สืบเนื่องจาก ระบบการทำงานของหมอที่พึ่งจบใหม่ หรือ Intern 1 ตาม โรงพยาบาลรัฐหรือ โรงพยาบาลศูนย์ทั่วไป
ภาระหน้าที่คือ เริ่มราวเช้า หรือ ทำงาน 8.00 น. (อาจเริ่มจริงๆ 7.30 ไปราวก่อน) จนถึง 16.00 น.
ถ้าอยู่เวรต่อก็คือ 16.00 - 8.00 ของอีกวันนึง *** ซึ่งถ้ามีเวลานอนหรือไม่มีคนไข้ ก็สามารถนอนพักได้แต่ความเป็นจริงแล้ว เราก็จะนอนไม่ค่อยหลับหรอก
เพราะจะมีการ Notify , เคสรับใหม่ มาอยู่เรื่อยๆ การได้นอน 2-3 ชั่วโมงติดต่อกันในเวรนั้นถือว่าสุดยอดมากๆแล้ว
รวมแล้วก็คือทำงานมา 24 ชั่วโมง
8.00 ของอีกวัน : ไปราววอร์ดต่อและเริ่มทำงาน ต่อจนถึง 16.00 น.เป็นอย่างน้อย : รวมแล้วคือ 32 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำที่จะต้อง stand by หรือเตรียมพร้อมทำงานเสมอหลัง 16.00 กลับมาก็ต้องนอน
ผมรู้ครับว่าก็คงทำได้แค่บ่น หรือ ระบาย หรือต่อให้ร้องเรียนไปยังไงก็คงไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่
และผมก็คงไม่ใช่ผมคนแรกที่บ่นหรือเหนื่อยกับระบบแบบนี้. อยากดูแลคนไข้ให้ดีครับ อยากตรวจให้ละเอียด อยากมีเวลาคุยกับคนไข้มากขึ้น
แต่ด้วยระบบ และหลายๆ อย่างทำให้มันค่อนข้างแย่ ผมเชื่อว่าระบบมันดีหรือพัฒนาให้ดีกว่านี้ได้ครับ
1.) ผมอยากให้มีการให้ความรู้ประชาชน หรือ การตระหนักถึงโรคภัยไข้เจ็บกันมากกว่านี้หรือพยายามดูแลสุขภาพตัวเองมากกว่านี้
รู้ว่าในทางปฏิบัติเป็นไปได้ยากครับ. คนไข้เบาหวานแล้วมาด้วย DKA เราจะป้องกันได้ยังไง เชื่อว่าหลายๆคนที่เป็นก็คงไม่คิดว่ามันจะร้ายแรง
เป็นเบาหวานก็กินยา ขาดยาได้บ้างก็คงไม่เป็นไร บางคนไตวาย Cr 10.2 ยังไม่อยากล้างไต เพราะคิดว่าไม่เป็นอะไร บางคนความดันสูง ก็กินยาไม่สม่ำเสมอเพราะคิดว่าไม่น่าเป็นอะไร แต่พอเป็นมาทีก็ข่วยไม่ทัน Stroke แล้ว ผมก็เข้าใจนะบางทีชาวบ้านก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพราะเค้าต้องคิดเรื่องปากท้องก่อน จะต้องทำงานหาเงิน บางคนเป็นเบาหวาน Dm foot ต้องรอแผลเป็นหนักมากๆ สุดท้ายคือตัดเท้าก็คงไม่มีใครอยากโดนตัดเท้าหรอกครับ
บางทีก็เลือกไม่ได้ จะมาหาหมอก็ต้องปิดร้าน มาหากว่าจะได้เจอ ก็บ่ายๆ ด้วยระบบของประเทศซึ่งไม่ได้มีความเท่าเทียมอะไรขนาดนั้นอยู่แล้ว เชื่อว่าทุกคน
