OPPO นั้นเปิดตัวบรรดามือถือที่รองรับ 5G ในไทยแบบจัดเต็มไปไม่นานมานี้มีในหลากหลายรุ่น หลากหลายเรทราคาเน้นๆเพื่อการรองรับการใช้งานในอนาคตแน่นอนครับ OPPO 5G ซีรีสเปิดตัวมาด้วยกันทั้งหมด 3 ตัวที่รองรับ 5G มาด้วยกันทั้งหมดเลย แต่ที่น่าสนใจคือน้องเล็กสุดที่รองรับ 5G ถือว่าเป็นรุ่นที่ออกมาใหม่ทั้งเรื่องของหน้าตา และสเปคที่ให้มาด้วยเช่นกันในตัว Oppo Reno4 Z 5G เป็นน้องเล็กสุดที่เปิดตัวมารองรับการใช้งาน 5G ซึ่งมีการออกแบบหหน้าตาใหม่สวยงาม และใช้งานเทคโนโลยีใหม่คือ CPU MTK Dimensity 800 และยังมาพร้อมกับการใช้งานหน้าจอ 120Hz Silky Display และแน่นอนว่ากล้องหลังยังคงจัดเต็ม 4 ตัวพร้อมกับเลนส์หลัก 48MP ถือว่ามีความน่าสนใจอยู่เหมือนกันสำหรับ OPPO Reno4 Z 5G รุ่นนี้ในงบหมื่นต้นๆของทางค่ายและรองรับการใช้งาน 5G รองรับเครือข่าย ได้สองโหมด ทั้ง SA / NSA ถือว่าพร้อมใช้งานเลยในไทยครับ
OPPO Reno4 Z 5G เปิดตัวมาพร้อมกับการใช้งาน CPU ตัวใหม่ล่าสุดของ MTK คือตัว MTK Dimensity 800 รองรับการใช้งาน 5G พร้อมใช้งานทันทีตั้งแต่เปิดกล่องเลยทีเดียว และใช้งาน RAM 8GB LPDDR4X STORAGE 128GB UFS 2.1 แต่ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำอะไรได้นะครับไม่รองรับ Micro-SD และทางด้านหน้าจอนั้นถือว่าเป็นจุดเด่นๆเพราะให้มาที่ 120Hz เลยนั้นเอง หน้าจอใช้งานหน้าจอ LTPS LCD นะครับ พร้อมกับขนาดหน้าจอ 6.57 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400×1080 พิกเซล) อัตรา Refresh Rate ที่ 120Hz ให้ความสว่างสูงสุด 480 นิต ใช้งานกระจก Gorilla Glass 3 ส่วนทางด้าน กล้องหน้านั้นให้มา 2 ตัวรองรับการใช้งาน จับระยะ ตัวหลักใช้งาน 16MP F2.0 และเลนส์จับระยะ 2MP F2.4 พร้อมกับใช้งานกล้องหลัง 4 เลนส์ ออกแบบสวยงาม มาพร้อมกับ เลนส์หลัก 48MP F1.7 / เลนส์ Ultra-Wide มุมมอง 119 องศา 8 MP F2.4 / Portrait ขาวดำ 2 MP F2.4 / Portrait วินเทจ ด 2 MP F2.4 และทางด้าน แบตเตอร์รี่นั้นให้มา 4,000 mAh รองรับการชาร์จไว 18W และ ยังคงมีรู 3.5 มม. ใส่เข้ามาให้รองรับระบบเสียง Hi-Res เช่นกันครับ ส่วนการเชื่อมต่ออื่นๆนั้นรองรับเป็นมาตรฐานใหม่ทั้งหมดเลยนั้นเอง
OPPO Reno4 Z 5G เปิดตัวในไทยมาพร้อมกับ สเปค RAM 8GB / STORAGE 128GBราคา 12,990 บาทพร้อมกับสี Dew White และ Ink Black
UNBOX
- ตัวเครื่อง OPPO Reno4 Z 5G
- เคส OPPO Reno4 Z 5G แบบ TPU ใส
- Adaptor ชาร์จ 18W Fast Charge
- สาย USB-C
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
- หูฟัง OPPO Earbuds 3.5 มม.
