หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว"Dong E (โดง อี)"ร้านอาหารเกาหลีสูตรต้นตำรับแดนโสมแท้รสชาติเข้มข้นใจกลาง Korean Town สุขุมวิท 12
กระทู้รีวิว
อาหารเกาหลี
อาหารฟิวชั่น
ร้านอาหาร
อาหาร
อาหารคาว
เมื่อดูซีรี่ย์แดนโสมทีไรท้องก็ร้องหาอาหารเกาหลีทุกทีแต่จะไปทานแต่ร้านปิ้ง-ย่างเดิมๆก็เบื่ออยากทานเมนูอื่นที่พระเอก-นางเอกทานกันดูน่าอร่อยอีกหลายๆอย่าง วันนี้ผมกับแฟนเลยพากันเดินทางมาที่ Korean Town อยู่ปากซอยสุขุมวิท 12 ภายในโครงการนี้เป็นแหล่งรวมร้านอาหารเกาหลีสูตรต้นตำรับมีร้านดังที่เปิดโดยชาวเกาหลีแท้ๆอยู่หลายร้าน เมื่อเข้ามาถึงเดินไปที่ข้างบันไดเลื่อนขึ้นชั้น 2 จะมีตารางรวมร้านอาหารต่างๆของที่นี่เอาไว้ครบถ้วน ลานตรงกลางมีที่นั่งกดหาข้อมูลร้านที่น่าสนใจไปเรื่อยๆเพราะมีเยอะมากเลือกไม่ถูกครับ ส่วนวิธีการเดินทางมาที่นี่ก็ง่ายมากถ้ามาด้วย MRT หรือ BTS ให้ลงสถานีสุขุมวิท-อโศกลงประตูฝั่งตรงข้ามกับห้าง Terminal 21 แล้วเดินตรงมาเรื่อยๆประมาณ 300 เมตรก็จะเจอกับห้างสุขุมวิทพลาซ่า หรือ Korean Town ถัดจากปากซอยสุขุมวิท 12 แค่นิดเดียว หากเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวภายในโครงการมีที่จอดรถคิดค่าจอดรถชั่วโมงละ 30 บาท หากประทับตราร้านอาหารภายในโครงการสามารถจอดฟรีได้ 2 ชั่วโมง อยากนั่งทานนานๆแบบไม่ต้องคิดมากแนะนำว่ามาด้วยบริการขนส่งสาธารณะดีที่สุดครับ ตอนนี้มีอยู่ร้านนึงน่าสนใจภายในโครงการนี้เดี๋ยวเราเดินไปดูหน้าร้านกันครับผม
ร้านที่เราจะพามารีวิวในวันนี้ก็คือร้าน "Dong E (โดง อี)" ที่เลือกมาเพราะคะแนนรีวิวบนเว็บไซต์ต่างๆค่อนข้างสูงและไม่ทิ้งห่างกันมากนักอยู่ที่ 4.2-4.3 คะแนน ภายในโครงการนี้มีหลายร้านอาหารเกาหลีหน้าตาโดยรวมคล้ายกันหน่อยโดยร้านนี้อยู่ชั้น 1 หากเดินเข้ามาจากประตูหน้าโครงการให้เดินผ่านบันไดเลื่อนมาทางขวาตรงจนเกือบสุดทางเดินร้านจะอยู่ด้านขวาของลิฟต์มีที่นั่งรอคิวหน้าร้าน ถึงแม้ว่าเราจะมากันในช่วงบ่ายภายในร้านก็ยังมีลูกค้าเยอะเดินเข้า-ออกร้านกันอย่างคึกคัก จะมีเมนูไหนที่อร่อยและน่าสนใจบ้างเดี๋ยวเรามาดูที่เล่มเมนูหน้าร้านกันเลยครับผม
เปิดดูเมนูหน้าแรกเดาว่าน่าจะเป็นเนื้อวัวส่วนต่างๆหมักเตรียมย่าง-ปรุงพร้อมทานราคาเริ่มต้นที่ 380-1,600 บาท หน้าต่อไปก็ถูกหน่อยเพราะเป็นเนื้อหมูราคาเริ่มต้นที่ 280-480 บาท เมนูเนื้อไก่และซีฟู๊ดทั้งแบบสดๆและปรุงพร้อมทาน 280-450 บาท เมนูต้มเสิร์ฟบนหม้อหินร้อนสไตล์เกาหลี 220-420 บาท เมนูซุปซดร้อนๆ 220-280 บาท หม้อไฟบูเดจิเก 250-580 บาท ปลาย่างสไตล์เกาหลี 250 บาท บะหมี่ร้อนเย็นสไตล์เกาหลี 220-300 บาท ข้าวหน้าบิบิมบับ 220-380 บาท เมนูผัดสไตล์เกาหลี 350-450 บาท แพนเค้กและพิซซ่าเกาหลี 250-380 บาท เมนูยอดนิยมในเกาหลีหรือ Street Food ราคา 200-580 บาท เครื่องดื่มเริ่มต้นที่ 20 บาท หน้าสุดท้ายเป็นเมนูพิเศษราคา 220-350 บาท และปลาดิบสไตล์เกาหลีจานละ 1,800-2,500 บาท ราคาถือว่าไม่ถูกไม่แพงเดี๋ยวเราต้องมาดูเรื่องรสชาติกับปริมาณอีกทีว่าจะสมกับราคาที่ตั้งหรือไม่ เบื้องต้นถือว่ามีเมนูน่าสนใจหลากหลายรายการดี
