realme ตระกูล C นั้นจะเป็นตระกูลที่ทำออกมาเน้นราคาเริ่มต้นช่วงเรทราคาไม่แพงสำหรับคนที่หาซื้อใช้งานกันงบไม่เยอะมากและทางด้าน realme เองก็เปิดตัวมาเรื่อยๆและทำสเปก ราคาได้ดีขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน เช่นในรุ่น C12 นี้มาพร้อมกับสเปกที่ปรับขึ้นเยอะในหลายจุดถ้าหากเทียบกับ C รุ่นก่อนๆ โดยเฉพาะถ้าเทียบกับ C11 นั้นมีหลายๆจุดที่ปรับทั้งเรื่องของ กล้องหลัง กล้องหน้า รวมถึง แบตที่เยอะขึ้นมากเช่นกัน และ ทางด้าน Software ก็ปรับอะไรใหม่ในเรื่องของการถ่ายภาพ ส่วนทางด้านงานออกแบบนั้นยังคงมีแนวทางเดิมแต่พัฒนาเปลี่ยนฝาหลังใหม่ จึงทำให้ตระกูล C นั้นเป็นรุ่นคุ้มค่าในราคาเริ่มต้นสำหรับ ผู้ใช้งานใหม่ๆได้ดีและได้แบตที่เยอะมากๆถึง 6,000 mAh
realme C12 เปิดตัวมาพร้อมกับสเปกที่มีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆจุด แต่ในเรื่องของ CPU นั้นมาพร้อมกับ MTK HELIO G35 ตัวเดียวกับ C11 และใช้งาน GPU Mali-GE8320 RAM LPDDR4X RAM 3GB STORAGE 32GB เพิ่มหน่วยความจำได้ ส่วนทางด้านหน้าจอนั้นยังคงเป็นดีไซน์แบบเดิมหน้าจอแบบติ่งหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ( 720 x 1600 พิกเซล), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 กระจก 2.5D Corning Gorilla Glass ส่วนในเรื่องของกล้องนั้นเป็นจุดหลักๆที่แตกต่างกันเพราะว่าปรับมาใช้ 3 เลนส์พร้อมรองรับโหมดกลางคืน กล้องหลัง ความละเอียด 13MP f/2.2 PDAF กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 Portrait กล้องตัวที่ 3 Super Macro 2MP f/2.4 ระยะ 4 เซนติเมตร // Super Nightscape + Portraitmode +Chroma Boost ส่วนทางด้านกล้องหน้านั้นมาพร้อมกับ 5 MP f/2.4 ความละเอียดเลนส์เท่าเดิมครับ ส่วนจุดหลักๆที่พัฒนาขึ้นอีกคือในเรื่องของ แบตเตอรี่ที่ให้มามากถึง 6,000 mAh รองรับชาร์จ 10W เช่นเดิมแต่ได้ความจุมากขึ้นถึง 1,000 mAh ส่วนทางสเปกอื่นๆนั้นไม่ได้หนีจากเดิมเท่าไร และยังคงรองรับ Wifi 2.4 Ghz เท่านั้นด้วยและยังคงใช้งาน พอร์ต Micro-USB อยู่สำหรับในตระกูล C รุ่นล่างสุด
realme C12 มาพร้อมกับ สี Marine และ Coral Red RAM 3GB STORAGE 32GB
เปิดราคาในไทย ที่ 3,999 บาทครับ
UNBOX
ตัวกล่องนั้นยังคงมีการออกแบบสีเหลืองเช่นเดิม พร้อมกับตัวเลขทางด้านบนแน่นอนว่ามีเลขพร้อมบอกรุ่น แต่จะไม่ได้มีรูปตัวเครื่องอะไรมา ส่วนทางด้านอุปกรณ์ในกล่องนั้นยังไม่ได้มีอะไรเพิ่ม
- ตัวเครื่อง realme C12
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
- ที่ชาร์จ 10W
- สายชาร์จ USB-A ไป Micro-USB
- ฟิล์มกันรอยติดมาให้แล้ว
DESIGN
