โรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ ไม่ให้ผู้ใช้สิทธิ์ 30 บาท ใช้บริการห้องพิเศษ แม้จะยอมจ่ายค่าสมทบเอง ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

วันนี้ภรรยาของผมได้รับการส่งตัวจากโรงพยาบาลท่าแพ อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล ให้มาคลอดที่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา   เนื่องจากเด็กในครรภ์มีภาวะหัวใจผิดปกติ   โดยใช้สิทธิ์บัตรทอง  ในการรักษา  และการส่งตัว    เมื่อมาถึงห้องคลอดโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์แล้ว ผมได้ทำการประสานเพื่อจองห้องพิเศษ     ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่รับผิดชอบจองห้องพิเศษ  บอกว่า #ทางโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  ไม่มีนโยบายให้ผู้ใช้สิทธิ์บัตรทองจองห้องพิเศษ  หรือใช้บริการห้องพิเศษ   ถ้าต้องการใช้บริการห้องพิเศษ   ต้องใช้สิทธิ์การรักษาโดยการจ่ายเงินสดเองทั้งหมด เท่านั้น   #ย้ำว่าทั้งหมดไม่ใช่การจ่ายส่วนต่าง เหมือนกับโรงพยาบาลอื่นๆในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข     โดยให้เหตุผลว่า  โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นโรงพยาบาลที่สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ  ไม่ใช่โรงพยาบาลที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุข  จึงสามารถออกนโยบายระเบียบข้อบังคับ  ใช้เองได้      และปฏิบัติเช่นนี้มากว่า  10 ปี    จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้ทำการปฏิเสธผู้ป่วยที่ใช้สิทธิ์บัตรทอง   ที่ประสงค์จะสมทบจ่ายห้องพิเศษเอง  มาโดยตลอด  ตามนโยบายและขั้นตอนการใช้บริการของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์   เอง

1.ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า   การที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  มีห้องพิเศษที่สร้างโดยงบประมาณของรัฐบาล  จากภาษีของประชาชน  แต่กีดกันไม่ให้ประชาชนใช้  ถ้าต้องการใช้ต้องจ่ายเงินเหมือนโรงพยาบาลเอกชน   อันนี้โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์สามารถทำได้หรือไม่   และใช้ระเบียบข้อบังคับหรือกฎหมายข้อใดในการออกนโยบายนี้  และนโยบายนี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่     

2.และจากการสืบทราบข้อมูลจากการอยู่ในโรงพยาบาลพบว่า  ขณะนี้โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้แบ่งโรงพยาบาลออกเป็น 2 ระดับชั้น   คือฝั่งโรงพยาบาลที่บริการประชาชนทั่วไป   กลับฝั่งโรงพยาบาลที่บริการประชาชนแบบพรีเมี่ยม   โดยนำงบประมาณจากรัฐบาลซึ่งเป็นภาษีของประชาชน  มาพัฒนาโรงพยาบาลให้คล้ายกับโรงพยาบาลเอกชน   บริการอย่างรวดเร็วทันสมัย   และได้รับการรักษาโดยตรงจากอาจารย์แพทย์     และมีสิทธิ์ใช้ห้องพิเศษได้ทันที   แต่ต้องจ่ายเงินสดหรือใช้สิทธิ์อื่นๆตามนโยบาย ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กำหนด   แต่ในฝั่งของที่ต้องบริการประชาชนทั่วไป    กลับมีแพทย์ระดับปฏิบัติการ  มาบริการประชาชนโดยส่วนใหญ่  และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆก็ไม่เพียงพอ  เช่นที่นั่ง  พัดลมระหว่างพักคอยและที่อยู่ของญาติ  เป็นต้น    การนำเอาภาษีของประชาชน  เพื่อมาแสวงหารายได้เข้าโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์   และแยกการบริการออกเป็น 2 แบบนี้   สามารถทำได้หรือไม่  ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่   และใช้อำนาจระเบียบข้อบังคับใดในการสั่งการ     

จึงขอสอบถามผู้รู้ทุกคน  เพื่ออธิบายให้ผมเข้าใจ   

ปล.ตอนนี้  1.ได้ประสานไปยังสปสช.  โดยประสานไปยังสายด่วน และสปสช.เขต 17 สงขลา    เพื่อขอคำชี้แจง    แต่ไม่มีข้อมูลชี้แจงประการใด  จากสปสช.  แต่ให้ทางผมทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อเรียกร้องเรื่องนี้ต่อ สปสช. เขต 17 สงขลาแทน   โดยที่ สปสช.เขต 17 สงขลา  ไม่ได้ช่วยประสานโดยเร่งด่วนให้สามารถจองห้องพิเศษได้แต่อย่างไร   

2.และได้ประสานฝ่ายสิทธิประโยชน์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์    เพื่อขอดูระเบียบคำสั่งข้อบังคับหรือนโยบายที่ออกมา  ว่าใช้อำนาจหน้าที่ตามข้อไหน   และออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่  ตอนนี้ยังไม่ได้ติดต่อกลับมาครับ   

