ในระหว่างนึงผมจำได้ว่า ช่วงนึงผมโดนผู้ชายแกล้ง และอีกช่วงก็โดนแต่ผู้หญิงแกล้ง แต่ในปัจจุบันตอนนี้ไม่มีใครแกล้งไม่มีใครอยากยุ่งกับผมอีกต่อไปแล้ว
พูดถึงโดนผู้หญิงแกล้ง คนแรกที่ผมจำได้คงเป็นรุ่นพี่ ในตอนนั้นน่าจะประมาณม.2 ผมโดนพี่เขาแกล้งโดยชอบแกล้งมาบอกว่าชอบผมๆ ผมก็เสียอาการสิรอไรละ แต่ก็นะก็รู้แหละว่าแกล้งแต่ทั้งทีผมไม่เคยรู้จักเขาด้วยซ้ำแต่ว่า การแกล้งครั้งนั้นทำไมผมถึงรู้สึกชอบพี่เขาก็ไม่รู้ทั้งๆที่รู้ อยู่ในใจแล้วแท้ๆว่าพี่เขาแค่แกล้ง
ต่อมาก็ตอนที่ผมย้ายรร.มาอีกที่เข้ามาก็มีแต่คนสนใจอย่างน่าประหลาด แบบแปลกๆเพราะผมเป็นคนน่ากลัวละมั้งผมหน้าตาผมจะเป็นแบบว่าคิ้วตกเหมือนคนโกรธตลอดเวลา เพราะด้วยโรงเรียนเก่า ความเหมือนก็จะไม่เหมือนกัน ผมเป็นแบบบ้านนอกเข้ากรุง สิ่งที่ปกติในโรงเรียนเก่าผมกลับเป็นสิ่งแปลกใหม่ในที่นี้ อย่างร้องเพลงชาติเสียงดัง ก็มีแค่ผมที่ร้อง เต้นในวันออกกำลังกายก็ผมที่ติดท่าเต้นมาจากที่เก่าเลยทำให้แปลกๆไปซักพัก แต่ท่าเหมือนกัน นี่คงเป็นอีกเหตุผลและมั้ง ผมไม่รู้สังคมคนกรุงละมั้งเลยแปลกใหม่ เพราะเข้ามาก็มีแต่ผู้หญิงบอกชอบ แต่ผมรู้ว่าแค่การแกล้ง แต่ว่า ผมก็อดคิดไม่ได้เลยว่าจะมีคนพูดจริงจากใจรึเปล่า เพราะมีหลายคนมาก ช่วงนั้นที่ผมมาแรกๆคือแบบ สุดๆมากในช่วงที่เรียน แต่ต่อมามันก็จางหายไป ผมก็ลองสังเกตดูรอบๆพอมีนักเรียนใหม่ย้ายมาก็ไม่เป็นแบบผม ผมก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมถึงเป็นแค่ผมที่ถูกแกล้ง แต่ว่าก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะตอนนี้เหมือนว่าไม่มีใครสนใจผมอีกต่อไปแล้วเพราะผมเริ่มปรับตัวให้เหมือนพวกเขาไปทีละนิดๆ ทำให้ตอนนี้ผมไม่เหมือนกับผมก่อนย้ายมาที่นี้อีกแล้ว ถ้าเทียบกันแล้วผมว่าผม เปลี่ยนไปในทางที่แย่เลยหล่ะ มั้ง เพราะผมเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับหน้าตาละมั้ง ก็เลยดูเป็นคนชั่วสุดๆเลยทั้งหน้าตาและกิริยาท่าทาง นั้นทำให้ทุกอย่างหายไปตอนไหนก็ไม่รู้ แต่พอนึกได้คือ รอบตัวผมไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว ความสนิท ทุกๆอย่าง ผมเป็นคงพังมันทิ้งหมด แต่พอผมพยายามจะเข้าหาแต่กลับทำไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะว่า ผมไม่รู้วิธีที่จะทำมันแล้ว บางทีในจิตใจในห้วงลึกสุด ผมอาจจะไม่ต้องการมันแล้วก็ได้ถึงทำไม่ได้ หรือ สิ่งที่ผมต้องการก็คือสิ่งที่ผมคิดขึ้นมาแต่ผมก็ไม่ได้ต้องการจริงๆ ซึ่งมันทำให้ผมสับสนและไม่รู้ว่าตัวผมเองต้องการที่จะสนิทกับเพื่อนอีกหรือไม่ แต่ก็นะแค่มาเล่าให้ฟังคร่าวๆ
