หลายๆคนตอนนี้น่าจะคิดถึงญี่ปุ่นกันแล้ว 🎌 วันนี้เราจะพาไปช้อปปิ้งกันที่ห้าง
Seibu Shibuya
ห้างSeibu นี้มีหลายสาขาทั่วประเทศญี่ปุ่นนะ สาขาใหญ่อยู่ที่ Ikebukuro แต่วันนี้เราจะไปในกลางเมืองของโตเกียวคือ Shibuya
ห้าง Seibu Shibuya สวรรค์ของนักช้อปของแบรนด์เนม ที่นี่มีแบรนด์เนมยอดนิยมของคนไทยเกือบทุกแบรนด์ในห้างเดียว
เดินทางไม่ยาก ห้างตั้งอยู่ใจกลางเมืองชิบูย่า สังเกตได้จากห้างจะมีสีรุ้งประดับ เรียกหาเรา ให้มาเสียเงิน
ห้างใหญ่มาก มีทั้งหมด 2ตึก เป็น A กับ B จากป้ายinformation มีภาษาไทยด้วยนะ
จุดประสงค์ของเราวันนี้คือใกล้ถึงวันเกิดแฟนแล้วต้องหาของขวัญ ในราคาที่เราจับต้องได้แต่ต้องดูเรียบหรู มาที่นี่จะเจอมั้ย ?
ร้านค้าแบรนด์เนมถ่ายรูปไม่ได้ขอลงเป็น floor guide แทนนะคะ 😊
ชั้น 1 เข้ามาก็เจอ Louis Vuitton เลยค่ะ แค่เข้ามาชั้น1 หัวใจก็เต้นรัวแล้วใช่มั้ยคะ
ชั้น 2 จะเป็นรองเท้าผู้หญิง หมวก ร่ม ผ้าเช็ดหน้า และของจิปาถะของซีซั่นนั้นๆ ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นกำลังเริ่มหนาว มีถุงมือ ผ้าพันคอ จะบอกว่าใครที่จะมาเล่นสกีไม่ต้องแบกให้หนัก มาซื้อเอาที่นี่ได้เลย
ที่สำคัญชั้นนี้มี Chanel / MCM / Coach นะจ้ะ ช้อปชาแนลใหญ่มาก พนักงานพร้อมต้อนรับคุณหญิงทุกท่านค่ะ
แบรนด์ Agnes B ทำผ้าเช็ดหน้าลายจิ้งจก🦎
คนเกลียดจิ้งจกจะเป็นลม
สามารถใช้เช็ดแว่น/เช็ดโทรศัพท์ได้นะ
ชั้น3 เสื้อผ้าผู้หญิง เครื่องประดับ ของผู้หญิง
ชายท่านใดอยากมาขอคุณแฟนแต่งงานกลางห้าแยกชิบูย่าแต่ยังไม่ได้ซื้อแหวน ขอแนะนำแวะมาเดินเซบุซื้อแหวนแล้วไปขอแต่งงานกลางห้าแยกได้เลย
ชั้นนี้มี Vivienne Westwood / Michael Kors / JILLSTUART / Agnes B เห็นสาวๆญี่ปุ่นดูชอบแบรนด์ michael kors เพราะราคาจับต้องได้ ใ้ช้ได้เรื่อยๆ
ชั้นนี้สามารถเดินเชื่อมไปยังทางตึก B ได้ค่ะ
ชั้น4 เสื้อผ้าผู้หญิง ชั้นนี้จะมี TORY BURCH / POLO RALPH LAUREN และแบรนด์ๆอื่นที่เป็น designer selection ราคาตามงานดีไซน์ ส่วนเรายังงบน้อย เสื้อผ้าตรงนี้เรายังไม่สามารถซื้อได้ ถ้าสิ้นปีถูกหวยมาว่ากันใหม่
ชั้น5 ก็ยังเป็นเสื้อผ้าผู้หญิง premium style คนญี่ปุ่นเขาชอบเนาะคำว่าพรีเมี่ยมเนี่ย ซึ่งการจัด display ในแต่ละร้านของเขาก็พรีเมี่ยมจริง
ชั้นนี้ก็มีทางเชื่อมไปยังตึก B เช่นเดียวกัน
ชั้น6 แผนกชุดชั้นใน ชุดกีฬา และเสื้อผ้าเด็ก
เราชอบแผนกนี้มาก เปิดโลกทัศน์ที่สุด ตอนเด็กๆเวลาดูการ์ตูนญี่ปุ่นเราก็อยากมีกระเป๋านักเรียนแบบนักเรียนญี่ปุ่นบ้าง พอรู้มาบ้างว่าเออมันแพง แต่ว่าวันนี้นะคะ เราได้ค้นพบกระเป๋านักเรียน ราคา 3หมื่นบาท (ราคานี้ซื้อ baobaoได้สองใบ555)
เด็กประถมที่นี่ถ้าเรียนโรงเรียนของรัฐบาลบังคับใช้ทุกคน ใช้ตั้งแต่ป.1-ป.6 นะ เอาจริงๆหารตกปีก็คุ้มแหละ กระเป๋านักเรียนทนมากจริงๆทำอะไรได้เยอะแยะมากกว่าที่เราคิด ราคาประมาณ10,000บาทก็มีนะ
ตัดมาที่แผนกชุดชั้นใน ชุดชั้นในที่ขายที่เซบุไม่เหมือนที่ขายตามห้างทั่วไปนะ งานจะละเอียดแตกต่างกว่ามาก แถมลูกไม้สวยสุดๆ ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ชุดชั้นในต้องจัดสัก1 ตัว เราใส่เราเห็นเองเราสวยเราชมตัวเองได้ 555555
ชั้น7 หลังจากช้อปจนยอดบัตรเครดิตเต็มเราสามารถมา tax refund ที่ชั้นนี้ได้นะคะ มีน้องหมายืนสง่าเรียกพี่ๆว่ามาคืนtax ตรงนี้นะคับ
ช่วงนี้แผนกนี้จะเหงาๆก่อน แต่ว่าจะรอวันที่counter กลับมาแตกอีกครั้งนึงนะ ปีหน้า อดทนนะ!
ต่อมาเราจะมาตะลุยที่ตึก B กัน
ขาช้อปแบรนด์เนมจะตาลุกวาว มือกำบัตรเครดิตให้แน่นเลยนะ
ชั้น1 เราจะเจอ HERMÈS / Tiffany&CO / Cartier
ชั้น2 มาถึงก็เจอ COMME DES GARCONS / MIU MIU / PRADA / BURBERRY และแบรนด์ยอดฮิตของสาวไทย ISSEY MIYAKE
แอบกระซิบว่า กระเป๋ารุ่นยอดฮิตราคาที่ญี่ปุ่นเริ่มต้น 4X,XXXเยน เท่านั้น >_<
ชั้น3 มาพบกับ BALENCIAGA / KENZO / CHLOÉ และเสื้อผ้าผู้หญิงและผู้ชายแบรนด์อื่นๆ
ชั้น4 เสื้อผ้าผู้ชายและผู้หญิง ใครเป็นแฟนคลับแบรนด์ maison kitsune ทีชั้นนี้มีขายนะ น่ารักสุดๆบัตรเครดิตสั่นอีกแล้ว และยังมี GUCCI / BOTTEGA VENETA / GIORGIO ARMANI
ชั้น5 เสื้อผ้าผู้ชายและเครื่องประดับของผู้ชาย
ผู้ชายญี่ปุ่นอาชีพส่วนใหญ่เป็น salaryman แต่ว่ามนุษย์เงินเดือนเขาเนี้ยบกว่าเรามากๆ ฉะนั้นในชั้นนี้จะเน้นสินค้าสำหรับหนุ่มๆเป็นพิเศษ
ใครที่จีบหนุ่มญี่ปุ่นอยากซื้อของขวัญหรือเซอไพรส์เราแนะนำมากๆนะมาที่นี่จบ ครบ โอเค นัมเบอร์วัน มีทุกอย่างจริงๆ
ชั้น 6 เสื้อผ้าผู้ชายและเครื่องประดับผู้ชาย
นอกจากนี้ยังมีสินค้ากอล์ฟ และทีสำคัญมีช้อป Samsonite ใครช้อปจนกระเป๋าเดินทางเต็ม เชิญ ช้อปSamsonite ส่วนเราอยากแพ็คตัวเองกลับไปไทย อยากกินข้าวที่ไทย ( ・᷄-・᷅ )
ชั้น 8 สำหรับผู้ชายแล้ว เครื่องประดับอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ นาฬิกา ใครอยากได้ seiko มาที่เซบุได้เลยไม่ต้องตามหาช้อปให้เมื่อยตุ้ม พนักงานยินดีต้อนรับ ชั้นนี้ยังมีแว่นกันแดด ถ้าน้องกลัวว่าแดดจะแรง พี่ก็อยากให้น้องมาดูแว่นกันแดดที่เซบุชิบูย่า
หลังจากเดินจนขาลากเราตัดสินใจที่จะซื้อ
‘ผ้าเช็ดหน้า’ ให้แฟนและตัวเอง ถ้าเป็นแนวคิดคนไทยจะไม่ซื้อผ้าเช็ดหน้าแน่ๆใช่มั้ยเพราะกลัวเอาไว้เช็ดน้ำตา แต่ว่าวัฒนธรรมญี่ปุ่นเขาชอบซื้อผ้าเช็ดหน้าให้กันนะ
う
culture shockอย่างนึงตอนมาญี่ปุ่นคือ ที่ห้องน้ำไม่มีกระดาษเช็ดมือแบบที่ไทย! แถมตอนนี้มีโควิด เครื่องเป่ามือแห้งก็งดใช้ คนไทยอย่างเราทำไง เช็ดกางเกง
5555 เปียกน่าเกลียดมาก และแฟนก็นิสัยเหมือนกัน ดูไม่ดีมากๆ แต่คนญี่ปุ่นทุกคนเขาจะพกผ้าเช็ดหน้า (เน้นว่าทุกคน) ล่าสุดไปศาลเจ้า ต้องล้างมือก่อนเข้าวัด ทุกคนหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดมือ ดูเรียบร้อย ญี่ปุ๊นญี่ปุ่น คนไทยเช็ดกางเกงหรือเช็ดเสื้อ อายมาก
ตอนจ่ายเงินเราบอกพนักงานได้เลยนะว่าห่อของขวัญ เราสามารถห่อเป็นของแบรนด์นั้น(เพิ่มเงิน30เยน) หรือว่าจะเป็นถุงของห้างก็ได้ (ฟรี) โลโก้ของห้างน่ารักอยู่แล้วเราเลยเลือกเป็นของฟรีค่ะ5555
เราห่อทั้งหมดสองชิ้น เอ๊ะ? ที่นี้จะรู้ได้ไงอะ ว่าอันไหนของใครถูกปะ แต่ว่า product designที่นี่ไปยังยุค2037 แล้ว เราสามารถมองจากด้านหลัง จะมีรูเล็กๆ ที่ดีไซน์มาอย่างดี ให้เรามองเห็นผ้าเช็ดหน้าได้ว่ากล่องนี้เป็นผ้าเช็ดหน้าแบบไหน โหย มันสุดๆไปเลยป่ะญี่ปุ่นเนี่ย (๑o̴̶̷̥᷅﹏o̴̶̷̥᷅๑)
เห็นรูเล็กๆนั้นมั้ย เราสามารถรู้ได้เลยว่าเป็นของขวัญอันไหน ใส่ใจสุดๆเลยใช่มั้ย
ใครอยากมาช้อปปิ้งแต่อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.sogo-seibu.jp.th.ld.hp.transer.com/foreign/
ป.ล. ที่นี่มีบริการรับฝากกระเป๋าเดินทางด้วยนะ 300เยน/ชิ้น ต่อ1 วัน ถูกมาก เผื่อใครไม่อยากฝากที่สถานีมาฝากที่นี่ได้และไปช้อปตัวปลิวได้เลย 🥰
ไปช้อปปิ้งที่ Seibu Shibuya กันนะทุกคน รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่ๆ