ก็คงอยากไปฟิตเนส อยากมีเวลาออกกำลังกาย แต่เงินไม่มีไงครับ ก็ต้องทำงาน
แล้วแก้จะได้ยังไง ในเมื่อผู้ป่วยเยอะ หมอน้อย ดูแลไม่ทั้วถึง,
บางทีเราสั่งกับข้าวเพราะว่าหิวมาก รอสักครึ่งชั่วโมงยังหงุดหงิดเลย แล้วนี่มารอตรวจตั้งแต่ตี 5 แต่กว่าจะได้เจอหมอ
หมอก็อยากรีบตรวจคนไข้เหมือนกันครับ แต่ก็ตัองตรวจผู้ป่วยในก่อน แล้วค่อยมาตรวจผู้ป่วยนอก
ก็จะผลิตแพทย์ออกมาเยอะ งบก็ไม่มี รพ.ก็ขาดทุนกันเยอะ อีก ดูเป็นอะไรที่แก้ไขไม่ได้เลยนะครับ
เพราะเป็นนิยามว่าเรียนหมอต้องถึก ต้องอดทน ต้องมีความรู้ ต้องช่วยคน
อีกเรื่องคือ ห้องฉุกเฉินตอนดึกไม่ใช่ OPD นอกเวลานะครับ
ต้องฉุกเฉินนะครับ ถึงจะควรมาสงสารคนที่เค้าป่วยหนักจริงๆ
จริงๆก็ทำได้แค่บ่นละครับ อยากให้คนไข้ได้รับบริการที่ดี
หมอก็อยากตรวจคนไข้ และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หมอก็คนเหมือนกันครับ
ก็จะมีคนบอกว่าถ้าเราเปลี่ยนระบบไมไ่ด้ ก็ให้เปลี่ยนที่ตัวเราเอง ว่าจะอยู่ต่อ หรือไปทางอื่น
แค่อยากให้ทุกอย่างมันดีขึ้นครับ อาจจะบ่นไม่ได้ใจความเยอะไป ขอโทษด้วยครับ
และก็ขอบคุณพื้นที่ พันทิปเล็กๆนี้ให้ผมได้ระบายครับ
แพทย์ที่พึ่งจบใหม่,แพทย์ใช้ทุน ,Intern 1-3 ควรมีเวลาหยุดพักหลังทำงานครบ 24 ชั่วโมงหรือไม่ ??
ภาระหน้าที่คือ เริ่มราวเช้า หรือ ทำงาน 8.00 น. (อาจเริ่มจริงๆ 7.30 ไปราวก่อน) จนถึง 16.00 น.
ถ้าอยู่เวรต่อก็คือ 16.00 - 8.00 ของอีกวันนึง *** ซึ่งถ้ามีเวลานอนหรือไม่มีคนไข้ ก็สามารถนอนพักได้แต่ความเป็นจริงแล้ว เราก็จะนอนไม่ค่อยหลับหรอก
เพราะจะมีการ Notify , เคสรับใหม่ มาอยู่เรื่อยๆ การได้นอน 2-3 ชั่วโมงติดต่อกันในเวรนั้นถือว่าสุดยอดมากๆแล้ว
รวมแล้วก็คือทำงานมา 24 ชั่วโมง
8.00 ของอีกวัน : ไปราววอร์ดต่อและเริ่มทำงาน ต่อจนถึง 16.00 น.เป็นอย่างน้อย : รวมแล้วคือ 32 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำที่จะต้อง stand by หรือเตรียมพร้อมทำงานเสมอหลัง 16.00 กลับมาก็ต้องนอน
ผมรู้ครับว่าก็คงทำได้แค่บ่น หรือ ระบาย หรือต่อให้ร้องเรียนไปยังไงก็คงไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่
และผมก็คงไม่ใช่ผมคนแรกที่บ่นหรือเหนื่อยกับระบบแบบนี้. อยากดูแลคนไข้ให้ดีครับ อยากตรวจให้ละเอียด อยากมีเวลาคุยกับคนไข้มากขึ้น