ส่วนเรื่องผู้ชายแกล้งผมขอไม่เล่าละกันเพราะเป็นเรื่องที่โหดร้าย เหตุคงเพราะหน้าตาผมแหละที่ดูโกรธตลอดเวลามั้งเลยทำให้โดนเกลียด พอผมคิดทีไรก็หงุดหงิดทุกทีถึงตอนนี้ความแค้นก็ไม่ได้หายไปจากผมเลยด้วยซ้ำ เพราะไม่มีใครคิดช่วยผมเลย ไม่ว่าจะกี่ครั้งๆพวกมันก็มีพวกโดยตลอด มีเรื่องคนนึงอีกหลายๆคนมันก็จะมาช่วยโดยไม่ดูว่าใครผิดใครถูก ทุเรศ นี่แหละมั้งทำให้ผมไม่อยากมีเพื่อนตอนนี้ผมเลยไม่มีอะไรเลย เพราะผมคงไม่ได้อยากได้คนทุเรศๆแบบนี้เป็นเพื่อน ผมคงต้องการเพื่อนที่นำทางให้เราไปในทางที่ถูก แต่ถึงตอนนี้ก็คงหาไม่ได้ซักคนละมั้ง เพราะผมแตกต่างจากทุกคนเลยทำให้ถูกเกลียด เพราะผมแตกต่างเลยทำให้ไม่มีอะไรเลย เพราะแตกต่างสังคมเลยไม่ยอมรับ เพราะแตกต่างถึงถูกแบ่งแยก ตัวการที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ก็คือสังคม ถ้าไม่มีสังคมซะอย่างผมก็ไม่ใช่สิ่งแปลกแยก ผมไม่คิดว่าตัวเองผิด เพราะสิ่งที่ผิดก็คือสั่งคมที่มองว่าคนอื่นแปลกแยก ถ้าสังคมไม่มองว่าผมแปลกแยก ผมก็จะไม่แปลกแยก ถ้าคนทั้งโลกคิดได้แบบผมก็คงจะดี อย่างโรคไบเซกชัว ก็ไปบอกว่าเขาเป็นโรค ทั้งๆที่ผมไม่มองว่ามันเป็นโรคด้วยซ้ำมันแค่เรื่องปกติ แต่ก็ไปมองคนที่แตกต่างเลยแบ่งแยกคนที่ไม่เหมือนตัวเองว่าเป็นโรค มันแย่ที่สุดเลยสังคมอะ การฆ่าสัตว์ก็ไม่ต่างกันถึงตอนนี้ก็คงบอกฆ่าเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ฆ่าเพื่อกินไม่เห็นเป็นไร สุดท้ายก็ฆ่านิ สังคมแค่บอกอยากมีชีวิตอยู่เลยต้องฆ่า สัตว์ก็แค่บอกอยากมีชีวิตอยู่อย่าฆ่าเราได้ไหม รู้ไหมผมไม่ชอบคำพูดพวกนี้เลยด้วยซ้ำมันก็แค่ข้ออ้าง แค่บอกว่าเป็นวัฏจักรชีวิตสัตว์อ่อนแอต้องถูกล่าผมว่า ผมยอมรับง่ายกว่าข้ออ้างนั้นอีก ข้ออ้างนั้นมันแบ่งแยก คุณแบ่งแยกพวกสัตว์ว่าชีวิตของคุณสำคัญกว่า คุณต้องรอดสุดท้ายก็ไม่ต่างอะไรกับการเห็นแก่ตัวพรากชีวิตคนอื่น เพื่อตัวเอง พวกคุณไม่สงสัยตามศาสนามั้งหรอ ที่สอนให้เราเกิดมาต้องทำความดี แล้วทำไมมันถึงขัดแย้งกับชีวิต ถ้าเราต้องการมีชีวิตก็ทำได้แต่ต้องฆ่าสิ่งอื่นเพื่อให้มีชีวิต ถ้าพระเจ้าต้องการให้เราเกิดมาทำไมถ้าต้องการให้เราทำความดีแล้วทำไม ถึงต้องทำให้เราต้องฆ่าสิ่งมีชีวิตเพื่อให้อยู่รอด พวกคุณบอกก็กินพืชสิ พืชก็มีชีวิตไม่ต่างอะไรกับเรา พวกคุณแบ่งแยกและคิดกันเองว่าพืชไม่มีจิตใจฆ่าไปฝันไปก็ไม่บาป งั้นคุณจะบอกว่าถ้าคนเสียสะติแล้วไม่รู้เรื่องเป็นบ้าไม่มีจิตใจ งั้นก็ไม่ต่างอะไรกับต้นไม้เลยสิ นอกเรื่องมาไกลเลยผมโทษทีไหนๆก็มาล่ะขอระบายอีกหน่อย คุณเข้าใจคำว่าชีวิตจริงเหรอ คุณเกิดมาทำไม ชีวิตคืออะไร ตามปู่ย่าตายายและตามหนังสือเรียนบอก เราต้องเกิดมาเวียนว่ายตายเกิด เกิดเป็นคนทำบุญไปสวรรค์ทำบาปไปนรก นรกไปชดใช้กรรมหมดกรรมไปเกิดวนอย่างนี้ ทำดีไปสวรรค์แล้ว? ยังไงต่อ ไปเป็นเทวดา แล้วยังไงต่อ เทวดาตายกลับมาเกิด ..... วนอยู่แบบนี้ ไม่คิดสงสัยกันบ้างหรอ เรื่องทุกเรื่องต่างมีจุดที่เราขัดได้มากมาย แต่กลับไม่คิดสงสัยและเชื่ออย่างสนิทใจ แล้วถ้าชีวิตคือการเวียนว่ายตายเกิด แล้วชีวิตคืออะไร ไม่เห็นต่างกับเกมส์ที่เป็นระบบรีสปาวเลย ที่สิ่งล้วนไร้ค่า ชีวิตคือทุกสิ่งและทุกสิ่งก็คือชีวิต มันไม่มีความหมายอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียวทุกสิ่งทุกอย่างมนุษย์ล้วนเป็นคนทำมันขึ้นมาเองแต่แท้จริงแล้วมันไม่มีอะไรมาตั้งแต่แรกแล้ว มันคือความว่างเปล่ามันคือทุกสิ่ง ตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่าอะไรมันบิดเบี้ยวเป็นตัวผมหรือสังคม
เป็นส่วนนึงของชีวิตเลยอยากเล่าสู่กันฟัง
พูดถึงโดนผู้หญิงแกล้ง คนแรกที่ผมจำได้คงเป็นรุ่นพี่ ในตอนนั้นน่าจะประมาณม.2 ผมโดนพี่เขาแกล้งโดยชอบแกล้งมาบอกว่าชอบผมๆ ผมก็เสียอาการสิรอไรละ แต่ก็นะก็รู้แหละว่าแกล้งแต่ทั้งทีผมไม่เคยรู้จักเขาด้วยซ้ำแต่ว่า การแกล้งครั้งนั้นทำไมผมถึงรู้สึกชอบพี่เขาก็ไม่รู้ทั้งๆที่รู้ อยู่ในใจแล้วแท้ๆว่าพี่เขาแค่แกล้ง
ต่อมาก็ตอนที่ผมย้ายรร.มาอีกที่เข้ามาก็มีแต่คนสนใจอย่างน่าประหลาด แบบแปลกๆเพราะผมเป็นคนน่ากลัวละมั้งผมหน้าตาผมจะเป็นแบบว่าคิ้วตกเหมือนคนโกรธตลอดเวลา เพราะด้วยโรงเรียนเก่า ความเหมือนก็จะไม่เหมือนกัน ผมเป็นแบบบ้านนอกเข้ากรุง สิ่งที่ปกติในโรงเรียนเก่าผมกลับเป็นสิ่งแปลกใหม่ในที่นี้ อย่างร้องเพลงชาติเสียงดัง ก็มีแค่ผมที่ร้อง เต้นในวันออกกำลังกายก็ผมที่ติดท่าเต้นมาจากที่เก่าเลยทำให้แปลกๆไปซักพัก แต่ท่าเหมือนกัน นี่คงเป็นอีกเหตุผลและมั้ง ผมไม่รู้สังคมคนกรุงละมั้งเลยแปลกใหม่ เพราะเข้ามาก็มีแต่ผู้หญิงบอกชอบ แต่ผมรู้ว่าแค่การแกล้ง แต่ว่า ผมก็อดคิดไม่ได้เลยว่าจะมีคนพูดจริงจากใจรึเปล่า เพราะมีหลายคนมาก