เข้ามาแล้วเห็นลูกค้าเต็มที่ชั้น 1 เกือบทุกโต๊ะบรรยากาศค่อนข้างวุ่นวายนิดนึง เห็นว่าที่ร้านมีบันไดขึ้นไปที่ชั้น 2 เลยเดินขึ้นมาก็มีที่นั่งให้บริการอีก 2 ตัวรวมถึงห้องนั่งเล่นสไตล์เกาหลีแท้ๆที่ใครเคยเห็นในบ้านเกาหลีโบราณก็เป็นแบบเดียวกันเลย ส่วนชั้น 3 เหมือนเอาไว้รับลูกค้ากลุ่มใหญ่หรือกรุ๊ปทัวร์นั่งกันได้สูงสุดถึง 60 คนพร้อมครัวพิเศษที่มีให้บริการแยกต่างหาก ถ้าเป็นลูกค้าทั่วไปสามารถนั่งทานได้แค่ชั้น 1 กับชั้น 2 บริเวณโต๊ะด้านนอก หากต้องการใช้บริการห้องพิเศษหรือห้องใหญ่สำหรับจัดเลี้ยงต้องโทรมาจองก่อนเท่านั้น ส่วนเงื่อนไขการจองแต่ละห้องยังไงโทรมาสอบถามกับทางร้านเองนะครับทางผมไม่มีข้อมูลมาให้เพราะเห็นว่าร้านเขาวุ่นวายกันอยู่ ไม่อยากรบกวนมากนัก อีกอย่างที่ลืมบอกคือบรรยากาศและการตกแต่งภายในร้านมีความเป็นบ้านสไตล์เกาหลีแบบโบราณโดยเฉพาะที่ชั้น 1 ถูกตกแต่งด้วยกระจก-ชุดฮันบกส่วนรอบๆมีลายเซ็นต์ทั้งดาราชาวไทยและเกาหลีการันตีความอร่อยอยู่รอบร้าน สังเกตมาหลายที่แล้วส่วนใหญ่ร้านอาหารเกาหลีที่เปิดมานานมีชื่อเสียงในไทยมักจะมีลายเซนต์ดาราแบบนี้หมด ช่วยให้คลายความกังลวเรื่องความอร่อยไปได้หน่อยนึง ตอนนี้เรากลับมานั่งที่โต๊ะแล้วก็เริ่มสั่งอาหารมาทานกันเลยครับ
ยังไม่ทันจะเริ่มสั่งอาหารชุดผักสดน้ำจิ้มและเครื่องเคียงต่างๆถูกยกออกมาให้ทานฟรีก่อนตามสไตล์ร้านอาหารเกาหลี มีทั้งผักกาดหอม/ใบงา/พริกสด/ซอสซัมจังสูตรพิเศษของที่ร้าน/น้ำมันงา+เกลือ+พริกไทย/ซอสบูลโกกิ/ยำต้นหอมซอยสไตล์เกาหลีรสชาติเปรี้ยวหอมพริกป่น+น้ำมันงา/พริกชี้ฟ้าเขียวสดและกระเทียมสด ตามมาด้วยเครื่องเคียงทั้งกิมจิหมัก/กิมจิสด/แพนเค้กต้นหอม/กิมจิแตงกวา/เห็ดผัดน้ำมันงา/กิมจิมะละกอ/ไข่ตุ๋นหั่นชิ้นสไตล์เกาหลีและถั่วดำต้มเคลือบน้ำตาล โดยทั้ง 2 ชุดนี้ถ้าหมดสามารถขอเติมได้เรื่อยๆไม่คิดเงินเพิ่มแต่อย่างใด โดยรวมอาหารเคียงต่างๆค่อนข้างจืดส่วนกิมจิไม่ได้หมักมาเปรี้ยว-เค็มเข้าเนื้อแบบร้านอื่น แต่จุดเด่นจริงๆของที่ร้านคือน้ำจิ้มซัมจังที่ร้านเขาปรุงรสมาเค็ม-หวานหอมเต้าเจี้ยวไม่รุนแรงมากแต่เอาไว้ทานกับเนื้อสัตว์ผักสดได้เรื่อยๆ ถ้าใครไม่ทานเค็มแนะนำว่าซอสบูลโกกิรสหวานหอมน้ำมันงาและสาลี่เกาหลีอ่อนๆเป็นตัวเลือกที่ดี ตอนนี้ของเริ่มมาเสิร์ฟแล้วครับผม