พาช้อปปิ้งละลายทรัพย์ที่ห้าง Seibu Shibuya 💸
ห้างSeibu นี้มีหลายสาขาทั่วประเทศญี่ปุ่นนะ สาขาใหญ่อยู่ที่ Ikebukuro แต่วันนี้เราจะไปในกลางเมืองของโตเกียวคือ Shibuya
ห้าง Seibu Shibuya สวรรค์ของนักช้อปของแบรนด์เนม ที่นี่มีแบรนด์เนมยอดนิยมของคนไทยเกือบทุกแบรนด์ในห้างเดียว
เดินทางไม่ยาก ห้างตั้งอยู่ใจกลางเมืองชิบูย่า สังเกตได้จากห้างจะมีสีรุ้งประดับ เรียกหาเรา ให้มาเสียเงิน
ห้างใหญ่มาก มีทั้งหมด 2ตึก เป็น A กับ B จากป้ายinformation มีภาษาไทยด้วยนะ
จุดประสงค์ของเราวันนี้คือใกล้ถึงวันเกิดแฟนแล้วต้องหาของขวัญ ในราคาที่เราจับต้องได้แต่ต้องดูเรียบหรู มาที่นี่จะเจอมั้ย ?
ร้านค้าแบรนด์เนมถ่ายรูปไม่ได้ขอลงเป็น floor guide แทนนะคะ 😊
ชั้น 1 เข้ามาก็เจอ Louis Vuitton เลยค่ะ แค่เข้ามาชั้น1 หัวใจก็เต้นรัวแล้วใช่มั้ยคะ
ชั้น 2 จะเป็นรองเท้าผู้หญิง หมวก ร่ม ผ้าเช็ดหน้า และของจิปาถะของซีซั่นนั้นๆ ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นกำลังเริ่มหนาว มีถุงมือ ผ้าพันคอ จะบอกว่าใครที่จะมาเล่นสกีไม่ต้องแบกให้หนัก มาซื้อเอาที่นี่ได้เลย
ที่สำคัญชั้นนี้มี Chanel / MCM / Coach นะจ้ะ ช้อปชาแนลใหญ่มาก พนักงานพร้อมต้อนรับคุณหญิงทุกท่านค่ะ
แบรนด์ Agnes B ทำผ้าเช็ดหน้าลายจิ้งจก🦎
คนเกลียดจิ้งจกจะเป็นลม
สามารถใช้เช็ดแว่น/เช็ดโทรศัพท์ได้นะ
ชั้น3 เสื้อผ้าผู้หญิง เครื่องประดับ ของผู้หญิง
ชายท่านใดอยากมาขอคุณแฟนแต่งงานกลางห้าแยกชิบูย่าแต่ยังไม่ได้ซื้อแหวน ขอแนะนำแวะมาเดินเซบุซื้อแหวนแล้วไปขอแต่งงานกลางห้าแยกได้เลย
ชั้นนี้มี Vivienne Westwood / Michael Kors / JILLSTUART / Agnes B เห็นสาวๆญี่ปุ่นดูชอบแบรนด์ michael kors เพราะราคาจับต้องได้ ใ้ช้ได้เรื่อยๆ
ชั้นนี้สามารถเดินเชื่อมไปยังทางตึก B ได้ค่ะ
ชั้น4 เสื้อผ้าผู้หญิง ชั้นนี้จะมี TORY BURCH / POLO RALPH LAUREN และแบรนด์ๆอื่นที่เป็น designer selection ราคาตามงานดีไซน์ ส่วนเรายังงบน้อย เสื้อผ้าตรงนี้เรายังไม่สามารถซื้อได้ ถ้าสิ้นปีถูกหวยมาว่ากันใหม่
ชั้น5 ก็ยังเป็นเสื้อผ้าผู้หญิง premium style คนญี่ปุ่นเขาชอบเนาะคำว่าพรีเมี่ยมเนี่ย ซึ่งการจัด display ในแต่ละร้านของเขาก็พรีเมี่ยมจริง
