สถานการณ์ Covid-19 ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบไปเต็มๆทั่วโลก โรงแรมหลายแห่งต้องปิดชั่วคราว ขณะที่การท่องเที่ยวในประเทศเริ่มฟี้นตัว แต่ผมว่าต่างจังหวัด(ยกเว้นจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าแพง)จะดีกว่ากรุงเทพ โรงแรมหลายแห่งในกรุงเทพยังเงียบเหงา นั่นทำให้หลายๆที่อัดโพรโมชั่น ซึ่งเป็นเรื่องดี...
          วันนี้ผมไปพักที่ Hilton Sukhumvit Bangkok ในราคา 1400 นิดๆรวมภาษีแล้วกับโพรโมชัน Dream Away Bed & Breakfast  ซึ่งถือว่าถูกมาก ไปดูกันครับว่า Hilton Sukhumvit Bangkok มีอะไรน่าสนใจบ้าง 
          กระทู้นี้รวดเดียวจบเหมือนเคยครับ ไปกัน...

(รูปเก่าจากตอนที่ผมไปพักอีกโรงแรมย่านนั้น)
          Hilton Sukhumvit Bangkok อยู่ในซอยสุขุมวิท 24 ใกล้กับ Emporium ถ้ามารถส่วนตัวสามารถเข้าได้จากถนนสุขุมวิทและถนนพระราม 4 ถือว่าสะดวกประมาณหนึ่ง ส่วนการเดินทางที่สะดวกที่สุดคือรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีพร้อมพงษ์เดินมาอีกหน่อยก็ถึงแล้ว

          เข้าประตูด้านหน้ามาเจอกับโถงต้อนรับเป็นพื้นที่สูงโปร่ง ส่วนด้านในเพดานจะลดระดับลงมา ด้านข้างมีใบประกาศและรางวัลต่างๆวางไว้ให้ดู

          ส่วนเคาท์เตอร์เช็คอินจะอยู่ลึกเข้าไปด้านใน พื้นที่ยังดูโปร่งโล่ง เพดานมีจิตรกรรมเพิ่มความสวยงาม ภาพรวมไม่ได้ออกแนวหรูหราแบบสุดๆ แต่จะเป็นแนวเรียบหรู ทันสมัยมากกว่า ลูกเล่นเล็กๆที่ซ่อนไว้คือ ผิวหน้าของโต๊ะหรือตรงเคาท์เตอร์เช็คอินจะเขียนชื่อเต็มของกรุงเทพฯไว้ให้อ่านด้วย
          การเช็คอินเข้าห้องพักเป็นไปอย่างรวดเร็ว พนักงานบริการดีมาก ยิ้มแย้ม ให้คำแนะนำต่างๆดีทีเดียว เท่าที่ผมไปพักโรงแรมย่านนี้มา 3 แห่ง ที่นี่บริการดีที่สุด

          ได้ห้องแล้วครับ ไปดูห้องกัน ก่อนขึ้นลิฟท์จะเจอห้องอาหาร Mondo อยู่ชั้นล่าง แต่เรื่องกินเดี๋ยวค่อยว่ากัน ไปดูห้องพักก่อนครับ

          ห้องพักของผมวันนี้อยู่ชั้น 6 วิวอาจจะไม่โปร่งโล่งมาก ห้องพักตกแต่งแบบเรียบหรู ทันสมัย ถ้าเทียบกับ JW Mariott ที่ผมไปพักมาก่อนหน้านี้ 
อ่านได้ที่กระทู้นี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/40224419
          ห้องพักของ JW Mariott จะให้ความรู้สึกหรูหรากว่าอย่างชัดเจน แต่ Hilton จะทันสมัยกว่า ภายในห้องมีเตียงใหญ่ 1 เตียงหมอน 4 ใบ โซฟานั่งเล่น 1 ตัวซึ่งนั่งสบายมาก และโต๊ะทำงานแบบเป็นเรื่องเป็นราว 1 ชุด

          โต๊ะทำงานขนาดใหญ่พอประมาณ ใช้งานได้สะดวกพร้อมจุดเชื่อมต่อและปลั๊กไฟอยู่ริมกำแพงด้านหนึ่ง มีสาย Lan ให้แต่ลองทดสอบดูแล้วเชื่อมต่อไม่ได้ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน เก้าอี้ทำงานนั่งไม่ค่อยสบายนักครับ เพราะปรับเอนไม่ได้หลังเลยจะตรงไปหน่อย


          อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องพักก็ครบถ้วนตามระดับของโรงแรมเลยครับ มีปลั๊กไฟที่ผนังด้านหัวเตียง จำนวนปลั๊กเพียงพอต่อการใช้งานแต่ช่องเสียบ USB จะน้อยอยู่ครับ ด้านล่างของแผงควบคุมแสงสว่างจะเป็นไฟส่องพื้นเวลากลางคืน ซึ่งผมว่ามันสูงไปมาก กลายเป็นแสงแยงตาไปเสียอย่างนั้น ถ้าวางต่ำลงอีกหน่อยหรือหาแผ่นบังแสงให้พุ่งลงด้านล่างจะดีมากๆครับ
          Wifi ความเร็วใช้ได้ครับ ดู Netflix ได้อยู่หรือจะใช้งานทั่วๆไปนี่สบายเลย ตู้เย็นไม่มีอะไรแช่ไว้นะครับเพราะเรื่องของความสะอาด แต่ถ้าต้องการก็สามารถแจ้งแม่บ้านได้ครับ เดี๋ยวเขาเอามาเติมให้