- ฟิล์มกันรอยติดตั้งมาให้จากโรงงาน
ตัวเคสที่แถมมานั้นต้องบอกว่ายังคงเป็นเคสใสนิ่มปกติครับ พร้อมกับคลุมทั้งตัวเครื่องด้านหลังทั้งหมด ส่วนขอบเครื่องในส่วนหน้าจอนั้นทั้ง 4 มุมมีการนูนขึ้นมาปกป้องหน้าจอ รวมถึงมีเว้าตรงขอบลำโพงด้านบน ความหนาของเคสกลางๆกำลังดีครับไม่ได้ทำให้ตัวเครื่องหนักเกินไป และ ไม่ได้หนาเกินจำเป็นด้วยครับ ตัวเคสนั้นในเรื่องของตามขอบกล้องและหน้าจอสามารถครอบคลุมได้ทั้งหมดในส่วนของด้านหน้านั้นจะมีขอบเครื่องทั้ง 4 มุมโผล่ขึ้นมาทำให้ปกป้องได้ดีเวลาวางหน้าคว่ำครับ และช่วยในการตกกระแทกได้ดีเป็นเคสแถมที่ดี แต่ในเรื่องของงานออกแบบยังเป็นเรียบๆไม่ได้ใช้วัสดุพิเศษแบบรุ่นก่อนรวมถึง ตัวกล้องหลังนั้นตัวเคสไม่ได้คลุมมาเกินตัวเลนส์เท่าไรครับ
DESIGN
งานออกแบบทาง OPPO Reno4 Z 5G รุ่นนี้มาพร้อมกับออกแบบใหม่ทั้งหมดในด้านหลังซึ่งเราจะเห็นในรุ่นนี้เป็นครั้งแรกเลยทีเดียวและมีความแปลกใหม่พอสมควรกับการวางเลนส์กล้องข้างในแบบเฉียงและครอบทับด้วย 4 เหลี่ยมสีดำทำให้เป็นโมดูลเดียวกันมากขึ้น และฝาหลังแบบด้านเล่นแสงสีรุ้งเวลาเจอแสงแดดได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวครับ และตัวเครื่องบางแค่ 8.1 มม.เท่านั้นพร้อมกับเลนส์กล้องดีไซน์ไม่นูนมากนักอีกทั้งมาพร้อมกระจกแบบ 2.5D ด้วยและที่สำคัญการแสกนนิ้วนั้นจะย้ายไปด้านข้างตรงปุ่มเปิดปิดเครื่องทำให้ฝาหลังนั้นเรียบเนียนและใช้งานง่ายขึ้นครับ
หน้าจอในรุ่นนี้ยังคงการออกแบบเป็นหน้าจอแบบ Dual Punch-hole Display เจาะรูตรงมุมซ้าย 2 ตำแหน่งครับ เป็นกล้องหน้าทั้งคู่ และใช้หน้าจอแบบ ขนาด LPTS LCD ขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด FHD+ มีฟิล์มกันรอยติดมาให้เรียบร้อยพร้อมใช้งานเลยครับ ถือว่าออกแบบสวยและขอบบางเช่นเดิมเลยในรุ่นนี้ครับแม้จะเป็นรุ่นน้องก็ตาม
หน้าจอ ขอบล่างนั้นจะเห็นว่ามีความหนากว่าด้านอื่นๆเป็นปกติของบรรดามือถือในเรทนี้ครับ พร้อมกับการควบคุมแบบ 3 ปุ่มนำทางและใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้ตามสบายเลย
หน้าจอขอบบนนั้นเราจะเห็นว่ายังคงความบางได้เท่ากันทั้งหมดและตรงกล้องหน้า ลำโพงเซนเซอร์อื่นๆยังคงฝังไว้ตรงขอบด้านบนเช่นเดิมเลย กล้องหน้าให้มาเน้นๆที่ 16MP f/2.0 ครับ และ 2MP F2.4 ในรุ่นนี้วสำหรับจับระยะ
ขอบเครื่องในด้านซ้ายนั้น เราจะเห็นว่ามี เพิ่ม-ลด เสียง และ ถาดซิมในด้านนี้พร้อมกับรองรับการใช้งาน ซิมคู่นะครับรวมถึงตัวขอบเครื่องนั้นมีความเงา เล่นกับสีทองอ่อนๆได้สวยงามและดูพรีเมี่ยมอย่างมากและมีความบางเอาเรื่องเลย
ขอบเครื่องด้านบนนั้นเราจะเห็นว่าเป็นที่อยู่ของ ไมค์อีกตัวเป็นส่วนในการอัดเสียง และตัดเสียงอีกส่วนนึงนั้นเอง และจะเห็นว่ากล้องหลังนั้นไม่ได้นูนอะไรออกมาเยอะด้วยเช่นกันครับถือว่าทำออกมาได้ค่อยข้างดีเลยแหละ ขอบเครื่องแม้จะไม่ได้โค้งมาเยอะเพราะค่อนข้างเรียบๆครับสมมาตรกัน แต่ก็ยังจับถืออะไรได้ถนัดอยู่ครับ
