รวม 9 ที่เที่ยวจ.พัทลุง ฉบับคนชอบถ่ายรูปต้องถูกใจ
เป็นจังหวัดที่ใช้คำว่า สวย ชอบ ดี ได้เปลืองมากกกก
รวบทั้งหมดเอามาไว้ในโพสต์นี้แล้ว จัดทริปเลยมะมะ
เวลานี้เหมาะกับการเที่ยวไทยที่สุดแล้วแหล่ะเราว่า
อีกหนึ่งจังหวัดงานดี เหมาะกับการเที่ยวช่วงปลายฝน..
ต้นหนาวที่อยากแนะนำ ละนี่คือครั้งแรกในการได้มา
พัทลุงของเรา ทุกอย่างกลมกล่อมมาก ตั้งแต่ธรรมชาติ
ภูเขา ทะเล ฟาร์มสเตย์ เวิร์คช็อปงานคราฟต์แฮนด์เมด
ตามรอยวิถีชุมชนต่างๆ ที่ให้เราได้ศึกษาและลงมือ
ทำกันจริงๆ แถมเอาผลงานกลับบ้านได้ด้วย ไปจนถึง
อาหารการกินที่ทำให้เราฟินมากจนอยากกลับมาอีก!
เรียกได้ว่าทริปนี้ครบองค์ ประทับใจอย่างหัวปักหัวปำ
เตรียมกล้องให้พร้อม เตรียมแบตสำรอง แล้วแกล้งๆ
ลั่นกดจองตั๋ว ไปสแนปภาพพร้อมกันเดี๋ยวนี้เลยยยย
| วิธีการเดินทางก็คือ บินตรงลงหาดใหญ่ แล้วก็เช่ารถ
ขับต่อไปอีกประมาณ 1.30 นาที ก็ถึงพัทลุงแล้วจ้าา
เช็คลิสต์ 9 ที่เที่ยวใน จ.พัทลุง ตามนี้โลดดดด
1.ปากประ/ทะเลน้อย
2.สะพานเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา
3.อ่างเก็บน้ำคลองป่าบอน
4.หัตถกรรมกระจูดวรรณี (ทำกระเป๋าจากกระจูด)
5.ในสวนศรี พัทลุงบ้านฉัน (ทำพิซซ่าโฮมเมด)
6.ป่าไผ่สร้างสุข
7.หลาดใต้โหนด
8.ที่นี่สถานีกงหรา Rice Field Park
9.ควนนกเต้น/น้ำตกหนานหรูด
1.ทะเลน้อย
ทะเลน้อย เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีความกว้างประมาณ 5 กิโลเมตร ยาวประมาณ 6 กิโลเมตร อยู่คาบเกี่ยวระหว่าง จ.พัทลุง และ จ.สงขลา แถมยังได้รับการประกาศเป็น เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 ทำให้พื้นที่ตรงนี้มีความอุดมสมบูรณ์มากๆ
ก็เลยเป็นที่มาให้เราขอเปิดตัวด้วยแลนด์มาร์กที่สำคัญ ของจังหวัดนี้ก่อนเลย ทริปนี้เราก็ได้ไปล่องเรือออกไปชมวิถีชีวิตชาวเลที่อาศัยอยู่บริเวณคลองปากประ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีอาชีพเป็นชาวประมง พร้อมๆกับได้ชมวิวทิวทัศน์ในพื้นที่ทะเลน้อยที่มีพื้นที่ ที่อุดมสมบูรณ์ทางชีวภาพมากที่สุด รายล้อมไปด้วยป่าพรุ ดอกบัว รวมถึงต้นกระจูด และพืชพรรณชนิดต่างๆ ต้นไม้เยอะมาก เป็นไม้น้ำสายพันธุ์แปลกๆทั้งนั้นเลย รวมถึงได้เห็นสัตว์น้ำ และนกอพยพชนิดต่างๆอีกมากมาย เช่น นกอีโก้ง เป็ดแดง นกกระยาง นกกาลักน้ำเล็ก นกช้อยหอย นกตีนเทียน เป็นต้น