          ด้านหน้าห้องน้ำมีตู้เสื้อผ้า ตู้เซฟไว้บริการตามมาตรฐาน ห้องน้ำขนาดใหญ่พอสมควรเลยครับ แบ่งห้องเป็น 2 ฝั่ง ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้า ด้านซ้ายเป็นส่วนอาบน้ำซึ่งมีทั้งอ่างให้แช่และฝักบัวเลือกตามความชอบได้เลย ส่วนด้านขวาเป็นสุขภัณฑ์แต่ที่นี่ไม่มีสายฉีดชำระนะครับ สำหรับคนไทยอาจจะรู้สึกแปลกๆนิดหน่อย

          ชั้นบนสุดของโรงแรมเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่พอประมาณ ลึก 1.2 เมตรพอจะว่ายออกกำลังกายได้อยู่ครับ ติดกันเป็นห้องออกกำลังกาย อุปกรณ์ใช้งานครบถ้วนเลยครับ แต่สำหรับผมอยากให้เอาลู่วิ่งไปไว้อีกฝั่งซึ่งวิวดีกว่า วิ่งไปชมวิวไปน่าจะดีกว่าวิวสระว่ายน้ำ(หรือเปล่า)

          เที่ยวหน้าฝนก็จะเจอฝนเยอะหน่อย ตกบ่ายฝนก็เทลงมาอย่างต่อเนื่องเอาเป็นว่าวันนี้ทานอาหารเย็นที่โรงแรมนี่แหละ ห้องอาหารมี 2 แห่งคือ Mondo ที่ชั้นล่างซึ่งเป็น all day dining หรือทานได้ทั้งวัน กับอีกห้องอาหารชื่อ Scalini ที่ชั้น 2 บริการอาหารฝรั่ง ชื่อ Scalini แปลว่าบันได ตรงนี้เลยจะเด่นเรื่องบันไดวน สวยดีทีเดียวครับ

          ห้องอาหารตกแต่งแบบ New York ในยุคประมาณ 1930-1945 วัสดุสีทองแดงแบบดิบๆ ผนังสีดำ เฟอร์นิเจอร์โทนสีน้ำตาล โคมไฟแขวน บรรยากาศโดยรวมจะออกแนวทึมๆหน่อย แต่หรูหรา อารมณ์เหมือนมาเฟียอิตาลี มานั่งคุยกันในร้านอาหารหรูๆกลาง New York ถ้าใครเพิ่งเล่นเกม Mafia หรือดู The God Father มาน่าจะอินกับบรรยากาศได้ไม่ยาก

          มืดแล้ว แสงน้อยจริง ถ่ายภาพค่อนข้างยากเลย เครื่องดื่มชื่ออะไรจำไม่ได้ ออกรสเปรี้ยวสดชื่นมาก แต่ดูดไปครั้งแรกขนลุกเลยครับ สิ่งที่สั่งไปมีแค่ 2 อย่างหลักๆแต่ดูปริมาณเยอะมาก ขนมปังเสริฟให้ฟรีๆ จานแรกเป็นอารมณ์ของแกล้ม ซึ่งจะมีให้เลือกหลายราคา ถ้าเป็นราคา 400 บาทจะเลือกได้ 5 อย่าง เช่นมันหวานทอด เฟรนช์ฟราย ยำอาหารทะเล ทาโก้ เวลามาเสริฟจะรวมมาหมด เต็มจานเลย ใครที่แค่มานั่งดื่มและสั่งของแกล้ม จานนี้คุ้มครับ
          อีกจานเป็นเนื้อ T bone ราคา 2020 บาท ขนาดของเนื้อประมาณ 500 กรัมหักน้ำหนักกระดูกอาจจะเหลือสัก 300-400 กรัม เนื้อนุ่มมากครับ ทานง่ายทีเดียว ถ้าเทียบกับเนื้อที่เป็นร้านโปรดคือ The Company B ของพี่โต เนื้อของ Hilton นุ่มกว่าแต่ราคาของ Hilton ก็แพงกว่าเช่นเดียวกัน

          อาหารเช้าวันต่อมาก็ทานที่ห้องอาหาร Scalini ที่เดิมนั่นแหละ ไลน์อาหารมีให้เลือกหลากหลาย แต่สิ่งที่ชอบคือเมนูไข่ ซึ่งต้องสั่ง แต่เวลามาเสริฟจะไม่ใช่ไข่โปะมาเฉยๆ อย่างไข่ดาวก็จะมีเครื่องเคียงใส่มาด้วย อันนี้เจ๋งเลยครับ ไม่เคยเห็นที่ใหนทำ
          สรุปโดยรวมคือ 1400 บาทรวมอาหารเช้า คุ้มมากๆ คุณภาพห้องพักและการบริการเกินราคาแน่นอน สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างคือพนักงานที่ร้าน Scalini ซึ่งน่าจะเป็นระดับหัวหน้าแหละผมลืมถามชื่อ คุยดีมากๆ ตั้งแต่มื้อค่ำก็มาคุยเรื่องการออกแบบสถานที่ ตอนเช้าก็มาสอบถามว่านอนสบายมั้ย(จำผมได้ด้วยแฮะ)...
          ตอนนี้โพรโมชันนี้ไม่เห็นในเวปไซท์ของ Hilton แล้วนะครับ ราคากระโดดไป 2000 กว่าบาทแล้ว แต่ถ้ามีอีกก็น่าไปลองพักดูครับ...สวัสดีครับ
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
หากชอบการรีวิวของผม ไปดูรีวิวที่ผมทำไว้ในช่องทางอื่นๆได้นะครับ แนะนำ คอมเม้นท์ตามสบายครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Youtube:    https://www.youtube.com/channel/UC6Zil4A2qZK5-GcNPFI3Lcg
Website:    https://www.gate1terminal1.com/
Instagram: https://www.instagram.com/gate1_terminal1
Facebook:  https://www.facebook.com/followmeonearth/