เชื่อว่าทุกคนจะมีเรื่องที่จะให้เราตัดสินใจและบีบหัวใจมากเราควรจะเลือกอะไรดี
อย่างกรณีของเรา
มีแฟนคบกันมาสักระยะหนึ่ง แล้ววันหึ่งพ่อแม่ฝ่ายเราก็บอกให้พ่อแม่ทางฝั่งของแฟนไปขอ และแต่งงาน แต่ทางพ่อแม่แฟนก็บอกว่าขอเวลาถึงแฟนเราปลดทหาร(แฟนเป็นทหารเกณฑ์)ตอนนั้นเราเข้าข้างฝ่ายแฟนเรา คิดว่าทางพ่อแม่แฟนจะหาค่าสินสอดมาแต่งเรา ในระยะเวลาที่รอแฟนเราปลด พอปลดคงได้แต่งงานกัน
แต่พอมาวันหนึ่งทางแม่ของแฟนได้พูดกลับคำว่าจะหมั้นไว้ก่อนแล้วให้แฟนเราไปทำงาน ทั้งๆคุยกันก่อนหน้านี้เขาบอกแฟนปลดทหารจะมาแต่ง เราก็เลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาแฟนเล่าให้แฟนฟัง จนเราทะเลาะกันหลายรอบ ว่าทำไมทางแม่เขาพูดกลับคำ พอแฟนเราปลดทหาร ผู้ใหญ่ก็ไปคุยกันอีกที ปรากฎว่าเขาขอเลื่อนวันแต่งไปจริงๆ พ่อแม่เราก็ไม่ยอม เพราะคิดว่าตลอดระยะเวลาที่รอแฟนเราปลดทหารนั่น เขาหาค่าสินสอด
ส่วนเรากับแฟนก็ทะเลาะกัน แฟนเราเหมือนจะไม่เข้าข้างเรา เขาเข้าข้างพ่อแม่เข้า เขาไม่กะตือลือล้นอะไรกับเราเลย เขาดูเฉยๆ แต่พอเราโทรไปก็บอกว่าพ่อแม่เขาไม่อยากให้เขามาหาเรากลัวว่าจะผิดผีกันอีก เรากะทะเลาะกันอีก เขาบอกเขารักเรา เขาจะไปทำงานหาเงินค่าสินสอด แต่เขาก็ดูเฉยฉา ส่วนเราก็รอเขามานาน เราอยากรีบแต่งรีบทำงานตั้งตัว แล้วเราก็มีงานเราคิดว่าเราจะกลับไปทำงานญี่ปุ่นอีกรอบ(เราเคยไปทำงานที่ญี่ปุ่นมา และเราเคยทิ้งโอกาสที่จะไปทำงานที่ญี่ปุ่นเพื่อรอเค้า)เพื่ออนาคต แต่เลือกไม่ได้ระหว่างอนาคตกับคนรัก
เราลังเลใจ และรักเค้ามาก
ถ้าจะต้องเลือกระหว่างคนรัก กับอนาคต
อย่างกรณีของเรา
มีแฟนคบกันมาสักระยะหนึ่ง แล้ววันหึ่งพ่อแม่ฝ่ายเราก็บอกให้พ่อแม่ทางฝั่งของแฟนไปขอ และแต่งงาน แต่ทางพ่อแม่แฟนก็บอกว่าขอเวลาถึงแฟนเราปลดทหาร(แฟนเป็นทหารเกณฑ์)ตอนนั้นเราเข้าข้างฝ่ายแฟนเรา คิดว่าทางพ่อแม่แฟนจะหาค่าสินสอดมาแต่งเรา ในระยะเวลาที่รอแฟนเราปลด พอปลดคงได้แต่งงานกัน
แต่พอมาวันหนึ่งทางแม่ของแฟนได้พูดกลับคำว่าจะหมั้นไว้ก่อนแล้วให้แฟนเราไปทำงาน ทั้งๆคุยกันก่อนหน้านี้เขาบอกแฟนปลดทหารจะมาแต่ง เราก็เลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาแฟนเล่าให้แฟนฟัง จนเราทะเลาะกันหลายรอบ ว่าทำไมทางแม่เขาพูดกลับคำ พอแฟนเราปลดทหาร ผู้ใหญ่ก็ไปคุยกันอีกที ปรากฎว่าเขาขอเลื่อนวันแต่งไปจริงๆ พ่อแม่เราก็ไม่ยอม เพราะคิดว่าตลอดระยะเวลาที่รอแฟนเราปลดทหารนั่น เขาหาค่าสินสอด
ส่วนเรากับแฟนก็ทะเลาะกัน แฟนเราเหมือนจะไม่เข้าข้างเรา เขาเข้าข้างพ่อแม่เข้า เขาไม่กะตือลือล้นอะไรกับเราเลย เขาดูเฉยๆ แต่พอเราโทรไปก็บอกว่าพ่อแม่เขาไม่อยากให้เขามาหาเรากลัวว่าจะผิดผีกันอีก เรากะทะเลาะกันอีก เขาบอกเขารักเรา เขาจะไปทำงานหาเงินค่าสินสอด แต่เขาก็ดูเฉยฉา ส่วนเราก็รอเขามานาน เราอยากรีบแต่งรีบทำงานตั้งตัว แล้วเราก็มีงานเราคิดว่าเราจะกลับไปทำงานญี่ปุ่นอีกรอบ(เราเคยไปทำงานที่ญี่ปุ่นมา และเราเคยทิ้งโอกาสที่จะไปทำงานที่ญี่ปุ่นเพื่อรอเค้า)เพื่ออนาคต แต่เลือกไม่ได้ระหว่างอนาคตกับคนรัก
เราลังเลใจ และรักเค้ามาก