ขออนุญาติเรียบเรียง ความเป็นข้อๆเหตุการณ์นะครับ จะได้เข้าใจง่าย
# เรื่องเกิด เดือน เมษาปี 2558 ครับ
1.ที่ดินมีทั้งหมด 5ไร่ 70 ตารางวา ตอนเเรกเป็น ทบ.5ครับ เจ้าของดั้งเดิมคือตากับยายผม เเละได้ทำการโอนให้เเม่ของผมเป็นที่เรียบร้อย เเละเเม่ผมได้ตั้งถิ่นฐานมาทำงานหากินในเมืองโดยที่ไม่มีใครอยู่ที่นั้น เเต่ก็เเวะเวียนมาเรื่อยๆ ซึ่งทางเข้าก็ยังมีอยุ่
2.คุ่กรณี ขอใช้นาม สมมุตินะครับ *นางไม้ ได้โทรศัพท์มาคุยกับเเม่ผมเเละบอกว่าได้ขุดลอกคลองยาวระหว่างคันเเดน เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้โดยที่ขุดล้ำเข้ามาเเละกินเขตเเดนฝั่งเเม่ผมไปเยอะมากจึงได้มีการเจรจากัน ฝั่งเเม่ผมบอกให้ถมกลับคืนมาอย่างเก่า เเต่ก็มีเสียงผู้ชายอีก 1 คนคุยเเทรกมา (พูดอะไรจำไม่ได้เหมือนกัน) เเต่นางไม้พูดอีกครั้งว่า "ป้าจะเข้าข้างใครดี อันนี้ผมเเละเเม่ผมก็ งง จึงได้ตอบกลับไปว่า "เอาความถูกต้องเป็นหลัก หลังจากนั้นสายก็ตัดไป
3.หลังจากนั้นเรื่องทั้งหมดก็เกิด มีคนเเจ้งว่านางไม้ ได้ปลูกต้นยูคาฯ ลุกล้ำเข้ามาเป้นจำนวนมาก เเละทางเข้าก็ไม่มีเหลือเค้าโครงเดิม จึงได้เดินทางไปดูก็พบว่าจริง ได้มีการเถียงกัน นางไม้บอกว่า ที่ดินนี้ไม่ใช่ของเธอ ทางฝั่งเเม่ผมก็ไปร้องเรียนกับผุ้ใหญ่บ้าน อบต. ว่าที่ดินมี5ไร่70ตารางเเละถูกนางลุกล้ำที่โกงดินเเดนเเต่ก็ไม่เป็นผล ทุกคนต่างยืนกร่านว่า ฝั่งเเม่ผมไม่เคยซื้อที่ดินตรงนี้เลย เเละมีไม่ถึงตามที่กล่าวอ้าง เเถมหลักเสาเขตก็หายไปโดยที่ไม่มีใครทราบ
4.หลังจากนั้นฝั่งเเม่ผมได้ไปร้องที่ ส.ป.ก ทางศูนย์รับเรื่องเเต่บ่ายเบี่ยงที่จะเข้ามาวัดจนเวลาล่วงไปหลายเดือน จนที่ดินได้ถูกลุกล้ำเข้ามาเรื่อยๆเเต่ก็ไม่ได้เเละมาทราบภายหลังว่า ลูกสาวของนางไม้ทำงานอยุ๋ที่ศุนย์ ส.ป.ก นั้นด้วย เมื่อหมดหมดทางกับ ผุ้ใหญ่บ้าน,อบต.เเละ ส.ป.ก ฝั่งเเม่ผมจึงได้ร้องไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำเเพงเพชร ถึง 2 ครั้ง (ครั้งที่ 1 ไม่สำเร็จเพราะหลักฐานไม่เพีองพอ ครั้งที่ 2 ได้นำหลักฐานใบ ทบ.5 ที่พบเจอยื่นให้ดู ถึงได้เเสดงตัวว่าครองครองจริง
5.หลังจากนั้นทางศูนย์ดำรงธรรม ได้ให้ ส.ป.ก มาวัดที่ดินฝั่งเเม่ผมเพื่อทำเป็นใบ 4-01 ตอนเเรกเเม่ผมบอกว่าหลักเสาเขตเเต่เดิมอยุ่ตรงนี้เเละทางเจ้าหน้าที่กลับไม่เชื่อเเถมนางไม้ชี้เขตเเดนอยุ๋ตรงไหนเจ้าหน้าที่กลับทำตามพอ วัดเสร็จกลับได้ที่ดินเเค่ 3.1 ไร่ เเละออกมาเป็นใบ (ส.ป.ก 4-01) ซึ่งหลังจากที่ฝั่งเเม่ผมเห้นเช่นนั้นก็คิดว่าไม่มีใครเข้าข้างเลยเหนื่อยเเละท้อใจมากจนพูดออกมาคนเดียวว่า *เหลือเเค่นี้ ดีกว่าไม่มี
