เค้าบอกว่าไปทะเลไม่หนีร้อนก็หนีรัก...ยังใช้ได้ทุกยุคสมัยจริงๆ
ครั้งนี้เพื่อนเรานางเฮิร์ทคุยกับเล่นๆตอนกลางคืนนางบอกจะไปเสม็ดเราก็ถามไปกับใคร
นางบอกไปคนเดียวไอ่เราเหรอจะทิ้งให้เพื่อนที่กำลังเหงาไปทะเลลำพัง
แต่ต้องสารภาพอย่างเขินๆก่อนว่านี่เป็นการไปเกาะเสม็ดครั้งแรกของเราเลยเชยมั้ย อิอิ
ที่ไม่เคยคิดมาเสม็ดเพราะคิดว่ายังไงก็ของตายมาเมื่อไหร่ก็ได้น่า ด้วยความคิดแบบนี้จึงผ่านเวลามานานแสนนานนน
จนวันนี้โอกาสดีเพื่อนอกหัก 5555 อยากหนีมาชิวที่เสม็ดคนเดียวไอ้เราก็เลยอาสา ไม่ได้หาเรื่องเที่ยวนะจริงจริ๊ง
นี่ขนาดมาปลอบใจเพื่อนยังอุตส่าห์กลับมารีวิวได้อีกนะเนี่ย 55555 (เพื่อนไม่ค่อยเฮิร์ทมากเท่าไหร่นะ ^_^)
การเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างด่วนเพราะชวนกันตอนเย็นรุ่งเช้าก็ไปกันเลย
แต่เพื่อนเราเค้าเป็นเซียนเสม็ดอยู่แล้วก็เลยไม่ต้องหาข้อมูลอะไรทั้งนั้นไปแบบชิวๆ สบายๆ
มีแต่ตัวกับหัวใจเตรียมไปคลายเหงากันที่เสม็ด
เราเดินทางด้วยรถตู้โดยสารที่อนุสาวรีย์ ไปส่งถึงท่าเรือเลยค่ะ
แต่!!!!! ก่อนซื้อตั๋วขึ้นรถถามคิวรถตู้ด้วยนะคะว่ารถขับตรงไปบ้านเพเลยรึเปล่า
เพราะคิวรถตู้ที่เราขึ้นไปแวะที่ระยองแวะรับส่งคนตามรายทางเสมือนรถเมล์ก็ไม่ปาน
เพราะฉะนั้นอย่าลืมถามก่อนซื้อค่ะ ขนาดเพื่อนเราไปบ่อยยังพลาดเพราะที่นี่มีคิวรถตู้ที่ไปเสม็ดหลายเจ้านะคะ
ไม่งั้นคุณจะต้องนั่งรถตู้วนเล่นไปเล่นมาสนุกเลยละค่ะ
หลังจากนั่งรถตู้เมล์มาเป็นเวลานานโขเราก็ถึงบ้านเพกันสักที
นั่งเรือประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็ถึงแล้วค่าเกาะแก้วพิสดาร..มีนางผีเสื้อสมุทรมารอรับเราด้วย
เมื่อเหยียบท่าเรือที่นี่เราก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมคนล่ะ 10 บาท
เมื่อเดินออกมาด้านหน้าท่าเรือด้านซ้ายจะมี 7-11 ส่วนใครที่ไม่เช่ามอเตอร์ไซต์ก็จะมีวินรถทางด้านขวา
เดินไปขึ้นรถปิคอัพคันสีเขียวเลยค่ะค่าโดยสารแล้วแต่ระยะทางของเราไปอ่าวไผ่คนละ 30 บาท
พอขับไปถึงด่านของอุทยานแห่งชาติก็เตรียมค่าธรรมเนียมอุทยานอีกคนล่ะ 40 บาท
สรุปค่าธรรมเนียมต่างๆคนละ 50 บาท ค่ารถราคาตามระยะทาง
ส่วนใครอยากเช่ามอเตอร์ไซต์แนะนำให้เช่าไปเลยไม่ต้องคิดว่าไปเช่าด้านในของเกาจะถูกกว่าเพราะมันไม่ใช่
เช่าที่ท่าเรือนั่นแหละค่ะประมาณ 400 บาท ^_^
...