แต่ด้วยระบบ และหลายๆ อย่างทำให้มันค่อนข้างแย่ ผมเชื่อว่าระบบมันดีหรือพัฒนาให้ดีกว่านี้ได้ครับ
1.) ผมอยากให้มีการให้ความรู้ประชาชน หรือ การตระหนักถึงโรคภัยไข้เจ็บกันมากกว่านี้หรือพยายามดูแลสุขภาพตัวเองมากกว่านี้
รู้ว่าในทางปฏิบัติเป็นไปได้ยากครับ. คนไข้เบาหวานแล้วมาด้วย DKA เราจะป้องกันได้ยังไง เชื่อว่าหลายๆคนที่เป็นก็คงไม่คิดว่ามันจะร้ายแรง
เป็นเบาหวานก็กินยา ขาดยาได้บ้างก็คงไม่เป็นไร บางคนไตวาย Cr 10.2 ยังไม่อยากล้างไต เพราะคิดว่าไม่เป็นอะไร บางคนความดันสูง ก็กินยาไม่สม่ำเสมอเพราะคิดว่าไม่น่าเป็นอะไร แต่พอเป็นมาทีก็ข่วยไม่ทัน Stroke แล้ว ผมก็เข้าใจนะบางทีชาวบ้านก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพราะเค้าต้องคิดเรื่องปากท้องก่อน จะต้องทำงานหาเงิน บางคนเป็นเบาหวาน Dm foot ต้องรอแผลเป็นหนักมากๆ สุดท้ายคือตัดเท้าก็คงไม่มีใครอยากโดนตัดเท้าหรอกครับ
บางทีก็เลือกไม่ได้ จะมาหาหมอก็ต้องปิดร้าน มาหากว่าจะได้เจอ ก็บ่ายๆ ด้วยระบบของประเทศซึ่งไม่ได้มีความเท่าเทียมอะไรขนาดนั้นอยู่แล้ว เชื่อว่าทุกคน
ก็คงอยากไปฟิตเนส อยากมีเวลาออกกำลังกาย แต่เงินไม่มีไงครับ ก็ต้องทำงาน
แล้วแก้จะได้ยังไง ในเมื่อผู้ป่วยเยอะ หมอน้อย ดูแลไม่ทั้วถึง,
บางทีเราสั่งกับข้าวเพราะว่าหิวมาก รอสักครึ่งชั่วโมงยังหงุดหงิดเลย แล้วนี่มารอตรวจตั้งแต่ตี 5 แต่กว่าจะได้เจอหมอ
หมอก็อยากรีบตรวจคนไข้เหมือนกันครับ แต่ก็ตัองตรวจผู้ป่วยในก่อน แล้วค่อยมาตรวจผู้ป่วยนอก
ก็จะผลิตแพทย์ออกมาเยอะ งบก็ไม่มี รพ.ก็ขาดทุนกันเยอะ อีก ดูเป็นอะไรที่แก้ไขไม่ได้เลยนะครับ
เพราะเป็นนิยามว่าเรียนหมอต้องถึก ต้องอดทน ต้องมีความรู้ ต้องช่วยคน
อีกเรื่องคือ ห้องฉุกเฉินตอนดึกไม่ใช่ OPD นอกเวลานะครับ
ต้องฉุกเฉินนะครับ ถึงจะควรมาสงสารคนที่เค้าป่วยหนักจริงๆ
จริงๆก็ทำได้แค่บ่นละครับ อยากให้คนไข้ได้รับบริการที่ดี
หมอก็อยากตรวจคนไข้ และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หมอก็คนเหมือนกันครับ
ก็จะมีคนบอกว่าถ้าเราเปลี่ยนระบบไมไ่ด้ ก็ให้เปลี่ยนที่ตัวเราเอง ว่าจะอยู่ต่อ หรือไปทางอื่น
แค่อยากให้ทุกอย่างมันดีขึ้นครับ อาจจะบ่นไม่ได้ใจความเยอะไป ขอโทษด้วยครับ
และก็ขอบคุณพื้นที่ พันทิปเล็กๆนี้ให้ผมได้ระบายครับ