได้มีการดัดแปลงเจ้า m401 อีกครั้งกลไกภายในที่ใช้ระบบกลไกของ m700 โกรงไกปืนพร้อมกับช่องใส่แม็กกาซีนถูกเปลี่ยนไปโก่งไกพร้อมช่องใส่แม็กกาซีนแบบ m5 ที่ผลิตโดย badger ordnance ลำกล้องแบบ heavy barrel ที่ทำจากแสตนเลสคุณภาพสูงถูกใส่เข้าไปแทน โก่งไกปืนจะไม่ยึดติดกับลำกล้องสามารถถอดออกได้ ตัวลำกล้องมีเกลียวแบบ 1:2 เวียนขวา ครบรอบที่ 305 mm เพื่ิอรองรับกระสุนแบบ 7.62x51 mm nato ช่องคัดปลอกกระสุนปืนอยู่ทางด้านขวา กล้องเล็งแบบ unerlt กำลังขยาย 10xถูกถอดออกไป ตัวปืนมาพร้อมกับกล้องเล็งแบบ aSchmidt and Bender II LP 3–12×50 กำลังขยาย 12x ตัวปืนสามารถดัดแปลงติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพื่อติดตั้งกล้องเล็งกลางคืนแบบ Simrad KN200
ทางด้านโครงปืนของ m40 ที่เป็นไฟเบอร์กลาสแบบเก่าถูกแทนที่ด้วยโครงปืนแบบ a4 tactical ที่โครงปืนแบบ brench rest ผลิตโดย mcmilan tactical ตัวโครงปืนที่ออกมาขากโรงงานจะถูกรมด้วยสีเขียวเป็นสีมาตรฐานที่ออกมาจากโรงงาน รูเล็กๆที่อยู่ด้านล่างโครงปืนที้เรียกว่า glass bedded (ตรงนี้ไม่แน่ว่าเอาไว้ทำอะไร) กับโครงปืนข้างในที่เป็นแผ่นอลูมิเนียม ลำกล้องที่เป็นแบบ float barrel ที่ตัวลำกล้องติดกับตัวระบบ bolt ของปืนแค่นั้นแต่จะไม่ติดกับตัวกระโจมด้านหน้ามือเพื่อเพิ่มความแม่นยำให้กับตัวปืน แผ่นรองแก้มที่ออกแบบมาสำหรับคนยิงทั้งด้านซ้ายและขวาและปรับและถอดออกได้ เช่นเดียวกับโครงปืนที่สามารถถอดออกได้ ตัวโครงปืนจะมีปุ่มที่เอาไว้ล็อคโครงปืน 6 จุด 2 ตำแหน่งตรงข้างหน้าตัวปืน และด้านหลังตัวปืน ตรงด้านล่างตัวปืนและด้านหน้าสุดของตัวปืนอย่างละ 1 จุด ด้านหน้าปืนมีขาตั้งแบบถอดพับเก็บได้แบบหมุนปรับของ Harris สำหรับการเล็งยิงแบบประณีต โดยตัวพานท้ายจะมีตัวล็อคอยู่อีกทีหนึ่ง ตัวสลิงที่รับแรงรีคอยด์ตรงพานท้ายตัวปืนแบบ m1907 ถูกถอดออกแล้วแทนที่ด้วยสลิงแบบ 2 ตัวที่นุ่มนวลกว่าที่ผลิตโดย Tactical Intervention Specialists ตรงข้างหน้ากระโจมมือด้านซ้ายและด้านซ้ายของพานท้ายตัวปืนจะเป็นช่องที่สำหรับใส่สสายสะพายตัวปืน ตัวปืนสามารถดัดแปลงใส่ศูนย์เหล็กเข้าไปได้พราะปกติตัวปืนนั้นไม่มีศูนย์เหล็กมาให้ ตัวปืนถูกตั้งชื่อว่า m40a3
m40a3
หลังจากทางนาวิกโยธินสหรัฐใฃ้ปืน m40a3 มาอย่างยาวนานในปี 2009 ก็ได้มีดัดแปลงเจ้า m40a3 อีกครั้งจุดแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือลำกล้องตัวลำกล้องปืนได้มีการเพิ่มปลอกลดแสงเข้ามา และปลายลำกล้องที่มีขนาดเรียวเล็กลงเพื่อติดตั้งปลอกลดแสงแบบ surefire muzzle break และปลอดลดเสียง ตัวลำกล้องปืนด้านช้างได้ติดตั้งรางติดตั้งอุปกรณ์เสริมสำหรับติดตั้งด้านหน้าและด้านข้างกระโจมมือ เพื่อติดตั้งกล้องเล็งกลางคืนแบบ an/pvs 22 ทำให้ตัวปืนสามารถปฏิบัติได้ทั้งกลางวันและกลางคืนได้ในทุกสภาพอากาศ ตัวปืนรองรับแม็กกาซีนแบบสำเร็จรูปจำนวน 5 นัด
m40a5
