สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ท้อง 3ครั้งค่ะ
ท้องแรกตอนอายุ 34 ปี หลังจากปล่อยและเตรียมตัวกับการมีลูก ใช้เวลาเกือบ 2 ปีกว่าจะติด ตรวจวันไข่ตกทุกอาทิตย์ ไม่ปรากฏว่าไข่ตกซักครั้งเดียว จนเลิกตรวจ ตรวจการตั้งครรภ์ทุกเดือนเป็นเวลาเกือบ 2ปี ก็เจอแต่ขีดเดียว จนเลิกตรวจ
อาการคัดเต้า พะอืดพะอม ฉี่บ่อย เป็นบ่อยมากเพราะมโนว่าท้อง
แต่วันนึง..... ขณะนั่งรถไปเยี่ยมญาติ อยู่ๆก็ปวดหัวและเผลอหลับในรถ ทั้งที่ไม่เคยหลับในรถ กลับจากเยี่ยมญาติ แฟนเลยให้ตรวจ เราก็อิดออดเพราะผิดหวังตลอด สุดท้ายก็ตรวจแล้วขึ้น 2ขีด พอรู้ว่าท้อง มันบอกอาการไม่ถูก ไม่คิดว่าวันนึงจะได้เป็นแม่คน มันสั่นชา ปนดีใจ ปนงง อยู่ๆก็มา อยากกินมะม่วงเปรี้ยวมาก ซื้อมะม่วงเปรี้ยวมายำกิน จากปรกติที่เปรี้ยวเข็ดฟันจนกินไม่ได้ กลายเป็นลิ้นไม่รับรส หั่นมะนาวใส่เป็นลูกๆก็ไม่เปรี้ยวเลย จากที่ไม่ชอบกินข้าวเหนียวก็ซื้อมานึ่งกิน อยากกินแต่ข้าวเหนียวหมูปิ้ง จนไปฝากครรภ์และอัลตร้าซาวด์ หมอพบถุงตั้งครรภ์แต่ไม่พบสัญญาณชีพ ไม่มีตัวเด็ก หมอถามว่าเรายังมีอาการแพ้ท้องอยู่หรือเปล่า เหมือนหมอดึงสติเรากลับมา เราจำไม่ได้ว่าอาการพะอืดพะอม และอยากกินของเปรี้ยว คัดเต้าหายไปตอนไหน ออกจากห้องอัลตร้าซาวด์มายืนกอดกันร้องไห้กับแฟน เราคืออึ้งและช็อคไปเลย
หมอบอกร่างกายยังไม่รับรู้ว่าท้องลม หมอแนะนำให้เดินเยอะๆ ออกกำลังกายเยอะๆ ไม่เกิน 2 อาทิคย์ร่างกายก็จะขับถุงตั้งครรภ์ออกมาเอง ผ่านไปอาทิตย์เดียว เราเริ่มปวดท้องตอน 6โมงเย็น ปวดหน่วงเหมือนประจำเดือนทั้งปีมาพร้อมกัน จากนั้นก็เริ่มเลือดไหล เป็นเลือดข้นเหนียวๆ ปวดจนนั่งเก้าอี้หรือนอนไม่ได้ เรานั่งให้เลือดไหลบนชักโครกเกือบ 6ชม. หนำซ้ำท้องเสียอีก จนถึงเที่ยงคืนร่างกายเราชัก เลยต้องไปโรงพยาบาล ช่วงนั้นยังปวดท้องแต่เลือดไม่ออกมาแล้ว ไปโอดโอยบนขาหยั่งอยู่ครึ่งชั่วโมง หมอบอกเหลือก้อนสุดท้ายคงใช้เวลาสักพัก พอหมอไม่อยู่เราลุกไปเข้าห้องน้ำ ถุงตั้งครรภ์หลุดออกมาก้อนเท่ากำปั้น บางคนอาจเรียกว่าถุงพุงปลา จากนั้นอาการปวดก็หายเป็นปลิดทิ้ง เดินตัวปลิวกลับบ้าน กลายเป็นคนละคนกับตอนมา แท้งครบ ไม่ต้องขูดมดลูก
