อยากคุยได้ครับ แต่ใช้เหตุผลแบบผู้ใหญ่คุยกันผมจะไม่สร้างความเกลียดชังกับฝ่ายใด ทิ้งคำว่าสลิ่ม ส้ม แดง วางไว้ก่อน
ทั้งหมดคือความเป็นไปได้โดยอาศัย model ทางการเมือง (ใครไม่ชอบการมโนก็ข้ามไปครับไม่ต้องอ่าน)
ก่อนอื่นเท่าที่ผมสังเกตมาการเคลื่อนไหวในไทยคราวนี้มันมีกลวิธีคล้าย ฮ่องกง ทั้ง target นักเรียนเป็นส่วนใหญ่ idea ต่อสู้เผด็จการ แล้วที่สำคัญคือใช้ social media ในการปลุกคน แล้วอีกทั้งมีบุคลากรทมาจากฮ่องกงแล้วย้ายมาไทยเมื่อไม่นานมานี้ (ผมขอไม่ลงรายละเอียดเดี๋ยวมันจะเป็นการกล่าวหา) ผมเลยอยากให้คุณไปดู model ม็อบฮ่องกงจากหลายๆสื่อทั้งสนับสนุนแล้วคัดค้านเพื่อเป็นการรับรู้ความจริงทุกด้านก่อนไตร่ตรอง แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่นับการยึดพื้นที่ชุมนุมแล้วปะทะกันที่แนวหน้า สาดสี ม็อบยังไม่ได้ทำอะไรร้ายแรงเท่าฮ่องกง
แต่ฝั่งรัฐบาลที่ action กับม็อบวันนั้นได้ดูข่าวมั้ยครับเค้าไปพบแขกจากประเทศใด แล้วประเทศนั้นมีความเกี่ยวข้องกับม็อบฮ่องกงหรือไม่ ถ้าเขามีประสบการณ์เค้าสอนวิธีควบคุมได้ไม่ยากครับ  (มาถึงตรงนี้ย้ำไว้ว่าใช้วิจารณญานในการอ่าน เพราะผมแค่วิเคราะห์แต่ผมมีที่มาที่ไปครับที่พูดแบบนี้)
สรุป คือมันมีความเป็นไปได้ว่าสถานการณ์มันจะดำเนิน based on โมเดลฮ่องกง แต่ปัจจัยควบคุมอาจทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือแย่ลง ผมเชื่อว่ารัฐมีวิธีควบคุมอยู่แล้ว แล้วฝั่งม็อบต้องหาวิธีการใหม่ในการเรียกร้องกดดันรัฐบาล (เหมือนวิวัฒนาการ predator กับ prey ถ้ายังสูสีจะยังขนานกันไปเรื่อยๆจนกว่าคนนึงจะอยู่เหนือกว่า)
ผมเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิชุมนุม(ภายในการคำนึงถึงส่วนรวม)
แต่แนะนำครับเป็นห่วงจริงๆไม่ว่าฝ่ายไหนจะออกมาคือ การชุมนุมที่ไม่มีแกนนำ เป็นไปได้แนะนำให้เลี่ยงเพราะผมว่าสถานการณ์บานปลายมันทำตัวไม่ถูกครับ หรือถ้าอดไม่ได้ต้องการไป หูตาไวต้องเป็นพิเศษครับ