ช่วงนั้นที่ผมมาแรกๆคือแบบ สุดๆมากในช่วงที่เรียน แต่ต่อมามันก็จางหายไป ผมก็ลองสังเกตดูรอบๆพอมีนักเรียนใหม่ย้ายมาก็ไม่เป็นแบบผม ผมก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมถึงเป็นแค่ผมที่ถูกแกล้ง แต่ว่าก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะตอนนี้เหมือนว่าไม่มีใครสนใจผมอีกต่อไปแล้วเพราะผมเริ่มปรับตัวให้เหมือนพวกเขาไปทีละนิดๆ ทำให้ตอนนี้ผมไม่เหมือนกับผมก่อนย้ายมาที่นี้อีกแล้ว ถ้าเทียบกันแล้วผมว่าผม เปลี่ยนไปในทางที่แย่เลยหล่ะ มั้ง เพราะผมเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับหน้าตาละมั้ง ก็เลยดูเป็นคนชั่วสุดๆเลยทั้งหน้าตาและกิริยาท่าทาง นั้นทำให้ทุกอย่างหายไปตอนไหนก็ไม่รู้ แต่พอนึกได้คือ รอบตัวผมไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว ความสนิท ทุกๆอย่าง ผมเป็นคงพังมันทิ้งหมด แต่พอผมพยายามจะเข้าหาแต่กลับทำไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะว่า ผมไม่รู้วิธีที่จะทำมันแล้ว บางทีในจิตใจในห้วงลึกสุด ผมอาจจะไม่ต้องการมันแล้วก็ได้ถึงทำไม่ได้ หรือ สิ่งที่ผมต้องการก็คือสิ่งที่ผมคิดขึ้นมาแต่ผมก็ไม่ได้ต้องการจริงๆ ซึ่งมันทำให้ผมสับสนและไม่รู้ว่าตัวผมเองต้องการที่จะสนิทกับเพื่อนอีกหรือไม่ แต่ก็นะแค่มาเล่าให้ฟังคร่าวๆ
ส่วนเรื่องผู้ชายแกล้งผมขอไม่เล่าละกันเพราะเป็นเรื่องที่โหดร้าย เหตุคงเพราะหน้าตาผมแหละที่ดูโกรธตลอดเวลามั้งเลยทำให้โดนเกลียด พอผมคิดทีไรก็หงุดหงิดทุกทีถึงตอนนี้ความแค้นก็ไม่ได้หายไปจากผมเลยด้วยซ้ำ เพราะไม่มีใครคิดช่วยผมเลย ไม่ว่าจะกี่ครั้งๆพวกมันก็มีพวกโดยตลอด มีเรื่องคนนึงอีกหลายๆคนมันก็จะมาช่วยโดยไม่ดูว่าใครผิดใครถูก ทุเรศ นี่แหละมั้งทำให้ผมไม่อยากมีเพื่อนตอนนี้ผมเลยไม่มีอะไรเลย เพราะผมคงไม่ได้อยากได้คนทุเรศๆแบบนี้เป็นเพื่อน ผมคงต้องการเพื่อนที่นำทางให้เราไปในทางที่ถูก แต่ถึงตอนนี้ก็คงหาไม่ได้ซักคนละมั้ง เพราะผมแตกต่างจากทุกคนเลยทำให้ถูกเกลียด เพราะผมแตกต่างเลยทำให้ไม่มีอะไรเลย เพราะแตกต่างสังคมเลยไม่ยอมรับ เพราะแตกต่างถึงถูกแบ่งแยก ตัวการที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ก็คือสังคม ถ้าไม่มีสังคมซะอย่างผมก็ไม่ใช่สิ่งแปลกแยก ผมไม่คิดว่าตัวเองผิด เพราะสิ่งที่ผิดก็คือสั่งคมที่มองว่าคนอื่นแปลกแยก ถ้าสังคมไม่มองว่าผมแปลกแยก ผมก็จะไม่แปลกแยก ถ้าคนทั้งโลกคิดได้แบบผมก็คงจะดี