พอถึงก็ไปหาที่พักเราลงรถทีอ่าวไผ่เดินต่ออีกนิดหน่อยไปหาที่พักที่อ่าวพุทราค่ะซึ่งอยู่ติดกันเลย
"อ่าวพุทรา" มีชายหาดเล็กอยู่ติดกับอ่าวไผ่แต่จะมีความสงบมากกว่า
เพราะที่อ่าวไผ่จะมีบาร์ตอนกลางคืนจะครึกครื้นมากส่วนที่อ่าวพุทราที่ห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เมตร
เราสามารถหาความสงบได้เหมาะแก่การพักผ่อนแต่ไม่ถึงกับวังเวงมาก
ถือว่ากำลังดีเลยล่ะค่ะพอตอนกลางคืนหากอยากปาร์ตี้ก็เดินไปที่อ่าวไผ่ได้เลย
และอีกอ่าวที่ติดกับอ่าวพุทราก็คือ
"อ่าวทับทิม"
ฝั่งขวาจะเป็นอ่าวพุทราฝั่งซ้ายทางนู้นจะเป็นอ่าวทับทิม
ถ้ามาแล้วเห็นประติมากรรมหินแบบนี้ก็แสดงว่าคุณมาถึงอ่าวไผ่แล้วค่ะ
พี่คนที่นั่งอยู่นั่นแหละค่ะเป็นคนเรียงหินพวกนี้ไว้แต่ก็ไม่รู้ว่าเค้าจะเรียงไว้ทำไมนะคะ
พี่แกน่าจะเป็นศิลปินแต่เราก็ไม่เข้าใจความหมายในศิลปะของพี่เค้าหรอกนะคะ ใครอยากรู้ก็ลองถามดูนะ ^_^
บรรยากาศที่อ่าวพุทราสงบดีนักท่องเที่ยวไม่มากเท่าอ่าวไผ่ หาดทรายก็ขาวใช้ได้ค่ะ
ด้วยทำเลที่เหมาะสมทริปนี้เราจึงพักที่อ่าวพุทรานี่แหละค่ะทั้งสองคืนและอีกอย่างคือที่พักถูกมาก
แต่ห้องสภาพก็ตามราคานะคะแต่แต่ก็ไม่ได้แย่มากสำหรับเรา
ถ้าเครื่องนอนผ้าห่มหมอนห้องน้ำไม่สกปรกเราก็โอเค
เราพักที่ "อ่าวพุทราบีช" ค่ะ ห้องที่เราพักราคา 1,000 บาทเป็นห้องพัดลมมีสองเตียงใหญ่
ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น....ไม่มีนะคะ 5555 แต่เตียงใหญ่มากเพราะคืนที่สองเพื่อนมาอีก 4 คน
ก็นอนห้องเดิมนั่นแหละค่ะทั้หมด 6 คน นอนบนเตียงได้สบาย
ห้องพักมีหลายราคาต้องลองถามดูนะคะแต่เราลองถามห้องที่ติดทะเลไว้ห้องพัดลมราคา 1,200 เอง
เราว่าถูกน่ะเพราะอยู่ติดทะเลเลยติดจริงๆ เวลาน้ำขึ้นอาจขึ้นมาถึงเตียง...ก็เป็นด้ายยยย
ถ้าใครอยากทราบรายละเอียดอื่นๆลองหาดูในอินเตอร์เน็ตนะคะแต่ให้เสิร์ชหาคำว่า
พุทราบังกะโลแทน เพราะเราลองเสิร์ชหาคำว่า อ่าวพุทราบีช ไม่ค่อยเจอข้อมูลเลยค่ะ
ข้างๆ ที่พักมีร้านนั่งดื่มชิวๆ แบบนี้ไว้สำหรับคนที่ไม่ชอบแสงสีเต็มขั้นแบบอ่าวไผ่นะคะ ^_^
ส่วนใกล้ๆกันมีทับทิมรีสอร์ทค่ะ บนอ่าวพุทราและอ่าวทับทิมมีรีสอร์ทอยู่สองที่เท่านั้นนะคะ
ก็คือ "อ่าวพุทราบีช" กับ "ทับทิมรีสอร์ท" แต่ก็คนละเกรดกันเลยค่ะ
ก็แล้วแต่ใครจะเลือกแบบไหนตามสไตล์และงบในกระเป๋านะคะ
แต่เราว่าทับทิมรีสอร์ทก็สวยใช้ได้เลยค่ะสงบดีด้วย
