realme นั้นเปิดตัว realme C3 ไปเป็นที่เรียบร้อยสานต่อตัวคุ้มถูกสุดในค่าย และสเปคแน่นจัดเต็มเมื่อเทียบกับราคาของมัน และครั้งนี้เป็นครั้งแรกอีกแล้วที่ใส่กล้องหลังมาให้ 3 ตัวพร้อมกับใช้งาน CPU MTK G70 12nm ตัวล่าสุดแรงๆจัดเต็มเลยแหละ และในแง่ของการออกแบบก็เปลี่ยนแปลงพอสมควรครับ และใช้งานระบบหน้าตาใหม่ด้วยเป็นครั้งแรกแน่นอนว่ามันเลยทำให้น่าเล่นน่าสนใจอีกแล้วครับ กับคนที่มีงบไม่เยอะแต่อยากได้มือถือคุ้มๆอีกตัว แต่จากที่ลองนั้นต้องบอกว่าเรื่องกล้องทำได้ดีมากจริงๆนะ เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมและรุ่นก่อนหน้าอันนี้ค่อนข้างประทับใจเลย realme C3 เปิดตัวมาด้วยเป็นอะไรที่ครั้งแรกหลายเรื่องเหมือนกันครับ เช่นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในระดับราคาเดียวกัน ที่มาพร้อม กล้องหลัง 3 เลนส์ และยังเป็น รุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมขุมพลัง ชิปเซ็ต MediaTek Helio G70 Octa-Core ขนาด 12nm ความเร็ว 2.0GHz และเป็น สมาร์ทโฟน realme รุ่นแรกที่มาพร้อม realme UI ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android 10 แน่นอนว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเยอะมากแต่แปลกใจว่ามาในรุ่นเล็กสุดครับ
ในตัวของ realme C3 ด้านของสเปคนั้น มาพร้อมกับหน้าจอ มาพร้อมกับหน้าจอ 6.5 นิ้ว HD+ ( 720 x 1560 พิกเซล), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 ใช้งานหน้าจอกระจก Gorilla Glass 3 ด้วยนะพร้อมกับใช้งาน Mediatek Helio G70 (12 nm)+ GPU Mali-G52 2EEMC2 ร่วมกันกับ RAM 3 GB STORAGE 32GB EMMC 5.1 และ ใช้งานแบต 5,000 mAh พร้อมรองรับชาร์จ 10W ทั่วไปเลย รองรับ WIFI 2.4 GHz เท่านั้นและ ในส่วนของกล้องนั้น กล้องหลัง ความละเอียด 12 MP f/1.8 PDAF กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 Portrait + Super Macro 2 MP f/2.4 ระยะ 4 เซนติเมตร กล้องหน้า 5 MP f/2.4 พร้อมรองรับการถ่ายละลายหลัง HDR อะไรปกติเลยนั้นเองถือว่าจัดเต็มขึ้นมาก และด้วยราคาของมันเลยทำให้มันน่าสนใจเหมือนเดิม และการออกแบบฝาหลังแบบขึ้นลาย 3มิติเป็นเส้นๆโค้งสวยงามและเล่นกับแสงได้ดีรวมถึงทนทานต่อรอยขีดและกันละอองน้ำด้วยนะ
realme c3 เปิดราคามาที่ 3,999 บาทไทย มาพร้อม Blazing Red / Frozen Blue ในสเปค RAM 3 GB STORAGE 32 GB MTK G70
UNBOX
ตัวกล่องในครั้งนี้มาพร้อมกับสีเหลืองสะใจเช่นเดิมใช้ตัวอักษรปกติในด้านหน้า และ ด้านข้างแทน และด้านหลังนั้นจะบอกว่ามีฟีเจอร์อะไรบ้าง และขนาดกล่องอะไรมีมาเหมือนเดิมแต่เคสในรุ่นนี้จะไม่มีแถมมาให้แล้วนะครับ เหมือนกับ 5i ก็จะไม่มีเคสแถมมาแล้วเช่นกันแอบเสียดายเหมือนกันนะ แต่ฟิล์มกันรอยหน้าจอยังคงมีมาให้อยู่เช่นเดิมครับผม
- ตัวเครื่อง realme C3
- ฟิล์มกันรอย ติดมาให้แล้วบนหน้าจอ
- สายชาร์จแบบ Micro-USB
- หัวชาร์จ ขาแบน ขา รองรับ 10W
- ตัวคู่มือ และ ที่จิ้มซิม
- ไม่มีเคสแถมแล้วนะครับ !