ท้อง 2 ตอนอายุกำลังจะ 36 ห่างจากท้องแรกเกือบ2ปี มีอาการเป็นไข้รุมๆ ปวดหัว มึนๆ ปวดหน่วงหน้าท้องเหมือนจะมีประจำเดือน อยู่ๆก็หนาวเข้ากระดูก จนแอบคิดว่าติดโคโรน่าจากที่ทำงาน กลับบ้านมาวัดไข้ก็ปรกติ เลยตรวจฉี่ ปรากฏว่าขึ้น 2ขีด ทั้งดีใจทั้งกังวลเพราะเป็นช่วงที่โคโรน่าระบาดหนัก หลายบริษัทปิดทำการ หลายประเทศก็ปิด อาการแพ้ท้องไม่ค่อยมีมาก แทบไม่แพ้เลย จะมีแต่ขมปากและอยากกินทุเรียน จากที่ไม่ชอบทุเรียน แต่อยากกินทุกวัน พออายุครรภ์ 11สัปดาห์เราก็เจาะเลือดตรวจ NIPT หมอพบว่าเด็กมีความเสี่ยงเป็นพาเทา patau syndrome มีความผิดปรกติโครโมโซมคู่ที่ 13 เด็กมีลักษณะปากแหว่ง เพดานโหว่ และอาจตายในครรภ์หรือตายตอนคลอด
เราต้องไปฝากครรภ์กับหมอเฉพาะทางอีกโรงพยาบาล หมออัลตร้าซาวด์สัปดาห์ที่ 13 แล้วบอกเป็นสัญญาณที่ดีเพราะร่างกายเด็กปรกติ แก่นกลางศรีษะมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ตัวเด็กปรกติ แต่ถุงน้ำคร่ำใหญ่กว่าปรกติ หมอนัดอัลตร้าซาวด์ทุก 3 สัปดาห์ หมอบอกว่า ต้องรอให้ขนาดเด็กโตกว่านี้ถึงจะเช็คได้แน่ชัดว่าเป็นพาเทา Patau syndromeหรือเปล่า และต้องเจาะน้ำคร่ำเมื่ออายุครรภ์ 16 สัปดาห์ขึ้นไป ถ้าเด็กเป็นพาเทา แนะนำให้ยุติการตั้งครรภ์ก่อนสัปดาห์ที่ 21 แต่ซาวด์ในวันนั้นหมอบอกเป็นสัญญาณที่ดี
เราท้องจน 16สัปดาห์ถึงบอกครอบครัวแฟนในงานวันเกิดเรา ทุกคนก็ดีใจปนโกรธเพราะไม่ยอมบอก ทุกคนเห่อ พากันเตรียมอุปกรณ์เลี้ยงเด็ก และทายเพศ เราบอกว่าเพราะเด็กมีความเสี่ยงที่จะไม่ปรกติเลยไม่บอกใคร หลังวันเกิดเรา 1 วัน เราก็มีนัดอัลตราซาวด์สัปดาห์ที่ 16 พบว่าตัวเด็กไม่ดิ้น เราเลยถามหมอว่าเด็กหลับหรอ หมอบอกเด็กตายแล้ว ต่อให้หลับยังไงก็ต้องมีเสียงหัวใจเต้น คือทั้งหมอและเราไม่คิดว่าลูกเราจะตายในครรภ์ หมอให้เวลาทำใจ ไม่เกิน 2 สัปดาห์แล้วต้องคลอดเด็กเหมือนคลอดปรกติ วันรุ่งขึ้นเราต้องเจาะน้ำคร่ำเพื่อยืนยันสาเหตุที่หัวใจเด็กหยุดเต้น เจาะน้ำคร่ำแบบไม่ฉีดยาชา หมอบอกยังไงก็เจ็บอยู่ดี หมอซัดเข็มลงท้องเรา และดันเข็มให้ทะลุถุงน้ำคร่ำ ถุงน้ำคร่ำคือเหนียวมาก อาการคือเหมือนโดนมีดจ้วงแล้วบิด ช่วงที่หมอสูบเอาน้ำคร่ำคือ เหมือนเข็มทะลุไปก้นกบ แล้วตอนดึงเข็มออกคือดึงแรงมาก เราคือร้องลั่น เดินกุมท้องเหมือนโดนแทงมา หมอบอกอาจเจ็บไปอีก 2วัน และก็2วันจริงๆ เราแอบดูน้ำคร่ำในกระบอกฉีดยา ดำขุ่นเหมือนน้ำโค้ก น้ำเป็บซี่ พอกลับมาบ้าน น้ำคร่ำก็ซึมตลอด 1 อาทิตย์