เอาราคาค่ารถโดยสารจากคิวรถที่อ่าวทับทิมมาฝากค่ะ ราคาของอ่าวก็คงเรทใกล้ๆกัน
เพราะน่าจะเป็นคิวเดียวกันทั้งหมดนะคะเพราะเห็นเป็นปิคอัพสีเขียวแบบนี้หมดเลย
บนเกาะเสม็ดจะมีทัวร์ต่างมีหลายรูปแบบแล้วแต่จะเลือกเลย
เดี๋ยวจะไปเยี่ยมอ่าวเพื่อนบ้านกันบ้างนะคะนั่นก็คือ "อ่าวไผ่"
อย่างที่บอกว่าใกล้มากระยะทางไม่น่าถึง 1 กิโลเมตร แต่ที่นี่คนจะเยอะคึกคักทั้งวัน
ฝรั่งนอนอาบแดดกันตั้งแต่เช้าคึกคักตั้งแต่เช้ายันค่ำที่นี่มีมินิมาร์ท ร้านอาหาร บาร์ อาหารการกินก็สะดวก
ส่วนราคาเราว่ามันก็เรทของบนเกาะก็ประมาณนี้แหละค่ะ
ระหว่างเดินจากอ่าวพุทราไปอ่าวไผ่เจอรีสอร์ทหน้าตาดูดีมีสกุลชื่อ "เสม็ดวิลล่ารีสอร์ท"
แอบส่องอ่าวไผ่...ดูซิค่ะครึกครื้นต่างจากอ่าวพุทราเลย
ส่วนร้านนี้ Silver Sand Bar ตอนกลางคืนที่นี่มันมากเดี๋ยวจะมีภาพให้ดู
ส่วนตอนกลางวันนก็นักท่องเที่ยวเยอะเข้ามาตลอดเราก็ฝากท้องไว้ที่นี่เกือบทุกมื้อ
เพราะบรรยากาศร้านดูดีกว่าที่รีสอร์ทที่เราพักราคาก็ไม่ต่างกันมากเราก็เลยมานั่งดองที่นี่ประจำ
ถัดจากอ่าวไผ่ก็จะเป็นหาดทรายแก้วจริงๆก็แทบจะเป็นอ่าวเดียวกันนะคะมีเพียงกองหินกั้นไว้เท่านั้น
ถ้าดูจากในรูปจะเห็นเป็นลักษณะชายหาดยาวไปเลย
"หาดทรายแก้ว" เป็นชื่อที่คุ้นหูที่สุดเมื่อนึกถึงเกาะเสม็ดที่นี่ถือเป็นหาดที่นิยมสุดๆของเกาะเสม็ด
ตอนแรกที่ยังไม่ได้เดินไปก็เฉยๆน่ะแต่พอเหยียบเข้าหาดทรายแก้วรู้สึกว่าทรายที่นี่ดูละเอียดและก็ขาวกว่าหาดอื่นๆ
ไม่เคยไปทะเลฝั่งตะวันออกที่ไหนที่มีทรายขาวละเอียดขนาดนี้
สมแล้วเกาะเสม็ดได้รับการขนานนามว่า "เกาะแก้วพิสดาร" คงเป็นเพราะหาดทรายบนเกาะเสม็ดที่ขาว
ละเอียดสะอาดเหมือนแก้วนี่แหละ ในสมัยก่อนชาวระยองก็ใช้ทรายจากเกาะเสม็ดทำแก้วด้วยน่ะ
ลองดูภาพซิขาวมั้ยล่ะหมายถึงหาดทรายนะคะไม่ใช่สาวฝรั่งคนนี้ 5555
น้ำก็ใสทรายก็ขาวขนาดนี้จะไม่ให้หลงรักเสม็ดได้ยังไงล่ะค่ะ ♥♥♥
พระอภัยมณีกับนางเงือกยังหนีนางยักษ์มาอยู่ตรงนี้เลย
สาวคนนี้อดใจไม่ไหวลงไปนอนโพสท่าเกลือกกลิ้งบนหาดทรายอยากถ่ายบ้างอ่าแต่ไม่มีใครถ่ายให้ T T
ชอบร้านขายเครื่องประดับร้านนี้มากเลยบรรยากาศร้านมันดูทะเล๊..ทะเลดี
กิจกรรมทางทะเลก็มีให้เล่นหลากหลายค่ะที่หาดทรายแก้ว
ถึงว่าที่นี่ถึงเป็นหาดยอดนิยมเพราะสามารถตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์เลยจริงๆ