DESIGN
งานออกแบบ มีการเปลี่ยนแปลงพอสมควรถ้าเทียบกับ C2 เปลี่ยนทั้งตำแหน่งการวางกล้อง ดีไซน์ฝาหลัง และจำนวนกล้องด้วยถือว่าเปลี่ยนแปลงเยอะมากครับ และกล้องอะไรใส่เข้ามาเยอะขึ้น ฝาหลังแบบใหม่ทนทานขึ้น เล่นกับแสงได้สวยขึ้น แบบเดียวกับ 5i เลยและแน่นอนว่าการปรับมาใช้งานแบบนี้อาจจะดูไม่หรูมากนักแต่ที่เด่นๆคือความทนทานต่อรอยขนแมว รอยขูดขีดและการรักษานั้นง่ายมากอีกทั้ง ลวดลายโทนสีแดงสดก็ถือว่าทำได้ดีมีลูกเล่นแสงจากมุมซ้ายบนและโค้งเว้าสวยงามครับ แต่ที่ชอบคือสีแดงมันสด เด่นและอิ่มมาก พร้อมมีเส้นเงาสวยงามเลยแหละ และแน่นอนว่ารองรับคุณสมบัติป้องกันน้ำกระเซ็นได้ด้วย
หน้าจอใช้งาน IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ( 720 x 1560 พิกเซล), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 พร้อมติ่งหยดน้ำและใช้งานกระจก Gorilla Glass 3 ด้วยนะครับถือว่าโอเคเลยแหละ และมีฟิล์มติดมาให้แล้วเช่นกัน
ในส่วนขอบล่างหน้าจอนั้นปุ่มควบคุมนั้นจะอยู่ในหน้าจอ สามารถใช้งานเต็มหน้าจอได้แบบไม่มีปุ่มนะครับ ส่วนขอบข้างๆนั้นก็ทำได้บางพอๆกับรุ่นก่อนหน้านี้เลยครับ แต่จะหนากว่าตัว 5 และ 3 เมื่อลองเทียบกัน
หน้าจอขอบบนนั้นเป็นแบบเดิมครับมาพร้อมกล้องหน้า พร้อมติ่งหยดน้ำ และมีการแทรกเซนเซอร์ไว้ข้างๆกล้อง รวมถึงขอบลำโพงอยู่เหนือกล้องหน้า กล้องหน้าให้มาที่ 5MP รูรับแสง f/2.4 ครับเป็นปกติของรุ่นตระกูล C
ในขอบเครื่องด้านข้างขวานั้นจะเป็นที่อยู่ของปุ่ม Power อย่างเดียวนะครับและจะเห็นว่าตัวกล้องนั้นนูนออกมาพอสมควร แต่ตัวเครื่องก็ทำได้บางเช่นกัน ส่วนสีขอบเครื่องนั้นจะเป็นสีเดียวกัน แต่จะแตกต่างกับรุ่นปกติเพราะว่า มีการเล่นรูปทรงรอบๆปุ่มนิดหน่อยเป็นทำมุม เหลี่ยมครับและมีการตัดเส้นขอบข้างเครื่องนิดหน่อย คล้ายๆตัว 5i นั้นเอง
ในส่วนของด้านบนนั้นไม่มีรูไมค์ตัดเสียงมาให้ครับเป็นสีแดงสดแบบเดียวกับข้างหลังแต่ไม่มีลวดลาย ส่วนวัสดุขอบเครื่องทั้งหมดจะเป็นพลาสติกด้านครับผม แต่ฝาหลังนั้นจะยังโค้งมารับมือเหมือนกับรุ่น Pro อยู่เหมือนเดิมนิดๆครับ
ในส่วนของด้านซ้ายนั้นจะเห็นว่าตัวเครื่องมี ปุ่มเพิ่มลดเสียง และ ช่องใส่ถาดซิมครับเป็นแบบ Triple Slot ฝาหลังนั้นจะโค้งลงมาตรงขอบข้างๆเล็กน้อยครับเหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ทำให้จับถือได้ง่ายและเข้ากับมือได้มากกว่า
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเป็น ลำโพงหลัก ช่อง Micro-USB 2.0 และ รูไมค์ 2 ตัว รวมถึงรูหูฟัง 3.5 มม. นั้นยังอยู่นะครับ ดีไซน์ Layout ต่างๆยังคงเหมือนกับรุ่นอื่นๆครับ
ฝาหลังในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกับ 5i แต่จะเล่นแสงเงามาที่มุมกล้องด้านบนแทนครับ และมีสีแดงสดเข้ามา ใช้ฝาแบบด้านๆเป็นลวดลายพลาสติกแบบโค้งไปมาคล้ายๆกับคลื่นแสงอะไรพวกนั้นครับ ข้อดีคือเป็นรอยได้ยากมากและใช้นานๆไม่เป็นรอย ดีกว่า C1 C2 ที่ฝาหลังเป็นรอยได้ง่ายมาก ส่วนตัวนั้นชอบแบบนี้มากกว่าเยอะเลยครับ แต่ความรู้สึกอาจจะไม่ได้พรีเมี่ยมเท่ากับรุ่นก่อน การทำลอยขีดๆนั้นจะเป็นการออกแบบ มีการขัดมันและแกะสลักเรเดียมโดยเครื่องจักรที่มีความแม่นยำแบบห้าแกนจากประเทศเยอรมนี และมีการขัดเงากว่า 600 นาที ดูใกล้ๆแล้วงานคมละเอียดพอสมควรแต่ดูไกลๆจะเห็นไม่ชัดมานักครับ แต่เหมือนกับแสงเวลาส่องเจอเงาจริงๆนะสวยงามดีครับ
กล้องหลังในรุ่นนี้นั้นจะมีมาให้ 3 ตัว แตกต่างกับเพื่อนบ้านนิดหน่อยเพราะถ้าที่อื่นอาจจะมี 2 กล้องครับ ในส่วนของสเปคนั่นมาพร้อมกับ กล้องหลัง ความละเอียด 12 MP f/1.8 PDAF กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 Portrait + Super Macro 2 MP f/2.4 ระยะ 4 เซนติเมตร รองรับการซูมได้ 4X Digital และทำได้ดีเลยแหละ
SPEC
- Android 10 ครอบทับด้วย realme UI 1.0 ครั้งแรกของ realme
- จอ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ( 720 x 1560 พิกเซล), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9
- Mediatek Helio G70 (12 nm)+ GPU Mali-G52 2EEMC2
- RAM LPDDR4X RAM 3GB
- STORAGE 32GB เพิ่มหน่วยความจำได้
- กล้องหลัง ความละเอียด 12 MP f/1.8 PDAF กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 Portrait + Super Macro 2 MP f/2.4 ระยะ 4 เซนติเมตร
- กล้องหน้า 5 MP f/2.4
- Wi-Fi 2.4GHz GPS A-GPS, GLONASS, BDS
- micro USB 2.0, USB On-The-Go
- มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม
- แบตเตอรี่ 5000 mAh + 10W
- ขนาดตัวเครื่อง 164.4 x 75 x 9 มม. หนัก 195 กรัม
PERFORMANCE
ในส่วนของประสิทธิภาพรุ่นนี้ใช้งาน MTK HELIO G70 ตัวแรกเป็น CPU ที่ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาพร้อมสถาปัตยกรรม 12nm และ RAM 3 GB ความจุขนาด 32 GB ส่วนคะแนนจากที่ทดสอบนั้นทำไปได้ที่ 180K จริงๆคะแนนนั้นแรงกว่า realme 5 อีกนะเกินหน้าเกินตามากกก เทียบกับ Snapdragon แล้วอยู่ประมาณ Snapdragon 660 หรือ Snapdragon 665 ได้เลย ในด้านของหน่วยความจำตัวนี้แน่นอนว่าเป็นรุ่นที่ไม่แพงมากนักก็ยังคงใช้งาน EMMC 5.1 อยู่ครับแน่นอนว่าตามเรทราคาของมันก็จะได้ประมาณนี้ในการอ่านเขียนจะทำไปได้ที่ 292 และ เขียน 171 ครับผม ในการใช้งานทั่วไปก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับถือว่ารับได้ในมือถือเรทราคา 3-4 พันประมาณนี้ตามระดับของมันใช้งานทั่วไปสบายๆแล้วเหลือๆเล่นเกมสบายๆเเน่นอน
SYSTEM UI — REALME UI
