นั่งโง่ๆริมทะเลให้โลกรู้ : ทริปเกาะเสม็ดคนเดียวเปลี่ยวๆ 4 วัน 3 คืน

สวัสดีครับเพื่อนๆ 

     เมื่อวันที่ 10-13 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้พาตัวเองไปเที่ยวแบบเหงาๆที่เกาะเสม็ดมาครับ จึงอยากจะมาแชร์บรรยากาศในระหว่างการเดินทางของผมให้เพื่อนๆได้เข้ามาอ่านกันนะครับ
สำหรับที่มาของทริปนี้เกิดจากอาการดังนี้ครับ
1.การทำงานมาทั้งปีจนรู้สึกเหนื่อยสะสมจากปัญหาหลายๆอย่าง
2.ขาดแรงบรรดาลใจในการทำงานคือไปทำงานทุกวันเหมือนวิญญาณเดินได้แต่ใจลอยไปอยู่ดาวอังคารเลยครับ
3.เบื่อการใช้ชีวิตวนลูปในเมืองกรุงทุกอย่างแต่ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากลูปนี้ได้

    ผมเลยหาโอกาสไปพักผ่อนที่ไหนสักที่โดยตั้งใจจะไปคนเดียวเพราะอยากให้เวลากับตัวเองในที่ๆผมชอบซึ่งโดยปกติผมเป็นคนที่ชอบทะเลอยู่แล้วและบวกกับมีช่วงเวลาวันหยุดยาวจึงไม่รอช้าเก็บกระเป๋าเดินทางไปกันเลยครับ

วันแรก... (ออกเดินทาง)
ผมตื่นมาพร้อมสายฝนตกรอต้อนรับตั้งแต่ออกจากบ้านเลยครับ 55+ โดยออกจากบ้านตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่อจะไปขึ้นรถที่เอกมัยให้ทันเที่ยว 7 โมงเช้าโดยใช้บริการเชิดชัยทัวร์และสามารถซื้อตั๋วเรือไป-กลับได้เลยครับ รถทัวร์ออกตรงเวลาเป๊ะๆนะครับ

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงถึงท่าเรือประมาณ 11 โมงครับ แวะทานข้าวแถวๆท่าเรือครับผมสั่งกระเพราหมูสับไข่ดาว รสชาติเค๊มเค็ม 555+ 
 
อิ่มท้องแล้วก็ไปขึ้นเรือกันเลยครับ เรือที่ผมนั่งเป็นเรือช้านะครับไม่รีบอะไรก็ชมสายฝนชมวิวไปเรื่อยๆครับ

ระหว่างทางนั่งเรือฝนยังคงตกไม่หยุดครับแต่การเดินเรือไม่น่ากลัวอย่างที่คิดครับเนื่องจากไม่มีลมแรงทะเลเลยเรียบนิ่งสงบดีครับ

ถึงท่าเรือเกาะเสม็ดเรียบร้อยครับตอนแรกคิดว่าคนน่าจะไม่เยอะมากครับเนื่องจากเป็นหน้าฝนแต่ที่ไหนได้คนเยอะมากครับ 55 อาจจะเพราะเป็นช่วงหยุดหลายวันตรงบริเวณท่าเรือก็จะวุ่นวายเล็กน้อยจากมาตรการตรวจโควิดและมีเก็บค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาทครับ 

จากนั้นผมก็เดินไปยังที่พักโดยเช็คกับทางที่พักมาแล้วว่าอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือครับ โดย 2 คืนแรกผมพักที่ Stay Samed ครับ เป็นที่พักที่เพื่อนที่ทำงานแนะนำมาครับซึ่งราคาไม่แพงครับคืนละ 1 พันบาทรวมอาหารเช้าและมอเตอร์ไซต์พร้อมน้ำมันอยู่ไกล้ย่านของกินและสามารถเดินไปหาดทรายแก้วได้ไม่ไกลมากครับ ห้องพักสะอาดโอเคเลยครับ หลังจากที่เราเช็คอินเรียบร้อยก็ยังไม่สามารถออกไปไหนได้ครับเนื่องจากฝนยังตกมาอย่างต่อเนื่องก็เลยนอนเอาแรงก่อนครับ 