ชั้นนี้ก็มีทางเชื่อมไปยังตึก B เช่นเดียวกัน
ชั้น6 แผนกชุดชั้นใน ชุดกีฬา และเสื้อผ้าเด็ก
เราชอบแผนกนี้มาก เปิดโลกทัศน์ที่สุด ตอนเด็กๆเวลาดูการ์ตูนญี่ปุ่นเราก็อยากมีกระเป๋านักเรียนแบบนักเรียนญี่ปุ่นบ้าง พอรู้มาบ้างว่าเออมันแพง แต่ว่าวันนี้นะคะ เราได้ค้นพบกระเป๋านักเรียน ราคา 3หมื่นบาท (ราคานี้ซื้อ baobaoได้สองใบ555)
เด็กประถมที่นี่ถ้าเรียนโรงเรียนของรัฐบาลบังคับใช้ทุกคน ใช้ตั้งแต่ป.1-ป.6 นะ เอาจริงๆหารตกปีก็คุ้มแหละ กระเป๋านักเรียนทนมากจริงๆทำอะไรได้เยอะแยะมากกว่าที่เราคิด ราคาประมาณ10,000บาทก็มีนะ
ตัดมาที่แผนกชุดชั้นใน ชุดชั้นในที่ขายที่เซบุไม่เหมือนที่ขายตามห้างทั่วไปนะ งานจะละเอียดแตกต่างกว่ามาก แถมลูกไม้สวยสุดๆ ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ชุดชั้นในต้องจัดสัก1 ตัว เราใส่เราเห็นเองเราสวยเราชมตัวเองได้ 555555
ชั้น7 หลังจากช้อปจนยอดบัตรเครดิตเต็มเราสามารถมา tax refund ที่ชั้นนี้ได้นะคะ มีน้องหมายืนสง่าเรียกพี่ๆว่ามาคืนtax ตรงนี้นะคับ
ช่วงนี้แผนกนี้จะเหงาๆก่อน แต่ว่าจะรอวันที่counter กลับมาแตกอีกครั้งนึงนะ ปีหน้า อดทนนะ!
ต่อมาเราจะมาตะลุยที่ตึก B กัน
ขาช้อปแบรนด์เนมจะตาลุกวาว มือกำบัตรเครดิตให้แน่นเลยนะ
ชั้น1 เราจะเจอ HERMÈS / Tiffany&CO / Cartier
ชั้น2 มาถึงก็เจอ COMME DES GARCONS / MIU MIU / PRADA / BURBERRY และแบรนด์ยอดฮิตของสาวไทย ISSEY MIYAKE
แอบกระซิบว่า กระเป๋ารุ่นยอดฮิตราคาที่ญี่ปุ่นเริ่มต้น 4X,XXXเยน เท่านั้น >_<
ชั้น3 มาพบกับ BALENCIAGA / KENZO / CHLOÉ และเสื้อผ้าผู้หญิงและผู้ชายแบรนด์อื่นๆ
ชั้น4 เสื้อผ้าผู้ชายและผู้หญิง ใครเป็นแฟนคลับแบรนด์ maison kitsune ทีชั้นนี้มีขายนะ น่ารักสุดๆบัตรเครดิตสั่นอีกแล้ว และยังมี GUCCI / BOTTEGA VENETA / GIORGIO ARMANI
ชั้น5 เสื้อผ้าผู้ชายและเครื่องประดับของผู้ชาย
ผู้ชายญี่ปุ่นอาชีพส่วนใหญ่เป็น salaryman แต่ว่ามนุษย์เงินเดือนเขาเนี้ยบกว่าเรามากๆ ฉะนั้นในชั้นนี้จะเน้นสินค้าสำหรับหนุ่มๆเป็นพิเศษ
ใครที่จีบหนุ่มญี่ปุ่นอยากซื้อของขวัญหรือเซอไพรส์เราแนะนำมากๆนะมาที่นี่จบ ครบ โอเค นัมเบอร์วัน มีทุกอย่างจริงๆ
ชั้น 6 เสื้อผ้าผู้ชายและเครื่องประดับผู้ชาย
