ถ้าอยากได้มือถือ 5G ถ่ายวีดีโอดีที่สุด อุ้มแนะนำ OPPO Reno4 Pro 5G มือถือ 5G ถ่ายวีดีโอดีที่สุด รองรับ Ultra Steady Video 3.0
และ Ultra Night Wide-Angle Video ที่ทำให้ถ่ายภาพวีดีโอไม่สั่นไหว และถ่ายวีดีโอกลางคืนแบบมุมกว้างได้อย่างสว่างคมชัด ส่วนดีไซน์ เป็นมือถือ 5G ที่บาง เบา รองรับชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 36 นาที ในขณะที่ OPPO Reno4 Z 5G ก็เป็นมือถือ 5G ระดับกลาง ที่รองรับทั้งโหมด SA และ NSA มาพร้อมจอสวย ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ การวางกล้องที่แหวกแนว
จุดเด่นของ OPPO RENO4 Z 5G
มือถือ 5G ระดับกลาง ที่คุ้มที่สุด มาพร้อม RAM 8GB ROM 128GB
รองรับ 5G แบบ Dual Mode คือใช้งานได้ทั้งแบบ SA และ NSA ทั้ง 2 โหมดในเครื่องเดียว ซึ่งไม่ใช่ทุกเครื่องที่รองรับการใช้งานแบบนี้ ข้อดีคือพกไปต่างประเทศก็ใช้งาน 5G ได้ทั่วโลกแบบแรงๆ
หน้าจอลื่นๆ สมูท กับ 120Hz Silky Display ปัดนิ้วไถจอก็ลื่น แสดงผลต่างๆ ก็ลื่น ดูสมูท
ดีไซน์การออกแบบ ชอบการวางกล้องมาก กล้องหลังมี 4 เลนส์ สวย แหวกแนว ไม่เหมือนใคร บนตัวเครื่อง 2.5D เพรียวบาง ไล่เฉดสี รองรับการปลดล็อคด้วยนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง ที่สะดวกมากๆ ยิ่งใครถนัดมือขวา ใช้นิ้วโป้งขวานี่คล่องเลย
กล้องหน้าเป็น Dual Lens หรือกล้องหน้าคู่ 16MP + 2MP แบบเจาะรูบนหน้าจอ ถ่ายภาพบุคคลสวย แอบบอกว่า เซลฟี่โบเก้ด้วยฮาร์ดแวร์เลยนะ ไม่ใช่ซอฟต์แวร์ ดังนั้นสวยแน่นอน เรามีตัวอย่างภาพถ่ายให้ดูเพียบ
อีกข้อดีคือ รุ่นนี้ยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. คนที่มีหูฟังส่วนตัว สบายเลย และยิ่งถ้าใครที่ชอบถ่ายวีดีโอสามารถหาไมค์แบบ 3.5 ม.ม. มาใช้ได้เช่นกัน
จุดเด่นของ OPPO RENO4 PRO 5G
มือถือ ระดับสองหมื่นกลาง ใช้ 5G ได้ ถ่ายวีดีโอดีที่สุด
มือถือถ่ายวีดีโอดีที่สุด ใช้ 5G ได้ ทำให้การส่งวีดีโอไฟล์ใหญ่ๆ ผ่าน 5G ทำได้อย่างรวดเร็ว รองรับทั้ง 3G 4G 5G ใช้งานได้ทั้งโหมด SA และ NSA
เครือข่ายไหนรองรับโหมดไหนก็ใช้งานได้เลย ใช้ได้ทั่วโลก
สเปคแรง Qualcomm Snapdragon 765G จัดเต็ม RAM 12GB ROM 256GB
Ultra Night-Wide Video ถ่ายวีดีโอมุมกว้างตอนกลางคืนได้ดีมากๆ แสงน้อยก็ไม่ต้องกังวล
ชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จแบตได้ 60% ในเวลา 15 นาที ถ้าชาร์จเต็ม 100% ใช้เวลา 36 นาที พร้อมระบบประหยัดพลังงาน Super Power Saving Mode
หน้าจอ 90Hz 3D Curved Screen สามารถดูวีดีโอ เล่นเกม ส่วนความไวหน้าจอ 180Hz แตะปุ๊บ ตอบสนองปั๊บ
ดีไซน์การออกแบบสวย Ultra Slim สุดบาง 8.1 มิลลิเมตร จับถนัดมือ น้ำหนักเบา
กล้องดีมาก Triple LDAF Camera กล้องหลักความละเอียด 48MP พร้อมรองรับเซ็นเซอร์ LDAF โฟกัสได้แม่นยำด้วย Laser Focus
เจาะลึก OPPO RENO4 PRO 5G
ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 765G มีเสาอากาศรอบทิศทาง รับสัญญาณ 360 องศา เสาอากาศอัจฉริยะ 2.0 ปรับจูนสัญญาณให้แรงตามสภาพแวดล้อม และจูนสัญญาณให้เข้ากับคลื่นความถี่หลักได้เหมาะสม เป็นมือถือ 5G ถ่ายวีดีโอดีที่สุด เหตุผลก็เพราะว่า หากมือถือถ่ายวีดีโอดีๆ ไฟล์วีดีโอขนาดใหญ่ ก็ต้องพึ่งเครือข่าย 5G ในการส่งไฟล์ใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับตัวกล้อง มีการอัปเกรด Ultra Steady Video 3.0 และ Ultra Night Wide-Angle Video ที่รองรับการถ่ายวีดีโอตอนกลางคืนแบบมุมกว้าง ส่วนดีไซน์ตัวเครื่องก็บาง ดูพรีเมี่ยม พร้อมรองรับชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 36 นาที ถ้าตื่นแล้วลืมชาร์จแบตมือถือ วิ่งไปเข้าห้องน้ำ แต่งตัว ออกมาหยิบมือถือออกไปข้างนอกได้ทั้งวัน โดยไม่ง้อพาวเวอร์แบงค์