ในวันที่ 12 มิถุนายน 2013 นาวิกโยธินสหรัฐได้ร้องขอไปยังสภาครองเกรสในการขออัพเกรดเจ้า m40a5 โดยสิ่งที่จะขออัพเกรดหลักๆคือโครงปืนแบบใหม่ที่น้ำหนักน้อยกว่าเดิมแต่แข็งแรงมากขึ้น พานท้ายที่สามารถพับเก็บได้เพื่อความสะดวกในการพกพาและการเข้าออกยานเกราะซึ่งเป็นพื้นที่แคบๆ และรางติดอุปกรณ์เสริมทั้งแถบบนตัวปืน แต่สุดท้ายโครงการได้ถูกปฏิเสธ โดยตัวปืนได้รับการอัพเกรดเพียงแต่บางส่วนเท่านั้นคือรางติดอุปกรณ์เสริมเฉพาะด้านบนตัว bolt ของตัวปืนและหน้ากระโจมมือเท่านั้น อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนกันยายน 2014 ทางนาวิกโยธินสหรัฐก็ยังไม่ลดละ โดยทางนาวิกโยธินสหรัฐได้มีความต้องการโครงปืนแบบใหม่ โดยโครงปืนแบบใหม่ต้องสามารถใช้ร่วมกับลำกล้องและระบบกลไกตัวปืนได้เป็นอย่างดี มีบริษัทเอกชนหลายบริษัทของสหรัฐต่างส่งโครงปืนของ m40 แบบต่างๆมาแข่งขันกว่า 1100 แบบ โดยปืนแบบใหม่ที่เปลี่ยนโครงปืนนี้จะมีชื่อว่า m40a7 นอกจากนั้นในตัวปืน m40a7 ทางนาวิกมีแผนที่จะดัดแปลงตัวปืนให้สามารถใช้กระสุนที่มีระยะยิงและพลังอำนาจทำลายล้างเหนือกระสุนแบบ 7.62x51 mm เพื่อเพิ่มระยะหวังผลของตัวปืนเป็น 1500 เมตรเหนือกง่ากระสุนแบบเก่าที่มีระยะหวังผลเพียง 800 เมตร นาวิกโยธินสหรัฐมีแผนจะนำเจ้า m40a5 ไปดัดแปลงเป็น m40a7 แล้วนำเข้าประจำการในกองทัพในปี 2017
รูปของ m40a7
m40 กับ m24 ต่างกันอย่างไร
m40 และ m24 นั้นมีความคล้ายคลึงกันทางด้านกลไกและลำกล้องเนื่องจากทั้งคู่ต่างมีพื้นฐานมาก m700 ที่ใช้ระบบบริหารกลไก bolt ของ mauser อันเป็นเอกลักษณ์หมือนกันคือเป็นระบบลูกเลื่อนบริหารด้วยมือดึงลูกเลื่อนออกเพื่อคัดปลอกกระสุนออก และดันลูกเลื่อนเข้าไปเพื่อป้อนกระสุนนัดต่อไปเข้าสู่รังเพลิง ทั้งคู่ต่างรองรับการซุ่มยิงในทุกสภาพอากาศและทุกสภาพแวดล้อมเช่นกัน แต่ m40 จะเป็นของนาวิกโยธินสหรัฐ m24 จะเป็นของกองทัพบกสหรัฐ m40 ของนาวิกโยธินจะเป็นระบบกลไกแบบ short action เพื่อรองรับกับกระสุนที่มีขนาดเล็กกว่า 7.62x51mm ในขณะที่ m24 จะใช้ระบบกลไกแบบ long action เพื่อรองรับกับกระสุนที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งข้อดีของเจ้าระบบ long action ก็คือมมันสามารถรองรับกระสุนที่มีขนาดใหญ่กว่า 7.62x51mm(เพราะเดิมที m24 ถผุกผลิตขึ้นเพื่อใช้กับกระสุนแบบ 7.62x63 mm springfield)ขึ้นไปได้เมื่อจำเป็น โดยทางกองทัพบกสหรัฐได้มีการดัดแปลงเจ้าปืน m24 เพื่อใช้กระสุนที่มีขนาดใหญ่และกว่าเหนือ 7.62x51 mm อย่างกระสุนขนาด 7.62x67mm winchester ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า
m24(บน) m40(ล่าง)
ข้อมูลโดยรวม
ประเทศผู้ผลิต: สหรัฐอเมริกา
ระยะหวังผล: 800 เมตร
น้ำหนัก: 6.5kg(m40), 7.5kg(m40a3)
ขนาดกระสุน: 7.62x51 mm nato
อัตราการยิง: 6-8 นัด/นาที
ความยาวลำกล้อง: 24 นิ้ว
อ้างอิง
https://en.m.wikipedia.org/wiki/M40_rifle
http://accurate-mag.com/rifles/
http://www.militaryfactory.com/smallarms/detail-page-2.asp?smallarms_id=15
ปล.โหวตและกดถูกใจกระทู้ จขกท. จะเป็นการให้กำลังใจ จขกท.อย่างดีครับ
บทความเก่าๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/34390855
http://ppantip.com/topic/34381402
http://ppantip.com/topic/34370300?