[CR] เพื่อนมันเหงา...เลยชวนเราไป "เสม็ด"
เค้าบอกว่าไปทะเลไม่หนีร้อนก็หนีรัก...ยังใช้ได้ทุกยุคสมัยจริงๆ
ครั้งนี้เพื่อนเรานางเฮิร์ทคุยกับเล่นๆตอนกลางคืนนางบอกจะไปเสม็ดเราก็ถามไปกับใคร
นางบอกไปคนเดียวไอ่เราเหรอจะทิ้งให้เพื่อนที่กำลังเหงาไปทะเลลำพัง
แต่ต้องสารภาพอย่างเขินๆก่อนว่านี่เป็นการไปเกาะเสม็ดครั้งแรกของเราเลยเชยมั้ย อิอิ
ที่ไม่เคยคิดมาเสม็ดเพราะคิดว่ายังไงก็ของตายมาเมื่อไหร่ก็ได้น่า ด้วยความคิดแบบนี้จึงผ่านเวลามานานแสนนานนน
จนวันนี้โอกาสดีเพื่อนอกหัก 5555 อยากหนีมาชิวที่เสม็ดคนเดียวไอ้เราก็เลยอาสา ไม่ได้หาเรื่องเที่ยวนะจริงจริ๊ง
นี่ขนาดมาปลอบใจเพื่อนยังอุตส่าห์กลับมารีวิวได้อีกนะเนี่ย 55555 (เพื่อนไม่ค่อยเฮิร์ทมากเท่าไหร่นะ ^_^)
การเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างด่วนเพราะชวนกันตอนเย็นรุ่งเช้าก็ไปกันเลย
แต่เพื่อนเราเค้าเป็นเซียนเสม็ดอยู่แล้วก็เลยไม่ต้องหาข้อมูลอะไรทั้งนั้นไปแบบชิวๆ สบายๆ
มีแต่ตัวกับหัวใจเตรียมไปคลายเหงากันที่เสม็ด
เราเดินทางด้วยรถตู้โดยสารที่อนุสาวรีย์ ไปส่งถึงท่าเรือเลยค่ะ
แต่!!!!! ก่อนซื้อตั๋วขึ้นรถถามคิวรถตู้ด้วยนะคะว่ารถขับตรงไปบ้านเพเลยรึเปล่า
เพราะคิวรถตู้ที่เราขึ้นไปแวะที่ระยองแวะรับส่งคนตามรายทางเสมือนรถเมล์ก็ไม่ปาน
เพราะฉะนั้นอย่าลืมถามก่อนซื้อค่ะ ขนาดเพื่อนเราไปบ่อยยังพลาดเพราะที่นี่มีคิวรถตู้ที่ไปเสม็ดหลายเจ้านะคะ
ไม่งั้นคุณจะต้องนั่งรถตู้วนเล่นไปเล่นมาสนุกเลยละค่ะ
หลังจากนั่งรถตู้เมล์มาเป็นเวลานานโขเราก็ถึงบ้านเพกันสักที
นั่งเรือประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็ถึงแล้วค่าเกาะแก้วพิสดาร..มีนางผีเสื้อสมุทรมารอรับเราด้วย
เมื่อเหยียบท่าเรือที่นี่เราก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมคนล่ะ 10 บาท
เมื่อเดินออกมาด้านหน้าท่าเรือด้านซ้ายจะมี 7-11 ส่วนใครที่ไม่เช่ามอเตอร์ไซต์ก็จะมีวินรถทางด้านขวา
เดินไปขึ้นรถปิคอัพคันสีเขียวเลยค่ะค่าโดยสารแล้วแต่ระยะทางของเราไปอ่าวไผ่คนละ 30 บาท
พอขับไปถึงด่านของอุทยานแห่งชาติก็เตรียมค่าธรรมเนียมอุทยานอีกคนล่ะ 40 บาท
สรุปค่าธรรมเนียมต่างๆคนละ 50 บาท ค่ารถราคาตามระยะทาง
ส่วนใครอยากเช่ามอเตอร์ไซต์แนะนำให้เช่าไปเลยไม่ต้องคิดว่าไปเช่าด้านในของเกาจะถูกกว่าเพราะมันไม่ใช่
เช่าที่ท่าเรือนั่นแหละค่ะประมาณ 400 บาท ^_^
...
