ถอด7รหัสลับ**เฮ้ยลูกเพ่นี่ลูกพ่อ เมื่อคนสองรุ่นขัดแย้งกัน เราจำเป็นต้องเกลียดกันไหม (warning: เปิดเผยเนื้อหาบางส่วน)

อาจจะไม่ใช่การวิจารณ์หนังเต็มรูปแบบ แต่ก็ไม่ใช่รีวิวแบบทั่วไป 
เอาเป็นว่าเน้นการถอดความหมายจากบทและประเมินตัวหนังแบบไม่คาดหวังอะไรก่อนดู
โดยหน้าหนังแล้วคือ หนังบู๊ ตลก ขายดาราท้อประดับประเทศที่ไม่ยอมรับงานหนังเกือบ 10 ปี โป๊ป ธนวรรธน์  จนมาเจอบทนี้คือ ก๊อต นักแข่งรถจอมกวน
ร่วมกับ เต๋อ ฉันทวิชช์ พระเอกหนังแห่งยุค ตลกหน้าตาย จังหวะเป๊ะไปทุกช่วง มารับบท เปรม พ่อของก๊อต
เป็นหนังไทยเรื่องเดียวของปีนี้ที่ฝ่ากระแสโควิด และกระแสการเมืองขึ้นมาได้ 
ท่ามกลางวิกฤตโรงหนังที่จะรอดไม่รอด  เป็นหนังไทยที่ทำให้คิดถึงสังคมไทยอันเปราะบางในยามนี้

***เป็นหนังไทยที่มีคุณค่าพอที่จะเสียเงิน เสียเวลาไปดู ในยามเศรษฐกิจแบบนี้ ในภาวะเครียดและสังคมขัดแย้งกันเช่นนี้

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
7. ค้นหาอดีต เข้าใจปัจจุบัน
     โดยสรุปแล้ว  เป็นหนังไทยที่ควรค่าต่อการเสพเรื่องนึง เป็นหนังค้นหาอดีตเพื่อเข้าใจปัจจุบัน  
    แต่เงื่อนไขสำคัญก็คือ อดีตและปัจจุบันจะเข้าใจกันได้ก็ต่อเมื่อทั้งคู่ต้องมีพื้นฐานความรักต่อกัน
และผ่านวิกฤตมาในระดับที่ใกล้เคียงกัน ภาษาคนรุ่นเก่าก็คือ ร่วมเป็นร่วมตายกัน  ภาษาคนรุ่นใหม่ก็คือ ไม่เทกัน  

      ก๊อตค้นพบ “ความลับ” ระหว่างเขากับพ่อ ก็เพราะความรักความห่วงใยของเขาที่มีต่อพ่อ
จนทำให้เขาเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงตายกับพ่อหลายครั้ง
        เป็นหนังไทยในรอบหลายปีที่กล้าเสี่ยงกับบทย้อนยุคและไม่ใช้ตลกมืออาชีพเข้ามาเสริมเลย
        ไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบหรือแปลกใหม่น่าตะลึง แต่หนังดูสนุก มีความอบอุ่น ดีต่อหัวใจ
        ยิ่งในภาวะแบบนี้ พาครอบครัว คนใกล้ตัวไปดูด้วยจะยิ่งมีความสนุกและคุ้มค่า  

       บางทีอาจจะทำให้เราเริ่มต้นค้นหา รหัสลับของคนต่างรุ่น หรือคนที่เราไม่เคยเข้าใจเขาเลย จากมุมมองใหม่ๆบ้าง
       ขอให้ทุกคนที่กำลังต่อสู้เพื่อรุ่นตัวเองประสบความสำเร็จในการแสวงหาฝัน ที่สำคัญเก็บรักษาคนที่คุณรัก และรักคุณไว้ให้ดี...
       