งานออกแบบของตระกูล C ในรุ่นเริ่มต้นของค่ายนั้นยังคงอิงงานออกแบบที่เป็นการต่อจากรุ่น 11 อยู่บ้างในเรื่องของทรงกล้องในด้านหลังและฝาหลังแบบด้านที่เล่นลวดลายเหมือนเดิม ส่วนทางด้านกล้องหลังมีการเพิ่มกล้องมาอีก 1 ตัวและดีไซน์โลโก้อะไรใหม่ ส่วนทางด้านขนาดและหน้าจอนั้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมเช่นกัน มาพร้อมกับสีแดง และ สีน้ำเงินรองรับการใช้งานได้ดีสวยงามมากๆสีจะค่อนข้างสดสวยพอสมควรเลยทีเดียว ส่วนน้ำหนัก และ ขนาดของตัวเครื่องนั้นจะอยู่ที่ขนาดตัวเครื่อง 164.5 x 75.9 x 9.8 มม. และหนัก 209 กรัม
หน้าจอใช้งาน IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ( 720 x 1560 พิกเซล), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 พร้อมติ่งหยดน้ำและใช้งานกระจก Gorilla Glass ด้วยนะครับถือว่าโอเคเลย และมีฟิล์มติดมาให้แล้วเช่นกัน
หน้าจอขอบบนนั้นเป็นแบบเดิมมาพร้อมกล้องหน้า พร้อมติ่งหยดน้ำ และมีการแทรกเซนเซอร์ไว้ข้างๆกล้อง รวมถึงขอบลำโพงอยู่เหนือกล้องหน้า กล้องหน้าให้มาที่ 5MP รูรับแสง f/2.4 ครับเป็นปกติของรุ่นตระกูล C
ในส่วนขอบล่างหน้าจอนั้นปุ่มควบคุมนั้นจะอยู่ในหน้าจอ สามารถใช้งานเต็มหน้าจอได้แบบไม่มีปุ่ม ส่วนขอบข้างๆนั้นก็ทำได้บางพอๆกับรุ่นก่อนหน้านี้เลยครับ หนาเป็นปกติของมือถือในเรทราคานี้ และหน้าจอก็คล้ายกับตัว C11
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเป็น ลำโพงหลัก ช่อง Micro-USB 2.0 และ รูไมค์ 2 ตัว รวมถึงรูหูฟัง 3.5 มม. นั้นยังอยู่นะครับ ดีไซน์ Layout ต่างๆยังคงเหมือนกับรุ่นอื่นๆ
ในขอบเครื่องด้านข้างขวานั้นจะเป็นที่อยู่ของปุ่ม Power กับ เพิ่ม/ลด เสียง จะเห็นว่าตัวกล้องนั้นไม่ได้นูนออกเลยแม้แต่น้อยและตัวเครื่องก็ทำได้บางเช่นกัน ส่วนสีขอบเครื่องนั้นจะเป็นสีเดียวกัน และ งานออกแบบตามขอบนั้นเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า และ รุ่น 7i เลย ดีไซน์การทำทรงปุ่มอะไรนั้นมีความเหมือนกันทั้งหมดเลย
ในส่วนของด้านบนนั้นไม่มีรูไมค์ตัดเสียงมาให้ เป็นสีแดงสดแบบเดียวกับข้างหลังแต่ไม่มีลวดลาย ส่วนวัสดุขอบเครื่องทั้งหมดจะเป็นพลาสติกด้าน แต่ฝาหลังนั้นจะยังโค้งมารับมือเหมือนกับรุ่น Pro อยู่เหมือนเดิมนิดๆครับ
ในส่วนของด้านซ้ายนั้นจะเห็นว่ามีช่องใส่ถาดซิม เป็นแบบ Triple Slot ฝาหลังนั้นจะโค้งลงมาตรงขอบข้างๆเล็กน้อยเหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ทำให้จับถือได้ง่ายและเข้ากับมือได้มากกว่า
การออกแบบฝาหลังรูปทรงเรขาคณิตถูกใช้ครั้งแรกกับ realme C11 และในตัว realme C12 ยังคงต่อยอดจากแรงบันดาลใจเดิม โดยเผยในฝาหลังรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ที่ถูกไล่ระดับเป็น 3 เฉดสี ด้วยมุมและเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้เกิดเอฟเฟกต์สี และแสงที่แตกต่างกันจากแต่ละมุมมองของฝาหลัง โดยมี 2 สี ได้แก่ Marine Blue และ Coral Red แน่นอนว่าตัว ฝาหลังผ่านกระบวนการเคลือบและขัดพื้นผิวอย่างแม่นยำถึง 300 นาที โดยใช้เครื่องแกะสลักเรเดียม 5 แกนชั้นนำจากประเทศเยอรมัน เพื่อให้ได้เส้นแกะสลักที่มีความโค้งและเอฟเฟกต์แสงสะท้อนพิเศษ สีสันสวยงามน่าสัมผัส และ พร้อมป้องกันรอยนิ้วมือและขีดข่วน และที่ชอบคือตัวเลนส์ไม่ได้นูนออกมาด้วยครับ
