เจอลูกค้าแบบนี้ เราไม่อยากรับเค้าเข้ามาทานอาหารในร้าน เราควรปฏิเสธอย่างไร?

ขอเกริ่นก่อนนะครับว่าร้านของผมเป็นร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ซึ่งลูกค้าทานน้อย ทานเยอะ มีคละกันไปเป็นเรื่องปกติ ...แต่จะมีลูกค้าครอบครัวนึง มาทานอาหารที่ร้านเป็นประจำ ช่วงแรก ยอมรับครับ เค้าน่ารักมาก พูดดี ยิ้มแย้ม ซึ่งลูกค้าสั่งมาก หรือสั่งน้อย ผมไม่เคยกังวลตรงนั้นเลยครับ เพราะคิดว่ามีคละปะปนกันไป ซึ่งแรกๆเค้ามาทาน ก็เหมือนลูกค้าปกติทั่วไป ไม่ได้นั่งนาน (ร้านไม่ได้จำกัดเวลา) เค้าชอบทานปลาหมึกสดที่ร้านมากครับ สั่งเยอะมาก ผมก็ชอบนะ ที่เค้าชอบทานปลาหมึกที่ร้านผม มีอยู่วันนึงผมมีเมนูพิเศษ คือไข่หมึก ซึ่งจะอยู่ในราคาที่แพงกว่า ผมจึงนำแถมไปให้เขา ปรากฏว่า เค้าไม่พอใจครับ เค้าหาว่าผมใส่แป้งไปให้เขา ผมกับน้องๆที่ร้านงงกันหมดเลยครับ ซึ่งปกติไข่หมึก ลูกค้าท่านอื่นจะชอบมาก สั่งซ้ำอยู่ตลอด มีแต่ครอบครัวนี้แหละครับ ที่เห็นว่าของผมเป็นแป้ง ....  เค้าก็โวยวาย เสียงดังลั่นร้าน จนผมต้องเข้าไปเคลียเอง คือเค้าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ เหมือนเป็นคนสองบุคลิก เค้าก็บอกผมว่าเค้าสั่งหมึก ทำไมให้แป้งเค้าผสมมาด้วย ผมก็บอก เป็นเมนูไข่หมึกครับ ผมพิเศษให้ลูกค้าได้ลองชิม ปกติจะอยู่ในราคาบุฟเฟต์ตัวที่สูงกว่า เค้าก็เถียงว่ามันไม่ใช่ครับ มันคือแป้ง ผมก็งงไปอีก ตอบไม่ถูก เลยตัดปัญหา ขอโทษ แล้วนำกลับไปเปลี่ยนมาให้ใหม่ครับ เป็นอันจบ... แต่ไม่เป็นแบบนั้น (เดี๋ยวมาต่อครับ)
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ช่วงนี้ก็เขียนบทเฉพาะกาลไปก่อนครับ เนื่องจากโครงการคนละครึ่งทําให้มีผู้มาใช้บริการที่ร้านเป็นจํานวนมาก ทางร้านจึงขอจํากัดเวลาเป็นโต๊ะละ...ชม.แต่ท่านยังสั่งได้ไม่อั้นเหมือนเดิม
ความคิดเห็นที่ 12
เราไม่เห็นว่าลูกค้าจะทำอะไรผิดเลยนะคะ

1. คุณเอาเมนูที่ไม่ได้สั่งไปเสริฟให้ลูกค้า แล้วลูกค้าไม่พอใจ ลูกค้าผิดตรงไหนเหรอคะ
คุณคิดเอาเองว่าของแพงกว่าลูกค้าต้องดีใจแน่ๆ แต่ความจริงไม่ใช่ทุกคนจะพอใจนะคะ
บางคนอาจไม่ชอบไข่ปลาหมึกเพราะห่วงเรื่องสุขภาพ
บางคนอาจแพ้ อันนี้หนักเลยถ้าลูกค้าแพ้ขึ้นมาคุณจะรับผิดชอบยังไง
ลูกค้าบางคนอาจกินไม่เป็นและกังวลเรื่องการโดนปรับถ้ากินไม่หมด ทำให้ลูกค้าต้องฝืนกินเพราะเกรงใจเจ้าของร้าน
หรือการที่ลูกค้าไม่รู้จักเมนูไข่ปลาหมึก ถามว่าลูกค้าผิดเหรอคะ
ทุกอย่างผิดที่คุณนั่นแหละที่คิดน้อยเกินไป
ถ้าจะเอาเมนูอื่นไปเสริฟลูกค้าต้องขออนุญาตลูกค้าก่อนนะคะ
แล้วอธิบายก่อนว่านี่คือเมนูอะไร เสริฟเพื่อให้ลองชิมหรือเพื่ออะไรก็ต้องอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ
และถ้าลูกค้าปฏิเสธไม่รับคุณก็ต้องเข้าใจลูกค้าเหมือนกัน

2. คุณไม่กำหนดเวลานั่งเอง ลูกค้าผิดตรงไหนคะ
ร้านบุฟเฟ่ต์ที่ไหนก็กำหนดเวลานั่งกันเป็นปกติทั้งนั้น ทำไมร้านคุณถึงไม่ยอมกำหนด
ในเมื่อคุณเองก็ไม่พอใจที่ลูกค้านั่งนานเกิน ก็กำหนดเวลาไปสิคะ
ถ้าใจกว้างหน่อยก็กำหนดไว้ที่สองชม.ก็ได้ ลูกค้าจะได้นั่งสบายๆไม่ต้องรีบ
แต่ถ้าไม่กำหนดเวลา ลูกค้าจะรู้มั้ยว่าคุณไม่พอใจที่ลูกค้านั่งนานเกินไป

การที่คุณคิดจะปฏิเสธลูกค้ารายนี้ ถามจริงๆคิดดีแล้วเหรอคะ
ในเมื่อลูกค้าไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแต่โดนคุณปฏิเสธไม่ให้มาใช้บริการอีก คุณจะให้เหตุผลในการปฏิเสธว่ายังไง
แล้วลูกค้าคนอื่นที่รู้จะคิดยังไง เผลอๆจะไม่ได้เสียแค่ลูกค้ารายนี้รายเดียวหรอกนะคะถ้าข่าวนี้แพร่ไป
ลูกค้าจะพูดต่อๆกันไปว่าร้านคุณพอขายดีก็ไม่ง้อลูกค้าแล้ว
ร้านที่คุณอุตส่าห์สร้างมาจะมาเสียชื่อเสียงก็คราวนี้แหละ
เราเชื่อว่าคุณมีความตั้งใจดีในการทำร้าน แต่ความตั้งใจดีต้องมาพร้อมกับความเป็นมืออาชีพด้วย ร้านถึงจะไปได้รอด
ถ้าใช้อารมณ์ในการบริหารมากกว่าใช้เหตุผล ก็จะเป็นแบบที่คุณเป็นอยู่นี่แหละค่ะ
บริการไม่มีมาตรฐานเอาแน่เอานอนไม่ได้ ขึ้นกับอารมณ์ของเจ้าของร้านล้วนๆ
อีกหน่อยใครจะกล้าเข้าร้าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่