ปกติเวลาเราถ่ายวีดีโอมุมกว้างตอนกลางคืน พอกดถ่ายจะมี noise เยอะ ภาพมืดลง ดังนั้นการมีโหมด Ultra Night เข้ามาช่วยในการถ่ายภาพมุมกว้างนี่ดีมากๆ
บรรยากาศจริงมืดมาก มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นแสงเลย แต่พอถ่ายออกมาแล้วเกินคาดมากๆ ถ่ายดาวได้ด้วย
กล้องจัดการแสงได้ดีเหมือนกับเรามองด้วยตาเปล่าเลย ได้ภาพสว่าง ชอบตรงที่ไม่ดึงภาพสว่างจนเว่อร์มากนัก
การถ่ายวีดีโอกลางคืน Ultra Night Wide-Angle Video มี 2 ตัวช่วยคือ Ultra Night Wide-Angle Video Lens + Ultra Night Video Algorithm หมายถึงไม่ได้ใช้ซอฟต์แวร์ แต่เลนส์ ถ่ายกลางคืนแบบมุมกว้างได้เลย แถมยังป้องกันการสั่นไหวด้วย Ultra Steady Video 3.0 อย่างที่เรารู้กันว่าถ้าแสงน้อย ยิ่งมืด ภาพอาจสั่นไหว ก็เสริมการป้องกันกันสั่นไหวของวีดีโอให้ด้วย ส่วนการถ่ายภาพย้อนแสง รองรับ Live HDR และถ้าใครชอบถ่ายวีดีโอ ตัดต่อ ก็ทำบนมือถือได้เลย
ระบบเสียงสเตอริโอ Dolby Atmos มีลำโพงบนและล่าง 0.45 มิลลิเมตร และ 0.4 มิลลิเมตรตามลำดับ ขยายเสียงลำโพงไม่แตก เสียงเบสก็โดดเด่น ทำให้การรับชมได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น
ColorOS 7.2 ใช้งานมือเดียวได้สะดวก แม้จอใหญ่ ลดขนาดไอคอนทำให้เอื้อมนิ้วไปกดได้ง่าย โดยเฉพาะคนถนัดมือขวา พร้อม Gravity Wallpaper ที่ปรับทิศทางตามแรงโน้มถ่วงได้ และ AI App Preloading ที่เปิดแอปให้ล่วงหน้า แอปไหนใช้บ่อยก็จะเข้าได้เร็ว
ดีไซน์
Reno Glow เทคนิคการเคลือบความมันวาวบนตัวเครื่องแบบใหม่ ใช้การตกกระทบของแสงที่สวยงามแปลกตา ป้องกันลายนิ้วมือ
มีสี Galactic Blue ไล่เฉดสีฟ้าและสีน้ำเงิน และ Space Black มี OPPO Monogram เป็นลวดลาย OP ทำให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ
หน้าจอโค้ง 3 มิติ (3D Curve) ขนาด 6.5 นิ้ว Refresh Rate 90Hz แสดงผลลื่นไหล อัตราความไวต่อการสัมผัสหน้าจอ 180Hz ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ รองรับ HDR 10 ค่า Contrast 5,000,000:1 ความสว่าง 500 nits, 800 nits, 1100 nits ในที่แสงน้อย สามารถปิดโหมด Flicker-Free ลดการกระพริบของหน้าจอได้ พร้อมโหมดถนอมสายตา
โหมด Eye Comfort สบายตา เทียบปิดและเปิด ทำให้มองจอนานๆ ได้ไม่ปวดตา อันนี้แล้วแต่คนชอบจริงๆ
หน้าจอแสดง EDGE Lighting ได้ แสดงเป็นไฟแจ้งเตือนโทรเข้าได้ ปรับแต่งได้ตามความชอบ และมีเอ็ฟเฟ็กซ์ สแกนนิ้ว, ชาร์จแบต, ปลดล็อคหน้าจอ
ตัวเครื่องบางเพียง 7.6 มิลลิเมตร ขอบจอด้านข้างบางมาก แต่ด้านล่างจะหนาไปนิดนึง น้ำหนัก 172 กรัม การวางกล้องดูสวย พรีเมี่ยม ดีไซน์ทันสมัย ถือว่าเป็นมือถือ 5G ที่บางที่สุด ส่วนการระบายความร้อน มีแผ่นระบายความร้อนทำให้ลดความร้อนสะสมในตัวเครื่องลง
การออกแบบตัวเครื่อง ถือได้ว่าบางมากๆ ถือเป็นมือถือ 5G ที่บางเฉียบสุดๆเลย
ด้านบน โล่งๆ มีไมค์
ด้านล่างมีพอร์ตชาร์จ USB Type-C ลำโพง ไมค์ ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม.