หมอนัดให้กลืนยา3เม็ด ก่อนเข้าแอดมิด เป็นยาบีบมดลูกหรือยาทำแท้ง แต่เราไม่มีอาการข้างเคียงอะไรเลย ไม่พะอืดพะอม ไม่อาเจียน ไม่ปวดท้องเลย จนวันไปแอดมิด หมอสอดยาเม็ดเข้าไปลึกมาก เจ็บมาก ผ่านไปประมาณ2ชม. เราก็เริ่มปวดหน่วงท้องและเลือดเริ่มไหล หมอสอดยาให้ทุกๆ4ชม. จนยาเม็ดที่ 3 คือปวดจนลืมตาไม่ได้ คุยไม่รู้เรื่อง เหงื่อแตก หายใจไม่ออก เหมือนมีอะไรคาอยู่แต่หมอดึงออกมาไม่ได้และห้ามเบ่งเพราะปากมดลูกไม่เปิด หมอจะทำการบล็อคหลังให้ แต่ช่วงที่รอพยาบาลมาช่วยจับเรา จู่ๆเด็กก็หลุดออกมา ตอนนั้นคือโล่งมาก เหมือนโดนกดหัวจุ่มน้ำแล้วเราโผล่ขึ้นมาหายใจได้ ลูกเราเป็นผู้ชายตัวเท่าฝ่ามือ ตัวเท่าลูกแมวที่คลอดใหม่ๆ เราเห็นสภาพลูกแล้วก็อดร้องไห้ไม่ได้เพราะสงสาร เขาปากแหว่งเพดานโหว่ เราแอดมิดอยู่ 3วันก็กลับบ้าน กลับมาได้2คืนก็กลับไปแอดมิทใหม่เพราะปวดท้องและเลือดออกเยอะมาก ออกมาเป็นก้อนใหญ่ๆ หมอสอดยาให้อีก 3เม็ด และจะทำการผ่าตัดเพราะยังมีเลือดหรือเศษรกค้างในมดลูก เราแอดมิทอยู่2คืน หมอไม่ได้ผ่าให้เพราะกลัวมดลูกแตกและถ้าผ่าเราต้องรออีกเป็นปีถึงจะปล่อยให้ตั้งครรภ์ได้อีก สรุปคือไม่ผ่าและเลือดเราก็ออกน้อยกว่าเดิม หมอเลยให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน
เรากลับมาฝังลูกตัวเองไว้ที่สวนหลังบ้าน 1เดือนต่อมา หมาที่บ้านก็ตาย เราก็ฝังหมาไว้ฝั่งตรงข้าม ตอนนี้ในสวนเรามีแมว 1ตัว หมา 1ตัวและลูกชายเราฝังไว้ในสวนด้วยกัน
2อาทิตย์ต่อมา ก็อัลตร้าซาวด์มดลูก หมอบอกมดลูกสะอาดดี ไม่มีอะไรตกค้าง แค่รอประจำเดือนมา จากนั้นก็ปล่อยได้
ผ่านมาแล้ว 4เดือน ตอนนี้เรากำลังตั้งครรภ์ครั้ง 3 ตอนนี้เพิ่งได้ 7 สัปดาห์ หมอนัดอัลตร้าซาวด์สัปดาห์ที่7 early ultrasoundเพราะเรามีประสบการณ์แท้งมาก่อน ตอนนี้คืออยากให้ถึงวันนัดอัลตร้าซาวด์เร็วๆ อยากรู้ว่าลูกเราแข็งแรงดีมั๊ย อาการแพ้ก็มีพะอืดพะอม ปวดหัว หนาวสั่น ขมปากและฉี่บ่อยมาก
เราดีใจกับคุณแม่ทุกท่านที่ลูกออกมาสุขภาพร่างกายแข็งแรง แอบอิจฉาลึกๆ คือเราไม่โฟกัสว่าลูกจะเป็นชายหรือหญิง แต่ขอให้สุขภาพร่างกายและจิตใจปรกติแข็งแรงสมบูรณ์ อังคารที่ 27 ตุลาคม 2563 เราจะมาอัพเดทผลอัลตร้าซาวด์อีกทีนะคะ
คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือมีประสบการณ์ตั้งครรภ์ในแบบไหน เอามาแชร์กันได้นะคะ หรือสอบถามรายละเอียดอาการตั้งครรภ์ ท้องลมหรือลูกตายในครรภ์ได้ค่ะ เราเข้มแข็งมาก ณ เวลานี้