http://ppantip.com/topic/34358716?
http://ppantip.com/topic/34353645?
http://ppantip.com/topic/34347026?
http://ppantip.com/topic/34342502?
http://ppantip.com/topic/34333351?
http://ppantip.com/topic/34322071?
M40 ปืนซุ่มยิงแห่งนาวิกโยธินของสหรัฐ
ในช่วงทศวรรศที่ 1960 ขนาดที่สงครามเวียดนามกำลังครุกกรุ่นถึงขีดสุดนาวิกโยธินของสหรัฐต้องการปืนซุ่มยิงแบบใหม่มาทดแทนปืนซุ่มยิงแบบ m1903 springfield ที่ใช้มาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 มันต้องมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและใช้ร่วมกับเหล่าทัพอื่นๆของสหรัฐได้ ramington m700 model 40 จากบริษัท ramington ได้ถูกรับเลือกมาทดแทน m1903 โดยนาวิกโยธินสหรัฐได้สั่งซื้อ m700 จาก ramington 100 กระบอก แล้วนำเจ้า m700 มาดัดแปลงติดกล้องที่กำลังขยายสูงกว่าเดิมและใช้โครงปืนที่ทำจากไม้ทั้งแถบเพิ่มความแข็งแรงใส่เข้าไปแทน โดยตั้งชื่อให้ปืนว่า m40
m40
รายละเอียดปืนการพัฒนาจากรุ่นสู่รุ่น
ในช่วงทศวรรศที่ 1970 นาวิกโยธินสหรัฐได้นำเจ้า m40 มาดัดแปลงด้วยการถอดโครงปืนที่เป็นไม้ออกทั้งหมด แล้วแทนที่ด้วยไฟเบอร์กลาสที่เบากว่าและให้ความแข็งแรงที่เหนือกว่ากล้องเล็งแบบ redfield กำลังขยาย 9x ถูกแทนที่ด้วยกล้องเล็งแบบ unertl กำลังขยาย 10x พายท้ายที่สามารถหมุนปรับตัวสลิงข้างบนได้และแผ่นรองแก้มของ pachmeyr และตัวปืนนั้นไม่มีศูนย์เล็งติดมากันปืน ต้องใช้กล้องอย่างเดียว โดยนาวิกโยธินสหรัฐได้ตั้งชื่อปืนแบบใหม่นี้ว่า m40a1
m40a1
การพัฒนาตัวปืนมาอีกครั้งในปี 1996 ในช่วงยุทธการปลดปล่อยอิรัก ได้มีการดัดแปลงเจ้า m401 อีกครั้งกลไกภายในที่ใช้ระบบกลไกของ m700 โกรงไกปืนพร้อมกับช่องใส่แม็กกาซีนถูกเปลี่ยนไปโก่งไกพร้อมช่องใส่แม็กกาซีนแบบ m5 ที่ผลิตโดย badger ordnance ลำกล้องแบบ heavy barrel ที่ทำจากแสตนเลสคุณภาพสูงถูกใส่เข้าไปแทน โก่งไกปืนจะไม่ยึดติดกับลำกล้องสามารถถอดออกได้ ตัวลำกล้องมีเกลียวแบบ 1:2 เวียนขวา ครบรอบที่ 305 mm เพื่ิอรองรับกระสุนแบบ 7.62x51 mm nato ช่องคัดปลอกกระสุนปืนอยู่ทางด้านขวา กล้องเล็งแบบ unerlt กำลังขยาย 10xถูกถอดออกไป ตัวปืนมาพร้อมกับกล้องเล็งแบบ aSchmidt and Bender II LP 3–12×50 กำลังขยาย 12x ตัวปืนสามารถดัดแปลงติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพื่อติดตั้งกล้องเล็งกลางคืนแบบ Simrad KN200