รุ่นนี้หน้าตาระบบรุ่นนี้มีการปรับปรุงจาก realme รุ่นก่อนๆก็คือในรุ่นนี้จะไม่ได้ครอบทับด้วย ColorOS อีกต่อจากมาพร้อมกับ realme UI 1 แต่น่าตาโดยรวมก็ยังคงเหมือนกับ ColorOS อยู่นั่นละ รุ่นนี้มาพร้อมกับ Android 10 มาให้ในกล่อง การตั้งค่า การใช้งานทั่วไป แต่หน้าหลักๆนั้นยังคงมีมาคล้ายๆเดิมครับการแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอปอะไรปกติครับไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับ แต่แอปติดเครื่องยังมีมาเยอะพอสมควร พวกแอพนอกเหนือจาก Google ครับ และ App Drawer เลือกเปิดปิดได้ครับ และมี DARK MODE มาให้ใช้งานกันเหมือนภาพข้างบนทำให้ในหลายๆแอปนั้นเป็นธีมสีดำทั้งหมดเลยสวยและสบายตา
หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมดเป็นวงกลมแล้ว จากที่เป็นสี่เหลี่ยมก่อนหน้า การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปฟันเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็มครับ รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ
ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่ายและเสถียรมากๆ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 32GB นั้นเหลือใช้งานได้ 20GB หลังจากหักระบบออกไป และ RAM 3 GB ครับ
[SR] รีวิว realme C3 กล้อง 3 เลนส์จัดเต็ม พร้อม MTK G70 แบต5,000mAh !
realme นั้นเปิดตัว realme C3 ไปเป็นที่เรียบร้อยสานต่อตัวคุ้มถูกสุดในค่าย และสเปคแน่นจัดเต็มเมื่อเทียบกับราคาของมัน และครั้งนี้เป็นครั้งแรกอีกแล้วที่ใส่กล้องหลังมาให้ 3 ตัวพร้อมกับใช้งาน CPU MTK G70 12nm ตัวล่าสุดแรงๆจัดเต็มเลยแหละ และในแง่ของการออกแบบก็เปลี่ยนแปลงพอสมควรครับ และใช้งานระบบหน้าตาใหม่ด้วยเป็นครั้งแรกแน่นอนว่ามันเลยทำให้น่าเล่นน่าสนใจอีกแล้วครับ กับคนที่มีงบไม่เยอะแต่อยากได้มือถือคุ้มๆอีกตัว แต่จากที่ลองนั้นต้องบอกว่าเรื่องกล้องทำได้ดีมากจริงๆนะ เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมและรุ่นก่อนหน้าอันนี้ค่อนข้างประทับใจเลย realme C3 เปิดตัวมาด้วยเป็นอะไรที่ครั้งแรกหลายเรื่องเหมือนกันครับ เช่นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในระดับราคาเดียวกัน ที่มาพร้อม กล้องหลัง 3 เลนส์ และยังเป็น รุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมขุมพลัง ชิปเซ็ต MediaTek Helio G70 Octa-Core ขนาด 12nm ความเร็ว 2.0GHz และเป็น สมาร์ทโฟน realme รุ่นแรกที่มาพร้อม realme UI ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android 10 แน่นอนว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเยอะมากแต่แปลกใจว่ามาในรุ่นเล็กสุดครับ