ตัวเครื่องด้านขวานั้นจะเห็นว่าเป็นที่อยู่ของปุ่ม Power ที่รองรับการใช้งานสแกนนิ้วในตัว สามารถกดลงไปได้และแตะสแกนนิ้วได้ครับ รวมถึงใช้งานเป็นการแตะเพื่อถ่ายภาพได้ด้วย ส่วนตัวเครื่องขอบเป็นพลาสติกเล่นสีโครมเงาสวยงาม
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นออกแบบใช้สีเงาสวยงามโทนเดียวกับตัวเครื่องพร้อมกับ ลำโพงหลัก และ USB-C รวมถึง รูไมค์ และ รูหูฟัง 3.5 มม. ให้มาด้วยจะเห็นว่าตัวเครื่องนั้นมีความบางมากจริงๆและเป็นวัสดุแบบเงาทั้งหมดเลย
ฝาหลังนั้นถ้าไม่ได้มีแสงมากระทบก็จะเป้นสีขาวๆฟ้าๆครับเป็นวัสดุแบบด้านๆพร้อมกับการใช้งานกระจกแบบ 2.5D สวยงามเรียบๆ ส่วนตัวกล้องนั้นวางไว้มุมซ้ายบนพร้อมกับกรอบสี่เหลี่ยม วางกล้องกระจาย 4 มุมและมีเล่นขอบกล้องแนวเฉียงค่อนข้างแปลกตา และโลโก้ไว้มุมขวาล่างของตัวเครื่อง ฝาหลังถือว่าสวยและเล่นแสงได้ดีครับและเป็นฝาหลังแบบด้านทำให้การใช้งานสีสันหรือเวลาเจอแสงสะท้อนนั้นจะออกโทนนุ่มๆไม่ได้เด่นแต่ดูพรีเมี่ยมลึกลับดีมาก
การวางกล้องหลังนั้นแปลกตากว่ารุ่นอื่นๆครับแน่นอนว่าเป็นกรอบสี่เหลี่ยมก็จริงแต่ภายในนั้นจะเป็นการวาง 4 มุมพร้อมกับไฟแฟลชตรงกลางมาให้ใช้งาน รวมถึงเป็นการเน้นตัวเลนส์หลัก มุมกว้าง มุมปกติที่เป็นแนวเฉียง และไฟแฟลช รวมถึง เลนส์ที่เหลือคือตัว ถ่าย Portrait แบบขาวดำ และ วินเทจนั้นเองครับถือว่าออกแบบแปลกตาแต่ลงตัว มาพร้อมกับ เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล F1.7 / เลนส์ Ultra-Wide มุมมอง 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล F2.4 / Portrait ขาวดำ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล F2.4 / Portrait วินเทจ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล F2.4 รองรับการถ่าย Portrait และแน่นอนว่าฟีเจอร์การถ่ายนั้นยังคงให้มาครบเช่นกันครับ
SPEC
- ColorOS 7.1 + Android 10
- หน้าจอ LPTS LCD ขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400×1080 พิกเซล) อัตรา Refresh Rate ที่ 120Hz ให้ความสว่างสูงสุด 480 นิต
- MediaTek Dimensity 800 + Mali-G57 MC4
- RAM 8GB LPDDR4X
- พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 128GB UFS 2.1
- กล้องหลัง 4 เลนส์ / เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล F1.7 / เลนส์ Ultra-Wide มุมมอง 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล F2.4 / Portrait ขาวดำ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล F2.4 / Portrait วินเทจ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล F2.4
- กล้องหน้า 2 เลนส์/ เลนส์หลัก ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล F2.0 /ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล F2.4
- Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz)
- Bluetooth 5.1, NFC, GPS, GLONASS, Beidou
