ทำงานที่นี่มาปีกว่าละค่ะ ไม่ได้สนิทกับใครมองทุกคนเป็นเพื่อนร่วมงานหมด
แต่พอช่วงโควิดถึงตอนนี้ เรื่องรู้สึกแย่กับเพื่อนร่วมงานมากขึ้น
เราทำงานในโรงพยาบาลนะคะ
1. ช่วงโควิด เราโดนไปทำตำแหน่งคัดกรองโควิด ตัวแทนแผนกแทนทุกคน โดยไม่เต็มใจ
ทุกคนต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง เช่น มีพ่อแม่ต้องดูแล มีสามีที่ต้องอยู่ด้วยกัน ซึ่งเราเป็นสาวโสด แต่ยังมีพ่อแม่ดูแล ให้เรายืนคัดกรองทุกวันเป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ค่ะ และที่เหลือ นั่งทำงานในแผนกปกติค่ะ (อายุเรา 20ปลาย พี่อีกคนมาหลังเราค่ะ อายุ 20ปลายเหมือนกัน ห่างเรา1 ปีแต่งงานมีสามีค่ะ ส่วนอีกคนคือน้องจบใหม่ ทำงานปีนึงค่ะ มีแฟน และเป็นคนที่พี่เราบอกว่ามีพ่อแม่ต้องดูแลค่ะ) เลยรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม
และพอได้งินค่าความเสี่ยงคัดกรอง ซึ่งไม่ได้มากอะไร
ก็โดนคนที่แผนกพูดจาไม่ดีใส่ค่ะ ว่าไปได้เงินด้วยหรอ คือ ตอนแรกไม่รู้มาก่อนค่ะ มีค่าความเสี่ยง และได้เฉพาะถ้าในวันที่ยืนคัดกรอง และเจอคนไข้มีความเสี่ยงที้สูง ช่วงระบาดแรกๆ
ลึกๆเรากลัว แต่คือบังคับไป เราต้องไปค่ะ เพราะทุกคนบอกกันหมดว่าขอไม่ไป แต่หัวหน้าใหญ่บอกแผนกเราต้องส่งไปหนึ่งคนค่ะ
2.แผนกเรามีคนทำงานเกินค่ะ ไม่พอดีจำนวนคนไข้เลยต้อง move on ไปช่วยเรื่อยๆ เป็นการบังคับไปแต่เราจะได้ไปบ่อยค่ะช่วงนั้น ในตอนนั้นเข้าใจค่ะ ไปเพื่อความอยู่รอด
3. พอโควิดดีขึ้น คนไข้เยอะขึ้น แต่เหมือนเคยส่งไปช่วยแล้ว เลยจำเป็นต้องไปต่อ เพราะแผนกที่ไปช่วน เค้าคล้านจะเคยชินึ่ะ โทรมาขอให้คนมาช่วยในช่วงรั้นเกือบทุกวัน แม้บางวันแผนกเราคนไข้จะเยอะจนทำงานไม่ทัน ต่อให้เราทักท้วงกับพี่ใหญ่ของ แผนกว่าคนไข้เริ่มเพิ่มขึ้นนะ เราต้องดูแลเยอะขึ้น เราทำอยู่แผนกเราได้ พี่ใหญ่ของแผนกไม่เห็นด้วยค่ะ ยังคงส่งคนไปช่วยตลอด และพอทำงานไม่ทัน ก็จะโทรไปตามให้กลับมา และมักโดนแผนกที่ต้องไปช่วย บ่น ประมาณมาก็มาช่วยแปบเดียวค่ะ
4.เราเป็นคนพูดและและแสดงออกตรงๆ เช่น เวลามีอะไรไม่ถูก หรือ ไม่ใช่ เราจะคุยกับพี่ใหญ่ที่แผนก เพราะพี่บอกค่ะ มีไรให้พูดให้บอกตรงๆ เราก็เชื่อค่ะว่าพี่เค้าคงเป็นคนตรงๆเหมือนกัน