ด้านข้าง สังเกตว่ากล้องไม่ได้นูนมาก ตัวเครื่องบางมาก
ชาร์จไว
Super Power Saving Mode เข้ามาช่วยจัดการพลังงาน เพิ่มอายุการใช้งานให้แบตใช้งานได้นานขึ้นสำหรับการใช้งานแอปพิลเคชั่น 5G
รองรับ
65W SuperVOOC Charge 2.0 ชาร์จไว แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh จากที่ใช้งาน แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
อุ้มเอาไปถ่ายรูป เล่นเกม ใช้เต็มวันก็ยังเหลือแบตให้กลับถึงบ้านได้สบายๆ ในโหมดประหยัดพลังงงาน สามารถใช้งาน ได้ 60 นาที แม้แบตจะเหลือแค่ 5% แบตเหลือน้อยก็ยังพอส่ง LINE, WhatsApp ได้ เปิด GPS ก็ยังได้ การจัดการพลังงาน จัดการ CPU ช่วยให้ประหยัดพลังงาน เลือกได้สูงสุด 6 แอป โดยมีตั้งต้นคือ Phone, Message และ Clock เป็นการจัดการแอปให้ใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสม
ถ้าชาร์จแบตแค่พอใช้ 60% กว่าๆ หยิบชาร์จแล้วเอาออกไปใช้งานได้แบบไม่ต้องกังวลเลย
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
ชอบตรงที่ตัวเครื่องเบา ถือนานๆ ไม่เมื่อย ชิปเช็ต Qualcomm Snapdragon 765G เอามาเล่นเกมได้ดี fps อยู่ที่ 60 รุ่นนี้มาพร้อม RAM 12GB ไม่ต้องกังวลเลย ใช้งานได้ลื่นๆ
[SR] รีวิว OPPO Reno4 Pro 5G และ OPPO Reno4 Z 5G คู่หู 5G ราคาดีจาก OPPO
กล้องหน้าเป็น Dual Lens หรือกล้องหน้าคู่ 16MP + 2MP แบบเจาะรูบนหน้าจอ ถ่ายภาพบุคคลสวย แอบบอกว่า เซลฟี่โบเก้ด้วยฮาร์ดแวร์เลยนะ ไม่ใช่ซอฟต์แวร์ ดังนั้นสวยแน่นอน เรามีตัวอย่างภาพถ่ายให้ดูเพียบ
อีกข้อดีคือ รุ่นนี้ยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม. คนที่มีหูฟังส่วนตัว สบายเลย และยิ่งถ้าใครที่ชอบถ่ายวีดีโอสามารถหาไมค์แบบ 3.5 ม.ม. มาใช้ได้เช่นกัน
จุดเด่นของ OPPO RENO4 PRO 5G
มือถือ ระดับสองหมื่นกลาง ใช้ 5G ได้ ถ่ายวีดีโอดีที่สุด
ชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จแบตได้ 60% ในเวลา 15 นาที ถ้าชาร์จเต็ม 100% ใช้เวลา 36 นาที พร้อมระบบประหยัดพลังงาน Super Power Saving Mode
หน้าจอ 90Hz 3D Curved Screen สามารถดูวีดีโอ เล่นเกม ส่วนความไวหน้าจอ 180Hz แตะปุ๊บ ตอบสนองปั๊บ
ดีไซน์การออกแบบสวย Ultra Slim สุดบาง 8.1 มิลลิเมตร จับถนัดมือ น้ำหนักเบา
กล้องดีมาก Triple LDAF Camera กล้องหลักความละเอียด 48MP พร้อมรองรับเซ็นเซอร์ LDAF โฟกัสได้แม่นยำด้วย Laser Focus
สำหรับตัวกล้อง มีการอัปเกรด Ultra Steady Video 3.0 และ Ultra Night Wide-Angle Video ที่รองรับการถ่ายวีดีโอตอนกลางคืนแบบมุมกว้าง ส่วนดีไซน์ตัวเครื่องก็บาง ดูพรีเมี่ยม พร้อมรองรับชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 36 นาที ถ้าตื่นแล้วลืมชาร์จแบตมือถือ วิ่งไปเข้าห้องน้ำ แต่งตัว ออกมาหยิบมือถือออกไปข้างนอกได้ทั้งวัน โดยไม่ง้อพาวเวอร์แบงค์