ทางด้านโครงปืนของ m40 ที่เป็นไฟเบอร์กลาสแบบเก่าถูกแทนที่ด้วยโครงปืนแบบ a4 tactical ที่โครงปืนแบบ brench rest ผลิตโดย mcmilan tactical ตัวโครงปืนที่ออกมาขากโรงงานจะถูกรมด้วยสีเขียวเป็นสีมาตรฐานที่ออกมาจากโรงงาน รูเล็กๆที่อยู่ด้านล่างโครงปืนที้เรียกว่า glass bedded (ตรงนี้ไม่แน่ว่าเอาไว้ทำอะไร) กับโครงปืนข้างในที่เป็นแผ่นอลูมิเนียม ลำกล้องที่เป็นแบบ float barrel ที่ตัวลำกล้องติดกับตัวระบบ bolt ของปืนแค่นั้นแต่จะไม่ติดกับตัวกระโจมด้านหน้ามือเพื่อเพิ่มความแม่นยำให้กับตัวปืน แผ่นรองแก้มที่ออกแบบมาสำหรับคนยิงทั้งด้านซ้ายและขวาและปรับและถอดออกได้ เช่นเดียวกับโครงปืนที่สามารถถอดออกได้ ตัวโครงปืนจะมีปุ่มที่เอาไว้ล็อคโครงปืน 6 จุด 2 ตำแหน่งตรงข้างหน้าตัวปืน และด้านหลังตัวปืน ตรงด้านล่างตัวปืนและด้านหน้าสุดของตัวปืนอย่างละ 1 จุด ด้านหน้าปืนมีขาตั้งแบบถอดพับเก็บได้แบบหมุนปรับของ Harris สำหรับการเล็งยิงแบบประณีต โดยตัวพานท้ายจะมีตัวล็อคอยู่อีกทีหนึ่ง ตัวสลิงที่รับแรงรีคอยด์ตรงพานท้ายตัวปืนแบบ m1907 ถูกถอดออกแล้วแทนที่ด้วยสลิงแบบ 2 ตัวที่นุ่มนวลกว่าที่ผลิตโดย Tactical Intervention Specialists ตรงข้างหน้ากระโจมมือด้านซ้ายและด้านซ้ายของพานท้ายตัวปืนจะเป็นช่องที่สำหรับใส่สสายสะพายตัวปืน ตัวปืนสามารถดัดแปลงใส่ศูนย์เหล็กเข้าไปได้พราะปกติตัวปืนนั้นไม่มีศูนย์เหล็กมาให้ ตัวปืนถูกตั้งชื่อว่า m40a3
m40a3
หลังจากทางนาวิกโยธินสหรัฐใฃ้ปืน m40a3 มาอย่างยาวนานในปี 2009 ก็ได้มีดัดแปลงเจ้า m40a3 อีกครั้งจุดแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือลำกล้องตัวลำกล้องปืนได้มีการเพิ่มปลอกลดแสงเข้ามา และปลายลำกล้องที่มีขนาดเรียวเล็กลงเพื่อติดตั้งปลอกลดแสงแบบ surefire muzzle break และปลอดลดเสียง ตัวลำกล้องปืนด้านช้างได้ติดตั้งรางติดตั้งอุปกรณ์เสริมสำหรับติดตั้งด้านหน้าและด้านข้างกระโจมมือ เพื่อติดตั้งกล้องเล็งกลางคืนแบบ an/pvs 22 ทำให้ตัวปืนสามารถปฏิบัติได้ทั้งกลางวันและกลางคืนได้ในทุกสภาพอากาศ ตัวปืนรองรับแม็กกาซีนแบบสำเร็จรูปจำนวน 5 นัด
m40a5
ในวันที่ 12 มิถุนายน 2013 นาวิกโยธินสหรัฐได้ร้องขอไปยังสภาครองเกรสในการขออัพเกรดเจ้า m40a5 โดยสิ่งที่จะขออัพเกรดหลักๆคือโครงปืนแบบใหม่ที่น้ำหนักน้อยกว่าเดิมแต่แข็งแรงมากขึ้น พานท้ายที่สามารถพับเก็บได้เพื่อความสะดวกในการพกพาและการเข้าออกยานเกราะซึ่งเป็นพื้นที่แคบๆ และรางติดอุปกรณ์เสริมทั้งแถบบนตัวปืน แต่สุดท้ายโครงการได้ถูกปฏิเสธ โดยตัวปืนได้รับการอัพเกรดเพียงแต่บางส่วนเท่านั้นคือรางติดอุปกรณ์เสริมเฉพาะด้านบนตัว bolt ของตัวปืนและหน้ากระโจมมือเท่านั้น อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนกันยายน 2014 ทางนาวิกโยธินสหรัฐก็ยังไม่ลดละ โดยทางนาวิกโยธินสหรัฐได้มีความต้องการโครงปืนแบบใหม่ โดยโครงปืนแบบใหม่ต้องสามารถใช้ร่วมกับลำกล้องและระบบกลไกตัวปืนได้เป็นอย่างดี มีบริษัทเอกชนหลายบริษัทของสหรัฐต่างส่งโครงปืนของ m40 แบบต่างๆมาแข่งขันกว่า 1100 แบบ โดยปืนแบบใหม่ที่เปลี่ยนโครงปืนนี้จะมีชื่อว่า m40a7 นอกจากนั้นในตัวปืน m40a7 ทางนาวิกมีแผนที่จะดัดแปลงตัวปืนให้สามารถใช้กระสุนที่มีระยะยิงและพลังอำนาจทำลายล้างเหนือกระสุนแบบ 7.62x51 mm เพื่อเพิ่มระยะหวังผลของตัวปืนเป็น 1500 เมตรเหนือกง่ากระสุนแบบเก่าที่มีระยะหวังผลเพียง 800 เมตร นาวิกโยธินสหรัฐมีแผนจะนำเจ้า m40a5 ไปดัดแปลงเป็น m40a7 แล้วนำเข้าประจำการในกองทัพในปี 2017
รูปของ m40a7
m40 กับ m24 ต่างกันอย่างไร
m40 และ m24 นั้นมีความคล้ายคลึงกันทางด้านกลไกและลำกล้องเนื่องจากทั้งคู่ต่างมีพื้นฐานมาก m700 ที่ใช้ระบบบริหารกลไก bolt ของ mauser อันเป็นเอกลักษณ์หมือนกันคือเป็นระบบลูกเลื่อนบริหารด้วยมือดึงลูกเลื่อนออกเพื่อคัดปลอกกระสุนออก และดันลูกเลื่อนเข้าไปเพื่อป้อนกระสุนนัดต่อไปเข้าสู่รังเพลิง ทั้งคู่ต่างรองรับการซุ่มยิงในทุกสภาพอากาศและทุกสภาพแวดล้อมเช่นกัน แต่ m40 จะเป็นของนาวิกโยธินสหรัฐ m24 จะเป็นของกองทัพบกสหรัฐ m40 ของนาวิกโยธินจะเป็นระบบกลไกแบบ short action เพื่อรองรับกับกระสุนที่มีขนาดเล็กกว่า 7.62x51mm ในขณะที่ m24 จะใช้ระบบกลไกแบบ long action เพื่อรองรับกับกระสุนที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งข้อดีของเจ้าระบบ long action ก็คือมมันสามารถรองรับกระสุนที่มีขนาดใหญ่กว่า 7.62x51mm(เพราะเดิมที m24 ถผุกผลิตขึ้นเพื่อใช้กับกระสุนแบบ 7.62x63 mm springfield)ขึ้นไปได้เมื่อจำเป็น โดยทางกองทัพบกสหรัฐได้มีการดัดแปลงเจ้าปืน m24 เพื่อใช้กระสุนที่มีขนาดใหญ่และกว่าเหนือ 7.62x51 mm อย่างกระสุนขนาด 7.62x67mm winchester ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า
m24(บน) m40(ล่าง)
ข้อมูลโดยรวม
ประเทศผู้ผลิต: สหรัฐอเมริกา
ระยะหวังผล: 800 เมตร
น้ำหนัก: 6.5kg(m40), 7.5kg(m40a3)
ขนาดกระสุน: 7.62x51 mm nato
อัตราการยิง: 6-8 นัด/นาที
ความยาวลำกล้อง: 24 นิ้ว
อ้างอิง
https://en.m.wikipedia.org/wiki/M40_rifle
http://accurate-mag.com/rifles/
http://www.militaryfactory.com/smallarms/detail-page-2.asp?smallarms_id=15
ปล.โหวตและกดถูกใจกระทู้ จขกท. จะเป็นการให้กำลังใจ จขกท.อย่างดีครับ
บทความเก่าๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้