แต่เพราะความพูดตรงแบบนั้นกลับ
ทำให้ทุกคนคิดว่าเราดูก้าวร้าว (เราอายุ 2 ปลาย
พี่เรา ขึ้นเลข4 ค่ะ ) จากที่คิดที่คงรับฟังจริงๆ กลับไม่ใช่แบบที่คิด กลายเป็นว่า
พี่เคยเราเอาไปบอกหัวหน้าว่า control เราไม่ได้ หัวหน้าเรียกคุย เราก็พยายามปรับปรุงตัวค่ะ
5.เวลามีปัญหาอะไร เราก็จะคุยกับเพื่อนร่วมงานก่อนค่ะ พอเห็นพ้องกันหมด เราก็จะไปคุยกับพี่ใหญ่ของแผนกให้ แผนกเราไม่มีหัวหน้านะคะ เนื่องจากเป็นแผนกเล็กๆ แต่ประเด็นหลักคือ ทุกครั้งที่คุย พอพี่ใหญ่ของแผนกถามว่ามีปัญหาจริงมั้ย ทุกคนก็จะพูดว่าไม่จริง ทำงานได้ ไม่เคยมีปัญหา ทำให้เราต้องถูกมองไม่ดี ถูกมองว่าเป็นตัวปัญหาบ่อยครั้ง จนตอนนี้เราไม่เคยพูดอะไรกับพี่ใหญ่ของแผนกและคนอื่นในแผนกอีกเลย เพราะกลัวโดนปทงข้างหลังแบบที่ผ่านมา
6.เราเคยมีปัญหากับพี่ใหญ่ของแผนกเรื่องการทำงาน จนพี่บอกว่า ถ้าอยากย้ายแผนกก็ออกไปเลย และมีการบอกว่าไปก็ดี เพราะถ้าอยู่ ก็ไม่ได้โอทีค่ะ ซึ่งตั้งแต่เราทำงานปีกว่า พี่จะพูดเรื่องการได้โอทีที่ลดลงอยู่ตลอดเวลา แต่เราก็คิดแค่ คนมีปัญหากันคงหลุดปากพูด เพราะเราบอกว่าเราจะไม่ย้ายแผนกเอง ถ้าจะย้ายคือ ต้องหัวหน้าบอกให้ย้ายแผนกค่ะแต่ไม่ใช่ค่ะ เพียงไม่ถึงชั่วโมง พี่เค้าโทรหาหัวหน้าค่ะบอกเราขอย้ายออก โดยไม่ได้มีการพูดคุยกับเราล่วงหน้า เราไม่ทันตั้งตัวเลยค่ะ หัวหน้าเรียกคุย แต่เรายังไม่ได้ย้าย พอกลับมาหลังคุยแล้ว ทุกคนบอกเราว่า ทำไมไม่ขอร้อง อ้อนวอนหัวหน้าจนกว่าจะไป เราก็ทำเฉย และทำงานต่อไป คือ ไม่คิดว่าเพื่อนร่วมงานจะพูดแบบนั้น
จนตอนนี้พอมีเรื่องไปงานศพเพื่อน และให้เราต้องจ่ายเงินค่างานเลี้ยง เรายิ่งรู้สึกแย่ แถมวันนี้ยังมาบอกให้เราต้องจ่ายเลยนะ เราต้องทำเพื่อแผนกตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ นอกจากเงินกินเลี้ยง ก็ยังมีของขวัญแยกต่างหากอีกส่วน
7. ตั้งแต่มีปัญหากับพี่ใหญ่แผนก คือคนจัดเวรของแผนกเพียงคนเดียว
โอทีเราไม่เคยเท่าคนอื่นค่ะในช่วงแรก แต่เราไม่เคยพูดเรื่องนี้กับคนในแผนก คิดแค่ว่าอย่างน้อยช่วงวิกฤตเราก็ยังคงทำงานได้ แต่ถ้าถามว่าตอนนี้ต่างกับช่วงแรกมั้ย ไม่ต่างค่ะ