กล้องหลังนั้นจะยังคงใช้งานการออกแบบกรอบสี่เหลี่ยมเหมือนกับรุ่นก่อนๆครับ และมาพร้อมกับการเพิ่มเลนส์กล้องเข้ามาอีก 1 ตัวที่มากกว่าเดิมที่เป็น 2 ตัวนั้นเอง เพราะได้เพิ่มเลนส์มาโครเข้ามาด้วยเช่นกันครับ ส่วนตัวกล้องหลักนั้นยังคงให้มาที่ ความละเอียด 13MP f/2.2 PDAF กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 Portrait กล้องตัวที่ 3 Super Macro 2MP f/2.4 ระยะ 4 เซนติเมตร พร้อมกับสแกนนิ้วมือในด้านหลังรองรับการสั่งงานถ่ายรูปได้
SPEC
- Android 10 ครอบทับด้วย realme UI
- จอ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ( 720 x 1600 พิกเซล), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 กระจก 2.5D Corning Gorilla Glass
- Mediatek Helio G35 + GPU Mali-GE8320
- RAM LPDDR4X RAM 3GB
- STORAGE 32GB เพิ่มหน่วยความจำได้
- กล้องหลัง ความละเอียด 13MP f/2.2 PDAF กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 Portrait กล้องตัวที่ 3 Super Macro 2MP f/2.4 ระยะ 4 เซนติเมตร // Super Nightscape + Portraitmode +Chroma Boost
- กล้องหน้า 5 MP f/2.0
- Wi-Fi 2.4GHz GPS A-GPS, GLONASS, BDS
- microUSB 2.0, USB On-The-Go , Reverse Charing
- มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม
- แบตเตอรี่ 6,000 mAh + 10W
- ขนาดตัวเครื่อง 164.5 x 75.9 x 9.8 มม. หนัก 209 กรัม
- สี Marine และ Coral Red
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพของรุ่นนี้ต้องบอกว่าไม่ได้หนีจากรุ่นก่อนหน้าเท่าไร เพราะในประเด็นหลักๆนั้นยังคงใช้งาน MTK G35 เช่นเดิม มาพร้อมกับ RAM 3GB STORAGE 32GB เท่ากันเลยนั้นเอง ทั้งนี้ในเรื่องคะแนนเลยไม่ได้มีจุดเปลี่ยนหรือแตกต่างกันมาก แต่จะเด่นที่แบตที่มากกว่าเดิมและใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิมนั้นเองที่เป็นจุดต่างทำให้การใช้งานนั้นมีอายุยาวนานขึ้นมาก ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้106225 คะแนน และ Geekbench ทำไปได้ 116/963 คะแนน และ ทางด้านการอ่านเขียนนั้นเป็น eMMC5.1 ทำได้.300 MB/s และ เขียน 89MB/s รองรับ Netflix SD L3 นะครับ
SYSTEM UI