ผมไม่ได้หวังว่าภรรยาของผมจะได้ห้องพิเศษภายในวันนี้ หรือในขณะที่กำลังรักษาตัวอยู่ณขณะนี้    แต่ผมขอถามนะที่นี่  เพื่อหาแนวทางแก้ไขและทวงสิทธิ์ของประชาชนที่ถูกละเมิดมากกว่า 10 ปี  โดยที่ไม่มีใครเรียกร้องมาก่อน  และหากผมไม่ออกมาเรียกร้อง   อีก 20 ปีข้างหน้า   ก็ยังอาจเป็นระบบนี้อยู่  ที่ประชาชนคนธรรมดาทั่วไป   ถูกกีดกันจากการบริการของรัฐ     โดยเฉพาะประชาชนของ 5 จังหวัดชายแดนใต้  ที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ที่เข้ามาใช้  บริการจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 

ใครพอมีข้อมูล   ช่วยตอบและช่วยชี้แนะผมด้วยครับเรื่องนี้ผมจะทำอย่างเต็มที่ที่สุดให้มีการเปลี่ยนจนได้ครับ  และเมื่อตรวจสอบพบว่ายังมี โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอื่นๆก็ทำแบบนี้เช่นเดียวกันครับ        
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
รพ  มอ หาดใหญ่ไม่ได้อยู่ในกระทรวงสาธารณสุข    สถานะที่แท้จริงของของ รพ  มอ คือโรงเรียนแพทย์ค่ะ   เท่าที่ทราบ  รพ  มอ  สามารถปฎิเสธคนไข้ได้นะคะเคยมีกระทู้ต่อว่า  รพ  มอ  ไม่รับรักษาญาติของตัวเอง      ข้อสรุปคือโรงพยาบาลไม่ได้มีหน้าที่หลักในการรักษาคนไข้แต่หน้าที่หลักของเขาคือการผลิตแพทย์ออกมา  รายละเอียดต่างๆเลยอาจจะผิดจาก รพ ที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ห้ามปฎิเสธคนไข้     ขนาดข้อหลักใหญ่ยังไม่เหมือนกันข้อปลีกย่อยต่างๆก็อาจจะต่างกันค่ะ    

ถ้าคุณอยากใช้บัตรทองทำไมไม่ไป รพ หาดใหญ่ล่ะคะ   น่าจะไม่มีปัญหาเรื่องนี้ค่ะ

ส่วนพรีเมียมคลีนิคเปิดเพื่อเอารายได้ตรงนั้นมาจุนเจือฝั่ง รพ  ปกติค่ะ   น่าจะเริ่มเอาแบบจาก รพ  ศิริราช ค่ะ   โมเดลนี้เริ่มใช้กันใน รพ ใหญ่ๆของรัฐเพราะรายได้จากรัฐไม่พอกับค่าใช้จ่ายนะคะ   ยิ่ง รพใหญ่เท่าไหร่ต้องรับคนไข้อาการหนักๆมากเท่านั้น  รักษาแต่ละทีค่าใช้จ่ายสูงแต่เก็บจาก30บาทยังไงก็ขาดทุนยับเยินค่ะ    จากที่มีประสบการณ์นะคะพ่อเราเคยศัลยกรรมเส้นเลือดที่ มอ ค่ารักษาจริงรวมทั้งหมด2 แสนกว่าแต่เวลาจ่ายจริงก็แค่จาก30บาทรักษาทุกโรคไม่ได้จ่ายเพิ่มอะไรมากมาย   เห็นข้อเท็จจริงตรงนี้มั้ยคะ   2 แสนกว่าที่ภาครัฐแบกรับ   รัฐให้งบมาไม่พอกับค่าใช้จ่ายในการรักษาจริงหรอกค่ะ  เคสหนักกว่าพ่อเรามีอีกเยอะ  ค่ารักษาก็มากกว่าเยอะ     แล้วยิ่งศิริราชที่เป็น รพ ที่เป็นที่พึ่งสุดท้ายของการรักษาในประเทศจะยิ่งเจอเคสหนักๆมากกว่า  รพ  มหาวิทยาลัยของแต่ละภาคเสียอีก    รพ จึงจำเป็นที่จะต้องหารายได้จากทางอื่นอย่างพรีเมียมคลีนิคมาจุนเจือ รพ  หลัก  

ถ้าคุณบอกว่ารพ ผลาญภาษีของประชาชนด้วยการเปิดพรีเมียมคลีนิค   เราว่าอันดับแรกคือคุณควรหาข้อมูลก่อนจะกล่าวหา รพ  ก่อนจะดีกว่านะคะ

เพิ่มเติมจากที่พ่อแม่เคยใช้บริการจากทั้งส่วนปกติและพรีเมียมคลีนิคนะคะ    จริงๆไม่จำเป็นต้องพรีเมียมคลีนิคหมอก็โทรจองห้องพิเศษได้ค่ะ   ตึก ฉบ จะมีอยู่ชั้นนึงเป็นชั้นของคลีนิคนอกเวลาที่กันไว้ต่างหากโดยเฉพาะ   คนปกติจะไม่สามารถจองห้องในชั้นนั้นได้มีเพียงแค่หมอเท่านั้นที่สามารถจองได้    ห้องนั้นจะแพงกว่าห้องพิเศษปกตินิดหน่อยแต่ไม่แพงเท่า  ฉบ 12 ที่เป็นห้องชุด   ที่พ่อแม่เราเคยใช้บริการห้องในชั้นนั้นเพราะใช้บริการคลีนิคนอกเวลาและหมอนัดผ่าตัดนอกเวลาค่ะเลยรู้ว่ามีชั้นนึงที่เค้าล็อคไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่