ท้องลมและพาเทาซินโดรม Patau syndrome
ท้องแรกตอนอายุ 34 ปี หลังจากปล่อยและเตรียมตัวกับการมีลูก ใช้เวลาเกือบ 2 ปีกว่าจะติด ตรวจวันไข่ตกทุกอาทิตย์ ไม่ปรากฏว่าไข่ตกซักครั้งเดียว จนเลิกตรวจ ตรวจการตั้งครรภ์ทุกเดือนเป็นเวลาเกือบ 2ปี ก็เจอแต่ขีดเดียว จนเลิกตรวจ
อาการคัดเต้า พะอืดพะอม ฉี่บ่อย เป็นบ่อยมากเพราะมโนว่าท้อง
แต่วันนึง..... ขณะนั่งรถไปเยี่ยมญาติ อยู่ๆก็ปวดหัวและเผลอหลับในรถ ทั้งที่ไม่เคยหลับในรถ กลับจากเยี่ยมญาติ แฟนเลยให้ตรวจ เราก็อิดออดเพราะผิดหวังตลอด สุดท้ายก็ตรวจแล้วขึ้น 2ขีด พอรู้ว่าท้อง มันบอกอาการไม่ถูก ไม่คิดว่าวันนึงจะได้เป็นแม่คน มันสั่นชา ปนดีใจ ปนงง อยู่ๆก็มา อยากกินมะม่วงเปรี้ยวมาก ซื้อมะม่วงเปรี้ยวมายำกิน จากปรกติที่เปรี้ยวเข็ดฟันจนกินไม่ได้ กลายเป็นลิ้นไม่รับรส หั่นมะนาวใส่เป็นลูกๆก็ไม่เปรี้ยวเลย จากที่ไม่ชอบกินข้าวเหนียวก็ซื้อมานึ่งกิน อยากกินแต่ข้าวเหนียวหมูปิ้ง จนไปฝากครรภ์และอัลตร้าซาวด์ หมอพบถุงตั้งครรภ์แต่ไม่พบสัญญาณชีพ ไม่มีตัวเด็ก หมอถามว่าเรายังมีอาการแพ้ท้องอยู่หรือเปล่า เหมือนหมอดึงสติเรากลับมา เราจำไม่ได้ว่าอาการพะอืดพะอม และอยากกินของเปรี้ยว คัดเต้าหายไปตอนไหน ออกจากห้องอัลตร้าซาวด์มายืนกอดกันร้องไห้กับแฟน เราคืออึ้งและช็อคไปเลย
หมอบอกร่างกายยังไม่รับรู้ว่าท้องลม หมอแนะนำให้เดินเยอะๆ ออกกำลังกายเยอะๆ ไม่เกิน 2 อาทิคย์ร่างกายก็จะขับถุงตั้งครรภ์ออกมาเอง ผ่านไปอาทิตย์เดียว เราเริ่มปวดท้องตอน 6โมงเย็น ปวดหน่วงเหมือนประจำเดือนทั้งปีมาพร้อมกัน จากนั้นก็เริ่มเลือดไหล เป็นเลือดข้นเหนียวๆ ปวดจนนั่งเก้าอี้หรือนอนไม่ได้ เรานั่งให้เลือดไหลบนชักโครกเกือบ 6ชม. หนำซ้ำท้องเสียอีก จนถึงเที่ยงคืนร่างกายเราชัก เลยต้องไปโรงพยาบาล ช่วงนั้นยังปวดท้องแต่เลือดไม่ออกมาแล้ว ไปโอดโอยบนขาหยั่งอยู่ครึ่งชั่วโมง หมอบอกเหลือก้อนสุดท้ายคงใช้เวลาสักพัก พอหมอไม่อยู่เราลุกไปเข้าห้องน้ำ ถุงตั้งครรภ์หลุดออกมาก้อนเท่ากำปั้น บางคนอาจเรียกว่าถุงพุงปลา จากนั้นอาการปวดก็หายเป็นปลิดทิ้ง เดินตัวปลิวกลับบ้าน กลายเป็นคนละคนกับตอนมา แท้งครบ ไม่ต้องขูดมดลูก
