สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
เราไม่เห็นว่าลูกค้าจะทำอะไรผิดเลยนะคะ
1. คุณเอาเมนูที่ไม่ได้สั่งไปเสริฟให้ลูกค้า แล้วลูกค้าไม่พอใจ ลูกค้าผิดตรงไหนเหรอคะ
คุณคิดเอาเองว่าของแพงกว่าลูกค้าต้องดีใจแน่ๆ แต่ความจริงไม่ใช่ทุกคนจะพอใจนะคะ
บางคนอาจไม่ชอบไข่ปลาหมึกเพราะห่วงเรื่องสุขภาพ
บางคนอาจแพ้ อันนี้หนักเลยถ้าลูกค้าแพ้ขึ้นมาคุณจะรับผิดชอบยังไง
ลูกค้าบางคนอาจกินไม่เป็นและกังวลเรื่องการโดนปรับถ้ากินไม่หมด ทำให้ลูกค้าต้องฝืนกินเพราะเกรงใจเจ้าของร้าน
หรือการที่ลูกค้าไม่รู้จักเมนูไข่ปลาหมึก ถามว่าลูกค้าผิดเหรอคะ
ทุกอย่างผิดที่คุณนั่นแหละที่คิดน้อยเกินไป
ถ้าจะเอาเมนูอื่นไปเสริฟลูกค้าต้องขออนุญาตลูกค้าก่อนนะคะ
แล้วอธิบายก่อนว่านี่คือเมนูอะไร เสริฟเพื่อให้ลองชิมหรือเพื่ออะไรก็ต้องอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ
และถ้าลูกค้าปฏิเสธไม่รับคุณก็ต้องเข้าใจลูกค้าเหมือนกัน
2. คุณไม่กำหนดเวลานั่งเอง ลูกค้าผิดตรงไหนคะ
ร้านบุฟเฟ่ต์ที่ไหนก็กำหนดเวลานั่งกันเป็นปกติทั้งนั้น ทำไมร้านคุณถึงไม่ยอมกำหนด
ในเมื่อคุณเองก็ไม่พอใจที่ลูกค้านั่งนานเกิน ก็กำหนดเวลาไปสิคะ
ถ้าใจกว้างหน่อยก็กำหนดไว้ที่สองชม.ก็ได้ ลูกค้าจะได้นั่งสบายๆไม่ต้องรีบ
แต่ถ้าไม่กำหนดเวลา ลูกค้าจะรู้มั้ยว่าคุณไม่พอใจที่ลูกค้านั่งนานเกินไป
การที่คุณคิดจะปฏิเสธลูกค้ารายนี้ ถามจริงๆคิดดีแล้วเหรอคะ
ในเมื่อลูกค้าไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแต่โดนคุณปฏิเสธไม่ให้มาใช้บริการอีก คุณจะให้เหตุผลในการปฏิเสธว่ายังไง
แล้วลูกค้าคนอื่นที่รู้จะคิดยังไง เผลอๆจะไม่ได้เสียแค่ลูกค้ารายนี้รายเดียวหรอกนะคะถ้าข่าวนี้แพร่ไป
ลูกค้าจะพูดต่อๆกันไปว่าร้านคุณพอขายดีก็ไม่ง้อลูกค้าแล้ว
ร้านที่คุณอุตส่าห์สร้างมาจะมาเสียชื่อเสียงก็คราวนี้แหละ
เราเชื่อว่าคุณมีความตั้งใจดีในการทำร้าน แต่ความตั้งใจดีต้องมาพร้อมกับความเป็นมืออาชีพด้วย ร้านถึงจะไปได้รอด
ถ้าใช้อารมณ์ในการบริหารมากกว่าใช้เหตุผล ก็จะเป็นแบบที่คุณเป็นอยู่นี่แหละค่ะ
บริการไม่มีมาตรฐานเอาแน่เอานอนไม่ได้ ขึ้นกับอารมณ์ของเจ้าของร้านล้วนๆ
อีกหน่อยใครจะกล้าเข้าร้าน