ไฮไลท์ที่มาล่องเรือทะเลน้อยแล้วพลาดไม่ได้เลยก็คือ ล่องเรือชม “ทะเลบัวแดง” หรือ “ทะเลบัวสาย” ที่จะมีดอกบัวสีแดงอมชมพู สีสวยสดใส บานสะพรั่งอยู่เต็มพื้นผิวน้ำทั้งหมด แต่ดอกบัวจะบานเฉพาะแค่ช่วงเช้าเท่านั้นนะ พอเข้าช่วงสายก็จะหุบแล้วล่ะ และถึงแม้ช่วงเวลาที่เราไป (28 ก.ย. 63) จะไม่ใช่ฤดูที่มีดอกบัวเยอะๆ แต่ก็ยังพอมีบ้างแบบประปรายให้เราเชยชม เอาจริงคือสวยอยู่ ไม่แย่เลย ถ่ายรูปได้ทุกมุม แต่รอบหน้าจะมาเดือนเมษายนให้ได้ เค้าว่าพีคที่สุดนั่นแหละ 55555
ปล. อยากชมบัวแบบเต็มสตรีม แนะนำให้มาเดือน มีนาคม - พฤษภาคม นะฮะ
พิกัด
และในเส้นทางเดียวกันนั้น อีก 1 จุดที่จะพลาดไม่ได้ก็คือ ต้นลำพู ที่อยู่กลางน้ำอย่างโดดเด่นเป็นสง่า เป็นที่นิยมของคนชอบถ่ายรูปมากๆ ยิ่งมาตอนพระอาทิตย์ตก ความสวยจะยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก (ถ้าฝนไม่ตกนะ) เส้นทางเดินเรือมีระยะทาง 24 กิโลเมตร จะใช้เวลารวมทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมงหรือแล้วแต่เรา แต่แนะนำไหนๆก็มาแล้วให้จัดเต็มไปเลย บอกเลยอย่างเพลิน!
ครั้งนี้เราได้นั่งเรือชมวิวทั้งรอบเช้าและรอบเย็นเลยล่ะ
แต่ถ้าถามนะว่ารอบไหนดีกว่ากัน?
คำตอบคือดีเหมือนกันทั้งสองแบบ ต่างกันตรงบรรยากาศ เพราะตอนเช้าถ้าได้วิวพระอาทิตย์ขึ้น มีแสงแดดอ่อนๆ ส่องกระทบยอบนผิวน้ำ พร้อมกับได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านมายกยอเพื่อเก็บปลา
ส่วนรอบเย็นวิวพระอาทิตย์ตก มีแสงส้มๆที่มาพร้อมกับฟ้าสีใสๆ อากาศที่เริ่มเย็นลง และเจอสัตว์น้ำที่เริ่มออกมาหาอาหาร แต่ถ้าเย็นเกินไปก็จะมองไม่เห็นนาาา ให้มาสักสี่โมงกำลังดี
ระหว่างนั่งเรือไปซักพักจะมีพื้นดินที่โผล่น้ำขึ้นมา ถ้าอยู่ในช่วงน้ำลด แล้วพื้นไม่แฉะมาก เราสามารถขึ้นไปเดินบนนั้นได้ อันนี้แนะนำให้ทุกคนลงเดิน เพราะมันดีมาก วิวเทเลทับบี้ส์มากจ้า มาเดินเล่น แอบมองน้องควายน้ำที่หาอะไรกินอยู่ไกลๆ
ปล1. อยากเห็นน้องควายน้ำแบบชัดๆ ต้องมาเดือน พฤศจิกายน – มกราคม
ปล2. ตอนเช้าแนะนำลงเรือเวลา 5:30-6:00 น. และตอนเย็นเริ่ม 16:30-17:00 น.