8. แผนกเราหยุดตามแบบราชการ แต่ถ้ามีตรงกับช่วงวันเสาร์ ในทุกเทศกาล ต้องมีคนทำงาน และคนนั้นมักเป็นเราค่ะ
คือทุกคนชอบพูดแบบ ดีจัง มีคนขึ้นให้แล้ว แต่เราไม่เคยบอกว่าเต็มใจทำนะคะ แต่เราก็จำเป็นต้องทำค่ะ
9. อันนี้คือเรารับไม่ได้สุดคือ เราโดนว่าจากพี่ใหญ่ของแผนก ว่าเราหน้าเงิน ในตอนมีปัญหากับพี่ใหญ่แผนก แบบ เราจะค่อนข้างทำงานเยอะน่ะค่ะ ช่วมีโควิด เรามีไปรับพาร์ทไทม์อีกแผนกเฉยๆ พี่บอกเราว่าถ้าไม่เงินมี เราคงไม่เสียสละมาทำงาน คือ ทุกคนต่างก็ทำงานเพื่อเงินมั้ยคะ
ในเวลาเพื่อนร่วมงานมีธุระ เราไม่เคยไม่ขึ้นเวรทำงานให้ค่ะ เร่จะอาสาตลอด
เราถามตัวเองตลอด เราโดนขนาดนี้แล้ว เรายังต้องฝืนความรู้สึกตัวเอง ให้พวกเค้ายังคงโอเคกับเรา
หรือ เราควรทำเพื่อตัวเองสักที โดยการเลิกแคร์เพื่อนร่วมงาน เลิกกลัวกลายเป็นแกะดำ และอยู่ให้ได้
ตอนนี้เราค่อนข้างแยกตัวออกมาจากแผนกล่ะน่ะ เราไม่อยากพูดคุยกับใคร รู้สึกเหนื่อยและทำตัวไม่ถูก จะทำตัวให้ปกติ เราก็ทำไม่ได้ค่ะ
ป.ล.พี่ใหญ่แผนก คือ คนคุมแผนกนี้ตั้งแต่เปิดแผนกค่ะ
แผนกเราเป็นแผนกเล็กมากที่มีหัวหน้าจากแผนกอื่นมาคุมค่ะ
เจอเพื่อนร่วมงานแบบนี้!!ควรทำไงดี ไปต่อ หรือ พอสักที
แต่พอช่วงโควิดถึงตอนนี้ เรื่องรู้สึกแย่กับเพื่อนร่วมงานมากขึ้น
เราทำงานในโรงพยาบาลนะคะ
1. ช่วงโควิด เราโดนไปทำตำแหน่งคัดกรองโควิด ตัวแทนแผนกแทนทุกคน โดยไม่เต็มใจ
ทุกคนต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง เช่น มีพ่อแม่ต้องดูแล มีสามีที่ต้องอยู่ด้วยกัน ซึ่งเราเป็นสาวโสด แต่ยังมีพ่อแม่ดูแล ให้เรายืนคัดกรองทุกวันเป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ค่ะ และที่เหลือ นั่งทำงานในแผนกปกติค่ะ (อายุเรา 20ปลาย พี่อีกคนมาหลังเราค่ะ อายุ 20ปลายเหมือนกัน ห่างเรา1 ปีแต่งงานมีสามีค่ะ ส่วนอีกคนคือน้องจบใหม่ ทำงานปีนึงค่ะ มีแฟน และเป็นคนที่พี่เราบอกว่ามีพ่อแม่ต้องดูแลค่ะ) เลยรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม
และพอได้งินค่าความเสี่ยงคัดกรอง ซึ่งไม่ได้มากอะไร
ก็โดนคนที่แผนกพูดจาไม่ดีใส่ค่ะ ว่าไปได้เงินด้วยหรอ คือ ตอนแรกไม่รู้มาก่อนค่ะ มีค่าความเสี่ยง และได้เฉพาะถ้าในวันที่ยืนคัดกรอง และเจอคนไข้มีความเสี่ยงที้สูง ช่วงระบาดแรกๆ