ตื่นมาอีกทีตอนบ่าย 3 ฝนหยุดตกแล้วก็ได้เวลาออกไปขับมอเตอร์ไซต์ผจญภัยครับ เดิมทีผมเคยมาเกาะเสม็ดเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้วแต่ก็ยังไม่เคยขับมอเตอร์ไซต์เที่ยวรอบเกาะ มาครั้งนี้เลยตั้งใจลองมาขับมอเตอร์ไซต์เที่ยวรอบเกาะครับ การขับมอเตอร์ไซต์ที่นี่ผมว่าหวาดเสียวน้อยกว่าที่เกาะล้านครับ โดยที่แรกที่ไปคืออ่าวพร้าวครับ เงียบสงบดีครับที่พักสวยแต่ราคาก็น่าจะแพงอยู่ครับแต่เราสามารถเข้าไปเดินเล่นได้ครับ น้ำทะเลอาจจะไม่สวยเท่าไหร่เนื่องจากฝนเพิ่งหยุดตกทำให้น้ำจืดไหลลงทะเลเยอะครับ
เจอเจ้าถิ่นจะขอซ้อนท้ายด้วยครับ 555 

ผมไม่ได้ถ่ายรูประหว่างทางที่ขี่มอเตอร์ไซต์มาเยอะนะครับเนื่องจากถนนค่อนข้างลื่นและมีเนินสูงชันบางช่วงเลยโฟกัสการขับขี่เป็นพิเศษครับระหว่างทางอากาศจะเย็นๆชื้นๆและสดชื่นมากครับ ผมขี่มาจนถึงท้ายเกาะหรืออ่าวปะการังครับ บริเวณนี้จะมีลักษณะเหมือนแหลมที่ยื่นไปในทะเลและมีหินเยอะครับถ้าฝนไม่ตกและท้องฟ้าเปิดผมว่าน่าจะสวยมากครับ ผมใช้เวลานั่งเงียบๆฟังเสียงลม เสียงทะเล เสียงนกเงียบๆอยู่บริเวณนี้นานพอสมควรครับมันทำให้ได้อยู่กับตัวเองและได้คิดอะไรหลายๆอย่างครับ
ฟ้าครึ้มๆทะเลน่าฝน เหงาๆ
รับบทพระเอกมิวสิควีดีโอสักนิดนึงละกันนะครับ 5555

หลักจากนั้นก็รีบขี่มอเตอร์ไซต์กลับที่พักเนื่องจากเริ่มมืดและฝนเริ่มตั้งเค้าละรอกใหม่มาอีกแล้ว ถึงที่พักก็อาบน้ำและก็ออกไปหาอะไรทานพอดีสังเกตุเห็นตรงทางเข้ามีร้านอาหารตามสั่งอยู่เลยเลือกทานที่นี่ครับ สั่งข้าวผัดกุ้งกับต้มยำกุ้ง รสชาติโอเคครับพอทานได้

หลังจากอิ่มแล้วก็เดินกางร่มลุยสายฝนไปเดินเล่นหาดทรายแก้วยามค่ำคืนกันครับ ฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสายทำให้หาดทรายแก้วค่ำคืนนี้ค่อนข้างเงียบเหงาครับมีเพียงบางร้านที่เปิดและมีผู้คนออกมาเดินเล่นบ้างครับ แต่ส่วนใหญ่ก็จะมากับเพื่อนกับคนรักมีแค่ผมละมั้งครับที่เดินอยู่คนเดียว 5555 ก็ใจมันได้อะเนาะ 

หลังจากเดินไปเดินมาหลายรอบก็หาร้านนั่งดื่มแบบเหงาๆได้แล้วครับ จำชื่อร้านไม่ได้ครับแต่บรรยากาศดีเลย นั่งดื่มท่ามกลางสายฝนริมทะเลครั้งแรกเลยนะครับเนี๊ยะ บรรยากาศดีไปอีกแบบนึงเลยครับทำเอาผมหลงรักทะเลหน้าฝนเลยละครับ 55 หลังจากดื่มเสร็จแล้วผมก็กลับโรงแรมไปพักผ่อนครับ
 