1. คุณเอาเมนูที่ไม่ได้สั่งไปเสริฟให้ลูกค้า แล้วลูกค้าไม่พอใจ ลูกค้าผิดตรงไหนเหรอคะ
คุณคิดเอาเองว่าของแพงกว่าลูกค้าต้องดีใจแน่ๆ แต่ความจริงไม่ใช่ทุกคนจะพอใจนะคะ
บางคนอาจไม่ชอบไข่ปลาหมึกเพราะห่วงเรื่องสุขภาพ
บางคนอาจแพ้ อันนี้หนักเลยถ้าลูกค้าแพ้ขึ้นมาคุณจะรับผิดชอบยังไง
ลูกค้าบางคนอาจกินไม่เป็นและกังวลเรื่องการโดนปรับถ้ากินไม่หมด ทำให้ลูกค้าต้องฝืนกินเพราะเกรงใจเจ้าของร้าน
หรือการที่ลูกค้าไม่รู้จักเมนูไข่ปลาหมึก ถามว่าลูกค้าผิดเหรอคะ
ทุกอย่างผิดที่คุณนั่นแหละที่คิดน้อยเกินไป
ถ้าจะเอาเมนูอื่นไปเสริฟลูกค้าต้องขออนุญาตลูกค้าก่อนนะคะ
แล้วอธิบายก่อนว่านี่คือเมนูอะไร เสริฟเพื่อให้ลองชิมหรือเพื่ออะไรก็ต้องอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ
และถ้าลูกค้าปฏิเสธไม่รับคุณก็ต้องเข้าใจลูกค้าเหมือนกัน
2. คุณไม่กำหนดเวลานั่งเอง ลูกค้าผิดตรงไหนคะ
ร้านบุฟเฟ่ต์ที่ไหนก็กำหนดเวลานั่งกันเป็นปกติทั้งนั้น ทำไมร้านคุณถึงไม่ยอมกำหนด
ในเมื่อคุณเองก็ไม่พอใจที่ลูกค้านั่งนานเกิน ก็กำหนดเวลาไปสิคะ
ถ้าใจกว้างหน่อยก็กำหนดไว้ที่สองชม.ก็ได้ ลูกค้าจะได้นั่งสบายๆไม่ต้องรีบ
แต่ถ้าไม่กำหนดเวลา ลูกค้าจะรู้มั้ยว่าคุณไม่พอใจที่ลูกค้านั่งนานเกินไป
การที่คุณคิดจะปฏิเสธลูกค้ารายนี้ ถามจริงๆคิดดีแล้วเหรอคะ
ในเมื่อลูกค้าไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแต่โดนคุณปฏิเสธไม่ให้มาใช้บริการอีก คุณจะให้เหตุผลในการปฏิเสธว่ายังไง
แล้วลูกค้าคนอื่นที่รู้จะคิดยังไง เผลอๆจะไม่ได้เสียแค่ลูกค้ารายนี้รายเดียวหรอกนะคะถ้าข่าวนี้แพร่ไป
ลูกค้าจะพูดต่อๆกันไปว่าร้านคุณพอขายดีก็ไม่ง้อลูกค้าแล้ว
ร้านที่คุณอุตส่าห์สร้างมาจะมาเสียชื่อเสียงก็คราวนี้แหละ
เราเชื่อว่าคุณมีความตั้งใจดีในการทำร้าน แต่ความตั้งใจดีต้องมาพร้อมกับความเป็นมืออาชีพด้วย ร้านถึงจะไปได้รอด
ถ้าใช้อารมณ์ในการบริหารมากกว่าใช้เหตุผล ก็จะเป็นแบบที่คุณเป็นอยู่นี่แหละค่ะ
บริการไม่มีมาตรฐานเอาแน่เอานอนไม่ได้ ขึ้นกับอารมณ์ของเจ้าของร้านล้วนๆ
อีกหน่อยใครจะกล้าเข้าร้าน
แสดงความคิดเห็น
เจอลูกค้าแบบนี้ เราไม่อยากรับเค้าเข้ามาทานอาหารในร้าน เราควรปฏิเสธอย่างไร?