เมนูแรกที่มาเสิร์ฟก่อนเลยคือปิ้งย่างที่ตอนแรกเรากะว่าจะไม่สั่งแต่เจ้าของร้านชาวเกาหลี (พูดไทยได้) แนะนำว่าให้สั่งมาทานคู่กับเมนูอาหารเกาหลีอื่นๆภายในร้านจะทำให้อร่อยเพลินมากยิ่งขึ้น และไม่ต้องห่วงว่าต้องกินอาหารพร้อมกับแยกประสาทสัมผัสส่วนนึงมาย่างวัตถุดิบเพราะพนักงานจะจัดการให้เอง โดยเตาของที่นี่เป็นเตาถ่านที่ฟืนร้อนๆอยู่เฉพาะตรงกลางส่วนด้านข้างสามารถคีบเนื้อมาพักได้ไม่ต้องกลัวไหม้แต่จะได้ทานเนื้อที่อุ่นร้อนอยู่ตลอดๆ โดยเนื้อสัตว์ย่างวันนี้เราสั่งมา 3 จานได้แก่ 1. Hanjungsal หรือเนื้อหมูส่วนสะโพกราคา 320 บาท เป็นเนื้อหมูสีชมพูอ่อนแทรกไขมันละเอียดเคี้ยวหนึบคล้ายกับส่วนคอหมูย่างรสชาติไขมันอร่อยกำลังดีเวลาทานก็ห่อกับผักสดๆช่วยลดความเลี่ยนได้ดีเลยครับ 2.Daeji Galbi หรือเนื้อหมูส่วนซี่โครงราคา 320 บาท ที่ร้านเขาเลาะเอาแต่เนื้อมาเสิร์ฟให้เต็มๆจานหมักมากับซอสรสหวานอ่อนๆ เนื่องจากเป็นเนื้อที่ถูกทำเป็นแผ่นบางจึงทำให้ย่างสุกง่ายกว่าไม่เสียเวลาเยอะ 3. Gochujang Samgyupsal หรือหมูสามชั้นหมักโคชูจัง ราคา 320 บาท เป็นหมูสามชั้นหมักรสหวานหอมพริกโคชูจังอ่อนๆสีแดงสวยแต่ไม่เผ็ดร้อนอย่างที่คิดทานได้ง่ายๆทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อย่างที่บอกไปตอนแรกแล้วว่าร้านนี้เขามีพนักงานย่างให้เสร็จแล้ววางไว้รอบเตาสำหรับทานคู่กับเมนูอาหารเกาหลีอื่นๆจึงไม่ต้องมาพะวงกลัวว่าหมูจะไหม้หรือคีบทานได้ไม่ทัน เรียกได้ว่ามื้อนี้วัตถุดิบปิ้งย่างกลายเป็นแค่เมนูเสริมไม่ใช่เมนูหลักแต่อย่างใดครับผม
ระหว่างรอก็สั่งซุปมาซดเล่นก่อนกับเมนู"Sundubu Jjigae"หรือซุปเผ็ดเต้าหู้ใส่ไข่ราคา 200 บาทเบสพื้นฐานเป็นซุปปลาที่ปรุงรสเผ็ดอ่อนๆหวานด้วยต้นหอมญี่ปุ่นใส่หอยลาย ทานคู่กับเต้าหู้อ่อนรสชาติเข้มข้นนุ่มละมุนและไข่ดิบที่ช่วยเพิ่มความนัวให้กับซุปเผ็ดกลมกล่อมยิ่งขึ้นซดร้อนๆอร่อยสดชื่นรสชาติง่ายๆไม่ซับซ้อนครับ จานต่อมาเป็นเมนูจานหลักอย่าง"Dolsot Bibimbab" หรือข้าวยำเกาหลีหม้อหินร้อนราคา 250 บาทเสิร์ฟพร้อมกับซุปเต้าเจี้ยวใส่ผักรสเค็มสไตล์เกาหลี ภายในชามประกอบด้วยเนื้อหมูสับ/แตงกวาญี่ปุ่น/ถั่วงอก/กิมจิมะละกอ/เห็ดหอม/ปวยเล้งน้ำมันงา/แครอทและไข่ดิบ วิธีการทานก็ง่ายๆที่ร้านเขามีซอสให้ใส่ได้เองอยากทานเข้มข้นขนาดไหนก็บีบลงไปได้ตามใจ จากนั้นคลุกทุกอย่างให้เข้ากันก็จะได้ข้าวยำเกาหลีร้อนๆหอมข้าวไหม้กรุบกรอบรสเผ็ดมีกลิ่นน้ำมันงาอ่อนๆคล้ายกับข้าวผัดทานได้เพลินๆถ้าเนื้อไม่พอก็ตักคีบจากบนเตาที่ย่างพร้อมทานมาใส่ ทานเคียงคู่กับผักดองไปเรื่อยๆเปลี่ยนรสชาติไปได้ไม่มีเบื่อขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกเนื้อสัตว์หรือเครื่องเคียงอะไรมาใส่ลงไป ถือว่าสนุกและอร่อยดีครับ