realme UI นั้นเริ่มใส่เข้ามาแล้วในหลากหลายรุ่นพัฒนาขึ้นให้มีความแตกต่างความลื่นไหลและมีอนิเมชั่นมากกว่าเดิม รวมถึงยังคงอิงความเรียบง่ายที่จะไปคล้ายๆ Pure Android มากขึ้นครับ ในรุ่นนี้ยังใช้งานบนพื้นฐาน Android 10 และใช้ realme UI การแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอปอะไรปกติ ไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับสวยงามเลยหน้าตาเเหมือนรุ่นพี่ 7 Pro แบบเป๊ะๆ
หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมดเป็นวงกลม และ คลีนขึ้น การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปฟันเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็ม รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ
ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่าย ดีงามเลยแหละ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 32GB นั้นเหลือใช้งานได้ 19 หลังจากหักระบบออกไป และ RAM นั้นใช้งานเหลือ 971MB จาก 3 GB ครับ
Gesture นั้นยังมีมาให้ครบทั้งการวาด การใช้งานท่าทางต่างๆ และการสแกนใบหน้า สแกนนิ้วก็ให้มาครบเลย ส่วนทางด้าน Smart Sidebar แถบหน้าจอด้านข้างก็ รองรับการแชร์ไฟล์ที่เพิ่งเปิดขึ้นได้ เพิ่มเครื่องมือหรือแอปพลิเคชัน บันทึกหน้าจอในรูปแบบวิดีโอ และ จับภาพหน้าจอ รวมถึงการตั้งค่าการควบคุมหลักๆนั้นสามารถปรับใช้งานแบบเต็มจอหรือจะใช้งานแบบ 3 ปุ่มปกติสลับตำแหน่งได้ด้วย
[SR] รีวิว realme C12 จัดเต็มแบต 6,000 mAh พร้อมกล้องหลัง 3 ตัว รองรับ Nightscape !
realme ตระกูล C นั้นจะเป็นตระกูลที่ทำออกมาเน้นราคาเริ่มต้นช่วงเรทราคาไม่แพงสำหรับคนที่หาซื้อใช้งานกันงบไม่เยอะมากและทางด้าน realme เองก็เปิดตัวมาเรื่อยๆและทำสเปก ราคาได้ดีขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน เช่นในรุ่น C12 นี้มาพร้อมกับสเปกที่ปรับขึ้นเยอะในหลายจุดถ้าหากเทียบกับ C รุ่นก่อนๆ โดยเฉพาะถ้าเทียบกับ C11 นั้นมีหลายๆจุดที่ปรับทั้งเรื่องของ กล้องหลัง กล้องหน้า รวมถึง แบตที่เยอะขึ้นมากเช่นกัน และ ทางด้าน Software ก็ปรับอะไรใหม่ในเรื่องของการถ่ายภาพ ส่วนทางด้านงานออกแบบนั้นยังคงมีแนวทางเดิมแต่พัฒนาเปลี่ยนฝาหลังใหม่ จึงทำให้ตระกูล C นั้นเป็นรุ่นคุ้มค่าในราคาเริ่มต้นสำหรับ ผู้ใช้งานใหม่ๆได้ดีและได้แบตที่เยอะมากๆถึง 6,000 mAh
realme C12 เปิดตัวมาพร้อมกับสเปกที่มีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆจุด แต่ในเรื่องของ CPU นั้นมาพร้อมกับ MTK HELIO G35 ตัวเดียวกับ C11 และใช้งาน GPU Mali-GE8320 RAM LPDDR4X RAM 3GB STORAGE 32GB เพิ่มหน่วยความจำได้ ส่วนทางด้านหน้าจอนั้นยังคงเป็นดีไซน์แบบเดิมหน้าจอแบบติ่งหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ( 720 x 1600 พิกเซล), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 กระจก 2.5D Corning Gorilla Glass