วันที่ 2..........
เช้าวันนี้เช่นเดิมครับตื่นมาพร้อมสายฝนโปรยปรายแต่วันนี้เหมือนจะหนักกว่าวันแรก ร้องไห้
อาหารเช้าที่พักครับเป็นอาหารง่ายๆรสชาติโอเคเลยครับ

ทานอาหารเช้าเสร็จก็ออกมาเดินเล่นที่หาดทรายแก้วครับเดินได้แป๊บเดียวก็รีบกลับที่พักเนื่องจากวันนี้ฝนค่อนข้างตกหนักครับ วันนี้จึงหมดไปกับการนอนที่โรงแรมซะส่วนใหญ่ครับ 55555 ตื่นมาอีกทีประมาณเกือบ 4 โมงเย็นก็รีบบิดมอเตอร์ไซต์ไปที่ท้ายเกาะอีกครั้งครับเพราะชอบบรรยากาศที่นั่นมาก โดยผมเตรียมขนมและเครื่องดื่มนิดหน่อยพร้อมเสื้อกันฝนไปด้วยครับ
ถึงท้ายเกาะแล้วครับ บรรยากาศวันนี้ชวนให้เหงามากเป็นพิเศษครับ ร้องไห้ ไม่แนะนำสำหรับคนที่เพิ่งอกหักเลยนะทะเลหน้าฝนเนี๊ยะ
ปกติมาทะเลต้องใส่แว่นกันแดดทาครีมกันแดดใช่มั๊ยแต่ทริปทะเลของผมต้องนี่ครับ เสื้อกันฝน 5555 

ระหว่างทางกลับแวะอ่าวหวายครับ อ่าวหวายสวยมากครับถึงแม้ฝนจะตก น้ำยังใสหาดทรายขาวละเอียด เงียบๆบรรยากาศส่วนตัวดีครับ

แวะอ่าวลุงดำครับ อ่าวลุงดำหน้าฝนทะเลก็จะตามภาพที่เห็นนะครับอาจจะไม่สวยมากเดี๋ยวไว้หมดหน้าฝนค่อยกลับมาแก้ตัวใหม่ครับ

แวะอ่าววงเดือน อ่าววงเดือนเป็นหนึงในหาดที่ผมเคยมาเยือนเมื่อ 4-5 ปีก่อนครับ ที่นี่มีความทรงจำให้นึกถึงมากมายเลยครับ แต่ไม่รู้ว่าผมเข้าผิดทางหรือเปล่ารู้สึกว่าทางเข้ามันเหมือนแอบเดินข้างๆโรงแรมทะลุเข้าไป 5555 ผมใช้เวลาไม่นานที่อ่าววงเดือนเนื่องจากเริ่มมืด เลยรีบขับมอเตอร์ไซต์กลับครับ

ขากลับระหว่างทางโชคไม่ดีครับเนื่องจากฝนเทลงมาอย่างหนักต้องบิดมอเตอร์ไซต์กลางสายฝนและต้องขี่ช้าๆครับ กลับมาถึงที่พักเปียกชุ่มฉ่ำไปถึงหัวใจกันเลยทีเดียวครับ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่สนุกดีไปอีกแบบครับ

-----  ในค่ำคืนที่เหมือนจะเป็นคืนสุดท้าย ------
ตามแพลนที่ผมวางไว้คือตั้งใจจะมาแค่ 2 คืนครับ ซึ่งในคืนสุดท้ายผมไม่ได้ออกไปไหนเพราะฝนที่ตกหนักมากครับและร้านริมหาดปิดเกือบทั้งหมดบวกกับยังไม่ค่อยอยากกลับเมืองกรุงและยังมีวันหยุดอีก 2 วัน จึงตัดสินใจจองโรงแรมเพิ่มอีก 1 คืน โดยย้ายไปพักที่หน้าหาดทรายแก้วครับ

วันที่ 3...........
เช้าวันนี้อากาศดีครับฝนไม่ตกและไม่มีแดดผมขี่มอเตอร์ไซต์ไปเดินเล่นที่อ่าวพร้าวอีกครั้งก่อนเช็คเอาท์ครับ ส่วนตัวผมชอบอ่าวพร้าว อ่าวหวาย และอ่าวปะการังครับ 