สามารถติดต่อนั่งเรือได้ที่ ท่าเรือปากประ
ราคาล่องเรือคิดตามระยะทาง เวลา และราคา สามารถเหมาลำได้ นั่งได้สูงสุด 6 ท่าน
- เส้นทางในทะเลสาบ และทะเลน้อยใช้เวลา 2 ชม. ราคา 1,200 บาท
- เส้นทางในทะเลสาบ 1.5 ชม. 900 บาท / 1 ชม. 700 บาท
LINE ID : 0991218942 / 0819072249
TEL : 081-907-2249, 099-121-8942
คลองปากประ
คลองปากประแห่งนี้มีต้นน้ำมาจากเทือกเขาบรรทัด ที่อยู่ห่างออกไป 40 กิโลเมตร ที่นี่จึงถือว่าเป็นคลองที่น้ำสะอาดที่สุด ซึ่งบริเวณนี้ก็จะมีชาวบ้านออกมาตกปลาโดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า ยอ ขนาดยักษ์ใหญ่ไว้ตกปลาเป็นจำนวนมาก ยอ ก็เลยกลายเป็นเอกลักษณ์ของคลองปากประที่นี่ไปเลย ซึ่งส่วนมากปลาที่จะได้ก็จะเป็นปลาแบร่ หรือปลาซิวแก้ว ปลาตัวเล็กๆ ที่เวลาเอามาทอดแล้วจะกรอบๆอร่อยกรุบ
อันนี้เป็นเวลา ตี5.45 น. ได้ฮะทุกคน บอกเลยเก็บบรรยากาศมาให้ดูอย่างละเอียด
2.สะพานสะพานเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา
ชมวิวสวยๆของทะเลน้อย ดูวิถีชีวิตของควายน้ำ นกหลากหลายสายพันธุ์ที่บินโฉบไปมาอยู่เต็มไปหมด และบ้านไม้ 2 หลังที่ ถูกสร้างอยู่กลางน้ำที่สุดแสนจะน่ารัก จนกลายเป็นจุดแลนด์มาร์คที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปด้วย
เห็นในทีวีมานาน ได้มาเห็นของจริงแล้วร้องอู้หูไม่หยุด “สะพานสะพานเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา” สะพานที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีระยะทางร่วม 6 กิโลเมตร เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง กับ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ซึ่งระหว่างนั่งรถไปตามทางบนสะพานก็คือ พูดว่าสวยไม่หยุดไม่หย่อน ขนาดฝนตกปรอยๆก็ยังมิอาจเป็นอุปสรรคในการดูวิวได้55555
พิกัด
ตำบล พนางตุง อำเภอ ควนขนุน พัทลุง 93150
3.อ่างเก็บน้ำคลองป่าบอน
“อ่างเก็บน้ำคลองป่าบอน” เป็นอ่างเก็บน้ำที่สามารถส่งน้ำให้กับพื้นที่ฝายทดน้ำคลองป่าบอน ซึ่งมีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 7,000 ไร่ ให้มีน้ำสำหรับทำนาได้เพียงพอและทั่วถึง ไปเจอของจริงก็คือเกินความคาดหวังไปมาก เพราะมีความเป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทยอยู่นะจ๊า วิวดี อากาศดี ลมเย็นพัดโกรกตลอดเวลา ที่สำคัญคือวิวสวยสุดๆไปเลย
ตามพิกัดถ้าขับไปถึงบริเวณอ่างเก็บน้ำคลองป่าบอน จะเจอถนนเส้นสวยงามทอดยาวตามแนวสันอ่าง ขับขึ้นไปอีกนิด จะมีสะพานทางเดินเข้าไปชมวิวมีความเป็นญี่ปุ่น เนินหญ้าเตี้ยๆข้างอ่างเก็บน้ำ ภูเขาสีเขียวด้านหลังวิวดีมากๆ และลมก็ดีมากๆเช่นกัน ถ้าเดินขึ้นไปเรื่อยๆจะเป็นน้ำตกแม่แตง
(เล่าต่อในคอมเม้นท์ 1)
v
v
[SR] TRIP'LE x PHATTHALUNG รวม 9 ที่เที่ยวจ.พัทลุง ฉบับคนชอบถ่ายรูป
v
v
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม