เสียใจได้แต่ไม่นาน! “แสตมป์” เผยแนวคิดพิชิตความผิดหวัง

กับประโยคสุดคลาสสิกที่ว่า “การเป็นแชมป์ว่ายากแล้ว แต่การรักษาแชมป์นั้นยากกว่า” ยังคงเป็นคำพูดที่ใช้ได้เสมอ ไม่ว่าจะกับใคร ที่ไหน และเมื่อไหร่ก็ตาม เพราะเปรียบกับสัจธรรมที่เกิดขึ้นจริงของทุกสังเวียนการแข่งขันบนโลกใบนี้
เช่นเดียวกับ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” มวยสาวตัวแม่ของเมืองไทย ที่ครั้งหนึ่งเคยไต่ไปถึงแชมป์โลกหญิงสองประเภทกีฬาการต่อสู้ คนแรกในประวัติศาสตร์ของ วัน แชมเปียนชิพ ซึ่ง ณ ตอนนี้ กลายเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญของชีวิตที่ แสตมป์ จะต้องลุกขึ้นอีกครั้ง เพื่อทวงคืนความสำเร็จกลับมาให้ได้นั่นเอง
 
ย้อนกลับไปในศึก ONE: KINGDOM OF HEROES เมื่อเดือนตุลาคมปี 2561 แสตมป์ ประกาศศักดาความยิ่งใหญ่บนสังเวียน ด้วยการกำราบ “ไค่ ถิง ฉวง” แชมป์โลกสาวชาวไต้หวัน กระชากเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต มาครองได้สำเร็จ
จากนั้นสาวน้อยวัย 22 ปีจากระยอง ก็ใช้เวลาอีกไม่นาน กระชากเข็มขัดเส้นที่สองมาครองได้สำเร็จ คว้าชัยเหนือ “เจเน็ต ท็อดด์” คู่ปรับสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน คว้าแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต ในศึก ONE: CALL TO GREATNESS ได้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562
 
 คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสตมป์ vs เจเน็ต ท็อดด์ II
 
พอเข้าสู่ปี 2563 ดูเหมือนว่าอะไรหลายอย่างจะไม่เข้าที่เข้าทางมากนักเมื่อ แสตมป์ จำต้องเสียแชมป์ไปพร้อมกันทั้งสองกติกาในปีเดียวกัน หลังโดน เจเน็ต ท็อดด์ คู่ปรับเก่าเจ้าเดิมกลับมาชำระแค้น กระชากเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง แล้วอีก 6 เดือนให้หลังในศึก ONE: A NEW BREED เธอก็ต้องเสียเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย ให้กับนักชกแซมบ้าสาวดาวรุ่ง “อัลลิเซีย เฮลเลน รอดริเกส” ไปชนิดหักปากกาเซียนระนาว
อย่างไรก็ตาม การจมปลักอยู่กับความล้มเหลวมิใช่สิ่งที่ แสตมป์ นิยมชมชอบมากนัก เพราะถึงแม้ว่าการสลัดความเสียใจออกจากชีวิตอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนดีดนิ้ว แต่ชีวิตต้องก้าวต่อไปให้ได้ นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสตมป์ vs อัลลิเซีย เฮลเลน รอดริเกส
 
“บางทีการก้าวข้ามความเสียใจ มันก็ไม่ง่ายอย่างที่เราคิดค่ะ เหมือนอย่างตอนเสียแชมป์เส้นแรก มันก็เป็นเหมือนปมอะไรในใจว่า ทำไมวันนั้นเราไม่ทำแบบนั้น ไม่ทำแบบนี้นะ เกิดคำถามในใจตลอดว่าทำไม ที่นี้เราก็ต้องกลับมาคิดว่า ไม่เป็นไร เราต้องเดินหน้าต่อไปให้ได้ค่ะ”
“ถามว่าเสียใจนานไหม มันก็ต้องนานอยู่แล้วค่ะ เหมือนไฟต์ล่าสุดที่แพ้ สองวันแรกเราไม่ออกจากห้องเลยนะ ไม่กินข้าว ไม่ทำอะไรสักอย่าง นั่งคิดอยู่คนเดียวว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ จนสุดท้าย ก็ต้องออกมาเจอกับโลกภายนอก และบอกตัวเองว่า สู้นะ เราต้องสู้ต่อไปค่ะ”
 
นักมวยปากไม่แดงไม่มีแรงชก ให้เครดิตกับคนรอบข้างทั้งครอบครัวและต้นสังกัดอย่างค่ายมวย “แฟร์เท็กซ์” ที่มีส่วนสำคัญในการส่งพลังใจให้กับเธอโดยตรง เพื่อก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคงในภายภาคหน้า
“สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้เราเดินต่อไปได้ คือกำลังใจค่ะ ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากการสนับสนุนของค่ายแฟร์เท็กซ์ และ วัน แชมเปียนชิพ ด้วยเช่นกันค่ะ”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่