- พอร์ต USB Type-C
- ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร + Hi-Res และ Dirac 2.0
- แบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W
- ขนาดตัวเครื่อง 163.8 x 75.5 x 8.1 มม. น้ำหนัก 184 กรัม
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพของตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับ MTK Dimensity800 ทางด้าน RAM นั้นมาให้ทั้งหมด 8GB LPDDR4X และในด้านความจุนั้นมาพร้อมกับ 128GB ใช้หน่วยความจุแบบ UFS2.1 ทำคะแนนไปได้ 310725 คะแนน ในตัว Antutu และในตัว Androbench การอ่านเขียน UFS 2.1 ครับทำการอ่านเขียนไปได้ 933 MB/s และ 200 MB/s และในตัว Geekbench ทำได้ 517 / 2160 คะแนน ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยนั้นแน่นอนว่ารองรับ L1 ดูหนังในความละเอียดสูงสุดได้เลยครับรุ่นนี้ ถือว่าประสิทธิภาพนั้นทำได้ดีเมื่อเทียบกับตัว CPU ครับ แต่การอ่านเขียนนั้นถือว่าทำไปได้ไวมากๆเกินหน้าตา UFS 2.1 หลายๆตัวเลยทีเดียวใช้งานตัวอ่านเขียนเทพมาก
SYSTEM UI
ในตัวระบบนั้นเองจะเป็น ColorOS ที่เราคุ้นเคยกันดีแต่พัฒนาขึ้นในหลายๆด้านการใช้งานครับ ทำงานบนพื้นฐาน Android 10 สวมทับด้วย ColorOS 7.1 ตัวล่าสุดเลยแน่นอนว่าในการใช้งานหน้าตาอะไรดูดีขึ้นพอสมควรครับแต่ก็ยังมีเอกลักษณ์ของแบรนด์อยู่ ในแง่ของการใช้งานเร็วลื่นขึ้นตอบสนองต่อหน้าจอได้ดี ตัวเลขแอป การแจ้งเตือนอะไรต่างๆทำได้ดีครับและจะไม่มี App Drawer นะครับเป็นหน้าหลักเลยแอปรวมทั้งหมดจะอยู่ในหน้านี้
[SR] รีวิว OPPO Reno4 Z 5G พร้อมหน้าจอ 120Hz รองรับ 5G ในราคา 12,990 บาท !
OPPO นั้นเปิดตัวบรรดามือถือที่รองรับ 5G ในไทยแบบจัดเต็มไปไม่นานมานี้มีในหลากหลายรุ่น หลากหลายเรทราคาเน้นๆเพื่อการรองรับการใช้งานในอนาคตแน่นอนครับ OPPO 5G ซีรีสเปิดตัวมาด้วยกันทั้งหมด 3 ตัวที่รองรับ 5G มาด้วยกันทั้งหมดเลย แต่ที่น่าสนใจคือน้องเล็กสุดที่รองรับ 5G ถือว่าเป็นรุ่นที่ออกมาใหม่ทั้งเรื่องของหน้าตา และสเปคที่ให้มาด้วยเช่นกันในตัว Oppo Reno4 Z 5G เป็นน้องเล็กสุดที่เปิดตัวมารองรับการใช้งาน 5G ซึ่งมีการออกแบบหหน้าตาใหม่สวยงาม และใช้งานเทคโนโลยีใหม่คือ CPU MTK Dimensity 800 และยังมาพร้อมกับการใช้งานหน้าจอ 120Hz Silky Display และแน่นอนว่ากล้องหลังยังคงจัดเต็ม 4 ตัวพร้อมกับเลนส์หลัก 48MP ถือว่ามีความน่าสนใจอยู่เหมือนกันสำหรับ OPPO Reno4 Z 5G รุ่นนี้ในงบหมื่นต้นๆของทางค่ายและรองรับการใช้งาน 5G รองรับเครือข่าย ได้สองโหมด ทั้ง SA / NSA ถือว่าพร้อมใช้งานเลยในไทยครับ