นอกจากนี้ยังมีสินค้ากอล์ฟ และทีสำคัญมีช้อป Samsonite ใครช้อปจนกระเป๋าเดินทางเต็ม เชิญ ช้อปSamsonite ส่วนเราอยากแพ็คตัวเองกลับไปไทย อยากกินข้าวที่ไทย ( ・᷄-・᷅ )
ชั้น 8 สำหรับผู้ชายแล้ว เครื่องประดับอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ นาฬิกา ใครอยากได้ seiko มาที่เซบุได้เลยไม่ต้องตามหาช้อปให้เมื่อยตุ้ม พนักงานยินดีต้อนรับ ชั้นนี้ยังมีแว่นกันแดด ถ้าน้องกลัวว่าแดดจะแรง พี่ก็อยากให้น้องมาดูแว่นกันแดดที่เซบุชิบูย่า
หลังจากเดินจนขาลากเราตัดสินใจที่จะซื้อ ‘ผ้าเช็ดหน้า’ ให้แฟนและตัวเอง ถ้าเป็นแนวคิดคนไทยจะไม่ซื้อผ้าเช็ดหน้าแน่ๆใช่มั้ยเพราะกลัวเอาไว้เช็ดน้ำตา แต่ว่าวัฒนธรรมญี่ปุ่นเขาชอบซื้อผ้าเช็ดหน้าให้กันนะ
う
culture shockอย่างนึงตอนมาญี่ปุ่นคือ ที่ห้องน้ำไม่มีกระดาษเช็ดมือแบบที่ไทย! แถมตอนนี้มีโควิด เครื่องเป่ามือแห้งก็งดใช้ คนไทยอย่างเราทำไง เช็ดกางเกง5555 เปียกน่าเกลียดมาก และแฟนก็นิสัยเหมือนกัน ดูไม่ดีมากๆ แต่คนญี่ปุ่นทุกคนเขาจะพกผ้าเช็ดหน้า (เน้นว่าทุกคน) ล่าสุดไปศาลเจ้า ต้องล้างมือก่อนเข้าวัด ทุกคนหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดมือ ดูเรียบร้อย ญี่ปุ๊นญี่ปุ่น คนไทยเช็ดกางเกงหรือเช็ดเสื้อ อายมาก
ตอนจ่ายเงินเราบอกพนักงานได้เลยนะว่าห่อของขวัญ เราสามารถห่อเป็นของแบรนด์นั้น(เพิ่มเงิน30เยน) หรือว่าจะเป็นถุงของห้างก็ได้ (ฟรี) โลโก้ของห้างน่ารักอยู่แล้วเราเลยเลือกเป็นของฟรีค่ะ5555
เราห่อทั้งหมดสองชิ้น เอ๊ะ? ที่นี้จะรู้ได้ไงอะ ว่าอันไหนของใครถูกปะ แต่ว่า product designที่นี่ไปยังยุค2037 แล้ว เราสามารถมองจากด้านหลัง จะมีรูเล็กๆ ที่ดีไซน์มาอย่างดี ให้เรามองเห็นผ้าเช็ดหน้าได้ว่ากล่องนี้เป็นผ้าเช็ดหน้าแบบไหน โหย มันสุดๆไปเลยป่ะญี่ปุ่นเนี่ย (๑o̴̶̷̥᷅﹏o̴̶̷̥᷅๑)
เห็นรูเล็กๆนั้นมั้ย เราสามารถรู้ได้เลยว่าเป็นของขวัญอันไหน ใส่ใจสุดๆเลยใช่มั้ย
ใครอยากมาช้อปปิ้งแต่อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.sogo-seibu.jp.th.ld.hp.transer.com/foreign/
ป.ล. ที่นี่มีบริการรับฝากกระเป๋าเดินทางด้วยนะ 300เยน/ชิ้น ต่อ1 วัน ถูกมาก เผื่อใครไม่อยากฝากที่สถานีมาฝากที่นี่ได้และไปช้อปตัวปลิวได้เลย 🥰
ไปช้อปปิ้งที่ Seibu Shibuya กันนะทุกคน รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่ๆ