เมนูต่อไปเป็นซุปร้อนๆที่แฟนผมสั่งมาคือ "Gamjatang" หรือซุปกระดูกหมูตุ๋นใส่มันฝรั่งราคา 280 บาท เป็นจานที่สั่งมาตามซีรี่ย์ที่นางเคยดู เป็นซุปกระดูกหมูชิ้นใหญ่ตุ๋นจนเนื้อเปื่อยดี(คาดว่าน่าจะทำให้เปื่อยด้วยหม้อแรงดัน) ใส่ต้นหอม+พริกและมันฝรั่งชิ้นใหญ่รสชาติเผ็ดร้อนด้วยพริกไทยดำผสมกับพริกเกาหลีซดแล้วสดชื่น ถ้าแฮงค์มาให้สั่งชามนี้มาทานรับรองว่าสร่างเมาเพราะรสชาติเผ็ดร้อนกลมกล่อมอูมามิกระดูกหมูแทะได้เพลินๆดีครับ เมนูต่อไปก็เป็นจานที่เราเห็นในละครเกาหลีหลายเรื่องแต่ไม่เคยลองทานคือ "Bibim Naengmyeon" ราคา 250 บาท มันคือบะหมี่เย็นรสเผ็ดสไตล์เกาหลี เริ่มจากเส้นที่ใช้คล้ายกับเส้นหมี่ขาวไทยแต่มวลเบากว่าคล้ายกับเส้นหมี่ที่ผ่านการถูกทอดมาแล้วคลุกกับซอสโคชูจังปรุงรสมาหวาน/เปรี้ยวหอมกลิ่นน้ำมันงาเพิ่มความกรุบกรอบด้วยแตงกวาญี่ปุ่นและไชเท้าดองมีโปรตีนเป็นไข่ต้มครึ่งซีก คลุกส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันและใช้กรรไกรลงไปตัดเพื่อให้เป็นคำเล็กทานได้ง่ายๆไม่เลอะเสื้อถ้าต้องการความเผ็ดสามารถเพิ่มซอสขิง ถ้าหากรู้สึกว่าเนื้อสัตว์น้อยเกินไปแน่นอนว่าหมูย่างร้อนๆเข้ากันได้ดีกับเส้นหมี่ยำรสเปรี้ยว-หวาน-เผ็ดนิดๆและเย็นฉ่ำได้อย่างลงตัว เป็นการทานที่อร่อยแปลกใหม่ดีครับผม
****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ ******
ชื่อสินค้า:
Dong E (โดง อี) Korean Town
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
แวะกินข้างถนน รีวิว ร้าน Iron Age Korean Steak บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลี นนทบุรี
https://www.youtube.com/watch?v=jPvdC53RNFYCr. แวะกินข้างถนน เนื้อ ไอรอนเอจสเต็ก แผ่นใหญ่มาก เนื้อคุณภาพชิ้นใหญ่แต่นุ่มสุดๆ เนื้อ หรือหมูของร้านนี้ เป็นสเต็กคุณภาพค่ะ ชิ้นใหญ่ หมักกำลังพอดี เตาส
แวะกินข้างถนน
BufFeast Review : ปิ้งย่างดรายเอจแสนนุ่มนวล ริมถนนบางใหญ่ "Yoon Korean BBQ"@โฮมมอร์ บางใหญ่
เมื่อวานผมมีเข้าอ๊อฟฟิศเพื่อไปเอางาน ขากลับเลยแวะกินมื้อเที่ยงแถวๆนั้นซะ เป็นร้านแนวปิ้งย่างเกาหลีที่เปิดมาได้ไม่นาน ในแถบบางใหญ่ อย่าง Yoon Korean ตั้งอยู่ ณ โครงการโฮมม
TheHeatBufFeast
แวะกินข้างถนน รีวิว ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือยายเพลิน บางกรวย นนทบุรี
ปีใหม่นี้ ถ้าเพื่อนๆ จะหาร้านบรรยากาศดีๆ พาครอบครัวไปทานข้าวมื้อกลางวัน และมื้อเย็น แจนว่าร้านนี้ ok เลย ทั้งบรรยากาศและความอร่อยของอาหาร ตอบโจทย์ได้หมด และวันนี้แจนมาเอาใจคนรักยำเป็นพิเศษ เพราะร้านนี
แวะกินข้างถนน
รู้สึกเหมือนกันไหมว่าอาหารเดี้ยวนี้ไม่ว่าเมนูไหน ก็รสชาติหวานนำไปทุกเมนู คนส่วนใหญ่ชอบแบบนี้เหรอแม่ค้าถึงทำเหมือนๆกัน?