ท้อง 2 ตอนอายุกำลังจะ 36 ห่างจากท้องแรกเกือบ2ปี มีอาการเป็นไข้รุมๆ ปวดหัว มึนๆ ปวดหน่วงหน้าท้องเหมือนจะมีประจำเดือน อยู่ๆก็หนาวเข้ากระดูก จนแอบคิดว่าติดโคโรน่าจากที่ทำงาน กลับบ้านมาวัดไข้ก็ปรกติ เลยตรวจฉี่ ปรากฏว่าขึ้น 2ขีด ทั้งดีใจทั้งกังวลเพราะเป็นช่วงที่โคโรน่าระบาดหนัก หลายบริษัทปิดทำการ หลายประเทศก็ปิด อาการแพ้ท้องไม่ค่อยมีมาก แทบไม่แพ้เลย จะมีแต่ขมปากและอยากกินทุเรียน จากที่ไม่ชอบทุเรียน แต่อยากกินทุกวัน พออายุครรภ์ 11สัปดาห์เราก็เจาะเลือดตรวจ NIPT หมอพบว่าเด็กมีความเสี่ยงเป็นพาเทา patau syndrome มีความผิดปรกติโครโมโซมคู่ที่ 13 เด็กมีลักษณะปากแหว่ง เพดานโหว่ และอาจตายในครรภ์หรือตายตอนคลอด
เราต้องไปฝากครรภ์กับหมอเฉพาะทางอีกโรงพยาบาล หมออัลตร้าซาวด์สัปดาห์ที่ 13 แล้วบอกเป็นสัญญาณที่ดีเพราะร่างกายเด็กปรกติ แก่นกลางศรีษะมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ตัวเด็กปรกติ แต่ถุงน้ำคร่ำใหญ่กว่าปรกติ หมอนัดอัลตร้าซาวด์ทุก 3 สัปดาห์ หมอบอกว่า ต้องรอให้ขนาดเด็กโตกว่านี้ถึงจะเช็คได้แน่ชัดว่าเป็นพาเทา Patau syndromeหรือเปล่า และต้องเจาะน้ำคร่ำเมื่ออายุครรภ์ 16 สัปดาห์ขึ้นไป ถ้าเด็กเป็นพาเทา แนะนำให้ยุติการตั้งครรภ์ก่อนสัปดาห์ที่ 21 แต่ซาวด์ในวันนั้นหมอบอกเป็นสัญญาณที่ดี
เราท้องจน 16สัปดาห์ถึงบอกครอบครัวแฟนในงานวันเกิดเรา ทุกคนก็ดีใจปนโกรธเพราะไม่ยอมบอก ทุกคนเห่อ พากันเตรียมอุปกรณ์เลี้ยงเด็ก และทายเพศ เราบอกว่าเพราะเด็กมีความเสี่ยงที่จะไม่ปรกติเลยไม่บอกใคร หลังวันเกิดเรา 1 วัน เราก็มีนัดอัลตราซาวด์สัปดาห์ที่ 16 พบว่าตัวเด็กไม่ดิ้น เราเลยถามหมอว่าเด็กหลับหรอ หมอบอกเด็กตายแล้ว ต่อให้หลับยังไงก็ต้องมีเสียงหัวใจเต้น คือทั้งหมอและเราไม่คิดว่าลูกเราจะตายในครรภ์ หมอให้เวลาทำใจ ไม่เกิน 2 สัปดาห์แล้วต้องคลอดเด็กเหมือนคลอดปรกติ วันรุ่งขึ้นเราต้องเจาะน้ำคร่ำเพื่อยืนยันสาเหตุที่หัวใจเด็กหยุดเต้น เจาะน้ำคร่ำแบบไม่ฉีดยาชา หมอบอกยังไงก็เจ็บอยู่ดี หมอซัดเข็มลงท้องเรา และดันเข็มให้ทะลุถุงน้ำคร่ำ ถุงน้ำคร่ำคือเหนียวมาก อาการคือเหมือนโดนมีดจ้วงแล้วบิด ช่วงที่หมอสูบเอาน้ำคร่ำคือ เหมือนเข็มทะลุไปก้นกบ แล้วตอนดึงเข็มออกคือดึงแรงมาก เราคือร้องลั่น เดินกุมท้องเหมือนโดนแทงมา หมอบอกอาจเจ็บไปอีก 2วัน และก็2วันจริงๆ เราแอบดูน้ำคร่ำในกระบอกฉีดยา ดำขุ่นเหมือนน้ำโค้ก น้ำเป็บซี่ พอกลับมาบ้าน น้ำคร่ำก็ซึมตลอด 1 อาทิตย์