ส่วนในเรื่องของกล้องนั้นเป็นจุดหลักๆที่แตกต่างกันเพราะว่าปรับมาใช้ 3 เลนส์พร้อมรองรับโหมดกลางคืน กล้องหลัง ความละเอียด 13MP f/2.2 PDAF กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 Portrait กล้องตัวที่ 3 Super Macro 2MP f/2.4 ระยะ 4 เซนติเมตร // Super Nightscape + Portraitmode +Chroma Boost ส่วนทางด้านกล้องหน้านั้นมาพร้อมกับ 5 MP f/2.4 ความละเอียดเลนส์เท่าเดิมครับ ส่วนจุดหลักๆที่พัฒนาขึ้นอีกคือในเรื่องของ แบตเตอรี่ที่ให้มามากถึง 6,000 mAh รองรับชาร์จ 10W เช่นเดิมแต่ได้ความจุมากขึ้นถึง 1,000 mAh ส่วนทางสเปกอื่นๆนั้นไม่ได้หนีจากเดิมเท่าไร และยังคงรองรับ Wifi 2.4 Ghz เท่านั้นด้วยและยังคงใช้งาน พอร์ต Micro-USB อยู่สำหรับในตระกูล C รุ่นล่างสุด
realme C12 มาพร้อมกับ สี Marine และ Coral Red RAM 3GB STORAGE 32GB
เปิดราคาในไทย ที่ 3,999 บาทครับ
UNBOX
ตัวกล่องนั้นยังคงมีการออกแบบสีเหลืองเช่นเดิม พร้อมกับตัวเลขทางด้านบนแน่นอนว่ามีเลขพร้อมบอกรุ่น แต่จะไม่ได้มีรูปตัวเครื่องอะไรมา ส่วนทางด้านอุปกรณ์ในกล่องนั้นยังไม่ได้มีอะไรเพิ่ม
- ตัวเครื่อง realme C12
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
- ที่ชาร์จ 10W
- สายชาร์จ USB-A ไป Micro-USB
- ฟิล์มกันรอยติดมาให้แล้ว
DESIGN
งานออกแบบของตระกูล C ในรุ่นเริ่มต้นของค่ายนั้นยังคงอิงงานออกแบบที่เป็นการต่อจากรุ่น 11 อยู่บ้างในเรื่องของทรงกล้องในด้านหลังและฝาหลังแบบด้านที่เล่นลวดลายเหมือนเดิม ส่วนทางด้านกล้องหลังมีการเพิ่มกล้องมาอีก 1 ตัวและดีไซน์โลโก้อะไรใหม่ ส่วนทางด้านขนาดและหน้าจอนั้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมเช่นกัน มาพร้อมกับสีแดง และ สีน้ำเงินรองรับการใช้งานได้ดีสวยงามมากๆสีจะค่อนข้างสดสวยพอสมควรเลยทีเดียว ส่วนน้ำหนัก และ ขนาดของตัวเครื่องนั้นจะอยู่ที่ขนาดตัวเครื่อง 164.5 x 75.9 x 9.8 มม. และหนัก 209 กรัม
หน้าจอใช้งาน IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ( 720 x 1560 พิกเซล), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 พร้อมติ่งหยดน้ำและใช้งานกระจก Gorilla Glass ด้วยนะครับถือว่าโอเคเลย และมีฟิล์มติดมาให้แล้วเช่นกัน
หน้าจอขอบบนนั้นเป็นแบบเดิมมาพร้อมกล้องหน้า พร้อมติ่งหยดน้ำ และมีการแทรกเซนเซอร์ไว้ข้างๆกล้อง รวมถึงขอบลำโพงอยู่เหนือกล้องหน้า กล้องหน้าให้มาที่ 5MP รูรับแสง f/2.4 ครับเป็นปกติของรุ่นตระกูล C
ในส่วนขอบล่างหน้าจอนั้นปุ่มควบคุมนั้นจะอยู่ในหน้าจอ สามารถใช้งานเต็มหน้าจอได้แบบไม่มีปุ่ม ส่วนขอบข้างๆนั้นก็ทำได้บางพอๆกับรุ่นก่อนหน้านี้เลยครับ หนาเป็นปกติของมือถือในเรทราคานี้ และหน้าจอก็คล้ายกับตัว C11
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเป็น ลำโพงหลัก ช่อง Micro-USB 2.0 และ รูไมค์ 2 ตัว รวมถึงรูหูฟัง 3.5 มม. นั้นยังอยู่นะครับ ดีไซน์ Layout ต่างๆยังคงเหมือนกับรุ่นอื่นๆ
ในขอบเครื่องด้านข้างขวานั้นจะเป็นที่อยู่ของปุ่ม Power กับ เพิ่ม/ลด เสียง จะเห็นว่าตัวกล้องนั้นไม่ได้นูนออกเลยแม้แต่น้อยและตัวเครื่องก็ทำได้บางเช่นกัน ส่วนสีขอบเครื่องนั้นจะเป็นสีเดียวกัน และ งานออกแบบตามขอบนั้นเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า และ รุ่น 7i เลย ดีไซน์การทำทรงปุ่มอะไรนั้นมีความเหมือนกันทั้งหมดเลย
ในส่วนของด้านบนนั้นไม่มีรูไมค์ตัดเสียงมาให้ เป็นสีแดงสดแบบเดียวกับข้างหลังแต่ไม่มีลวดลาย ส่วนวัสดุขอบเครื่องทั้งหมดจะเป็นพลาสติกด้าน แต่ฝาหลังนั้นจะยังโค้งมารับมือเหมือนกับรุ่น Pro อยู่เหมือนเดิมนิดๆครับ
ในส่วนของด้านซ้ายนั้นจะเห็นว่ามีช่องใส่ถาดซิม เป็นแบบ Triple Slot ฝาหลังนั้นจะโค้งลงมาตรงขอบข้างๆเล็กน้อยเหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ทำให้จับถือได้ง่ายและเข้ากับมือได้มากกว่า
การออกแบบฝาหลังรูปทรงเรขาคณิตถูกใช้ครั้งแรกกับ realme C11 และในตัว realme C12 ยังคงต่อยอดจากแรงบันดาลใจเดิม โดยเผยในฝาหลังรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ที่ถูกไล่ระดับเป็น 3 เฉดสี ด้วยมุมและเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้เกิดเอฟเฟกต์สี และแสงที่แตกต่างกันจากแต่ละมุมมองของฝาหลัง โดยมี 2 สี ได้แก่ Marine Blue และ Coral Red แน่นอนว่าตัว ฝาหลังผ่านกระบวนการเคลือบและขัดพื้นผิวอย่างแม่นยำถึง 300 นาที โดยใช้เครื่องแกะสลักเรเดียม 5 แกนชั้นนำจากประเทศเยอรมัน เพื่อให้ได้เส้นแกะสลักที่มีความโค้งและเอฟเฟกต์แสงสะท้อนพิเศษ สีสันสวยงามน่าสัมผัส และ พร้อมป้องกันรอยนิ้วมือและขีดข่วน และที่ชอบคือตัวเลนส์ไม่ได้นูนออกมาด้วยครับ
กล้องหลังนั้นจะยังคงใช้งานการออกแบบกรอบสี่เหลี่ยมเหมือนกับรุ่นก่อนๆครับ และมาพร้อมกับการเพิ่มเลนส์กล้องเข้ามาอีก 1 ตัวที่มากกว่าเดิมที่เป็น 2 ตัวนั้นเอง เพราะได้เพิ่มเลนส์มาโครเข้ามาด้วยเช่นกันครับ ส่วนตัวกล้องหลักนั้นยังคงให้มาที่ ความละเอียด 13MP f/2.2 PDAF กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 Portrait กล้องตัวที่ 3 Super Macro 2MP f/2.4 ระยะ 4 เซนติเมตร พร้อมกับสแกนนิ้วมือในด้านหลังรองรับการสั่งงานถ่ายรูปได้
SPEC
- Android 10 ครอบทับด้วย realme UI
- จอ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ( 720 x 1600 พิกเซล), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 กระจก 2.5D Corning Gorilla Glass
- Mediatek Helio G35 + GPU Mali-GE8320
- RAM LPDDR4X RAM 3GB
- STORAGE 32GB เพิ่มหน่วยความจำได้