พอถึงก็ไปหาที่พักเราลงรถทีอ่าวไผ่เดินต่ออีกนิดหน่อยไปหาที่พักที่อ่าวพุทราค่ะซึ่งอยู่ติดกันเลย
"อ่าวพุทรา" มีชายหาดเล็กอยู่ติดกับอ่าวไผ่แต่จะมีความสงบมากกว่า
เพราะที่อ่าวไผ่จะมีบาร์ตอนกลางคืนจะครึกครื้นมากส่วนที่อ่าวพุทราที่ห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เมตร
เราสามารถหาความสงบได้เหมาะแก่การพักผ่อนแต่ไม่ถึงกับวังเวงมาก
ถือว่ากำลังดีเลยล่ะค่ะพอตอนกลางคืนหากอยากปาร์ตี้ก็เดินไปที่อ่าวไผ่ได้เลย
และอีกอ่าวที่ติดกับอ่าวพุทราก็คือ "อ่าวทับทิม"
ฝั่งขวาจะเป็นอ่าวพุทราฝั่งซ้ายทางนู้นจะเป็นอ่าวทับทิม
ถ้ามาแล้วเห็นประติมากรรมหินแบบนี้ก็แสดงว่าคุณมาถึงอ่าวไผ่แล้วค่ะ
พี่คนที่นั่งอยู่นั่นแหละค่ะเป็นคนเรียงหินพวกนี้ไว้แต่ก็ไม่รู้ว่าเค้าจะเรียงไว้ทำไมนะคะ
พี่แกน่าจะเป็นศิลปินแต่เราก็ไม่เข้าใจความหมายในศิลปะของพี่เค้าหรอกนะคะ ใครอยากรู้ก็ลองถามดูนะ ^_^
บรรยากาศที่อ่าวพุทราสงบดีนักท่องเที่ยวไม่มากเท่าอ่าวไผ่ หาดทรายก็ขาวใช้ได้ค่ะ
ด้วยทำเลที่เหมาะสมทริปนี้เราจึงพักที่อ่าวพุทรานี่แหละค่ะทั้งสองคืนและอีกอย่างคือที่พักถูกมาก
แต่ห้องสภาพก็ตามราคานะคะแต่แต่ก็ไม่ได้แย่มากสำหรับเรา
ถ้าเครื่องนอนผ้าห่มหมอนห้องน้ำไม่สกปรกเราก็โอเค
เราพักที่ "อ่าวพุทราบีช" ค่ะ ห้องที่เราพักราคา 1,000 บาทเป็นห้องพัดลมมีสองเตียงใหญ่
ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น....ไม่มีนะคะ 5555 แต่เตียงใหญ่มากเพราะคืนที่สองเพื่อนมาอีก 4 คน
ก็นอนห้องเดิมนั่นแหละค่ะทั้หมด 6 คน นอนบนเตียงได้สบาย
ห้องพักมีหลายราคาต้องลองถามดูนะคะแต่เราลองถามห้องที่ติดทะเลไว้ห้องพัดลมราคา 1,200 เอง
เราว่าถูกน่ะเพราะอยู่ติดทะเลเลยติดจริงๆ เวลาน้ำขึ้นอาจขึ้นมาถึงเตียง...ก็เป็นด้ายยยย
ถ้าใครอยากทราบรายละเอียดอื่นๆลองหาดูในอินเตอร์เน็ตนะคะแต่ให้เสิร์ชหาคำว่า
พุทราบังกะโลแทน เพราะเราลองเสิร์ชหาคำว่า อ่าวพุทราบีช ไม่ค่อยเจอข้อมูลเลยค่ะ
ข้างๆ ที่พักมีร้านนั่งดื่มชิวๆ แบบนี้ไว้สำหรับคนที่ไม่ชอบแสงสีเต็มขั้นแบบอ่าวไผ่นะคะ ^_^
ส่วนใกล้ๆกันมีทับทิมรีสอร์ทค่ะ บนอ่าวพุทราและอ่าวทับทิมมีรีสอร์ทอยู่สองที่เท่านั้นนะคะ
ก็คือ "อ่าวพุทราบีช" กับ "ทับทิมรีสอร์ท" แต่ก็คนละเกรดกันเลยค่ะ
ก็แล้วแต่ใครจะเลือกแบบไหนตามสไตล์และงบในกระเป๋านะคะ
แต่เราว่าทับทิมรีสอร์ทก็สวยใช้ได้เลยค่ะสงบดีด้วย