6.ผ่านมา 3 ปีได้ทะยอยสร้างบ้านใหม่เเละให้คนมาอยุ่บ้าง ถึงจะเหลือน้อยเเต่ก็ยังพอมีที่ดินทำกิน จน ปีนี้ 2564 นางไม้ได้มีการปลูก"ตันสัก ตรงเขตเเดนพอดีทางฝั่งเเม่ผมกลัวเหตุการณ์จะซ้ำรอยอีกจึงได้ไปร้องเรียนอีกครั้ง
**ขอวอนทุกท่านที่เข้ามาอ่านช่วยหาทางออกให้ผมทีครับว่าผมควรจะทำอย่างไงดี
#ผมอยากจะได้ที่คืนทั้งหมด เเต่ใบที่เป็น ส.ป.ก4-01 เเล้ววัดใหม่ได้ไหมครับหากมีการร้องเรียนเเละ ผิดกฏหมายไหมครับ
#เพราะฝ่ายกฎหมายเข้ามาวันนี้พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่ผมได้ร้องเรียนว่าทำไมเนิ่นนานเเล้วยังเเก้ไม่ได้
#มีการนัดให้ไปพูดคุยกับนางไม้เเละคนอื่นๆอีกครั้งที่ศูนย์ ส.ป.ก ผมจะไปดีไหมครับ หรือไปร้องกับผู้ว่าโดยตรง ตอนนี้เครีดสุดๆ หาใครปรึกษาไมไ่ด้เลย ไม่เป็นกฏหมายด้วย เเทบจะกินข้าวไมไ่ด้เลยครับนอนไม่หลับ ทั้งตระกูลผมเหลือเเค่ 3.1 ไร่ เองจากเค้าเดิม 5 ไร่ 70ตารางวา
เพราะตอนนี้ผมเหลือ เเค่ ใบ ทบ.5ที่เป็นสิ่งเดียวที่เหลือจะต่อสู้ครับ
ผมโดนโกงที่ดิน เบบนี้ผมต้องทำอย่างไรดีครับ
# เรื่องเกิด เดือน เมษาปี 2558 ครับ
1.ที่ดินมีทั้งหมด 5ไร่ 70 ตารางวา ตอนเเรกเป็น ทบ.5ครับ เจ้าของดั้งเดิมคือตากับยายผม เเละได้ทำการโอนให้เเม่ของผมเป็นที่เรียบร้อย เเละเเม่ผมได้ตั้งถิ่นฐานมาทำงานหากินในเมืองโดยที่ไม่มีใครอยู่ที่นั้น เเต่ก็เเวะเวียนมาเรื่อยๆ ซึ่งทางเข้าก็ยังมีอยุ่
2.คุ่กรณี ขอใช้นาม สมมุตินะครับ *นางไม้ ได้โทรศัพท์มาคุยกับเเม่ผมเเละบอกว่าได้ขุดลอกคลองยาวระหว่างคันเเดน เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้โดยที่ขุดล้ำเข้ามาเเละกินเขตเเดนฝั่งเเม่ผมไปเยอะมากจึงได้มีการเจรจากัน ฝั่งเเม่ผมบอกให้ถมกลับคืนมาอย่างเก่า เเต่ก็มีเสียงผู้ชายอีก 1 คนคุยเเทรกมา (พูดอะไรจำไม่ได้เหมือนกัน) เเต่นางไม้พูดอีกครั้งว่า "ป้าจะเข้าข้างใครดี อันนี้ผมเเละเเม่ผมก็ งง จึงได้ตอบกลับไปว่า "เอาความถูกต้องเป็นหลัก หลังจากนั้นสายก็ตัดไป