สวัสดีวันพุธสีเขียว แต่ตาเราเขียวกว่า เพราะเคือง แม่ค้าหนักมาก ซื้อกับข้าวมาหวานเจี๊ยบไปหมด อ่ะล้อเล่น เราตาหวานจะตาย 5555รู้สึกเหมือนกันไหมคะ ว่าช่วงหลังๆมานี่ พวกอาหารต่างๆ ที่เขาทำขายๆกัน รสชาติ หว
สมาชิกหมายเลข 929079
ร้าน Su Ra Kan ร้านอาหารเกาหลีย่านพระราม 3
สวัสดีชาวพันทิปอีกครั้งครับ ครั้งนี้มีโอกาสได้มาทำธุระย่านพระราม 3 เลยได้นัดกินข้าวกับเพื่อน เค้าแนะนำร้านอาหารเกาหลีร้านนี้มาครับ Su Ra Kan เสิร์ชเน็ตแล้วพบว่าเป็นร้านของคนเกาหลี ทำให้เป็นอาหารเกาหลี
MrFrogleg
💚❤️ Christmas Eve 2024 ❤️💚
สวัสดีค่ะ (= เทศกาลคริสต์มาสมาถึงแล้ว💚❤️ 🎄 🎁 Central คนเยอะมากมาย... ไปถึง ก็ต้องวนรถกลับ... Christmas Eve แบบนี้ แถมเงินเดือนออก ไม่ไปห้างก็ได้... มากินร้านประจำแทนเนาะเรา... 💚🌶️🌶️❤️ พริกน้ำปลา
KU1978
วิธีทำเมนู: ไข่ยัดไส้หมูสับตุ๋นซีอิ๊ว
วัตถุดิบ: 1. หมูสับ • ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและแป้งมันเล็กน้อย 2. ไข่ไก่ 5 ฟอง 3. ต้นหอมซอย สำหรับโรยหน้า 4. น้ำมันพืช สำหรับทอด 5. ซีอิ๊วขาว ป
สมาชิกหมายเลข 8552602
ปิ้งย่างเกาหลีที่คุณคู่ควร "ร้านเมียงคา" Korea Town #เที่ยวแหลก-เรียบ
อันยองงงงง วันนี้ เที่ยวแหลกแdกเรียบ Go Anywhere, Eat Anything ขอนำเสนอร้านประจำอีกหนึ่งร้านมาให้ไปลองชิมกันค่า ไม่ใกล้ไม่ไกล แถวๆอโศกนี่เอง "เมียงคา" ปิ้งย่างเกาหลี โคเรียทาวน์ สุขุมวิท12 ต
Go Anywhere Eat Anything
😍🌷🐷🧄🧅🌶🌺@@...(*_*)น้ำพริกอ่องหมู แบบฉบับเร่งด่วนของที่บ้าน(*_*)...@@😍🌷🐷🧄🧅🌶🌺
😀🌸🌶🐷👍🧄🌼วันนี้ขอนำเสนอ น้ำพริกอ่องหมู แบบฉบับเร่งด่วนของที่บ้าน เป็นการทำน้ำพริก ที่สะดวกและรวดเร็วมากๆ เพราะใช้น้ำพริกแกงเผ็ดในการทำ รสชาติที่ได้จากน้ำพริกแกงเผ็ด ทำให้น้ำพริกอ่องนั้นมี
สมาชิกหมายเลข 3902534
♠ สุกี้หมู ♥
♠ สุกี้หมู ♥ เป็นสุกี้ในร้านอาหารตามสั่ง ชามละ 55 บาท ได้หมูมาหลายชิ้นอยู่นะ วุ้นเส้น ไม่เละ ไม่อืด โรยพริกไทยมาให้ด้วยล่ะ ราดน้ำจิ้มทั้งถ้วย หวาน ๆ เค็ม ๆ เปรี้ยวนิดหน่อย ด
deauny
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารเกาหลี
อาหารฟิวชั่น
ร้านอาหาร
อาหาร
อาหารคาว
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว"Dong E (โดง อี)"ร้านอาหารเกาหลีสูตรต้นตำรับแดนโสมแท้รสชาติเข้มข้นใจกลาง Korean Town สุขุมวิท 12