ความคิดเห็นที่ 1
1. ธีมหลัก ** ต่างคนต่างมีฝัน สองรุ่นสองความต้องการ ฝันและคิดต่างกัน อย่าปิดกั้นและทำร้ายกันเลย
    ส่วนตัวดูแล้วคิดถึงสังคมไทยยุคนี้ มีหลายฉากที่หนังย้ำให้ตัวละครออกไปแสวงหาความฝันของตัวเอง ก๊อต ตัวแทนคนรุ่นใหม่ อยากเป็นนักแข่งรถ ในขณะที่เปรม พ่อก๊อต อยากเป็นหัวหน้าแก๊งเจ้าโลก มาเฟียผู้เรียกเก็บค่าคุ้มครอง ฝันใหญ่ว่าอยากกำจัดคนชั่วอภิบาลคนดี  โบ้คืออยากทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ถึงขั้นปกครองประเทศ และเบ๊ผู้อยากเป็นผู้กำกับหนัง (อดคิดไม่ได้ว่า เบ๊คือตัวแทนพี่ใหม่ภวัต ผู้กำกับ ผู้ใฝ่ฝันอยากทำหนังนั่นเอง)

    หนังตอกย้ำประเด็นนี้บ่อยครั้ง และนำมาซึ่งความขัดแย้งระหว่างพ่อลูก คนสองรุ่น ขณะที่รุ่นพ่อมองว่าสิ่งที่ลูกคิดและฝันไร้สาระ เสี่ยงตาย ไม่มีอนาคต  ลูกก็คิดว่า สิ่งที่พ่อทำและใฝ่ฝันโบราณ ไม่ได้เรื่อง ไม่พัฒนาไปไหน พ่อจึงบังคับลูกด้วยความรุนแรงนานาประการเพื่อให้ได้ดังใจ

    ก๊อต อ้อนวอนบ่อยๆว่า อย่าตีลูกได้ไหม อย่าทำร้ายลูกได้ไหม แต่ในชุดความคิดของพ่อ การตี นั่นคือ การปกป้องลูกจากภัยอันตราย ลูกจะเกลียดไม่สนใจ แต่ขอให้ลูกปลอดภัย

    สองความขัดแย้งนี้ยังไงก็ไม่สามารถบรรจบกันได้ เป็นคู่ขนานกันตลอดเวลา ตลอดเส้นเรื่องของหนังจวบจนกระทั่งอดีตได้นำพา “ความลับ” มาสู่ก๊อต

        ฉากที่ก๊อตพยายามกำหนดฝันของตัวเอง รวมทั้งเปลี่ยนแปลงอนาคตระหว่างเขากับพ่อมีหลายฉาก เช่น การกำกับการถ่ายรูปวันแต่งงานของพ่อกับแม่ให้ได้ดังใจตัวเอง จนพ่อต้องให้ก๊อตถ่ายเองตามความพอใจ และรูปถ่ายใบนั้นก็กลายเป็น index หนึ่งในหนังที่มากำหนดความหมายตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง เป็น index ที่กำลังบอกถึง อนาคตที่ก๊อตพยายามกำหนดมันขึ้นด้วยตัวเอง  
         รวมทั้งการขอจัดงานแต่งเอง และงานแต่งก็ออกมาเป็น "พรหมลิขิต" 2 เวอร์ชั่น

ความคิดเห็นที่ 6
6. นักแสดง และการแสดง
    ด้วยความที่หนังอาจจะมีธีมหลักที่แบ่งออกเป็น 2 ทางนั่นเอง ทำให้น้ำหนักของธีมหลักไม่ถูกขยี้จนถึงที่สุด
       แต่ที่แกร่งคือ ฝีมือนักแสดงทั้งสามคน
       โป๊ปคือนักแสดงที่แฟนละครต่างรู้ดีเรื่องฝีมือการแสดง และได้ฉายาว่าเป็นพระเอกสายฝีมือ เติบโตมาได้เพราะฝีมือการแสดงในบทหลากหลายตั้งแต่คุณชายไปถึงคนติดยา และกุ๊ยนักเลง
        ใครที่เป็นแฟนละครคงไม่แปลกใจที่จะเห็นโป๊ปบู๊โหดๆ ได้เท่ระเบิดในเรื่องนี้ เพราะเขาผ่านการเคี่ยวกรำมาอย่างหนักในละครจากบทบู๊
แต่เหนืออื่นใดเรื่องนี้ต้องชมผู้กำกับที่ดึงเสน่ห์โป๊ปออกมาได้แพรวพราวอีกครั้ง เป็นก๊อตที่เท่และแสดงออกทางสายตาละเอียดยิบ ลูกเล่นการแสดงพัฒนาขึ้นไปอีก  และน่าจะเป็นผลงานที่โป๊ปได้ปลดปล่อยความสามารถด้านการแสดงทั้งบู๊ ดราม่า กวน
เทียบกับละครแล้ว ส่วนตัวชอบเสน่ห์การแสดงในหนังมากกว่า เมื่อบวกกับใบหน้าหล่อคมคายของเขา
         โป๊ปเอาคนดูอยู่ทุกซีนจริงๆ โดยเฉพาะซีนร้องไห้และบู๊
    