- กล้องหลัง ความละเอียด 13MP f/2.2 PDAF กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 Portrait กล้องตัวที่ 3 Super Macro 2MP f/2.4 ระยะ 4 เซนติเมตร // Super Nightscape + Portraitmode +Chroma Boost
- กล้องหน้า 5 MP f/2.0
- Wi-Fi 2.4GHz GPS A-GPS, GLONASS, BDS
- microUSB 2.0, USB On-The-Go , Reverse Charing
- มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม
- แบตเตอรี่ 6,000 mAh + 10W
- ขนาดตัวเครื่อง 164.5 x 75.9 x 9.8 มม. หนัก 209 กรัม
- สี Marine และ Coral Red
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพของรุ่นนี้ต้องบอกว่าไม่ได้หนีจากรุ่นก่อนหน้าเท่าไร เพราะในประเด็นหลักๆนั้นยังคงใช้งาน MTK G35 เช่นเดิม มาพร้อมกับ RAM 3GB STORAGE 32GB เท่ากันเลยนั้นเอง ทั้งนี้ในเรื่องคะแนนเลยไม่ได้มีจุดเปลี่ยนหรือแตกต่างกันมาก แต่จะเด่นที่แบตที่มากกว่าเดิมและใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิมนั้นเองที่เป็นจุดต่างทำให้การใช้งานนั้นมีอายุยาวนานขึ้นมาก ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้106225 คะแนน และ Geekbench ทำไปได้ 116/963 คะแนน และ ทางด้านการอ่านเขียนนั้นเป็น eMMC5.1 ทำได้.300 MB/s และ เขียน 89MB/s รองรับ Netflix SD L3 นะครับ
SYSTEM UI
realme UI นั้นเริ่มใส่เข้ามาแล้วในหลากหลายรุ่นพัฒนาขึ้นให้มีความแตกต่างความลื่นไหลและมีอนิเมชั่นมากกว่าเดิม รวมถึงยังคงอิงความเรียบง่ายที่จะไปคล้ายๆ Pure Android มากขึ้นครับ ในรุ่นนี้ยังใช้งานบนพื้นฐาน Android 10 และใช้ realme UI การแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอปอะไรปกติ ไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับสวยงามเลยหน้าตาเเหมือนรุ่นพี่ 7 Pro แบบเป๊ะๆ
หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมดเป็นวงกลม และ คลีนขึ้น การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปฟันเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็ม รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ
ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่าย ดีงามเลยแหละ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 32GB นั้นเหลือใช้งานได้ 19 หลังจากหักระบบออกไป และ RAM นั้นใช้งานเหลือ 971MB จาก 3 GB ครับ
Gesture นั้นยังมีมาให้ครบทั้งการวาด การใช้งานท่าทางต่างๆ และการสแกนใบหน้า สแกนนิ้วก็ให้มาครบเลย ส่วนทางด้าน Smart Sidebar แถบหน้าจอด้านข้างก็ รองรับการแชร์ไฟล์ที่เพิ่งเปิดขึ้นได้ เพิ่มเครื่องมือหรือแอปพลิเคชัน บันทึกหน้าจอในรูปแบบวิดีโอ และ จับภาพหน้าจอ รวมถึงการตั้งค่าการควบคุมหลักๆนั้นสามารถปรับใช้งานแบบเต็มจอหรือจะใช้งานแบบ 3 ปุ่มปกติสลับตำแหน่งได้ด้วย
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้