ร้านที่เราจะพามารีวิวในวันนี้ก็คือร้าน "Dong E (โดง อี)" ที่เลือกมาเพราะคะแนนรีวิวบนเว็บไซต์ต่างๆค่อนข้างสูงและไม่ทิ้งห่างกันมากนักอยู่ที่ 4.2-4.3 คะแนน ภายในโครงการนี้มีหลายร้านอาหารเกาหลีหน้าตาโดยรวมคล้ายกันหน่อยโดยร้านนี้อยู่ชั้น 1 หากเดินเข้ามาจากประตูหน้าโครงการให้เดินผ่านบันไดเลื่อนมาทางขวาตรงจนเกือบสุดทางเดินร้านจะอยู่ด้านขวาของลิฟต์มีที่นั่งรอคิวหน้าร้าน ถึงแม้ว่าเราจะมากันในช่วงบ่ายภายในร้านก็ยังมีลูกค้าเยอะเดินเข้า-ออกร้านกันอย่างคึกคัก จะมีเมนูไหนที่อร่อยและน่าสนใจบ้างเดี๋ยวเรามาดูที่เล่มเมนูหน้าร้านกันเลยครับผม
เปิดดูเมนูหน้าแรกเดาว่าน่าจะเป็นเนื้อวัวส่วนต่างๆหมักเตรียมย่าง-ปรุงพร้อมทานราคาเริ่มต้นที่ 380-1,600 บาท หน้าต่อไปก็ถูกหน่อยเพราะเป็นเนื้อหมูราคาเริ่มต้นที่ 280-480 บาท เมนูเนื้อไก่และซีฟู๊ดทั้งแบบสดๆและปรุงพร้อมทาน 280-450 บาท เมนูต้มเสิร์ฟบนหม้อหินร้อนสไตล์เกาหลี 220-420 บาท เมนูซุปซดร้อนๆ 220-280 บาท หม้อไฟบูเดจิเก 250-580 บาท ปลาย่างสไตล์เกาหลี 250 บาท บะหมี่ร้อนเย็นสไตล์เกาหลี 220-300 บาท ข้าวหน้าบิบิมบับ 220-380 บาท เมนูผัดสไตล์เกาหลี 350-450 บาท แพนเค้กและพิซซ่าเกาหลี 250-380 บาท เมนูยอดนิยมในเกาหลีหรือ Street Food ราคา 200-580 บาท เครื่องดื่มเริ่มต้นที่ 20 บาท หน้าสุดท้ายเป็นเมนูพิเศษราคา 220-350 บาท และปลาดิบสไตล์เกาหลีจานละ 1,800-2,500 บาท ราคาถือว่าไม่ถูกไม่แพงเดี๋ยวเราต้องมาดูเรื่องรสชาติกับปริมาณอีกทีว่าจะสมกับราคาที่ตั้งหรือไม่ เบื้องต้นถือว่ามีเมนูน่าสนใจหลากหลายรายการดี
เข้ามาแล้วเห็นลูกค้าเต็มที่ชั้น 1 เกือบทุกโต๊ะบรรยากาศค่อนข้างวุ่นวายนิดนึง เห็นว่าที่ร้านมีบันไดขึ้นไปที่ชั้น 2 เลยเดินขึ้นมาก็มีที่นั่งให้บริการอีก 2 ตัวรวมถึงห้องนั่งเล่นสไตล์เกาหลีแท้ๆที่ใครเคยเห็นในบ้านเกาหลีโบราณก็เป็นแบบเดียวกันเลย ส่วนชั้น 3 เหมือนเอาไว้รับลูกค้ากลุ่มใหญ่หรือกรุ๊ปทัวร์นั่งกันได้สูงสุดถึง 60 คนพร้อมครัวพิเศษที่มีให้บริการแยกต่างหาก ถ้าเป็นลูกค้าทั่วไปสามารถนั่งทานได้แค่ชั้น 1 กับชั้น 2 บริเวณโต๊ะด้านนอก หากต้องการใช้บริการห้องพิเศษหรือห้องใหญ่สำหรับจัดเลี้ยงต้องโทรมาจองก่อนเท่านั้น ส่วนเงื่อนไขการจองแต่ละห้องยังไงโทรมาสอบถามกับทางร้านเองนะครับทางผมไม่มีข้อมูลมาให้เพราะเห็นว่าร้านเขาวุ่นวายกันอยู่ ไม่อยากรบกวนมากนัก อีกอย่างที่ลืมบอกคือบรรยากาศและการตกแต่งภายในร้านมีความเป็นบ้านสไตล์เกาหลีแบบโบราณโดยเฉพาะที่ชั้น 1 ถูกตกแต่งด้วยกระจก-ชุดฮันบกส่วนรอบๆมีลายเซ็นต์ทั้งดาราชาวไทยและเกาหลีการันตีความอร่อยอยู่รอบร้าน สังเกตมาหลายที่แล้วส่วนใหญ่ร้านอาหารเกาหลีที่เปิดมานานมีชื่อเสียงในไทยมักจะมีลายเซนต์ดาราแบบนี้หมด ช่วยให้คลายความกังลวเรื่องความอร่อยไปได้หน่อยนึง ตอนนี้เรากลับมานั่งที่โต๊ะแล้วก็เริ่มสั่งอาหารมาทานกันเลยครับ