สายๆก็เช็คเอาท์ที่ Stay Samed คืนมอเตอร์ไซต์แล้วก็ออกไปทานข้าวระหว่างรอเช็คอินเข้าที่พักใหม่ครับ

ที่พักใหม่ที่จองไว้ชื่อ สวัสดีโคโค่ ครับติดหาดทรายแก้ว ตอนเช็คอินพนักงานถามว่าพัก 3 คนใช่มั๊ย ผมก็เหว่อๆไปนิดนึงก็ตอบไปว่าไม่นะครับพักคนเดียวครับ พนักงานก็ตกใจนิดหน่อยพอไปที่ห้องพักก็เพิ่งรู้ว่าห้องที่จองไว้คือนอนได้ 3 คนครับ เพราะว่าตอนจองไม่ได้ดูเลยครับรีบจองเพราะตอนจองขึ้นว่าเหลือห้องสุดท้ายเป็นไงละทีนี้นอนเหงาสมใจอยากเลยเพราะห้องใหญ่มากนอนมันทุกเตียงไปเลย 55555 

ที่นี่มีเจ้าถิ่นที่น่ารักด้วยนะครับ อยากจะหิ้วกลับมาด้วยจริงๆ ยิ้ม

ห้องที่พักจะติดกับคาเฟ่ของโรงแรมเลยนะครับกาแฟที่นี่อร่อยด้วยนะครับลองแวะมาทานได้ครับ

สายๆก็ออกมาเดินเล่นริมหาดอีกครับ แต่วันนี้จะเริ่มเดินเอียงๆหน่อยเพราะว่าเท้าเริ่มเจ็บจากโดนรองเท้ากัดครับและถ้าใครอ่านมาเรื่อยๆจะสังเกตุว่าผมมาเดินเล่นริมหาดบ่อยมากครับทุกวันที่ผมอยู่ที่นี่ผมจะมาเดินเล่นริมหาดทุกเช้าและตอนค่ำเกือบทุกวันตามประสาคนโสดและชอบทะเลนะครับ 555 แต่วันนี้อากาศดีครับเลยเดินเลาะหาดไปเรื่อยๆไกลหน่อยครับ

พอเย็นๆเริ่มหิวกินเมนูทะเลมาหลายวันขอเปลี่ยนเป็นหมูไก่บ้างแล้วกันครับไปเจอบาร์บีคิวไม้ละ 10 บาทครับอร่อยมากๆด้วยครับ ใครที่ไปอย่าลืมลองแวะไปทานนะครับ
ในค่ำคืนสุดท้ายผมซื้อขนมและเครื่องดื่มนิดหน่อยมานั่งกินที่ริมหาดครับ นั่งมองดูทะเลแบบตามตำราที่ว่านั่งโง่ๆริมทะเล 55 มองดูผู้คนที่เดินไปมาใช้สายตาในการจดจำทุกบรรยากาศให้อยู่ในความทรงจำทั้งหมดครับ

-----เช้าวันสุดท้าย-----
ผมตื่นเช้าออกไปหาอะไรทานและไปเดินเล่นริมหาดเก็บบรรยากาศ สูดอากาศ ก่อนเดินทางกลับครับ
นายแบบของเราก่อนกลับครับ เจ้าปูน้อย จุ๊บๆ

หลังจากนั้นสายๆก็เก็บของเช็คเอาท์และเดินทางกลับเมืองกรุงครับ

ทริปคนเดียวครั้งนี้อาจจะดูเหงาเล็กน้อยแต่ผมมีความสุขมากครับ มันทำให้ผมได้อยู่กับตัวเองหลีกหนีจากความวุ่นวายหลายๆอย่าง 

ขอบคุณเพื่อนที่แนะนำที่พักดีๆครับ
ขอบคุณผู้คนบนเกาะทุกคนที่น่ารักครับ
ขอบคุณแมลงปอที่อ่าวปะการังที่อยู่เป็นเพื่อนกัน
ขอบคุณเจ้าปูน้อยที่มาเป็นแบบให้ครับ
ขอบคุณที่พาตัวเองมาครับ

-------สวัสดี---------
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่