OPPO Reno4 Z 5G เปิดตัวมาพร้อมกับการใช้งาน CPU ตัวใหม่ล่าสุดของ MTK คือตัว MTK Dimensity 800 รองรับการใช้งาน 5G พร้อมใช้งานทันทีตั้งแต่เปิดกล่องเลยทีเดียว และใช้งาน RAM 8GB LPDDR4X STORAGE 128GB UFS 2.1 แต่ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำอะไรได้นะครับไม่รองรับ Micro-SD และทางด้านหน้าจอนั้นถือว่าเป็นจุดเด่นๆเพราะให้มาที่ 120Hz เลยนั้นเอง หน้าจอใช้งานหน้าจอ LTPS LCD นะครับ พร้อมกับขนาดหน้าจอ 6.57 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400×1080 พิกเซล) อัตรา Refresh Rate ที่ 120Hz ให้ความสว่างสูงสุด 480 นิต ใช้งานกระจก Gorilla Glass 3 ส่วนทางด้าน กล้องหน้านั้นให้มา 2 ตัวรองรับการใช้งาน จับระยะ ตัวหลักใช้งาน 16MP F2.0 และเลนส์จับระยะ 2MP F2.4 พร้อมกับใช้งานกล้องหลัง 4 เลนส์ ออกแบบสวยงาม มาพร้อมกับ เลนส์หลัก 48MP F1.7 / เลนส์ Ultra-Wide มุมมอง 119 องศา 8 MP F2.4 / Portrait ขาวดำ 2 MP F2.4 / Portrait วินเทจ ด 2 MP F2.4 และทางด้าน แบตเตอร์รี่นั้นให้มา 4,000 mAh รองรับการชาร์จไว 18W และ ยังคงมีรู 3.5 มม. ใส่เข้ามาให้รองรับระบบเสียง Hi-Res เช่นกันครับ ส่วนการเชื่อมต่ออื่นๆนั้นรองรับเป็นมาตรฐานใหม่ทั้งหมดเลยนั้นเอง
OPPO Reno4 Z 5G เปิดตัวในไทยมาพร้อมกับ สเปค RAM 8GB / STORAGE 128GBราคา 12,990 บาทพร้อมกับสี Dew White และ Ink Black
UNBOX
- ตัวเครื่อง OPPO Reno4 Z 5G
- เคส OPPO Reno4 Z 5G แบบ TPU ใส
- Adaptor ชาร์จ 18W Fast Charge
- สาย USB-C
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
- หูฟัง OPPO Earbuds 3.5 มม.
- ฟิล์มกันรอยติดตั้งมาให้จากโรงงาน
ตัวเคสที่แถมมานั้นต้องบอกว่ายังคงเป็นเคสใสนิ่มปกติครับ พร้อมกับคลุมทั้งตัวเครื่องด้านหลังทั้งหมด ส่วนขอบเครื่องในส่วนหน้าจอนั้นทั้ง 4 มุมมีการนูนขึ้นมาปกป้องหน้าจอ รวมถึงมีเว้าตรงขอบลำโพงด้านบน ความหนาของเคสกลางๆกำลังดีครับไม่ได้ทำให้ตัวเครื่องหนักเกินไป และ ไม่ได้หนาเกินจำเป็นด้วยครับ ตัวเคสนั้นในเรื่องของตามขอบกล้องและหน้าจอสามารถครอบคลุมได้ทั้งหมดในส่วนของด้านหน้านั้นจะมีขอบเครื่องทั้ง 4 มุมโผล่ขึ้นมาทำให้ปกป้องได้ดีเวลาวางหน้าคว่ำครับ และช่วยในการตกกระแทกได้ดีเป็นเคสแถมที่ดี แต่ในเรื่องของงานออกแบบยังเป็นเรียบๆไม่ได้ใช้วัสดุพิเศษแบบรุ่นก่อนรวมถึง ตัวกล้องหลังนั้นตัวเคสไม่ได้คลุมมาเกินตัวเลนส์เท่าไรครับ
DESIGN
งานออกแบบทาง OPPO Reno4 Z 5G รุ่นนี้มาพร้อมกับออกแบบใหม่ทั้งหมดในด้านหลังซึ่งเราจะเห็นในรุ่นนี้เป็นครั้งแรกเลยทีเดียวและมีความแปลกใหม่พอสมควรกับการวางเลนส์กล้องข้างในแบบเฉียงและครอบทับด้วย 4 เหลี่ยมสีดำทำให้เป็นโมดูลเดียวกันมากขึ้น และฝาหลังแบบด้านเล่นแสงสีรุ้งเวลาเจอแสงแดดได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวครับ และตัวเครื่องบางแค่ 8.1 มม.เท่านั้นพร้อมกับเลนส์กล้องดีไซน์ไม่นูนมากนักอีกทั้งมาพร้อมกระจกแบบ 2.5D ด้วยและที่สำคัญการแสกนนิ้วนั้นจะย้ายไปด้านข้างตรงปุ่มเปิดปิดเครื่องทำให้ฝาหลังนั้นเรียบเนียนและใช้งานง่ายขึ้นครับ