ยังไม่ทันจะเริ่มสั่งอาหารชุดผักสดน้ำจิ้มและเครื่องเคียงต่างๆถูกยกออกมาให้ทานฟรีก่อนตามสไตล์ร้านอาหารเกาหลี มีทั้งผักกาดหอม/ใบงา/พริกสด/ซอสซัมจังสูตรพิเศษของที่ร้าน/น้ำมันงา+เกลือ+พริกไทย/ซอสบูลโกกิ/ยำต้นหอมซอยสไตล์เกาหลีรสชาติเปรี้ยวหอมพริกป่น+น้ำมันงา/พริกชี้ฟ้าเขียวสดและกระเทียมสด ตามมาด้วยเครื่องเคียงทั้งกิมจิหมัก/กิมจิสด/แพนเค้กต้นหอม/กิมจิแตงกวา/เห็ดผัดน้ำมันงา/กิมจิมะละกอ/ไข่ตุ๋นหั่นชิ้นสไตล์เกาหลีและถั่วดำต้มเคลือบน้ำตาล โดยทั้ง 2 ชุดนี้ถ้าหมดสามารถขอเติมได้เรื่อยๆไม่คิดเงินเพิ่มแต่อย่างใด โดยรวมอาหารเคียงต่างๆค่อนข้างจืดส่วนกิมจิไม่ได้หมักมาเปรี้ยว-เค็มเข้าเนื้อแบบร้านอื่น แต่จุดเด่นจริงๆของที่ร้านคือน้ำจิ้มซัมจังที่ร้านเขาปรุงรสมาเค็ม-หวานหอมเต้าเจี้ยวไม่รุนแรงมากแต่เอาไว้ทานกับเนื้อสัตว์ผักสดได้เรื่อยๆ ถ้าใครไม่ทานเค็มแนะนำว่าซอสบูลโกกิรสหวานหอมน้ำมันงาและสาลี่เกาหลีอ่อนๆเป็นตัวเลือกที่ดี ตอนนี้ของเริ่มมาเสิร์ฟแล้วครับผม
เมนูแรกที่มาเสิร์ฟก่อนเลยคือปิ้งย่างที่ตอนแรกเรากะว่าจะไม่สั่งแต่เจ้าของร้านชาวเกาหลี (พูดไทยได้) แนะนำว่าให้สั่งมาทานคู่กับเมนูอาหารเกาหลีอื่นๆภายในร้านจะทำให้อร่อยเพลินมากยิ่งขึ้น และไม่ต้องห่วงว่าต้องกินอาหารพร้อมกับแยกประสาทสัมผัสส่วนนึงมาย่างวัตถุดิบเพราะพนักงานจะจัดการให้เอง โดยเตาของที่นี่เป็นเตาถ่านที่ฟืนร้อนๆอยู่เฉพาะตรงกลางส่วนด้านข้างสามารถคีบเนื้อมาพักได้ไม่ต้องกลัวไหม้แต่จะได้ทานเนื้อที่อุ่นร้อนอยู่ตลอดๆ โดยเนื้อสัตว์ย่างวันนี้เราสั่งมา 3 จานได้แก่ 1. Hanjungsal หรือเนื้อหมูส่วนสะโพกราคา 320 บาท เป็นเนื้อหมูสีชมพูอ่อนแทรกไขมันละเอียดเคี้ยวหนึบคล้ายกับส่วนคอหมูย่างรสชาติไขมันอร่อยกำลังดีเวลาทานก็ห่อกับผักสดๆช่วยลดความเลี่ยนได้ดีเลยครับ 2.Daeji Galbi หรือเนื้อหมูส่วนซี่โครงราคา 320 บาท ที่ร้านเขาเลาะเอาแต่เนื้อมาเสิร์ฟให้เต็มๆจานหมักมากับซอสรสหวานอ่อนๆ เนื่องจากเป็นเนื้อที่ถูกทำเป็นแผ่นบางจึงทำให้ย่างสุกง่ายกว่าไม่เสียเวลาเยอะ 3. Gochujang Samgyupsal หรือหมูสามชั้นหมักโคชูจัง ราคา 320 บาท เป็นหมูสามชั้นหมักรสหวานหอมพริกโคชูจังอ่อนๆสีแดงสวยแต่ไม่เผ็ดร้อนอย่างที่คิดทานได้ง่ายๆทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อย่างที่บอกไปตอนแรกแล้วว่าร้านนี้เขามีพนักงานย่างให้เสร็จแล้ววางไว้รอบเตาสำหรับทานคู่กับเมนูอาหารเกาหลีอื่นๆจึงไม่ต้องมาพะวงกลัวว่าหมูจะไหม้หรือคีบทานได้ไม่ทัน เรียกได้ว่ามื้อนี้วัตถุดิบปิ้งย่างกลายเป็นแค่เมนูเสริมไม่ใช่เมนูหลักแต่อย่างใดครับผม