ปกติเวลาเราถ่ายวีดีโอมุมกว้างตอนกลางคืน พอกดถ่ายจะมี noise เยอะ ภาพมืดลง ดังนั้นการมีโหมด Ultra Night เข้ามาช่วยในการถ่ายภาพมุมกว้างนี่ดีมากๆ
ระบบเสียงสเตอริโอ Dolby Atmos มีลำโพงบนและล่าง 0.45 มิลลิเมตร และ 0.4 มิลลิเมตรตามลำดับ ขยายเสียงลำโพงไม่แตก เสียงเบสก็โดดเด่น ทำให้การรับชมได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น
ColorOS 7.2 ใช้งานมือเดียวได้สะดวก แม้จอใหญ่ ลดขนาดไอคอนทำให้เอื้อมนิ้วไปกดได้ง่าย โดยเฉพาะคนถนัดมือขวา พร้อม Gravity Wallpaper ที่ปรับทิศทางตามแรงโน้มถ่วงได้ และ AI App Preloading ที่เปิดแอปให้ล่วงหน้า แอปไหนใช้บ่อยก็จะเข้าได้เร็ว
Reno Glow เทคนิคการเคลือบความมันวาวบนตัวเครื่องแบบใหม่ ใช้การตกกระทบของแสงที่สวยงามแปลกตา ป้องกันลายนิ้วมือ
มีสี Galactic Blue ไล่เฉดสีฟ้าและสีน้ำเงิน และ Space Black มี OPPO Monogram เป็นลวดลาย OP ทำให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ
โหมด Eye Comfort สบายตา เทียบปิดและเปิด ทำให้มองจอนานๆ ได้ไม่ปวดตา อันนี้แล้วแต่คนชอบจริงๆ
หน้าจอแสดง EDGE Lighting ได้ แสดงเป็นไฟแจ้งเตือนโทรเข้าได้ ปรับแต่งได้ตามความชอบ และมีเอ็ฟเฟ็กซ์ สแกนนิ้ว, ชาร์จแบต, ปลดล็อคหน้าจอ
ตัวเครื่องบางเพียง 7.6 มิลลิเมตร ขอบจอด้านข้างบางมาก แต่ด้านล่างจะหนาไปนิดนึง น้ำหนัก 172 กรัม การวางกล้องดูสวย พรีเมี่ยม ดีไซน์ทันสมัย ถือว่าเป็นมือถือ 5G ที่บางที่สุด ส่วนการระบายความร้อน มีแผ่นระบายความร้อนทำให้ลดความร้อนสะสมในตัวเครื่องลง
Super Power Saving Mode เข้ามาช่วยจัดการพลังงาน เพิ่มอายุการใช้งานให้แบตใช้งานได้นานขึ้นสำหรับการใช้งานแอปพิลเคชั่น 5G
รองรับ 65W SuperVOOC Charge 2.0 ชาร์จไว แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh จากที่ใช้งาน แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
อุ้มเอาไปถ่ายรูป เล่นเกม ใช้เต็มวันก็ยังเหลือแบตให้กลับถึงบ้านได้สบายๆ ในโหมดประหยัดพลังงงาน สามารถใช้งาน ได้ 60 นาที แม้แบตจะเหลือแค่ 5% แบตเหลือน้อยก็ยังพอส่ง LINE, WhatsApp ได้ เปิด GPS ก็ยังได้ การจัดการพลังงาน จัดการ CPU ช่วยให้ประหยัดพลังงาน เลือกได้สูงสุด 6 แอป โดยมีตั้งต้นคือ Phone, Message และ Clock เป็นการจัดการแอปให้ใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสม
ถ้าชาร์จแบตแค่พอใช้ 60% กว่าๆ หยิบชาร์จแล้วเอาออกไปใช้งานได้แบบไม่ต้องกังวลเลย
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
ชอบตรงที่ตัวเครื่องเบา ถือนานๆ ไม่เมื่อย ชิปเช็ต Qualcomm Snapdragon 765G เอามาเล่นเกมได้ดี fps อยู่ที่ 60 รุ่นนี้มาพร้อม RAM 12GB ไม่ต้องกังวลเลย ใช้งานได้ลื่นๆ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้