หน้าจอในรุ่นนี้ยังคงการออกแบบเป็นหน้าจอแบบ Dual Punch-hole Display เจาะรูตรงมุมซ้าย 2 ตำแหน่งครับ เป็นกล้องหน้าทั้งคู่ และใช้หน้าจอแบบ ขนาด LPTS LCD ขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด FHD+ มีฟิล์มกันรอยติดมาให้เรียบร้อยพร้อมใช้งานเลยครับ ถือว่าออกแบบสวยและขอบบางเช่นเดิมเลยในรุ่นนี้ครับแม้จะเป็นรุ่นน้องก็ตาม
หน้าจอ ขอบล่างนั้นจะเห็นว่ามีความหนากว่าด้านอื่นๆเป็นปกติของบรรดามือถือในเรทนี้ครับ พร้อมกับการควบคุมแบบ 3 ปุ่มนำทางและใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้ตามสบายเลย
หน้าจอขอบบนนั้นเราจะเห็นว่ายังคงความบางได้เท่ากันทั้งหมดและตรงกล้องหน้า ลำโพงเซนเซอร์อื่นๆยังคงฝังไว้ตรงขอบด้านบนเช่นเดิมเลย กล้องหน้าให้มาเน้นๆที่ 16MP f/2.0 ครับ และ 2MP F2.4 ในรุ่นนี้วสำหรับจับระยะ
ขอบเครื่องในด้านซ้ายนั้น เราจะเห็นว่ามี เพิ่ม-ลด เสียง และ ถาดซิมในด้านนี้พร้อมกับรองรับการใช้งาน ซิมคู่นะครับรวมถึงตัวขอบเครื่องนั้นมีความเงา เล่นกับสีทองอ่อนๆได้สวยงามและดูพรีเมี่ยมอย่างมากและมีความบางเอาเรื่องเลย
ขอบเครื่องด้านบนนั้นเราจะเห็นว่าเป็นที่อยู่ของ ไมค์อีกตัวเป็นส่วนในการอัดเสียง และตัดเสียงอีกส่วนนึงนั้นเอง และจะเห็นว่ากล้องหลังนั้นไม่ได้นูนอะไรออกมาเยอะด้วยเช่นกันครับถือว่าทำออกมาได้ค่อยข้างดีเลยแหละ ขอบเครื่องแม้จะไม่ได้โค้งมาเยอะเพราะค่อนข้างเรียบๆครับสมมาตรกัน แต่ก็ยังจับถืออะไรได้ถนัดอยู่ครับ
ตัวเครื่องด้านขวานั้นจะเห็นว่าเป็นที่อยู่ของปุ่ม Power ที่รองรับการใช้งานสแกนนิ้วในตัว สามารถกดลงไปได้และแตะสแกนนิ้วได้ครับ รวมถึงใช้งานเป็นการแตะเพื่อถ่ายภาพได้ด้วย ส่วนตัวเครื่องขอบเป็นพลาสติกเล่นสีโครมเงาสวยงาม
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นออกแบบใช้สีเงาสวยงามโทนเดียวกับตัวเครื่องพร้อมกับ ลำโพงหลัก และ USB-C รวมถึง รูไมค์ และ รูหูฟัง 3.5 มม. ให้มาด้วยจะเห็นว่าตัวเครื่องนั้นมีความบางมากจริงๆและเป็นวัสดุแบบเงาทั้งหมดเลย
ฝาหลังนั้นถ้าไม่ได้มีแสงมากระทบก็จะเป้นสีขาวๆฟ้าๆครับเป็นวัสดุแบบด้านๆพร้อมกับการใช้งานกระจกแบบ 2.5D สวยงามเรียบๆ ส่วนตัวกล้องนั้นวางไว้มุมซ้ายบนพร้อมกับกรอบสี่เหลี่ยม วางกล้องกระจาย 4 มุมและมีเล่นขอบกล้องแนวเฉียงค่อนข้างแปลกตา และโลโก้ไว้มุมขวาล่างของตัวเครื่อง ฝาหลังถือว่าสวยและเล่นแสงได้ดีครับและเป็นฝาหลังแบบด้านทำให้การใช้งานสีสันหรือเวลาเจอแสงสะท้อนนั้นจะออกโทนนุ่มๆไม่ได้เด่นแต่ดูพรีเมี่ยมลึกลับดีมาก
การวางกล้องหลังนั้นแปลกตากว่ารุ่นอื่นๆครับแน่นอนว่าเป็นกรอบสี่เหลี่ยมก็จริงแต่ภายในนั้นจะเป็นการวาง 4 มุมพร้อมกับไฟแฟลชตรงกลางมาให้ใช้งาน รวมถึงเป็นการเน้นตัวเลนส์หลัก มุมกว้าง มุมปกติที่เป็นแนวเฉียง และไฟแฟลช รวมถึง เลนส์ที่เหลือคือตัว ถ่าย Portrait แบบขาวดำ และ วินเทจนั้นเองครับถือว่าออกแบบแปลกตาแต่ลงตัว มาพร้อมกับ เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล F1.7 / เลนส์ Ultra-Wide มุมมอง 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล F2.4 / Portrait ขาวดำ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล F2.4 / Portrait วินเทจ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล F2.4 รองรับการถ่าย Portrait และแน่นอนว่าฟีเจอร์การถ่ายนั้นยังคงให้มาครบเช่นกันครับ
