Okayama Korakuen

Korakuen เป็นสวนที่อยู่ใน Okayama จะเรียกว่า Korakuen เฉยๆ ก็ได้ สวนที่เป็นเอกลักษณ์จากชื่อ Korakuen เป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่า สวนแห่งความสุขสุดท้าย

เดินทางง่ายมากๆ แพมจะเลือกที่เที่ยวที่เดินทางด้วยบัตร JR Rail Pass ได้ง่ายๆ เพราะแพมมีเวลาจำกัด จึงเลือกเดินทางไปที่เที่ยวที่ใช้ชินคังเซน สวนนี้อยู่ใกล้กับ สถานีรถไฟซินคังเซนโอะกะยะมะเลย ทริปนี้ไปคนเดียว เพราะเพื่อนผู้หญิงเจอของช็อปในเมือง พากันช็อปสนุกเลย เราซื้อตั๋ว JR Rail Pass แล้ว เอาจริงๆ ว่ายังไม่คุ้มมากเท่าไร่ เลยต้องใช้สักหน่อย
จังหวัดโอะกะยะมะ หรือโอกายาม่า เป็นจังหวัดสุดท้ายในทริปนี้ ที่แพมเดินทางมาไกลสุดโดยชินคังเซนจากโอะซะกะ จริงๆ ว่าเดินทางไปเที่ยวไกลลงไปอีก ไปยังฮิโระชิมะ ไปดูอนุสรณ์สถานที่เขามีการทิ้งในระเบิดนิวเคลียร์ตอนสงครามโลก
แผนที่วางไว้ว่าจะแวะตรงโอะกะยะมะ แล้วไปต่อฮิโระชิมะ แต่เพราะสวนโอะกะยะมะ คุระโคะเอง ใหญ่มาก จริงๆ ไม่คิดว่าจะใช้เวลานานขนาดนี้ และอีกอย่างตื่นสายด้วย อิอิ ท้ายที่สุดเที่ยวตรงนี้ ก็จะมืดเสียแล้ว และปวดขามากด้วย เลยขอกลับดีกว่า ขอกลับชินคันเซนไปโอะซะกะคนเดียว หลับตลอดทางเลยจ้า อิอิ
ระยะทางจากโอะซะกะ ถึงโอะกะยะมะ จริงๆ แล้วไกลอยู่พอสมควร เพราะเราเดินทางข้ามหลายจังหวัด แต่ก็ใช้เวลาไม่นาน เพราะแพมนั่งด้วยชินคังเซน รถไฟความเร็วสูงซึ่งถ้ามาซื้อตั๋วหน้างาน ก็ราคาเป็นพันอยู่นะ แนะนำบัตร JR Pass มาเลยคุ้มสุด

มาถึงสวน แทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลย อาจเป็นเพราะไกลต้องนั่งชินคังเซนมา และก็ไม่ค่อยดังเท่าอันอื่นเท่าไร่ แต่บอกเลยว่าตรงนี้สวยมาก สวยกว่าที่ดังๆ บางแห่งอีก มาคนเดียว ถ่ายรูปคนเดียวทำไงหรอ เทคนิคคือ หาที่ตั้งกล้องมั่วๆ แพมวางบันรั้วไม้ไผ่ด้านหน้า แล้วใช้มือถือเชื่อมกับกล้องกดชัตเตอร์ อิอิ ถ่ายมาเยอะๆ ภาพที่ได้ ค่อยไปว่ากันทีหลัง

เข้าสวนแรกๆ ไม่ค่อยมีอะไรเลยอ่ะ คิดในใจ เหมือนเป็นสวนหญ้าสีทอง ใน Google Maps จะเห็นคนรีวิวมีรูปนกกระเรียนบททุ่งหญ้าให้ถ่ายรูปด้วย ทำไมเรามาไม่เห็นเลยอ่ะ เดินเล่นๆ งงๆ ไป อุ้ย… เริดมาก สวนดอกเหมย มาเที่ยวหน้าหิมะ ก็ได้เจอดอกไม้ ดอกไม้บานสวยมาก นั่นก็คือดอกเหมย มีทั้งสีชมพู ขาว เหลือ ผสมกัน สวยมากๆ ครับ

สวยนะ ดอกสีชมพู มาถึงตอนนี้ก็บานพอดีเลย เป็นดอกไม้ชนิดเดียวที่บานหน้าหนาว สู้หิมะได้เลย ถือว่าคุ้ม ได้เห็นทั้งหิมะ ได้ดูทั้งซากุระบานที่อะกิตะ และยังได้ดูดอกเหมยบานด้วย

สวนค่อนข้างใหญ่อยู่นะ เดินจนปวดขาจริงๆ

บ่ายแก่แล้ว เราเดินไปต่อที่ปราสาทโอะกะยะมะต่อ ตรงนี้เดินเชื่อมกันโดยสะพาน พอไปถึงปราสาทไม่ต้องเสียเงินค่าเข้าแล้วนะ เพราะเราซื้อแบบไปดูปราสาทด้วยตั้งแต่ทางเข้าสวนล่ะ ซึ่งราคาจะแพงขึ้นนิดเดียว ดีกว่าเรามาซื้อแยก