วางแผนชีวิตหลังเกษียณ(ลำบากตัวเองไปไหมครับ)

ปีนี้ผมอายุ 32 ทำงานหน่วยงานราชการหน่วยหนึ่ง เงินเดือน 20000 บาท มีออมที่ กบข ตอนนี้ร่วมแสนกว่าบาทแล้ว
มีเงินเก็บ 2 แสนบาท มีรถจักรยานยนต์ที่ผ่อนหมดแล้ว 1 คัน ยังมีพ่อแม่และน้องสาวต้องดูแล 

ผมวางแผนชีวิตตัวเอง คือ การซื้อบ้านที่ภาคเหนือ ราคา 2 ล้านบาท (แต่ตัวอยู่กรุงเทพ) ซึ่งบ้านหลังนี้คิดว่าจะให้พ่อแม่อยู่ช่วงบั้นปลาย
โดยที่ตัวเองยังทำงานอยู่กรุงเทพ และหาทางย้ายในโอกาสต่อไป
ทุกวันนี้ผมค่อนข้างกระบิดกระเสียน ผมต้องส่งให้ที่บ้านเดือนละ 6000-8000 (ทุกเดือน) ให้ค่าขนมน้องสาว เดือนละ 1000-2000
บางครั้งมีค่าทำรายงาน ไปเที่ยวกับเพื่อน ฯลฯ

ตอนนี้น้องสาวผมอยู่ ม.6 เข้ามหาลัยคงต้องมีภาระเพิ่มขึ้น และย้ายออกจากบ้านเช่ามาอยู่หอพักเดือนละ 2000 
สรุปแล้วเดือนๆหนึ่ง ผมเหลือใช้สำหรับตัวเองจริงๆแค่ 8000 มันอาจจะดูน้อยแต่ผมพอใช้นะครับ ผมฝากเดือนละ 4000-5000 มาตลอด
ตอนนี้ผมวางชีวิตตัวเองช่วงบั้นปลายไว้แล้ว อีก 28 ปีเกษียณ 

เรื่อง อนาคตวางแผนครอบครัว อีกหน่อยก็คงต้องมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นไปอีก
ผมใช้ของธรรมดามาก ไม่เที่ยวกลางคืน สังสรรค์เฮฮาเหมือนคนหนุ่มในวัยเดียวกัน ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ใช่เพราะอะไร
เพราะผมกลัวเงินไม่พอใช้ ข้าวมื้อเย็นผมชอบสั่งพิเศษเพื่อแบ่งกินสองครั้ง เย็น/เช้า(วันถัดไป)

มีเดินทางท่องเที่ยวก็จะเป็นแบบ Backpacker และใช้รถไฟเป็นปกติ

มีเพื่อนผมเคยบอกว่าผมกระเบียดกระเสียนตัวเองมากไป แบบนี้จะอึดอัดไม่มีความสุข
พี่ๆหรือคุณน้าท่านใดผ่านไปมาแล้ว มีแนวคิดคำแนะนำ ทางลัด เป็นวิทยาทานก็ขอบคุณมากครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
สมัยน้องสาวผมยังเรียนไม่จบผมก็ประมาณคุณอ่ะครับ แต่ยังดีที่ผมทำงานเอกชนเงินเดือน 30,000++(โอทีนี่ผมทำแบบเอาเป็นเอาตายจนเพื่อนที่ทำงานมีแต่แซวว่าทำงานแบบนี้จะเก็บเงินไว้ฝั้งดินเหรอไม่ใช้ไม่เที่ยวเลย) หารู้ไม่ว่าเรามีภาระรับผิดชอบเยอะมาก เพราะต้องส่งเงินให้พ่อ+แม่ ที่ต่างจังหวัด+หนี้ กยศ. ตัวเอง+ส่งให้น้องสาวเรียนอีกขนาดเรียนจบแล้วช่วงปีแรกผมยังต้องคอยจ่ายค่าติวสอบราชการให้น้องสาว ตอนนั้นผมไม่มีเงินเก็บเลยนะนอกจากเงินสะสม pvd ที่บริษัท ส่วนเรื่องการไปเที่ยวแค่เที่ยวต่างจังหวัดนี่ผมยังไม่มีเงินเที่ยวเลย จนผมทำงานครบ 9ปี อายุ 32 น้องสาวเรียนจบและสอบได้งานลูกจ้างประจำของราชการผมถึงค่อยกล้าออกจากงานที่เก่าไปหาความท้าทาย+ได้เงินเดือนเพิ่มจนเริ่มมีเงินเก็บเริ่มได้ซื้อเสื้อผ้า+รองเท้าแพงๆ ได้กินอาหารแพงๆ ได้ซื้อโทรศัพท์แพงๆใช้กับเค้าบ้าง ได้ออกเที่ยวทั้งในประเทศและไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง ล่าสุดปีที่แล้วน้องสาวสอบราชการสังกัด กทม. ติดผมก็โล่งใจเรื่องที่ไม่ต้องเก็บเงินสำรองเผื่อสำหรับค่ารักษาพยาบาลให้แม่+พ่อแล้ว ทำให้มีเงินเก็บมากขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่