        เต๋อ คือ เจ้าพ่อตลกหน้าตาย ที่หาพระเอกหนังในยุคนี้ทาบยาก และการแสดงของเต๋อ ไม่มากไม่น้อย เข้าขากับโป๊ปอย่างไม่น่าเชื่อ
ทั้งที่จังหวะการแสดงของทั้งคู่ต่างกันไม่น้อย ในขณะที่เต๋อตลกหน้านิ่ง เสียงดังฟังชัด พูดเร็วแรงและจริงจัง โป๊ปมีนัยน์ตาขี้เล่นกรุ้มกริ่ม กวน(ตีน) และเปลี่ยนอารมณ์ตลอดเวลา  

        แซมมี่สวยและเซ็กซี่ เอาคนดูอยู่หมัด แม้ว่าจะมีบทน้อยแต่น่ารัก แต่งหน้าสวย ขอทำนายว่าเธออนาคตไกลในบทนางเอก
        แต่ตัวละครอื่นที่ใส่เข้ามา เช่น เบ๊ เกือบจะเป็นส่วนเกินของหนัง หากไม่แบกรับเอาธีมหลักไว้ (แสวงหาฝันของชีวิต) ทำให้หนังเตลิดไปนิด




ความคิดเห็นที่ 2
2. ธีมรอง***  ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ชีวิตก็เริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
    ในชีวิตจริงคนเรา เกิดหนเดียว ตายหนเดียว แต่ก๊อตผ่านความเป็นความตาย และเหมือนเกิดใหม่อย่างน้อย 3 ครั้ง ครั้งแรกคือ การเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกจริงๆ  ครั้งที่สองคือ การย้อนมาเกิดในปี พ.ศ.2541 และครั้งที่ 3 คือ การรู้ว่าแม่ตั้งท้อง (ตัวเอง)  วิธีการเล่าเรื่องคือ การใส่ความหมายของการเกิดทุกครั้งว่าก๊อตพบความลับอะไรและได้บทเรียนอะไรใหม่ในชีวิต  

      การเกิดครั้งที่สอง คือการค้นพบ "ความลับ" ครั้งใหญ่
    การเกิดครั้งสุดท้ายของก๊อตที่เห็นตัวเองในจออัลตร้าซาวน์ หลังจากรำพันว่า ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ชีวิตก็เริ่มต้นได้ใหม่ได้เสมอ นั่นคือ ก๊อตผ่านความเจ็บปวดจากความขัดแย้งกับพ่อ และพบความลับบางอย่าง และหากมีลมหายใจอีกครั้ง เขาจะเริ่มต้นใหม่  
         สิ่งที่ก๊อตค้นพบคืออะไรก็ตาม แต่รหัสที่สำคัญมากคือ ดูแลรักษาคนที่รักเราให้ดีๆ มุมมองที่ต่างกัน บาดแผลที่กระทำต่อกันแก้ไม่ได้แล้ว แต่เริ่มต้นใหม่ได้
         แต่ความลับอย่างนึงของคนเราจริงๆ ก็คือ ตายก็คือตาย เรามีชีวิตเดียว แล้วเราจะตัดสินใจเริ่มต้นใหม่ได้หรือไม่...ในชีวิตเดียวนี้

  
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่