ในตัวของ realme C3 ด้านของสเปคนั้น มาพร้อมกับหน้าจอ มาพร้อมกับหน้าจอ 6.5 นิ้ว HD+ ( 720 x 1560 พิกเซล), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 ใช้งานหน้าจอกระจก Gorilla Glass 3 ด้วยนะพร้อมกับใช้งาน Mediatek Helio G70 (12 nm)+ GPU Mali-G52 2EEMC2 ร่วมกันกับ RAM 3 GB STORAGE 32GB EMMC 5.1 และ ใช้งานแบต 5,000 mAh พร้อมรองรับชาร์จ 10W ทั่วไปเลย รองรับ WIFI 2.4 GHz เท่านั้นและ ในส่วนของกล้องนั้น กล้องหลัง ความละเอียด 12 MP f/1.8 PDAF กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 Portrait + Super Macro 2 MP f/2.4 ระยะ 4 เซนติเมตร กล้องหน้า 5 MP f/2.4 พร้อมรองรับการถ่ายละลายหลัง HDR อะไรปกติเลยนั้นเองถือว่าจัดเต็มขึ้นมาก และด้วยราคาของมันเลยทำให้มันน่าสนใจเหมือนเดิม และการออกแบบฝาหลังแบบขึ้นลาย 3มิติเป็นเส้นๆโค้งสวยงามและเล่นกับแสงได้ดีรวมถึงทนทานต่อรอยขีดและกันละอองน้ำด้วยนะ
realme c3 เปิดราคามาที่ 3,999 บาทไทย มาพร้อม Blazing Red / Frozen Blue ในสเปค RAM 3 GB STORAGE 32 GB MTK G70
UNBOX
ตัวกล่องในครั้งนี้มาพร้อมกับสีเหลืองสะใจเช่นเดิมใช้ตัวอักษรปกติในด้านหน้า และ ด้านข้างแทน และด้านหลังนั้นจะบอกว่ามีฟีเจอร์อะไรบ้าง และขนาดกล่องอะไรมีมาเหมือนเดิมแต่เคสในรุ่นนี้จะไม่มีแถมมาให้แล้วนะครับ เหมือนกับ 5i ก็จะไม่มีเคสแถมมาแล้วเช่นกันแอบเสียดายเหมือนกันนะ แต่ฟิล์มกันรอยหน้าจอยังคงมีมาให้อยู่เช่นเดิมครับผม
- ตัวเครื่อง realme C3
- ฟิล์มกันรอย ติดมาให้แล้วบนหน้าจอ
- สายชาร์จแบบ Micro-USB
- หัวชาร์จ ขาแบน ขา รองรับ 10W
- ตัวคู่มือ และ ที่จิ้มซิม
- ไม่มีเคสแถมแล้วนะครับ !
DESIGN
งานออกแบบ มีการเปลี่ยนแปลงพอสมควรถ้าเทียบกับ C2 เปลี่ยนทั้งตำแหน่งการวางกล้อง ดีไซน์ฝาหลัง และจำนวนกล้องด้วยถือว่าเปลี่ยนแปลงเยอะมากครับ และกล้องอะไรใส่เข้ามาเยอะขึ้น ฝาหลังแบบใหม่ทนทานขึ้น เล่นกับแสงได้สวยขึ้น แบบเดียวกับ 5i เลยและแน่นอนว่าการปรับมาใช้งานแบบนี้อาจจะดูไม่หรูมากนักแต่ที่เด่นๆคือความทนทานต่อรอยขนแมว รอยขูดขีดและการรักษานั้นง่ายมากอีกทั้ง ลวดลายโทนสีแดงสดก็ถือว่าทำได้ดีมีลูกเล่นแสงจากมุมซ้ายบนและโค้งเว้าสวยงามครับ แต่ที่ชอบคือสีแดงมันสด เด่นและอิ่มมาก พร้อมมีเส้นเงาสวยงามเลยแหละ และแน่นอนว่ารองรับคุณสมบัติป้องกันน้ำกระเซ็นได้ด้วย
หน้าจอใช้งาน IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ( 720 x 1560 พิกเซล), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 พร้อมติ่งหยดน้ำและใช้งานกระจก Gorilla Glass 3 ด้วยนะครับถือว่าโอเคเลยแหละ และมีฟิล์มติดมาให้แล้วเช่นกัน
ในส่วนขอบล่างหน้าจอนั้นปุ่มควบคุมนั้นจะอยู่ในหน้าจอ สามารถใช้งานเต็มหน้าจอได้แบบไม่มีปุ่มนะครับ ส่วนขอบข้างๆนั้นก็ทำได้บางพอๆกับรุ่นก่อนหน้านี้เลยครับ แต่จะหนากว่าตัว 5 และ 3 เมื่อลองเทียบกัน