อย่างโรคไบเซกชัว ก็ไปบอกว่าเขาเป็นโรค ทั้งๆที่ผมไม่มองว่ามันเป็นโรคด้วยซ้ำมันแค่เรื่องปกติ แต่ก็ไปมองคนที่แตกต่างเลยแบ่งแยกคนที่ไม่เหมือนตัวเองว่าเป็นโรค มันแย่ที่สุดเลยสังคมอะ การฆ่าสัตว์ก็ไม่ต่างกันถึงตอนนี้ก็คงบอกฆ่าเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ฆ่าเพื่อกินไม่เห็นเป็นไร สุดท้ายก็ฆ่านิ สังคมแค่บอกอยากมีชีวิตอยู่เลยต้องฆ่า สัตว์ก็แค่บอกอยากมีชีวิตอยู่อย่าฆ่าเราได้ไหม รู้ไหมผมไม่ชอบคำพูดพวกนี้เลยด้วยซ้ำมันก็แค่ข้ออ้าง แค่บอกว่าเป็นวัฏจักรชีวิตสัตว์อ่อนแอต้องถูกล่าผมว่า ผมยอมรับง่ายกว่าข้ออ้างนั้นอีก ข้ออ้างนั้นมันแบ่งแยก คุณแบ่งแยกพวกสัตว์ว่าชีวิตของคุณสำคัญกว่า คุณต้องรอดสุดท้ายก็ไม่ต่างอะไรกับการเห็นแก่ตัวพรากชีวิตคนอื่น เพื่อตัวเอง พวกคุณไม่สงสัยตามศาสนามั้งหรอ ที่สอนให้เราเกิดมาต้องทำความดี แล้วทำไมมันถึงขัดแย้งกับชีวิต ถ้าเราต้องการมีชีวิตก็ทำได้แต่ต้องฆ่าสิ่งอื่นเพื่อให้มีชีวิต ถ้าพระเจ้าต้องการให้เราเกิดมาทำไมถ้าต้องการให้เราทำความดีแล้วทำไม ถึงต้องทำให้เราต้องฆ่าสิ่งมีชีวิตเพื่อให้อยู่รอด พวกคุณบอกก็กินพืชสิ พืชก็มีชีวิตไม่ต่างอะไรกับเรา พวกคุณแบ่งแยกและคิดกันเองว่าพืชไม่มีจิตใจฆ่าไปฝันไปก็ไม่บาป งั้นคุณจะบอกว่าถ้าคนเสียสะติแล้วไม่รู้เรื่องเป็นบ้าไม่มีจิตใจ งั้นก็ไม่ต่างอะไรกับต้นไม้เลยสิ นอกเรื่องมาไกลเลยผมโทษทีไหนๆก็มาล่ะขอระบายอีกหน่อย คุณเข้าใจคำว่าชีวิตจริงเหรอ คุณเกิดมาทำไม ชีวิตคืออะไร ตามปู่ย่าตายายและตามหนังสือเรียนบอก เราต้องเกิดมาเวียนว่ายตายเกิด เกิดเป็นคนทำบุญไปสวรรค์ทำบาปไปนรก นรกไปชดใช้กรรมหมดกรรมไปเกิดวนอย่างนี้ ทำดีไปสวรรค์แล้ว? ยังไงต่อ ไปเป็นเทวดา แล้วยังไงต่อ เทวดาตายกลับมาเกิด ..... วนอยู่แบบนี้ ไม่คิดสงสัยกันบ้างหรอ เรื่องทุกเรื่องต่างมีจุดที่เราขัดได้มากมาย แต่กลับไม่คิดสงสัยและเชื่ออย่างสนิทใจ แล้วถ้าชีวิตคือการเวียนว่ายตายเกิด แล้วชีวิตคืออะไร ไม่เห็นต่างกับเกมส์ที่เป็นระบบรีสปาวเลย ที่สิ่งล้วนไร้ค่า ชีวิตคือทุกสิ่งและทุกสิ่งก็คือชีวิต มันไม่มีความหมายอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียวทุกสิ่งทุกอย่างมนุษย์ล้วนเป็นคนทำมันขึ้นมาเองแต่แท้จริงแล้วมันไม่มีอะไรมาตั้งแต่แรกแล้ว มันคือความว่างเปล่ามันคือทุกสิ่ง ตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่าอะไรมันบิดเบี้ยวเป็นตัวผมหรือสังคม