ระหว่างรอก็สั่งซุปมาซดเล่นก่อนกับเมนู"Sundubu Jjigae"หรือซุปเผ็ดเต้าหู้ใส่ไข่ราคา 200 บาทเบสพื้นฐานเป็นซุปปลาที่ปรุงรสเผ็ดอ่อนๆหวานด้วยต้นหอมญี่ปุ่นใส่หอยลาย ทานคู่กับเต้าหู้อ่อนรสชาติเข้มข้นนุ่มละมุนและไข่ดิบที่ช่วยเพิ่มความนัวให้กับซุปเผ็ดกลมกล่อมยิ่งขึ้นซดร้อนๆอร่อยสดชื่นรสชาติง่ายๆไม่ซับซ้อนครับ จานต่อมาเป็นเมนูจานหลักอย่าง"Dolsot Bibimbab" หรือข้าวยำเกาหลีหม้อหินร้อนราคา 250 บาทเสิร์ฟพร้อมกับซุปเต้าเจี้ยวใส่ผักรสเค็มสไตล์เกาหลี ภายในชามประกอบด้วยเนื้อหมูสับ/แตงกวาญี่ปุ่น/ถั่วงอก/กิมจิมะละกอ/เห็ดหอม/ปวยเล้งน้ำมันงา/แครอทและไข่ดิบ วิธีการทานก็ง่ายๆที่ร้านเขามีซอสให้ใส่ได้เองอยากทานเข้มข้นขนาดไหนก็บีบลงไปได้ตามใจ จากนั้นคลุกทุกอย่างให้เข้ากันก็จะได้ข้าวยำเกาหลีร้อนๆหอมข้าวไหม้กรุบกรอบรสเผ็ดมีกลิ่นน้ำมันงาอ่อนๆคล้ายกับข้าวผัดทานได้เพลินๆถ้าเนื้อไม่พอก็ตักคีบจากบนเตาที่ย่างพร้อมทานมาใส่ ทานเคียงคู่กับผักดองไปเรื่อยๆเปลี่ยนรสชาติไปได้ไม่มีเบื่อขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกเนื้อสัตว์หรือเครื่องเคียงอะไรมาใส่ลงไป ถือว่าสนุกและอร่อยดีครับ
เมนูต่อไปเป็นซุปร้อนๆที่แฟนผมสั่งมาคือ "Gamjatang" หรือซุปกระดูกหมูตุ๋นใส่มันฝรั่งราคา 280 บาท เป็นจานที่สั่งมาตามซีรี่ย์ที่นางเคยดู เป็นซุปกระดูกหมูชิ้นใหญ่ตุ๋นจนเนื้อเปื่อยดี(คาดว่าน่าจะทำให้เปื่อยด้วยหม้อแรงดัน) ใส่ต้นหอม+พริกและมันฝรั่งชิ้นใหญ่รสชาติเผ็ดร้อนด้วยพริกไทยดำผสมกับพริกเกาหลีซดแล้วสดชื่น ถ้าแฮงค์มาให้สั่งชามนี้มาทานรับรองว่าสร่างเมาเพราะรสชาติเผ็ดร้อนกลมกล่อมอูมามิกระดูกหมูแทะได้เพลินๆดีครับ เมนูต่อไปก็เป็นจานที่เราเห็นในละครเกาหลีหลายเรื่องแต่ไม่เคยลองทานคือ "Bibim Naengmyeon" ราคา 250 บาท มันคือบะหมี่เย็นรสเผ็ดสไตล์เกาหลี เริ่มจากเส้นที่ใช้คล้ายกับเส้นหมี่ขาวไทยแต่มวลเบากว่าคล้ายกับเส้นหมี่ที่ผ่านการถูกทอดมาแล้วคลุกกับซอสโคชูจังปรุงรสมาหวาน/เปรี้ยวหอมกลิ่นน้ำมันงาเพิ่มความกรุบกรอบด้วยแตงกวาญี่ปุ่นและไชเท้าดองมีโปรตีนเป็นไข่ต้มครึ่งซีก คลุกส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันและใช้กรรไกรลงไปตัดเพื่อให้เป็นคำเล็กทานได้ง่ายๆไม่เลอะเสื้อถ้าต้องการความเผ็ดสามารถเพิ่มซอสขิง ถ้าหากรู้สึกว่าเนื้อสัตว์น้อยเกินไปแน่นอนว่าหมูย่างร้อนๆเข้ากันได้ดีกับเส้นหมี่ยำรสเปรี้ยว-หวาน-เผ็ดนิดๆและเย็นฉ่ำได้อย่างลงตัว เป็นการทานที่อร่อยแปลกใหม่ดีครับผม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น