3.หลังจากนั้นเรื่องทั้งหมดก็เกิด มีคนเเจ้งว่านางไม้ ได้ปลูกต้นยูคาฯ ลุกล้ำเข้ามาเป้นจำนวนมาก เเละทางเข้าก็ไม่มีเหลือเค้าโครงเดิม จึงได้เดินทางไปดูก็พบว่าจริง ได้มีการเถียงกัน นางไม้บอกว่า ที่ดินนี้ไม่ใช่ของเธอ ทางฝั่งเเม่ผมก็ไปร้องเรียนกับผุ้ใหญ่บ้าน อบต. ว่าที่ดินมี5ไร่70ตารางเเละถูกนางลุกล้ำที่โกงดินเเดนเเต่ก็ไม่เป็นผล ทุกคนต่างยืนกร่านว่า ฝั่งเเม่ผมไม่เคยซื้อที่ดินตรงนี้เลย เเละมีไม่ถึงตามที่กล่าวอ้าง เเถมหลักเสาเขตก็หายไปโดยที่ไม่มีใครทราบ
4.หลังจากนั้นฝั่งเเม่ผมได้ไปร้องที่ ส.ป.ก ทางศูนย์รับเรื่องเเต่บ่ายเบี่ยงที่จะเข้ามาวัดจนเวลาล่วงไปหลายเดือน จนที่ดินได้ถูกลุกล้ำเข้ามาเรื่อยๆเเต่ก็ไม่ได้เเละมาทราบภายหลังว่า ลูกสาวของนางไม้ทำงานอยุ๋ที่ศุนย์ ส.ป.ก นั้นด้วย เมื่อหมดหมดทางกับ ผุ้ใหญ่บ้าน,อบต.เเละ ส.ป.ก ฝั่งเเม่ผมจึงได้ร้องไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำเเพงเพชร ถึง 2 ครั้ง (ครั้งที่ 1 ไม่สำเร็จเพราะหลักฐานไม่เพีองพอ ครั้งที่ 2 ได้นำหลักฐานใบ ทบ.5 ที่พบเจอยื่นให้ดู ถึงได้เเสดงตัวว่าครองครองจริง
5.หลังจากนั้นทางศูนย์ดำรงธรรม ได้ให้ ส.ป.ก มาวัดที่ดินฝั่งเเม่ผมเพื่อทำเป็นใบ 4-01 ตอนเเรกเเม่ผมบอกว่าหลักเสาเขตเเต่เดิมอยุ่ตรงนี้เเละทางเจ้าหน้าที่กลับไม่เชื่อเเถมนางไม้ชี้เขตเเดนอยุ๋ตรงไหนเจ้าหน้าที่กลับทำตามพอ วัดเสร็จกลับได้ที่ดินเเค่ 3.1 ไร่ เเละออกมาเป็นใบ (ส.ป.ก 4-01) ซึ่งหลังจากที่ฝั่งเเม่ผมเห้นเช่นนั้นก็คิดว่าไม่มีใครเข้าข้างเลยเหนื่อยเเละท้อใจมากจนพูดออกมาคนเดียวว่า *เหลือเเค่นี้ ดีกว่าไม่มี
6.ผ่านมา 3 ปีได้ทะยอยสร้างบ้านใหม่เเละให้คนมาอยุ่บ้าง ถึงจะเหลือน้อยเเต่ก็ยังพอมีที่ดินทำกิน จน ปีนี้ 2564 นางไม้ได้มีการปลูก"ตันสัก ตรงเขตเเดนพอดีทางฝั่งเเม่ผมกลัวเหตุการณ์จะซ้ำรอยอีกจึงได้ไปร้องเรียนอีกครั้ง
**ขอวอนทุกท่านที่เข้ามาอ่านช่วยหาทางออกให้ผมทีครับว่าผมควรจะทำอย่างไงดี
#ผมอยากจะได้ที่คืนทั้งหมด เเต่ใบที่เป็น ส.ป.ก4-01 เเล้ววัดใหม่ได้ไหมครับหากมีการร้องเรียนเเละ ผิดกฏหมายไหมครับ
#เพราะฝ่ายกฎหมายเข้ามาวันนี้พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่ผมได้ร้องเรียนว่าทำไมเนิ่นนานเเล้วยังเเก้ไม่ได้
#มีการนัดให้ไปพูดคุยกับนางไม้เเละคนอื่นๆอีกครั้งที่ศูนย์ ส.ป.ก ผมจะไปดีไหมครับ หรือไปร้องกับผู้ว่าโดยตรง ตอนนี้เครีดสุดๆ หาใครปรึกษาไมไ่ด้เลย ไม่เป็นกฏหมายด้วย เเทบจะกินข้าวไมไ่ด้เลยครับนอนไม่หลับ ทั้งตระกูลผมเหลือเเค่ 3.1 ไร่ เองจากเค้าเดิม 5 ไร่ 70ตารางวา
เพราะตอนนี้ผมเหลือ เเค่ ใบ ทบ.5ที่เป็นสิ่งเดียวที่เหลือจะต่อสู้ครับ