ลึกๆเรากลัว แต่คือบังคับไป เราต้องไปค่ะ เพราะทุกคนบอกกันหมดว่าขอไม่ไป แต่หัวหน้าใหญ่บอกแผนกเราต้องส่งไปหนึ่งคนค่ะ
2.แผนกเรามีคนทำงานเกินค่ะ ไม่พอดีจำนวนคนไข้เลยต้อง move on ไปช่วยเรื่อยๆ เป็นการบังคับไปแต่เราจะได้ไปบ่อยค่ะช่วงนั้น ในตอนนั้นเข้าใจค่ะ ไปเพื่อความอยู่รอด
3. พอโควิดดีขึ้น คนไข้เยอะขึ้น แต่เหมือนเคยส่งไปช่วยแล้ว เลยจำเป็นต้องไปต่อ เพราะแผนกที่ไปช่วน เค้าคล้านจะเคยชินึ่ะ โทรมาขอให้คนมาช่วยในช่วงรั้นเกือบทุกวัน แม้บางวันแผนกเราคนไข้จะเยอะจนทำงานไม่ทัน ต่อให้เราทักท้วงกับพี่ใหญ่ของ แผนกว่าคนไข้เริ่มเพิ่มขึ้นนะ เราต้องดูแลเยอะขึ้น เราทำอยู่แผนกเราได้ พี่ใหญ่ของแผนกไม่เห็นด้วยค่ะ ยังคงส่งคนไปช่วยตลอด และพอทำงานไม่ทัน ก็จะโทรไปตามให้กลับมา และมักโดนแผนกที่ต้องไปช่วย บ่น ประมาณมาก็มาช่วยแปบเดียวค่ะ
4.เราเป็นคนพูดและและแสดงออกตรงๆ เช่น เวลามีอะไรไม่ถูก หรือ ไม่ใช่ เราจะคุยกับพี่ใหญ่ที่แผนก เพราะพี่บอกค่ะ มีไรให้พูดให้บอกตรงๆ เราก็เชื่อค่ะว่าพี่เค้าคงเป็นคนตรงๆเหมือนกัน
แต่เพราะความพูดตรงแบบนั้นกลับ
ทำให้ทุกคนคิดว่าเราดูก้าวร้าว (เราอายุ 2 ปลาย
พี่เรา ขึ้นเลข4 ค่ะ ) จากที่คิดที่คงรับฟังจริงๆ กลับไม่ใช่แบบที่คิด กลายเป็นว่า
พี่เคยเราเอาไปบอกหัวหน้าว่า control เราไม่ได้ หัวหน้าเรียกคุย เราก็พยายามปรับปรุงตัวค่ะ
5.เวลามีปัญหาอะไร เราก็จะคุยกับเพื่อนร่วมงานก่อนค่ะ พอเห็นพ้องกันหมด เราก็จะไปคุยกับพี่ใหญ่ของแผนกให้ แผนกเราไม่มีหัวหน้านะคะ เนื่องจากเป็นแผนกเล็กๆ แต่ประเด็นหลักคือ ทุกครั้งที่คุย พอพี่ใหญ่ของแผนกถามว่ามีปัญหาจริงมั้ย ทุกคนก็จะพูดว่าไม่จริง ทำงานได้ ไม่เคยมีปัญหา ทำให้เราต้องถูกมองไม่ดี ถูกมองว่าเป็นตัวปัญหาบ่อยครั้ง จนตอนนี้เราไม่เคยพูดอะไรกับพี่ใหญ่ของแผนกและคนอื่นในแผนกอีกเลย เพราะกลัวโดนปทงข้างหลังแบบที่ผ่านมา