หน้าจอขอบบนนั้นเป็นแบบเดิมครับมาพร้อมกล้องหน้า พร้อมติ่งหยดน้ำ และมีการแทรกเซนเซอร์ไว้ข้างๆกล้อง รวมถึงขอบลำโพงอยู่เหนือกล้องหน้า กล้องหน้าให้มาที่ 5MP รูรับแสง f/2.4 ครับเป็นปกติของรุ่นตระกูล C
ในขอบเครื่องด้านข้างขวานั้นจะเป็นที่อยู่ของปุ่ม Power อย่างเดียวนะครับและจะเห็นว่าตัวกล้องนั้นนูนออกมาพอสมควร แต่ตัวเครื่องก็ทำได้บางเช่นกัน ส่วนสีขอบเครื่องนั้นจะเป็นสีเดียวกัน แต่จะแตกต่างกับรุ่นปกติเพราะว่า มีการเล่นรูปทรงรอบๆปุ่มนิดหน่อยเป็นทำมุม เหลี่ยมครับและมีการตัดเส้นขอบข้างเครื่องนิดหน่อย คล้ายๆตัว 5i นั้นเอง
ในส่วนของด้านบนนั้นไม่มีรูไมค์ตัดเสียงมาให้ครับเป็นสีแดงสดแบบเดียวกับข้างหลังแต่ไม่มีลวดลาย ส่วนวัสดุขอบเครื่องทั้งหมดจะเป็นพลาสติกด้านครับผม แต่ฝาหลังนั้นจะยังโค้งมารับมือเหมือนกับรุ่น Pro อยู่เหมือนเดิมนิดๆครับ
ในส่วนของด้านซ้ายนั้นจะเห็นว่าตัวเครื่องมี ปุ่มเพิ่มลดเสียง และ ช่องใส่ถาดซิมครับเป็นแบบ Triple Slot ฝาหลังนั้นจะโค้งลงมาตรงขอบข้างๆเล็กน้อยครับเหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ทำให้จับถือได้ง่ายและเข้ากับมือได้มากกว่า
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเป็น ลำโพงหลัก ช่อง Micro-USB 2.0 และ รูไมค์ 2 ตัว รวมถึงรูหูฟัง 3.5 มม. นั้นยังอยู่นะครับ ดีไซน์ Layout ต่างๆยังคงเหมือนกับรุ่นอื่นๆครับ
ฝาหลังในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกับ 5i แต่จะเล่นแสงเงามาที่มุมกล้องด้านบนแทนครับ และมีสีแดงสดเข้ามา ใช้ฝาแบบด้านๆเป็นลวดลายพลาสติกแบบโค้งไปมาคล้ายๆกับคลื่นแสงอะไรพวกนั้นครับ ข้อดีคือเป็นรอยได้ยากมากและใช้นานๆไม่เป็นรอย ดีกว่า C1 C2 ที่ฝาหลังเป็นรอยได้ง่ายมาก ส่วนตัวนั้นชอบแบบนี้มากกว่าเยอะเลยครับ แต่ความรู้สึกอาจจะไม่ได้พรีเมี่ยมเท่ากับรุ่นก่อน การทำลอยขีดๆนั้นจะเป็นการออกแบบ มีการขัดมันและแกะสลักเรเดียมโดยเครื่องจักรที่มีความแม่นยำแบบห้าแกนจากประเทศเยอรมนี และมีการขัดเงากว่า 600 นาที ดูใกล้ๆแล้วงานคมละเอียดพอสมควรแต่ดูไกลๆจะเห็นไม่ชัดมานักครับ แต่เหมือนกับแสงเวลาส่องเจอเงาจริงๆนะสวยงามดีครับ
กล้องหลังในรุ่นนี้นั้นจะมีมาให้ 3 ตัว แตกต่างกับเพื่อนบ้านนิดหน่อยเพราะถ้าที่อื่นอาจจะมี 2 กล้องครับ ในส่วนของสเปคนั่นมาพร้อมกับ กล้องหลัง ความละเอียด 12 MP f/1.8 PDAF กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 Portrait + Super Macro 2 MP f/2.4 ระยะ 4 เซนติเมตร รองรับการซูมได้ 4X Digital และทำได้ดีเลยแหละ
SPEC
- Android 10 ครอบทับด้วย realme UI 1.0 ครั้งแรกของ realme
- จอ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ( 720 x 1560 พิกเซล), อัตราส่วนหน้าจอ 20:9
- Mediatek Helio G70 (12 nm)+ GPU Mali-G52 2EEMC2
- RAM LPDDR4X RAM 3GB