หมอนัดให้กลืนยา3เม็ด ก่อนเข้าแอดมิด เป็นยาบีบมดลูกหรือยาทำแท้ง แต่เราไม่มีอาการข้างเคียงอะไรเลย ไม่พะอืดพะอม ไม่อาเจียน ไม่ปวดท้องเลย จนวันไปแอดมิด หมอสอดยาเม็ดเข้าไปลึกมาก เจ็บมาก ผ่านไปประมาณ2ชม. เราก็เริ่มปวดหน่วงท้องและเลือดเริ่มไหล หมอสอดยาให้ทุกๆ4ชม. จนยาเม็ดที่ 3 คือปวดจนลืมตาไม่ได้ คุยไม่รู้เรื่อง เหงื่อแตก หายใจไม่ออก เหมือนมีอะไรคาอยู่แต่หมอดึงออกมาไม่ได้และห้ามเบ่งเพราะปากมดลูกไม่เปิด หมอจะทำการบล็อคหลังให้ แต่ช่วงที่รอพยาบาลมาช่วยจับเรา จู่ๆเด็กก็หลุดออกมา ตอนนั้นคือโล่งมาก เหมือนโดนกดหัวจุ่มน้ำแล้วเราโผล่ขึ้นมาหายใจได้ ลูกเราเป็นผู้ชายตัวเท่าฝ่ามือ ตัวเท่าลูกแมวที่คลอดใหม่ๆ เราเห็นสภาพลูกแล้วก็อดร้องไห้ไม่ได้เพราะสงสาร เขาปากแหว่งเพดานโหว่ เราแอดมิดอยู่ 3วันก็กลับบ้าน กลับมาได้2คืนก็กลับไปแอดมิทใหม่เพราะปวดท้องและเลือดออกเยอะมาก ออกมาเป็นก้อนใหญ่ๆ หมอสอดยาให้อีก 3เม็ด และจะทำการผ่าตัดเพราะยังมีเลือดหรือเศษรกค้างในมดลูก เราแอดมิทอยู่2คืน หมอไม่ได้ผ่าให้เพราะกลัวมดลูกแตกและถ้าผ่าเราต้องรออีกเป็นปีถึงจะปล่อยให้ตั้งครรภ์ได้อีก สรุปคือไม่ผ่าและเลือดเราก็ออกน้อยกว่าเดิม หมอเลยให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน
เรากลับมาฝังลูกตัวเองไว้ที่สวนหลังบ้าน 1เดือนต่อมา หมาที่บ้านก็ตาย เราก็ฝังหมาไว้ฝั่งตรงข้าม ตอนนี้ในสวนเรามีแมว 1ตัว หมา 1ตัวและลูกชายเราฝังไว้ในสวนด้วยกัน
2อาทิตย์ต่อมา ก็อัลตร้าซาวด์มดลูก หมอบอกมดลูกสะอาดดี ไม่มีอะไรตกค้าง แค่รอประจำเดือนมา จากนั้นก็ปล่อยได้
ผ่านมาแล้ว 4เดือน ตอนนี้เรากำลังตั้งครรภ์ครั้ง 3 ตอนนี้เพิ่งได้ 7 สัปดาห์ หมอนัดอัลตร้าซาวด์สัปดาห์ที่7 early ultrasoundเพราะเรามีประสบการณ์แท้งมาก่อน ตอนนี้คืออยากให้ถึงวันนัดอัลตร้าซาวด์เร็วๆ อยากรู้ว่าลูกเราแข็งแรงดีมั๊ย อาการแพ้ก็มีพะอืดพะอม ปวดหัว หนาวสั่น ขมปากและฉี่บ่อยมาก
เราดีใจกับคุณแม่ทุกท่านที่ลูกออกมาสุขภาพร่างกายแข็งแรง แอบอิจฉาลึกๆ คือเราไม่โฟกัสว่าลูกจะเป็นชายหรือหญิง แต่ขอให้สุขภาพร่างกายและจิตใจปรกติแข็งแรงสมบูรณ์ อังคารที่ 27 ตุลาคม 2563 เราจะมาอัพเดทผลอัลตร้าซาวด์อีกทีนะคะ
คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือมีประสบการณ์ตั้งครรภ์ในแบบไหน เอามาแชร์กันได้นะคะ หรือสอบถามรายละเอียดอาการตั้งครรภ์ ท้องลมหรือลูกตายในครรภ์ได้ค่ะ เราเข้มแข็งมาก ณ เวลานี้