6.เราเคยมีปัญหากับพี่ใหญ่ของแผนกเรื่องการทำงาน จนพี่บอกว่า ถ้าอยากย้ายแผนกก็ออกไปเลย และมีการบอกว่าไปก็ดี เพราะถ้าอยู่ ก็ไม่ได้โอทีค่ะ ซึ่งตั้งแต่เราทำงานปีกว่า พี่จะพูดเรื่องการได้โอทีที่ลดลงอยู่ตลอดเวลา แต่เราก็คิดแค่ คนมีปัญหากันคงหลุดปากพูด เพราะเราบอกว่าเราจะไม่ย้ายแผนกเอง ถ้าจะย้ายคือ ต้องหัวหน้าบอกให้ย้ายแผนกค่ะแต่ไม่ใช่ค่ะ เพียงไม่ถึงชั่วโมง พี่เค้าโทรหาหัวหน้าค่ะบอกเราขอย้ายออก โดยไม่ได้มีการพูดคุยกับเราล่วงหน้า เราไม่ทันตั้งตัวเลยค่ะ หัวหน้าเรียกคุย แต่เรายังไม่ได้ย้าย พอกลับมาหลังคุยแล้ว ทุกคนบอกเราว่า ทำไมไม่ขอร้อง อ้อนวอนหัวหน้าจนกว่าจะไป เราก็ทำเฉย และทำงานต่อไป คือ ไม่คิดว่าเพื่อนร่วมงานจะพูดแบบนั้น
จนตอนนี้พอมีเรื่องไปงานศพเพื่อน และให้เราต้องจ่ายเงินค่างานเลี้ยง เรายิ่งรู้สึกแย่ แถมวันนี้ยังมาบอกให้เราต้องจ่ายเลยนะ เราต้องทำเพื่อแผนกตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ นอกจากเงินกินเลี้ยง ก็ยังมีของขวัญแยกต่างหากอีกส่วน
7. ตั้งแต่มีปัญหากับพี่ใหญ่แผนก คือคนจัดเวรของแผนกเพียงคนเดียว
โอทีเราไม่เคยเท่าคนอื่นค่ะในช่วงแรก แต่เราไม่เคยพูดเรื่องนี้กับคนในแผนก คิดแค่ว่าอย่างน้อยช่วงวิกฤตเราก็ยังคงทำงานได้ แต่ถ้าถามว่าตอนนี้ต่างกับช่วงแรกมั้ย ไม่ต่างค่ะ
8. แผนกเราหยุดตามแบบราชการ แต่ถ้ามีตรงกับช่วงวันเสาร์ ในทุกเทศกาล ต้องมีคนทำงาน และคนนั้นมักเป็นเราค่ะ
คือทุกคนชอบพูดแบบ ดีจัง มีคนขึ้นให้แล้ว แต่เราไม่เคยบอกว่าเต็มใจทำนะคะ แต่เราก็จำเป็นต้องทำค่ะ
9. อันนี้คือเรารับไม่ได้สุดคือ เราโดนว่าจากพี่ใหญ่ของแผนก ว่าเราหน้าเงิน ในตอนมีปัญหากับพี่ใหญ่แผนก แบบ เราจะค่อนข้างทำงานเยอะน่ะค่ะ ช่วมีโควิด เรามีไปรับพาร์ทไทม์อีกแผนกเฉยๆ พี่บอกเราว่าถ้าไม่เงินมี เราคงไม่เสียสละมาทำงาน คือ ทุกคนต่างก็ทำงานเพื่อเงินมั้ยคะ
ในเวลาเพื่อนร่วมงานมีธุระ เราไม่เคยไม่ขึ้นเวรทำงานให้ค่ะ เร่จะอาสาตลอด
เราถามตัวเองตลอด เราโดนขนาดนี้แล้ว เรายังต้องฝืนความรู้สึกตัวเอง ให้พวกเค้ายังคงโอเคกับเรา
หรือ เราควรทำเพื่อตัวเองสักที โดยการเลิกแคร์เพื่อนร่วมงาน เลิกกลัวกลายเป็นแกะดำ และอยู่ให้ได้
ตอนนี้เราค่อนข้างแยกตัวออกมาจากแผนกล่ะน่ะ เราไม่อยากพูดคุยกับใคร รู้สึกเหนื่อยและทำตัวไม่ถูก จะทำตัวให้ปกติ เราก็ทำไม่ได้ค่ะ
ป.ล.พี่ใหญ่แผนก คือ คนคุมแผนกนี้ตั้งแต่เปิดแผนกค่ะ
แผนกเราเป็นแผนกเล็กมากที่มีหัวหน้าจากแผนกอื่นมาคุมค่ะ