- STORAGE 32GB เพิ่มหน่วยความจำได้
- กล้องหลัง ความละเอียด 12 MP f/1.8 PDAF กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 2 MP f/2.4 Portrait + Super Macro 2 MP f/2.4 ระยะ 4 เซนติเมตร
- กล้องหน้า 5 MP f/2.4
- Wi-Fi 2.4GHz GPS A-GPS, GLONASS, BDS
- micro USB 2.0, USB On-The-Go
- มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม
- แบตเตอรี่ 5000 mAh + 10W
- ขนาดตัวเครื่อง 164.4 x 75 x 9 มม. หนัก 195 กรัม
PERFORMANCE
ในส่วนของประสิทธิภาพรุ่นนี้ใช้งาน MTK HELIO G70 ตัวแรกเป็น CPU ที่ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาพร้อมสถาปัตยกรรม 12nm และ RAM 3 GB ความจุขนาด 32 GB ส่วนคะแนนจากที่ทดสอบนั้นทำไปได้ที่ 180K จริงๆคะแนนนั้นแรงกว่า realme 5 อีกนะเกินหน้าเกินตามากกก เทียบกับ Snapdragon แล้วอยู่ประมาณ Snapdragon 660 หรือ Snapdragon 665 ได้เลย ในด้านของหน่วยความจำตัวนี้แน่นอนว่าเป็นรุ่นที่ไม่แพงมากนักก็ยังคงใช้งาน EMMC 5.1 อยู่ครับแน่นอนว่าตามเรทราคาของมันก็จะได้ประมาณนี้ในการอ่านเขียนจะทำไปได้ที่ 292 และ เขียน 171 ครับผม ในการใช้งานทั่วไปก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับถือว่ารับได้ในมือถือเรทราคา 3-4 พันประมาณนี้ตามระดับของมันใช้งานทั่วไปสบายๆแล้วเหลือๆเล่นเกมสบายๆเเน่นอน
SYSTEM UI — REALME UI
รุ่นนี้หน้าตาระบบรุ่นนี้มีการปรับปรุงจาก realme รุ่นก่อนๆก็คือในรุ่นนี้จะไม่ได้ครอบทับด้วย ColorOS อีกต่อจากมาพร้อมกับ realme UI 1 แต่น่าตาโดยรวมก็ยังคงเหมือนกับ ColorOS อยู่นั่นละ รุ่นนี้มาพร้อมกับ Android 10 มาให้ในกล่อง การตั้งค่า การใช้งานทั่วไป แต่หน้าหลักๆนั้นยังคงมีมาคล้ายๆเดิมครับการแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอปอะไรปกติครับไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับ แต่แอปติดเครื่องยังมีมาเยอะพอสมควร พวกแอพนอกเหนือจาก Google ครับ และ App Drawer เลือกเปิดปิดได้ครับ และมี DARK MODE มาให้ใช้งานกันเหมือนภาพข้างบนทำให้ในหลายๆแอปนั้นเป็นธีมสีดำทั้งหมดเลยสวยและสบายตา
หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมดเป็นวงกลมแล้ว จากที่เป็นสี่เหลี่ยมก่อนหน้า การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปฟันเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็มครับ รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ
ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่ายและเสถียรมากๆ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 32GB นั้นเหลือใช้งานได้ 20GB หลังจากหักระบบออกไป และ RAM 3 GB ครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้