เอาราคาค่ารถโดยสารจากคิวรถที่อ่าวทับทิมมาฝากค่ะ ราคาของอ่าวก็คงเรทใกล้ๆกัน
เพราะน่าจะเป็นคิวเดียวกันทั้งหมดนะคะเพราะเห็นเป็นปิคอัพสีเขียวแบบนี้หมดเลย
บนเกาะเสม็ดจะมีทัวร์ต่างมีหลายรูปแบบแล้วแต่จะเลือกเลย
เดี๋ยวจะไปเยี่ยมอ่าวเพื่อนบ้านกันบ้างนะคะนั่นก็คือ "อ่าวไผ่"
อย่างที่บอกว่าใกล้มากระยะทางไม่น่าถึง 1 กิโลเมตร แต่ที่นี่คนจะเยอะคึกคักทั้งวัน
ฝรั่งนอนอาบแดดกันตั้งแต่เช้าคึกคักตั้งแต่เช้ายันค่ำที่นี่มีมินิมาร์ท ร้านอาหาร บาร์ อาหารการกินก็สะดวก
ส่วนราคาเราว่ามันก็เรทของบนเกาะก็ประมาณนี้แหละค่ะ
ระหว่างเดินจากอ่าวพุทราไปอ่าวไผ่เจอรีสอร์ทหน้าตาดูดีมีสกุลชื่อ "เสม็ดวิลล่ารีสอร์ท"
แอบส่องอ่าวไผ่...ดูซิค่ะครึกครื้นต่างจากอ่าวพุทราเลย
ส่วนร้านนี้ Silver Sand Bar ตอนกลางคืนที่นี่มันมากเดี๋ยวจะมีภาพให้ดู
ส่วนตอนกลางวันนก็นักท่องเที่ยวเยอะเข้ามาตลอดเราก็ฝากท้องไว้ที่นี่เกือบทุกมื้อ
เพราะบรรยากาศร้านดูดีกว่าที่รีสอร์ทที่เราพักราคาก็ไม่ต่างกันมากเราก็เลยมานั่งดองที่นี่ประจำ
ถัดจากอ่าวไผ่ก็จะเป็นหาดทรายแก้วจริงๆก็แทบจะเป็นอ่าวเดียวกันนะคะมีเพียงกองหินกั้นไว้เท่านั้น
ถ้าดูจากในรูปจะเห็นเป็นลักษณะชายหาดยาวไปเลย
"หาดทรายแก้ว" เป็นชื่อที่คุ้นหูที่สุดเมื่อนึกถึงเกาะเสม็ดที่นี่ถือเป็นหาดที่นิยมสุดๆของเกาะเสม็ด
ตอนแรกที่ยังไม่ได้เดินไปก็เฉยๆน่ะแต่พอเหยียบเข้าหาดทรายแก้วรู้สึกว่าทรายที่นี่ดูละเอียดและก็ขาวกว่าหาดอื่นๆ
ไม่เคยไปทะเลฝั่งตะวันออกที่ไหนที่มีทรายขาวละเอียดขนาดนี้
สมแล้วเกาะเสม็ดได้รับการขนานนามว่า "เกาะแก้วพิสดาร" คงเป็นเพราะหาดทรายบนเกาะเสม็ดที่ขาว
ละเอียดสะอาดเหมือนแก้วนี่แหละ ในสมัยก่อนชาวระยองก็ใช้ทรายจากเกาะเสม็ดทำแก้วด้วยน่ะ
ลองดูภาพซิขาวมั้ยล่ะหมายถึงหาดทรายนะคะไม่ใช่สาวฝรั่งคนนี้ 5555
น้ำก็ใสทรายก็ขาวขนาดนี้จะไม่ให้หลงรักเสม็ดได้ยังไงล่ะค่ะ ♥♥♥
พระอภัยมณีกับนางเงือกยังหนีนางยักษ์มาอยู่ตรงนี้เลย
สาวคนนี้อดใจไม่ไหวลงไปนอนโพสท่าเกลือกกลิ้งบนหาดทรายอยากถ่ายบ้างอ่าแต่ไม่มีใครถ่ายให้ T T
ชอบร้านขายเครื่องประดับร้านนี้มากเลยบรรยากาศร้านมันดูทะเล๊..ทะเลดี
กิจกรรมทางทะเลก็มีให้เล่นหลากหลายค่ะที่หาดทรายแก้ว
ถึงว่าที่นี่ถึงเป็นหาดยอดนิยมเพราะสามารถตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์เลยจริงๆ