SPEC
- ColorOS 7.1 + Android 10
- หน้าจอ LPTS LCD ขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400×1080 พิกเซล) อัตรา Refresh Rate ที่ 120Hz ให้ความสว่างสูงสุด 480 นิต
- MediaTek Dimensity 800 + Mali-G57 MC4
- RAM 8GB LPDDR4X
- พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 128GB UFS 2.1
- กล้องหลัง 4 เลนส์ / เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล F1.7 / เลนส์ Ultra-Wide มุมมอง 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล F2.4 / Portrait ขาวดำ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล F2.4 / Portrait วินเทจ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล F2.4
- กล้องหน้า 2 เลนส์/ เลนส์หลัก ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล F2.0 /ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล F2.4
- Wi-Fi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz)
- Bluetooth 5.1, NFC, GPS, GLONASS, Beidou
- พอร์ต USB Type-C
- ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร + Hi-Res และ Dirac 2.0
- แบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W
- ขนาดตัวเครื่อง 163.8 x 75.5 x 8.1 มม. น้ำหนัก 184 กรัม
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพของตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับ MTK Dimensity800 ทางด้าน RAM นั้นมาให้ทั้งหมด 8GB LPDDR4X และในด้านความจุนั้นมาพร้อมกับ 128GB ใช้หน่วยความจุแบบ UFS2.1 ทำคะแนนไปได้ 310725 คะแนน ในตัว Antutu และในตัว Androbench การอ่านเขียน UFS 2.1 ครับทำการอ่านเขียนไปได้ 933 MB/s และ 200 MB/s และในตัว Geekbench ทำได้ 517 / 2160 คะแนน ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยนั้นแน่นอนว่ารองรับ L1 ดูหนังในความละเอียดสูงสุดได้เลยครับรุ่นนี้ ถือว่าประสิทธิภาพนั้นทำได้ดีเมื่อเทียบกับตัว CPU ครับ แต่การอ่านเขียนนั้นถือว่าทำไปได้ไวมากๆเกินหน้าตา UFS 2.1 หลายๆตัวเลยทีเดียวใช้งานตัวอ่านเขียนเทพมาก
SYSTEM UI
ในตัวระบบนั้นเองจะเป็น ColorOS ที่เราคุ้นเคยกันดีแต่พัฒนาขึ้นในหลายๆด้านการใช้งานครับ ทำงานบนพื้นฐาน Android 10 สวมทับด้วย ColorOS 7.1 ตัวล่าสุดเลยแน่นอนว่าในการใช้งานหน้าตาอะไรดูดีขึ้นพอสมควรครับแต่ก็ยังมีเอกลักษณ์ของแบรนด์อยู่ ในแง่ของการใช้งานเร็วลื่นขึ้นตอบสนองต่อหน้าจอได้ดี ตัวเลขแอป การแจ้งเตือนอะไรต่างๆทำได้ดีครับและจะไม่มี App Drawer นะครับเป็นหน้าหลักเลยแอปรวมทั้งหมดจะอยู่ในหน้านี้
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้